ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 102 ล่าเพรียงทะเลท่ามกลางคลื่นที่โหมซัด

บทที่ 102 ล่าเพรียงทะเลท่ามกลางคลื่นที่โหมซัด
โดย
Ink Stone_Fantasy

เมื่อพูดถึงเพรียงตีนเต่า ฉินสือโอวจึงไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เมื่อค้นหาชื่อเรียกทั่วไปของเจ้าสิ่งนี้ในอินเทอร์เน็ต เขาถึงรู้แล้วว่ามันคืออะไร ที่แท้ก็คือหอยอุ้งเท้าหมา!
ตอนที่เขาทำงานอยู่ที่บริษัทปิโตรเลียมของจีน มีครั้งหนึ่งได้ไปงานเลี้ยงส่วนตัวกับผู้บริหารและเคยเห็นของสิ่งนี้ ดูจากลักษณะภายนอกแล้วอัปลักษณ์มาก ซึ่งจะเป็นเปลือกหอยสามสี่อันรวมอยู่ด้วยกัน คล้ายกับอุ้งเท้าของสัตว์ประหลาดไม่มีผิด
แต่ทว่าราคาของของสิ่งนี้ค่อนข้างแพงและมันไม่ได้หาได้ที่เมืองไหเต่า กล่าวกันว่าต้องขนส่งทางอากาศมาจากสเปน อาหารจานหนึ่งเอาหอยสามสี่อันมาต้มเพียงเล็กน้อยก็มีราคาสูงถึงสองพันหยวน มันทำให้ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจมาก นอกจากนี้ ในตอนนั้นที่โต๊ะอาหารมีบุคคลคนสำคัญอยู่เยอะมากเกินไปจึงมีไม่เพียงพอที่จะให้เขากิน เขาจึงเพียงแค่ได้ยินคนอื่นๆพูดว่าสดใหม่และอร่อยมาก ถึงแม้ว่าเขาอยากจะกินมันมากแต่ก็ไม่สามารถลิ้มลองได้
“ทะเลในเกาะของพวกเรามีหอยอุ้งเท้าหมาด้วยเหรอ? ก็คือเพรียงตีนเต่าน่ะ” ฉินสือโอวเอ่ยถามอย่างงงงัน
ชาร์คยักไหล่และหัวเราะ “แน่นอน มีอยู่ทางตะวันตกของเกาะ ขึ้นบนหินโสโครกเยอะมากเลย พวกเราต่างเรียกมันว่าฟันม้า เพราะว่าเจ้าสิ่งนั้นคล้ายกับฟันของม้าไม่มีผิด”
ฉินสือโอวจึงค้นหาข้อมูลอีกครั้งเพื่อนำมาอ่าน จึงรู้ว่าเพรียงนั้นกระจายอยู่กว้างขวาง ทุกเขตน้ำขึ้น
น้ำลงไปจนถึงเขตน้ำตื้นของทุกน่านน้ำทะเลต่างก็สามารถพบเห็นร่องรอยของมันได้ จำนวนของพวกมันนั้นเยอะมากและมักจะรวมตัวกันอย่างหนาแน่น
แต่ว่าเพรียงประเภทนี้ปกติแล้วไม่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ เพรียงตีนเต่านั้นพบเห็นได้ค่อนข้างน้อย นอกจากแนวชายฝั่งของแคว้นกาลิเซียในสเปนแล้ว ที่อื่นก็ไม่พบร่องรอยการเจริญเติบโตเป็นวงกว้างของพวกมันเลย
ดูแล้วฮวงจุ้ยของเกาะแฟร์เวลนั้นไม่เลวเลย คิดไม่ถึงว่าในบรรดาเพรียงที่พบเห็นได้น้อยอย่างเพรียงตีนเต่าจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่แห่งนี้
 ราคาของเพรียงชนิดนี้นั้นสูงมาก ในยุโรปสามารถเทียบได้กับอาหารรสเลิศอย่างไข่ปลาคาเวียร์ ตับห่านฟัวกราส์และทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ หนึ่งกิโลกรัมราคาประมาณสองสามร้อยยูโร หากคิดเป็นเงินจีน ปริมาณห้าร้อยกรัมราคาจะอยู่ที่หนึ่งพันหยวน
 เมื่อนึกถึงคำชื่นชมของพวกแขกวีไอพีในงานเลี้ยงส่วนตัววันนั้น ฉินสือโอวก็ตบที่ต้นขาและเอ่ยออกมา “รีบไปสิ ก่อนหน้านี้ทำไมพวกนายไม่บอกฉันว่าเกาะของเรามีอาหารรสเลิศแบบนี้ด้วย?”
 ชาร์คพูดอธิบาย “ฟันม้าเติบโตบนหินโสโครก ส่วนมากจะอยู่ที่น้ำตื้น ต้องดำน้ำลงไปจับ บนตัวของพวกมันมีสสารเหนียวจึงเกาะติดไปบนหินโสโครกและยากที่จะแคะ แต่ถ้ามีพายุคลื่นเช่นนี้ หินโสโครกเหล่านั้นก็จะปรากฏขึ้น แบบนี้พวกเราถึงจะสามารถงมมันขึ้นมาได้”
 “นอกจากนั้น ที่ที่ฟันม้าเจริญเติบโตก็คือในน่านน้ำทะเลบริเวณหลังโรงงานสารเคมีสองแห่งนั้นพอดี ก่อนหน้านี้ไอ้พวกลูกหมาที่โรงงานสารเคมีไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปใกล้ ครั้งนี้โรงงานสารเคมีไสหัวออกไปแล้ว พวกเราเลยมีโอกาสเข้าไปจับ” ซีมอนสเตอร์พูดขึ้นอย่างมีความสุข
 การออกไปของโรงงานสารเคมีสองแห่งนี้ได้ทำให้ประชาชนในเมืองแฟร์เวลมีความสุขกันมาก จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เมื่อพูดถึงการปิดของโรงงานสารเคมี เหล่าประชาชนในเมืองก็ยังคงยกแก้วส่งเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจกัน
 ตอนกลางวันมีอาหารกินแล้ว ฉินสือโอวรีบขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวไปเก็บเพรียงตีนเต่า เด็กทั้งสี่คนยืนเข้าใกล้หน้าประตูและมองเขาอย่างรู้สึกโดดเดี่ยว เขาจึงโบกมือและส่งเสียงเรียก “รีบมาสิ เพื่อนทั้งหลาย ตอนเที่ยงมีอาหารทะเลสดๆกิน!”
  รถพิกอัพคันใหญ่ของชาร์คได้นำทางอยู่ข้างหน้าและรถคาดิลแลควันขับตามอยู่ด้านหลัง ไม่นานก็มาถึงทางตะวันตกของเกาะเล็กๆ
 โรงงานสารเคมีสตีฟและโรงงานสารเคมีสปริงไม่เป็นที่รุ่งเรืองอีกต่อไปแล้ว เขตโรงงานที่มีขนาดใหญ่อย่างนี้ด้านในไม่มีเงาคนแม้แต่เงาเดียว ภาพของรถและเรือที่วิ่งกันขวักไขว่ในอดีตได้สูญหายไปแล้ว ประตูทางเข้าปิดตาย ร่องรอยการอยู่อาศัยของคนนั้นเบาบาง มีเพียงชายแก่สามสี่คนที่คอยเฝ้าประตูอยู่ที่นี่
 ชาร์คจอดรถที่หน้าประตูโรงงานอย่างสบายอารมณ์ เมื่อคนเฝ้าประตูจูงสุนัขออกมา นีลเซ็นจึงถือมีดวาฬอันเงาวับไว้ในมือและจ้องมองไปที่คนนั้นด้วยสีหน้าที่อึมครึม  คนนั้นตกใจกลัวจนตัวสั่นและรีบวิ่งกลับเข้าไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง
 สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดที่คล่องแคล่วและดุร้ายอย่างมากในวันที่มีการประท้วงครั้งที่แล้วก็ได้เปลี่ยนมาทำตัวดีไร้เดียงสา เจ้าสุนัขพวกนี้ก็แค่อาศัยบารมีของเจ้านายมาอวดเบ่ง ดังนั้น เมื่อเหมือนกับจะรู้แล้วว่าตอนนี้เจ้านายได้หมดอำนาจไปแล้ว ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกจูงมาที่หน้าประตูแต่พวกมันกลับไม่เห่าหอนออกมา
 “มีดนี่ไม่เลวเลยจริงๆ” หลังจากที่ฉินสือโอวลงมาจากรถ เขาก็ได้ผิวปาก
 มีดทหารที่อยู่ในมือของนีลเซ็นมีความยาวประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหกเซนติเมตร ด้ามจับและตัวมีดมีความยาวเกือบเท่ากัน ตัวมีดเปล่งประกายเงาวับ ลักษณะภายนอกโหดเหี้ยม แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้าย
 เมื่อได้ยินคำชื่นชมจากฉินสือโอว นีลเซ็นจึงเอ่ยออกมาว่า “มีดวาฬทหารนี้ทรงพลังมาก เป็นมีดที่ดีเล่มหนึ่งเลย ตัวมีดใช้เหล็กกล้า 420J2 ความแข็ง 57Hrc เป็นมีดทหารแบบมาตรฐานที่ผมใช้ในกองกำลังพิเศษฉุกเฉินเมื่อก่อนนี้ และเอามาใช้กับการเก็บฟันม้าได้เป็นอย่างดี”
 แม้ว่ารสชาติของเพรียงตีนเต่านั้นจะอร่อย และไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ไปไหนได้ แต่พวกมันก็มีการดำรงชีวิตเป็นของตัวเอง นั่นก็คือการอาศัยหินโสโครกในการเจริญเติบโตท่ามกลางลมคลื่นแรงที่ซัดสาด พวกมันสามารถแปะติดกับหินโสโครกได้อย่างแนบแน่น ดังนั้นปลาธรรมดาจึงไม่สามารถจับพวกมันได้
 แต่ทว่าเพรียงตีนเต่าก็ยังคงมีศัตรูของมัน นั่นก็คือนกนางนวล นกชนิดนี้สามารถบินข้ามคลื่นลมในทะเลได้
 ด้านหลังของโรงงานสารเคมีจะเป็นชายฝั่งทะเลที่สูงชัน มีความลึกจากพื้นดินลงไปประมาณหกถึงเจ็ดเมตร ด้านล่างมีหินโสโครกที่เป็นตะปุ่มตะป่ำวางทอดยาวเหยียดเป็นเส้นจนสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วเหมือนกับมีความอันตรายเป็นอย่างมาก
 ลมที่พัดแรงได้ทำให้คลื่นทะเลซัดเข้ามาทางชายฝั่ง ทำให้เกิดเสียง เพี๊ยะ เพี๊ยะ ดังขึ้น บางครั้งเมื่อชะโงกลงไปข้างล่างก็สามารถรับรู้ได้ถึงความหนาวเย็นของน้ำทะเลที่สาดลงมาบนใบหน้า
 เพรียงตีนเต่าได้อาศัยอยู่บนหินโสโครกที่อยู่ข้างล่างนี้ นอกจากนี้บนชายฝั่งก็ยังมีอาศัยอยู่บ้างเล็กน้อย เป้าหมายของชาร์คและซีมอนสเตอร์ในวันนี้ก็คือเพรียงตีนเต่าที่เจริญเติบโตอยู่บนหินโสโครก
 ชาร์คหาต้นเมเปิลหนึ่งต้นแล้วเอาเชือกผูกไว้ จากนั้นจึงพูดขึ้น “พวกนายเห็นของพวกนั้นที่เหมือนฟันของม้ารึยัง? สีเทาขาวดูแล้วอัปลักษณ์มาก ของอร่อยปกติก็ไม่ค่อยสวยงามเท่าไร อย่าได้ไปดูถูกมันเชียวนะ”
 นกนางนวลสามสี่ตัวกำลังอาศัยช่วงเวลาที่คลื่นหมุนขึ้นลงไปมาหาโอกาสเข้าไปเกาะและจิกกินเพรียงตีนเต่าที่อยู่บนหินโสโครก ถึงแม้ว่าเพรียงจะมีเปลือกหอยที่แข็งคอยป้องกันอยู่ แต่ว่ามันก็มีลักษณะนิสัยของการดำรงชีวิตอย่างหนึ่งที่ทำให้ถึงแก่ความตาย นั่นก็คือ เมื่อน้ำไหลผ่านพวกมัน เปลือกที่ห่อหุ้มมันอยู่จะเปิดออก โดยหนวดที่อยู่ข้างในจะยื่นออกมาเพื่อที่จะใช้กรองกินอาหารอย่างแพลงก์ตอน
 ด้วยเหตุนี้ คลื่นทะเลที่ม้วนจึงทำให้พวกมันเกิดความเข้าใจผิด พวกมันคิดว่าฟองคลื่นที่ซัดเข้ามานั้นเป็นเวลาที่น้ำขึ้นแล้ว มันจึงรีบเปิดเปลือกหอยเพื่อตักกินอาหาร แต่ว่าเพียงแป๊บเดียวคลื่นน้ำก็ลดลงไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกมันจึงไม่ทันที่จะปิดเปลือกหอย นกนางนวลจึงสามารถฉกเฉยโอกาสนี้ลงมาจิกกิน
 แม้ว่าอัตราความสำเร็จของนกนางนวลนั้นไม่สูง แต่ความอร่อยของเพรียงก็ทำให้พวกมันยอมที่จะทุ่มเทความยากลำบากเช่นนี้ ขอเพียงแค่จับเพรียงกินเป็นอาหารสักสองตัว พวกมันก็สามารถกินอิ่มไปได้หนึ่งมื้อ
 นกนางนวลสีขาวกรีดร้องเสียง จุ๊กจุ๊ก ออกมา บินข้ามผ่านฟองคลื่นของน้ำทะเลมาอย่างองอาจห้าวหาญ ดิ่งลงจิกกินครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งกินอิ่มถึงจะจากไป
 และแน่นอน ถ้าหากจิกกินไม่ได้ในหลายครั้งติดต่อกัน ในกรณีนั้นพวกมันก็จะบินจากไปเช่นกัน
 นกนางนวลเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก พวกมันรู้ว่าตัวเองมีความอดทนไม่เพียงพอ มันจึงไม่อยากสิ้นเปลืองพละกำลังในการจับอาหารเพียงแค่ชนิดเดียวกิน หนทางนี้ไปไม่รอดถ้าเช่นนั้นก็เปลี่ยนหนทางเดินใหม่ สิ่งนี้คือกลยุทธ์ในการล่าอาหารของพวกมัน
 นีลเซ็นได้หาต้นไม้หนึ่งต้นเพื่อที่จะผูกเชือกไว้เช่นเดียวกันกับชาร์ค ขณะเดียวกันก็อธิบายออกมา “ก่อนหน้านี้ไอ้พวกเถ้าแก่เลวของโรงงานสารเคมี ได้กำหนดให้น่านน้ำบริเวณนี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลของพวกเขาเอง คิดไม่ถึงว่าไอ้ลูกหมาพวกนี้จะไม่อนุญาตให้พวกเราจับฟันม้า หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่อร่อยแบบนี้”
 ในขณะที่พวกเขากำลังยุ่งอยู่นั้นก็มีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามา ซึ่งก็เป็นรถยี่ห้อบิวอิคก์ของฮิวจ์ เมื่อลงจากรถฮิวจ์ได้หัวเราะและพูดขึ้น “พวกนายมาได้ทันเวลาพอดีจริงๆ ฝนพึ่งหยุดก็มากันแล้ว?”
 ฉินสือโอวพูดทักทายฮิวจ์ จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ที่บนชายฝั่งและมองลงไปข้างล่าง หินโสโครกที่อยู่ข้างล่างมีเพรียงตีนเต่าแกะติดไว้เป็นชั้นๆ เห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้ดูแล้วเหมือนอุ้งเท้าของสัตว์ประหลาด ไม่รู้ว่าทำไมคนในเมืองแฟร์เวลถึงคิดว่าพวกมันเหมือนฟันของม้า
 ความสามารถในการสืบพันธุ์ของเพรียงตีนเต่านั้นยอดเยี่ยมมาก บนหินโสโครกมีพวกมันเป็นจำนวนมากและหนาแน่น ดูแล้วเหมือนกับมีจำนวนหลายร้อยหรือหลายพันตัวขึ้นไป  ถ้าหากให้คนที่มีอาการของโรคกลัวรูมาเห็น คงจะสะอิดสะเอียนจนอ้วกออกมาอย่างแน่นอน
 เมื่อผูกเชือกไว้ดีแล้ว ชาร์คและนีลเซ็นก็ค่อยๆขยับตัวเคลื่อนที่ลงไปที่หินโสโครกอย่างช้าๆ ซีมอนสเตอร์จับเชือกของชาร์คไว้และบอกกับฉินสือโอวขึ้นว่า “บอส ดึงเชือกของนีลเซ็นไว้ คอยดูตำแหน่งเขาไว้ให้ดี ถ้าหากมีคลื่นทะเลซัดเข้ามาก็ออกแรงดึงเชือกแรงๆ อย่าให้พวกเขาถูกคลื่นทะเลซัดเอา!”
 เด็กๆทั้งสี่คนก็แบ่งกันเป็นสองกลุ่มอย่างเป็นที่รู้กัน พาวลิสกับเชอร์ลี่ย์อยู่ช่วยฉินสือโอว และกอร์ดอนกับมิเชลก็ไปช่วยซีมอนสเตอร์
 หู่จือและเป้าจือก็ตามมาด้วยเช่นกัน พวกมันวิ่งไปที่บนชายฝั่งและกัดเชือกไว้ หนีบหางเก็บไว้ที่ก้นและกัดฟันลากเชือกอย่างมุมานะ
 อากาศที่กลับมาอุ่นขึ้นได้เป็นตัวขับเคลื่อนคลื่นลมในทะเล พื้นผิวน้ำทะเลที่สงบในเมื่อก่อนได้กลายมาเป็นคลื่นน้ำที่ซัดสาดด้วยความแรงเป็นพิเศษ น้ำทะเลถูกคลื่นลมพัดขึ้นและพัดถอยกลับอย่างต่อเนื่อง  ระดับน้ำทะเลสูงน้อยกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยประมาณสองเมตร ทำให้เพรียงตีนเต่าที่ปกติหลบซ่อนอยู่ในน้ำทะเลโผล่ขึ้นมา
 ฉินสือโอวได้ทำสัญญาณมือว่า ‘โอเค’ ให้กับชาร์ค เขาใส่ถุงมือและปลอกป้องกันแขน จากนั้นจึงออกแรงดึงเชือกไว้
 นีลเซ็นกระโดดร่อนลงไปใต้ชายฝั่งทะเลเหมือนกับมนุษย์กบไม่มีผิด เขาใช้ฟันกัดมีดวาฬไว้และมองหาโอกาสเหมาะ เมื่อคลื่นใหญ่ลดถอยลงไป เขาก็รีบกระโดดไปยังบริเวณใกล้เคียงที่มีเพรียงตีนเต่าเจริญเติบโตอยู่ ยื่นมีดวาฬออกมาแล้วสอดแทงเข้าไประหว่างหินโสโครกกับเพรียง
 “หลุดออกมาสิ!” นีลเซ็นตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด เขาแคะเพรียงตีนเต่าที่มีความยาวสิบสี่สิบห้าเซนติเมตรออกมาและรีบยัดใส่ลงไปในกระเป๋าย่ามทันที จากนั้นจึงเล็งเป้าอันต่อไปและใช้มีดเข้าไปแคะมันออกมา
…………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset