ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 86 เพื่อนตัวน้อย

บทที่ 86 เพื่อนตัวน้อย
โดย
Ink Stone_Fantasy

หมีน้อยน้ำตาลตัวนั้นน่าจะยาวราวๆ เจ็ดแปดสิบเซนติเมตร มันแอบหลบอยู่หลังต้นไม้มองเครื่องขุดเงียบๆ สงสัยว่ามันจะตามเสียงกระหึ่มของเครื่องขุดมา
ฉินสือโอวสามารถสัมผัสได้ถึงพลังโพไซดอนอันคุ้นเคยจากตัวของมัน มันคงเป็นเจ้าหมีสีน้ำตาลน้อยจอมซื่อบื้อก่อนหน้านี้ ไม่ได้เจอเกือบเดือน มันโตขึ้นมาก สูงขึ้นยี่สิบกว่าเซนติเมตร จากที่สูงครึ่งเมตรโตจนถึงเจ็ดแปดสิบเซนติเมตร
เพียงแต่มันไม่ได้อ้วนท้วนเหมือนตอนเพิ่งเจอใหม่ๆ ดูผอมลงมามาก ผิวหนังและขนก็แห้งกว่าเดิมไม่น้อย บนตัวเต็มไปด้วยหญ้าและใบต้นสน และดูท่าทางเหนื่อยๆ
พอถูกชาร์คชี้หมีสีน้ำตาลตัวน้อยก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้ว่าถูกคนพบแล้ว ยังคงหมอบอยู่หลังต้นไม้แล้วโผล่หัวออกมามองข้างนอก
มีแต่ฉินสือโอวที่รู้ว่าสิ่งที่หมีน้อยตัวนี้กำลังมองก็คือเขาเอง ตาสีดำของมันจ้องมาทางเขาอย่างพินิจพิเคราะห์เหมือนกำลังพยายามดูให้แน่ใจว่าเขาเป็นใคร
หลังจากนั้นจิตสำนึกโพไซดอนก็แผ่ไปยังแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกล ปลาวะคะซะงิตัวหนึ่งกำลังกลืนกินหนอนน้ำ เขาวิ่งไปจับปลาวะคะซะงิชูขึ้นโบกไปมาแล้วพูดขึ้น “ไง ไอ้ตัวน้อย รอนี่อยู่ใช่ไหม?”
ก่อนหน้านั้นฉินสือโอวก็ให้อาหารมันด้วยปลาวะคะซะงิกับปลาบล็อบฟิช
พอหมีน้อยสีน้ำตาลเห็นเงาร่างของฉินสือโอวที่คว้าปลาวะคะซะงิในมือก็ตื่นเต้น มันปีนออกมาจากหลังต้นไม้ ขาทั้งสี่วิ่งไปบนพื้นพลางร้อง ‘อูๆ’ มาหาฉินสือโอว
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ต่างตกใจกันยกใหญ่ คนหนึ่งรีบลนลานกระโดดลงจากเครื่องขุด อีกคนก็ร้องตะโกน ‘ตายซะเถอะเจ้าสัตว์ร้าย’ พลางพุ่งเข้าไปช่วยฉินสือโอว
ฉินสือโอวรู้ดีว่าจริงๆแล้วเจ้าหมีน้อยสีน้ำตาลตัวนี้ขี้กลัวมาก เขานึกว่าชาร์คกับซีมอนสเตอร์จะทำให้มันตกใจหนีไป ที่ไหนได้ เจ้านี่ไม่สนใจอะไร วิ่งมุ่งมาทางฉินสือโอวแย่งเอาปลาวะคะซะงิได้ก็นั่งลงพื้นแล้วก้มหน้าก้มตากินแจ๊บๆ
ฉินสือโอวโบกมือเป็นสัญญาณให้ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ถอยไป ทั้งสองเห็นหมีน้อยหมอบอยู่ข้างฉินสือโอวโดยไม่มีท่าทีทำร้ายแต่อย่างใดแล้วเอาแต่ฉีกกินปลาวะคะซะงิก็งงเป็นไก่ตาแตก
เออร์บักค่อยๆจำเจ้าตัวน้อยได้จึงเอ่ยถาม “นี่คือหมีที่เจอคราวที่แล้ว?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดยิ้มๆ “ใช่ มันนี่แหละ เมื่อก่อนเวลาผมไปวิ่งตอนเช้าแล้วก็ให้อาหารมันอีกหลายครั้งเลยสนิทกัน”
คราวที่แล้วที่กลับบ้าน ฉินสือโอวกับหมีน้อยขาดการติดต่อกัน หลายครั้งเวลาที่จิตสำนึกโพไซดอนไปถึงบ่อน้ำตกก็ไม่เคยเจอหมีน้อย ตอนหลังเขาก็มาพื้นที่ประมงเพื่อพักร้อนเป็นเพื่อนวินนี่เลยไม่มีเวลามาหาหมีน้อย แบบนี้ไปเรื่อยๆใจก็เลยเลิกคิด นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมาเจอกัน
ไม่สิ ควรจะบอกว่าหมีน้อยมาหาถึงที่
พอกินปลาวะคะซะงิเสร็จ หมีน้อยก็เลียฝ่ามือแล้วเงยหน้าขึ้นมองฉินสือโอวด้วยท่าทีโก๊ะ จากนั้นก็กอดขาเขาแล้วเขย่าอย่างออดอ้อน
แม้จะสูงแค่เจ็ดแปดสิบเซนติเมตร แต่เรี่ยวแรงของหมีมันขนาดไหนละ? ฉินสือโอวโดนเขย่าอย่างกับต้นหลิวท่ามกลางสายลม ชาร์คกับซีมอนสเตอร์มองดูอย่างหวาดเสียว กลัวว่าจู่ๆเจ้าหมีน้อยจะลุกขึ้นมาฉีกฉินสือโอวเป็นสองท่อน
ดีที่พวกเขากลัวไปเอง ฉินสือโอวพาหมีน้อยไปริมแม่น้ำแล้วจับปลาอีกตัวยื่นให้ มันสงบลงทันทีแล้วนั่งแทะปลากินแจ๊บๆอย่างเรียบร้อยอยู่ข้างๆ
“บอส บอสนี่อัศจรรย์จริงๆ ผมอยู่เกาะแฟร์เวลมาสี่สิบกว่าปี ยังไม่เคยเห็นใครเข้ากับหมีกริซลีย์ได้ดีเลย” ชาร์คพูดด้วยความนับถือ
ฉินสือโอวอึ้งไปแล้วเอ่ยถาม “หมีกริซลีย์เหรอ นี่หมีสีน้ำตาลไม่ใช่เหรอ? ตอนที่ฉันเพิ่งเจอมันขนมันเป็นสีน้ำตาล”
ฟังจบชาร์คและซีมอนสเตอร์ต่างหัวเราะออกมา ชาร์คเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดขึ้น “หมีกริซลีย์ก็คือหมีสีน้ำตาล อย่างน้อยที่นี่เราก็เรียกเหมือนกัน ในหนังสือบอกไว้ว่าหมีกริซลีย์ก็คือตระกูลย่อยของหมีสีน้ำตาล พวกมันยังไม่เหมือนกันอีกเหรอ?”
พอชาร์คเข้ามาใกล้ หมีน้อยก็ไม่กินต่อแล้ว มันเอาปลาที่กินเหลือครึ่งหนึ่งยัดไปใต้ก้นแล้วยืนขึ้นเงยหน้าขึ้นสูงก่อนเริ่มแยกเขี้ยวคำราม “โฮกๆ โฮกๆ!”
ชาร์คได้แต่รีบถอยหลังไปจนสิบกว่าเมตรหมีน้อยถึงสงบลงแล้วนั่งบนพื้นคว้าเอาปลาครึ่งตัวนั้นจากใต้ก้นขึ้นมายัดเข้าปากกินต่อ
หมีก็คือหมี ต่อให้ยังเล็กก็ตาม เมื่อกี้ที่มันคำราม ฉินสือโอวที่อยู่ข้างๆยังแอบตกใจจนกล้ามเนื้อบนน่องเกร็งขึ้นมา นี่เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายคน ปฏิกิริยาธรรมชาติของการเจอสัตว์ป่าที่ออกอาการแข็งกร้าว
ชาร์คกลับไม่ได้ใส่ใจ เขาพูดต่อพร้อมรอยยิ้มด้วยสีหน้าปกติ “นี่คือหมีโคดิแอคสีน้ำตาล คงจะลงมาจากบนภูเขา ทางที่ดีเราควรจัดการมันตั้งแต่ตอนนี้ เจ้านี่โตไปสูงได้ถึงสามเมตร หนักได้ถึงหกร้อยกิโลกรัม! ถึงตอนนั้นมันจะจัดการยากกว่าพวกหมูป่า กวางมูสอีกเยอะ”
จัดการมัน? ฉินสือโอวรู้สึกว่าแบบนั้นโหดร้ายเกินไป ถึงเขาจะไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับหมีน้อยมากนัก แต่เขาก็เคยเจอแต่ด้านน่ารักเดียงสา เมื่อกี้ต่อให้คำรามใส่ชาร์ค มันก็ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตี แค่จะทำให้ชาร์คตกใจเท่านั้นเอง
ตอนที่เพิ่งเจอหมีน้อยขู่คนไม่เป็นด้วยซ้ำ ตอนนี้คำรามใส่คนเป็นก็คงจะเรียนรู้เองมาจากชีวิตในป่าช่วงก่อนหน้า
ปลาวะคะซะงิล้วนขนาดค่อนข้างเล็ก กินไปสองตัวหมีน้อยก็ยังไม่อิ่ม และเจ้านี่หิวจัดอย่างเห็นได้ชัด ฉินสือโอวเห็นปลาไพค์จุดขาวยาวสี่สิบกว่าเซนติเมตรที่ต้นน้ำปากอ่าวจึงวิ่งไปใช้ไม้เคาะให้มันมึนแล้วจับขึ้นมา
หมีน้อยเห็นปลาไพค์จุดขาวตัวโตก็ดีใจ รับปลามากัดแบ่งออกมาคำหนึ่งแล้วใช้อุ้งมือสีดำยื่นให้ฉินสือโอว ส่วนตัวเองก็กินปลาส่วนบนแล้วเคี้ยวแจ๊บๆ
“บอส เทคนิคจับปลายอดเลย!”ซีมอนสเตอร์ร้องตะโกนเสียงดัง “ผมยังคิดว่าอยากจะสอนบอสจับปลาในแม่น้ำเสียหน่อย แต่ดูท่าบอสจะถนัดเรื่องนี้แล้วนะ”
พอได้ยินแบบนั้น ฉินสือโอวถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองคิดแต่จะรีบจับปลาจนเกือบหลุดเรื่องที่จิตสำนึกโพไซดอนสามารถควบคุมปลาได้ ยังดีที่ครั้งนี้เขารู้สึกว่าปลาไพค์ตัวนั้นค่อนข้างใหญ่เลยกลัวว่าพอขึ้นบกหมีน้อยจะเอาไม่อยู่เขาจึงถือโอกาสเอาไม้ไปเคาะให้มันมึนด้วยเลย
พอกินปลาไพค์จุดขาวตัวนั้นหมีน้อยถึงสงบ ปฏิกิริยาหลังกินอิ่มของมันตลกมาก ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเรอ ‘เอิ้กๆ’ ออกมาเหมือนคน หัวกลมมนพยักหน้าไปมาราวเด็กน้อย
ให้อาหารหมีน้อยจนอิ่มฉินสือโอวก็โบกมือให้มันแล้วพูดยิ้มๆ “บาย ตัวน้อย กลับขึ้นเขาไปเถอะ”
หมีน้อยลุกขึ้นมายืนแอ่นก้นข้างเขา และเงยหน้ามองอย่างเดียงสา ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือไม่หยุด แต่มันก็ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย แต่พอฉินสือโอวเดินจากไปมันก็รีบเดินตามทันที
“เฮ้ บอส เจ้านี่มันติดบอสแล้ว ฮ่ะๆ” ซีมอนสเตอร์หัวเราะออกมา
ชาร์คกลับส่ายหน้าอย่างแปลกใจแล้วพูดขึ้น “แปลกจริงๆเลย หมีสีน้ำตาลจะติดคนได้ไง?”
ฉินสือโอวรู้สาเหตุดี เป็นเพราะจิตสำนึกโพไซดอน สัตว์ที่ได้รับพลังโพไซดอนจะเกิดอาการผูกพันรักใคร่เขา ยิ่งใกล้พลังยังสามารถเพิ่มสูงได้ด้วย อย่างบอลหิมะและหู่จือ เป้าจือ
หมีน้อยเชื่องมากต่อหน้าเขา ขอแค่ฉินสือโอวไม่ขยับมันก็จะนั่งดีๆ พอฉินสือโอวขยับมันก็จะลุกตามต้อยๆไปทันที
ถ้าฉินสือโอวผลักมันหรือยื่นมือบอกให้มันไป หมีน้อยยังส่งเสียงอย่างหงอยๆด้วย
คราวนี้เออร์บักเองก็รู้สึกว่าแปลก เขาขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยปาก “หมีโคดิแอคสีน้ำตาลมีความสันโดษสูง ถ้าหาอาหารกินเองเป็นมันก็จะไปจากพ่อแม่ มีแค่ตอนผสมพันธุ์ถึงจะไปหาพวกเดียวกัน ไอ้เจ้านี่ทำไมถึงติดนายขนาดนี้?”
“เห็นได้ชัดมากว่าบอสเป็นพ่อแม่ที่หาอาหารให้มัน สงสัยมันจะหาอาหารเองลำบากในป่า บอสก็บอกว่าก่อนหน้านี้ป้อนอาหารมันตลอดไม่ใช่เหรอ?” ชาร์คพูดยิ้มๆ
ชาร์คพูดไปงั้นๆ แต่ฉินสือโอวกลับฉุกคิด ซึ่งคิดๆดูแล้วอาจเป็นสาเหตุนั้นจริงๆก็ได้
ก่อนที่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน ฉินสือโอวจะไปจับปลาริมบ่อน้ำตกมาป้อนหมีน้อย หลังจากนั้นก็กลับบ้านมาจนวันนี้เขาก็ไม่ได้ไปป้อนมันอีก สงสัยหมีน้อยปกติต้องหาอาหารเอง คงจะลำบากมาไม่น้อย และพบว่าอยู่กับเขาสบายกว่า
พอวันนี้เจอเขาหมีน้อยก็ไม่ยอมปล่อยไป มันพบว่าฉินสือโอวไม่ทำร้ายมันแล้วยังให้อาหารมันด้วย แล้วจะไปทำไมละ?
ฉินสือโอวลูบหัวหมีน้อย มันแลบลิ้นออกมาเลียมือเขาทันใด
แต่ว่าบนลิ้นของหมีมีหนามอยู่ แม้ว่าหมีน้อยจะเก็บหนามแล้ว แต่พอเลียลงบนผิวของฉินสือโอวก็ยังรู้สึกขรุขระอยู่ดี
แต่ฉินสือโอวต้องทำงานเลยให้มันนั่งข้างๆ เขาถือเสียมคอยเก็บกวาดร่องน้ำตามหลังเครื่องขุด
ใครจะคิดว่าพอเขาเพิ่งลุกไปหมีน้อยก็ตามมา เห็นฉินสือโอวถือเสียมขุดร่องน้ำ มันก็ยื่นอุ้งมือออกมาลองหัดขุดดินอย่างฉลาดเฉลียว
“โห ทำไมจู่ๆเจ้านี่ฉลาดขนาดนี้?” ฉินสือโอวเองก็แปลกใจ เขาจำได้ว่าจากที่เจอก่อนหน้าเจ้าหมีน้อยมันโง่และซื่อบื้อมากนี่นา
“ดูท่ามันจะอยากไปอยู่กับคุณด้วยจริงๆ”ชาร์คพูดขึ้น “แต่นี่ไม่ดีเท่าไร นี่คือหมีโคดิแอคสีน้ำตาล โตเต็มวัยสูงได้ถึงสามเมตร มื้อหนึ่งกินปลาได้ห้าสิบกิโลกรัม!”
เรื่องกินฉินสือโอวไม่กังวล เขาเปิดฟาร์มปลา หมีสีน้ำตาลนี่จะกินเยอะได้ถึงขั้นเขาล้มละลายเลยเหรอ? ที่เขากลัวคือเก็บเจ้าหมีน้อยนี่มาเลี้ยงแล้วพอโตขึ้นจะไปทำร้ายใครเข้า!
พอเห็นฉินสือโอวหยุด หมีน้อยก็หยุดตาม คราวนี้มันเดินมาข้างตัวเขาแล้วคล้องแขน จากนั้นก็หงายท้องในร่องน้ำเผยให้เห็นท้องนุ่มนิ่ม
ฉินสือโอวใจอ่อนขึ้นมาทันที เขารู้ว่าสำหรับสัตว์ป่าหมายถึงอะไร หมีน้อยกำลังสื่อว่ามันภักดีต่อเขา
ท้องของสัตว์ป่านั้นสำคัญมาก พวกมันจะเผยท้องออกมาแค่กับเพื่อนที่เชื่อใจที่สุดเท่านั้น เวลาอื่นต่อให้จักจี้ก็จะปกป้องท้องเอาไว้
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset