บทที่ 111 ไปขึ้นเขา
โดย
Ink Stone_Fantasy
ฉินสือโอวรู้สึกกลัดกลุ้มใจ เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเสียหน่อย รถตำรวจคันนี้ให้เขาจอดรถเพื่อตรวจสอบนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
อีกอย่าง ที่เมืองนี้ไม่มีใครไม่รู้ ว่ารถคาดิลแลคคันนี้ก็เหมือนกับเป็นนามบัตรของเขา ตำรวจสั่งให้เขาหยุดรถเพื่อตรวจสอบ ก็เท่ากับตั้งใจกลั่นแกล้งเขา นี่มันหาเรื่องกลั่นแกล้งกันชัดๆ
ฉินสือโอวลงมาจากรถพร้อมใบหน้าอึมครึม เขาคิดไว้ดีแล้ว ถ้าตำรวจพวกนี้ปั้นน้ำเป็นตัว เขาจะโทรหาเออร์บัก แล้วใช้เรื่องการเหยียดเชื้อชาติมาจัดการคนอารมณ์ร้ายพวกนี้
รถตำรวจก็หยุดจอดเช่นกัน นายตำรวจสองนายลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยกลางคน เขามองฉินสือโอวที่กำลังงงงวย แล้วจึงหัวเราะออกมา “ฉิน คุณลงมาจากรถทำไม?”
ฉินสือโอวจึงถามกลับไปว่า “ไม่ใช่ว่าคุณให้ผมจอดรถเพื่อตรวจสอบหรอกเหรอ?”
นายตำรวจท่านนี้เป็นสารวัตรใหญ่ของเมืองแฟร์เวล ชื่อว่า โรเบิร์ต แคริแลนด์ ครั้งที่แล้วที่จับโจรขโมยเต่า ก็เป็นเขาที่นำกำลังตำรวจเข้าจับกุม
คราวนี้แม้แต่นายตำรวจอีกคนก็ยังหัวเราะออกมา โรเบิร์ตจึงอธิบายว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมบอกให้รถแวนคันที่อยู่ข้างหลังคุณหยุดรถ ไม่ใช่รถของคุณ เมื่อสักครู่ไม่ได้บอกให้ชัดเจน ต้องขอโทษด้วย”
ฉินสือโอวหันหลังกลับไปดู ทางด้านหลังของเขามีรถโฟลคสวาเก้นทูแรนจอดอยู่ คนในรถรวมคนขับแล้วเป็นจำนวนแปดคน ล้วนแต่เป็นวัยรุ่นไม่ก็ชายวัยกลางคนร่างบึกบึน พวกเขาสวมเสื้อคลุมมีฮู้ดไม่ก็เสื้อลายพราง ดูท่าทางดุดัน
เจ้าพนักงานตำรวจอีกคนเดินเข้าไปคุยกับผู้นำคณะของคนจำนวนแปดคนนั้น คนพวกนั้นกลับไม่ได้กระโตกกระตาก พวกเขาหยิบเอาเอกสารรับรองกองหนึ่งออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูก่อน จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มสนทนากัน
โรเบิร์ตยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆฉินสือโอว เขาอธิบายอีกว่า “พวกนั้นเป็นพวกคนรักอาวุธปืนที่มาจากนครเซนต์จอห์นเพื่อหาที่ยิงปืนเล่น เป็นสมาคมเกี่ยวกับการดำรงชีวิตในทุ่งกว้างอะไรพวกนั้น พวกเขาพกปืนมาด้วย ที่จริงสถานีตำรวจของนครเซนต์จอห์นก็ลงบันทึกไว้แล้วล่ะ พวกเราได้รับข่าวเลยมายืนยันดูสักหน่อย
ฉินสือโอวรู้สึกสนใจขึ้นมา ตั้งแต่ซื้อปืนมาเขายังไม่มีโอกาสได้ใช้เลยสักครั้ง ครั้งที่แล้วที่รับมือกับจอมโจรขโมยเต่าสองคนนั้น เขายังไม่ทันถึงคราวที่ได้จับปืน ส่วนเมื่อคืนที่ถือปืนออกมา ก็เป็นแค่การรับมือกับตัวเม่นสี่ตัวเท่านั้น เขาจะไม่กระดากใจที่จะใช้ปืนได้หรือ?
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุยกับคนแปดคนนั้นอยู่สักครู่และทำการบันทึกภาพของพวกเขาไว้ จากนั้นทั้งสองฝั่งก็จับมือ แล้วแยกย้ายกันไป
นายตำรวจคนนั้นเดินเข้ามา แล้วพูดขึ้นว่า “โรเบิร์ต ไม่มีปัญหาอะไร เป็นพวกมีใบอนุญาตทั้งหมด อีกทั้งคราวนี้พวกเขาอาจจะช่วยพวกเราล่าหมูป่าด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โรเบิร์ตจึงถอดหมวกตำรวจออกแล้วหันไปทางนั้นเพื่อพยักหน้าให้อย่างสื่อความหมาย วัยที่มัดผมหางม้าในกลุ่มคนแปดคนนั้น ยิ้มพร้อมโบกมือให้ คนกลุ่มนั้นก็ขึ้นรถไป
ฉินสือโอวทำปากจุ๊ๆ นี่น่าจะไม่เหมือนกับที่จีน ที่จีนหากจะล่าหมูป่า นั่นก็คือการแอบล่า ถึงแม้จะได้รับการมอบอำนาจ แต่ตำรวจท้องที่เอยชาวบ้านในพื้นที่เอยต่างก็คงไม่ยินยอม เพราะหมูป่าเป็นทรัพยากรของพวกเขา
แต่ที่แคนาดากลับตรงกันข้าม ถ้าคุณไปที่ไหนสักแห่งแล้วช่วยล่าหมูป่า ตั้งแต่ตำรวจจนกระทั่งชาวบ้านที่นั่นก็ล้วนแต่จะรู้สึกขอบคุณคุณ
ฉินสือโอวเห็นพวกเขากำลังจะจากไป ก็พูดกับโรเบิร์ตว่า ‘โทษทีนะครับ’ แล้วรีบเร่งวิ่งข้ามไป เขาคุยกับคนขับโดยมีกระจกกั้นอยู่ “ขอรบกวนหน่อยนะ ขอถามหน่อยว่าพวกคุณคือสมาคมคนรักอาวุธปืนใช่ไหม?”
คนขับพยักหน้าแล้วตอบว่า “ใช่แล้ว สมาคมของเราชื่อ สมาคมการดำรงชีวิตในทุ่งกว้างA&M คุณมีอะไรหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวรีบแนะนำตัวเอง “ผมชื่อฉิน เป็นคนที่เมืองนี้ คืออย่างนี้นะ ผมก็เป็นคนที่ชื่นชอบอาวุธปืนเหมือนกัน แล้วก็ชอบการใช้ชีวิตในป่ามากๆ แต่ก็ไม่เคยเจอกลุ่มพวกนี้เลย เพราะอย่างนั้นผมจึงอยากรู้จักพวกคุณไว้”
ไม่ว่าจะเป็นสมาคมไหนก็ตาม การที่ได้สมาชิกเพิ่มล้วนแต่เป็นเรื่องน่ายินดีทั้งสิ้น เด็กวัยรุ่นมัดผมหางม้ากระโดดลงมาจากรถ ยื่นบุหรี่คาเมลให้เขาหนึ่งมวนแล้วพูดว่า “โอ้ สวัสดี ฉิน ฉันชื่อว่าพอล ซาโกร ฟังที่นายพูดมา เหมือนว่านายอยากจะเข้าร่วมสมาคมเราใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว ฉันมีใบอนุญาตใช้ปืน แล้วก็มีปืนด้วย ทั้งยังเป็นคนในพื้นที่ เพราะฉะนั้นฉันเลยอยากจะเข้าร่วมกับพวกนายด้วย ถ้าหากนายรู้สึกว่าไม่เหมาะสม ก็ไม่เป็นไรนะ แค่ครั้งนี้ให้ฉันได้ขึ้นเขาไปกับพวกนายด้วยก็พอแล้ว”
พอลพูดอย่างตรงไปตรงมาพร้อมทั้งหัวเราะขึ้น “ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอก แต่เห็นว่านายขับรถคาดิลแลควัน ไม่รู้ว่านายจะทนความลำบากของการใช้ชีวิตในป่าได้ไหม
ฉินสือโอวตอบกลับไปว่า “ไม่มีปัญหา ฉันเพิ่งจะได้รับมรดกมาเมื่อไม่นานมานี้ เลยอยากซื้อรถดีๆสักคัน ที่จริงแล้วเมื่อก่อนฉันเป็นลูกจ้างเขาน่ะ ฉันชอบการเที่ยวไปในป่าเป็นพิเศษ คู่มือการแนะนำของแบร์ฉันก็ดูจนครบหมดแล้ว
เมื่อคนบนรถได้ยินมุกตลกของเขาก็หัวเราะออกมา พอลหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “แบร์เป็นคนในวงการบันเทิงที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดรอดสูง แต่ว่าพวกเราก็คงไม่ไปกินแมลงอะไรแบบนั้นหรอกนะ”
ทั้งสองฝ่ายคุยกันไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีตำรวจเป็นคนช่วยแนะนำ ต่างก็เชื่อถือได้ทั้งคู่ พอลกับฉินสือโอวคุยกันเรื่องเข้าสมาคมว่าต้องรอพวกเขากลับไปคุยกันก่อน พวกเขาต้องตรวจสอบข้อมูลสักหน่อย แต่ครั้งนี้พวกเขาจะขึ้นไปบนภูเขากัน ถ้าหากเขาสนใจก็ไปด้วยกันได้
ฉินสือโอวขอให้พอลและคนอื่นๆในคณะรอที่ร้านกาแฟก่อน เขากระหืดกระหอบขับรถด้วยความตื่นเต้นเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุดยีน รองเท้าปีนเขา ห้อยซองใส่ปืนสองอัน ข้างซ้ายคือUSP ข้างขวา คือปืนเดสเสิร์ท อีเกิล นอกจากนี้ยังพกปืนอย่าง ปืนเบเนลลี่ เอ็ม1 และปืนเรมิงตัน เอ็ม870 อีกสองกระบอก
การล่าหมูป่าต้องใช้อาวุธที่มีอานุภาพสูง
ครั้งนี้เขาขับเอากระบะของชาร์ค แล้วปล่อยให้ชาร์คดูแลเด็กๆทั้งสี่คน นีลเซ็นได้ยินว่าเขาจะขึ้นไปบนภูเขากับคนของสมาคมคนรักอาวุธปืนก็กังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จึงตามไปเป็นเพื่อนเขาด้วย
เมื่อมารวมตัวกันแล้ว ภายใต้การนำทางของคนท้องถิ่นตัวจริงอย่างนีลเซ็น รถสองคันก็รวมกันเป็นขบวนรถขนาดเล็กที่ขับไปยังทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ภูเขาเคอร์บัล
อากาศอบอุ่น นอกจากภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลหลายลูกแล้วบนยอดเขาก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอีกด้วย พื้นที่อื่นต่างก็มีหญ้าสีเขียวขึ้น ต้นไม้สีเขียวสด ดอกไม้ป่าสีสวยสดนานาพันธุ์ที่ไม่รู้จักชื่อก็กำลังเบ่งบาน ถึงแม้ทางบนภูเขาจะขรุขระ แต่เมื่อได้มองทิวทัศน์ที่สวยงามกลับไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลย
เขาเคอร์บัลล้อมรอบเกาะแฟร์เวลอยู่ครึ่งหนึ่ง ทางฝั่งเหนือและฝั่งตะวันออกของเกาะ ล้วนแต่เป็นเงาของเขาลูกนี้ ทอดยาวติดต่อกันกว่าร้อยกิโลเมตร นับได้ว่าเป็นภูเขาลูกใหญ่เลยทีเดียว ทว่ามันความสูงจากระดับน้ำทะเลของมันไม่มากนัก จุดที่สูงที่สุดของยอดเขาอยู่ที่สองร้อยเมตรเท่านั้น สภาพของบริเวณพื้นที่ส่วนมากมีความสูงแค่หนึ่งร้อยแปดสิบเมตรเท่านั้น
รถวิ่งวนบนเส้นทางในภูเขามาได้ยี่สิบกว่านาทีแล้ว เนื่องจากเมื่อสองวันก่อนมีฝนตก จึงทำให้ขับรถต่อไปไม่ได้ นีลเซ็นลงมาจากรถ เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าพวกเขาต้องเดินเท้าแทน
“พวกคุณมาในเวลาที่ไม่เหมาะเท่าไร ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดี อาจจะมีพวกพายุมรสุมอะไรพวกนั้น”ฉินสือโอวอธิบาย
พอลพูดออกมาอย่างยิ้มๆ “ก็การใช้ชีวิตในป่านี่นะ จะเอาแต่ออกไปข้างนอกเฉพาะตอนที่มีสายลมแสงแดดส่องไม่ได้หรอก
ปืนที่คนกลุ่มนี้นำมาด้วยมีอยู่หลายประเภท AUG G3 M14 ปืนGALIL ของอิสราเอล ปืน HK33ของเยอรมันและปืนอื่นๆอีก แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่นที่อนุญาตให้พลเรือนใช้
ปืนที่พอลใช้เป็นปืนประเภทที่ให้อารมณ์และดึงดูดความสนใจได้มาก คิดไม่ถึงว่ามันคือปืนยาวโมซิน-นากองท์ของรัสเซีย ส่วนบนของปืนติดเลนส์ซุ่มยิงไว้ เป็นปืน M1891 ปืนซุ่มโจมตีแบบเก่านั่นเอง
ในตอนที่ชายวัยกลางคนลงจากรถเป็นคนสุดท้าย เขาถือเอาปืน AK-47ลงมาด้วยหนึ่งกระบอก ฉินสือโอวรู้สึกสนใจมาก จึงตั้งใจเดินเข้าไปดู
ชายวัยกลางคนคนนี้เป็นลุงที่ไว้หนวดเครา เมื่อเขาเห็นว่าฉินสือโอวสนใจ จึงยื่นให้เขาแล้วพูดว่า “ถ้าชอบก็ลองเล่นดูก่อนสิ นี่เป็นปืนที่พ่อของฉันเก็บไว้ให้ เป็นของโซเวียตแท้ๆ ตอนนั้นเขาไปยูเครนแล้วใช้ปลาค็อดสองกระป๋องแลกมันมา
“เป็นปืนยิงอัตโนมัติ?”ฉินสือโอวถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
ชายวัยกลางคนพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว ฉันไม่มีใบอนุญาตปืนเก่า ก็เลยไม่กล้าใช้สักเท่าไร มีแค่ตอนที่มาขึ้นภูเขาถึงเอาออกมาเล่นได้”
สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องปืนแล้วนั้น ปืนAK-47นั้นจะดูขี้เหร่มาก เทียบกับปืนM16 ปืนG63ของเยอรมัน และปืนรุ่นFNC ของเบลเยียมแล้ว เหมือนจะด้อยกว่ามาก
แต่ในสายตาของคนที่รู้เรื่องปืน AK-47นั้นจะเป็นปืนที่สวยมาก ลักษณะสั้นกระชับ เด็ดขาด และเสน่ห์ที่แสดงออกถึงความรุนแรงนั้น เอาชนะใจชายได้ยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก
ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับปืนนัก แต่เขาก็สามารถมองเห็นความสวยงามของปืน AK-47 ได้ โดยเฉพาะปืนกระบอกนี้ที่ผ่านการสัมผัสมาแล้วหลายครั้งจนเกิดเป็นตำหนิ ยิ่งปรากฏเป็นร่องรอยการใช้งานและการขัดเงา เมื่อเทียบกับปืนใหม่ๆแล้วก็ให้เสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป
นีลเซ็นที่เพิ่งจะเข้ามาดู พยักหน้าและกล่าวขึ้นว่า “เป็นปืนที่ดีเลยล่ะ ด้ามปืนทำมาจากไม้วอลนัทแดง ปลายกระบอกปืนทำเป็นทรงโค้ง โครงปืนถูกตัดเกลาด้วยเครื่องกลึง รูปแบบการเชื่อมพานท้ายปืนก็ไม่ได้ทำแบบย่อๆ น่าจะเป็นปืน AK-47 แบบที่สองที่ผลิตขึ้นในปี 1951 ใช่ไหม? ตอนนี้ทั้งโลกเหลืออยู่ไม่กี่กระบอกแล้ว”
เมื่อได้ยินนีลเซ็นพูดเช่นนี้ ลุงหนวดคนนั้นก็ยิ้มหน้าบานด้วยความปีติ เขาตบลงที่บ่าของนีลเซ็นแล้วพูดว่า “นายเป็นคนวงการเดียวกันนี่ เพื่อน นายเป็นคนรักปืนที่แท้จริงเลย! ใช่แล้ว นี่เป็นปืนAK รุ่นที่สองของปี 1951 คนที่ขายให้พ่อของฉันตอนนั้นเป็นนายทหารเก่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่เขาขโมยออกมาจากค่ายทหารน่ะ”
ฉินสือโอวลองตรวจดูตลับใส่กระสุนปืน จากนั้นจึงขึ้นนกและปลดเซฟตี้ของปืน เขาพูดขึ้นว่า “ฉันจะลองแล้วนะ เพื่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
……………………………………