ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 202 แก่นวิญญาณ

บทที่ 202 แก่นวิญญาณ

อย่างที่เฉินเฉียงคิดไว้ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเขตแดนที่อยู่ตีนเขา แต่ภายในนั้นไม่ใช่หุบเขาแต่อย่างใด

เพียงแค่วันเดียว เฉินเฉียงก็ได้สำรวจพื้นที่โดยรอบนับร้อยไมล์และให้เจิ้งยี่และจางหยวนและคนอื่นๆรับทรัพยากรไปมากนัก

และผลที่ออกมาก็คือในตอนนี้เฉินเฉียงเจิ้งยี่นั้นมีหน้าที่ในการสำรวจและหาทรัพยากร ส่วนจางหยวนและพวกนั้นคอยตามไปเก็บรวบรวมทรัพยากรเหล่านั้นทีหลัง

เพียงผ่านไปแค่วันเดียวนั้น กองกำลังเทียนเว่ยได้เดินทางไปทั่วในรอบพื้นที่หลายร้อยไมล์พร้อมกับเก็บเกี่ยวทุกสิ่งอย่างจนหมดสิ้น

ที่เป็นแบบนี้ได้นั้นเป็นเพราะพลังจิตที่สูงล้ำของเฉินเฉียงที่ใช้ในการตรวจสอบได้อย่างกว้างไกล และทักษะสื่อสารไร้สายที่คอยรับฟังในพืชพรรณได้พูดคุยกัน

และในคืนนี้ ทั้งสิบสามคนจะได้รับมากกว่าที่พวกเขาคิด

เฉินเฉียงได้นำสมุนไพรบางตัวจากเม่ยหลัวหลันมาปรุงยา

เจิ้งยี่และพวกต่างรายล้อมเฉินเฉียงพร้อมกับดื่มไวน์ไปด้วย พวกเขาดื่มไปพลางปกป้องเฉินเฉียงไปพลาง

เพียงคืนเดียว เฉินเฉียงได้ปรุงยาเสริมวิญญาณได้กว่าสิบสามเม็ดและยาฟื้นฟูร่างกายอีกสามสิบกว่าเม็ด

หลังจากเฉินเฉียงเก็บสิ่งต่างๆไปแล้ว เขาก็มอบยาเสริมวิญญาณนี้ให้กับทุกคน

หลังจากที่ทุกคนได้กินยาเข้าไปและดูดซับผลของมันจนหมด เฉินเฉียงก็ได้ส่งกระแสจิตของตนตรวจสอบทุกคน ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ยาเสริมวิญญาณนี้แบ่งออกได้ห้าระดับ ถึงแม้ว่าเฉินเฉียงนั้นจะมีทักษะเล่นแร่แปรธาตุในเพียงระดับพื้นฐานเท่านั้น แต่กับยาระดับนี้ไม่ใช่ปัญหาของเฉินเฉียงแต่อย่างใด

หากเป็นโลกภายนอกนั้น เขาคงไม่อาจจะหาวัตถุดิบมาปรุงยาได้มากมายขนาดนี้ แต่นี่เพียงผ่านไปได้แค่วันเดียว เขากลับสามารถมีวัตถุดิบมากพอที่จะปรุงยาให้กับทุกคนได้

และนี่จะทำให้กองกำลังของเขานั้นเติบโตได้โดยไม่เป็นที่สนใจจากผู้คน

“พี่ชายทั้งหลาย การเดินทางของเรานั้นน่าจะใกล้ที่จะได้พบเจอสัตว์ประหลาดและมนุษย์กลายพันธุ์บ้างแล้ว จากนี้เป็นต้นไป ขอให้เน้นการสื่อสารผ่านกำไลสื่อสารแบบโหมดเงียบ”

“จางหยวน ท่านเองคอยอยู่ระวังหลังให้กองกำลัง หากพบเจออันตรายให้รีบส่งข้อความแจ้งเตือน”

เมื่อพูดจบ เฉินเฉียงและเจิ้งยี่ได้ยืนขึ้นก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง

สองวันถัดมา เฉินเฉียงและกองกำลังของเขาได้ประสบความสำเร็จชนิดที่ว่านำหน้ากองกำลังอื่นไปไกล

เพื่อที่จะต้องการฝึกฝน เฉินเฉียงจึงเลือกที่จะตอบสนองแต่สิ่งที่ดูแล้วค่อนข้างจะอันตราย ส่วนสมุนไพรนั้น หากเขาได้พบเจอสมุนไพรที่มีค่า เขาก็จะเหมาเรียบโดยไม่คิดจะเหลือไว้ให้ใคร

และนี่ทำให้ความเร็วของพวกเขานั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น

“ฮื้ม”

เฉินเฉียงในตอนนี้ได้ตรวจพบอะไรบางอย่างข้างหน้า เขาจึงได้หยุดเท้าลงในทันที พร้อมกับส่งเสียงผ่านจิตวิญญาณให้เจิ้งยี่ -เจิ้งยี่ หยุดตรงนี้ก่อน-

-เกิดอะไรขึ้น-

เมื่อเจิ้งยี่เห็นท่าทางจริงจังของเฉินเฉียง เขาก็ได้หยุดอยู่ข้างเฉินเฉียงก่อนที่จะส่งเสียงผ่านจิตวิญญาณถามออกไป

-เจิ้งยี่ เจ้ารอจางหยวนและคนอื่นอยู่ที่นี่ และบอกพวกนั้นไปว่าอย่าได้เคลื่อนไหวหากไม่มีคำสั่งข้า-

-ตอนนี้เข้าต้องการเข้าไปที่นั่นคนเดียว หากพบเจออะไรน่าสนใจ ข้าจะส่งข้อความมาบอกเจ้าผ่านกำไลสื่อสาร-

-ไม่ กัปตัน ข้าไม่ยอมให้ท่านไปคนเดียวแน่นอน- เจิ้งยี่นึกตอบพลางส่ายหน้าไปมา

มุมปากของเฉินเฉียงได้ยิ้มกว้างในทันที “เจิ้งยี่ ข้านั้นจะดำดินไปดูลาดเลาข้างใน หากเจ้ามีความสามารถก็ตามข้าให้ได้แล้วกัน”

เมื่อเฉินเฉียงตอบเสร็จ เขาก็ดำดินลงไปในทันที

เจิ้งยี่ในตอนนี้ทำได้เพียงมองไปยังผืนดินที่ราบเรียบตรงหน้าอย่างนึกมันเขี้ยว

ด้วยวิธีนี้ ต่อให้เขาอยากจะตามไปแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถทำได้ นั่นก็เพราะ เขาไม่รู้ว่าเฉินเฉียงดำดินไปในทิศทางไหน

ในตอนนี้เฉินเฉียงนั้นได้ทำการลอบตรวจสอบสัตว์ประหลาดกลุ่มแรกที่เขาได้พบเจอนับตั้งแต่เข้ามาที่นี่

พวกมันนั้นจำนวนประมาณห้าสิบตัว ผู้นำของพวกมันคือเสือดาวมีปีกที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับนายพลขั้นสูง

และนี่ยิ่งทำให้เขานั้นสนใจพวกมันมากขึ้นเพราะในหมู่พวกมันนั้นมีตัวนิ่มเกราะเหล็กระดับนายพลขั้นกลางอยู่

และมันน่าสนใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเสือดาวมีปีกนี้สั่งให้ตัวนิ่มเกราะเหล็กขุดทะลวงไปตรงหน้า

ถึงแม้ว่าตัวนิ่มเกราะเหล็กนี้จะมีระดับของทักษะการขุดรูอยู่ในระดับสูง แต่ความเร็วและอำนาจการขุดทะลวงของมันนั้นยังด้อยกว่าเฉินเฉียงอย่างน้อยๆก็หนึ่งระดับ

ในทันทีที่ตัวนิ่มเกราะเหล็กนี้ดำดินลงมา เฉินเฉียงเองก็ดำดินลงมาด้วยเช่นกัน เขาได้ใช้กระแสจิตของตนคอยตรวจสอบว่ามันไปในทิศทางไหนและลอบติดตามไป

และด้วยการที่เฉินเฉียงนั้นขุดตามหลังมันมานี่เองทำให้เขานั้นติดตามมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อรวมเข้ากับกระแสจิตตรวจสอบของเขาแล้ว เขาสามารถรับรู้ได้ก่อนที่จะมันจะขุดไปด้วยซ้ำว่ามันกำลังมุ่งตรงไปไหน

ในตอนนี้ หมอกบนผิวดินเริ่มจะหนาตัวขึ้น และในตอนนี้เขานั้นดำดินมาจนถึงเขาสูงแห่งหนึ่ง

-มันมาทำอะไรที่กันหว่า-

เฉินเฉียงนั้นแม้จะไม่อยากรอช้าสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะตามไล่หลังมันไปอย่างช้าๆ

ตราบใดที่เขานั้นยังคงตามมันอยู่อย่างนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูอันตรายไปหน่อย แต่นี่จะทำให้เขารู้ว่าพวกมันมาที่นี่ทำไมกันแน่

ท้ายที่สุด เมื่อตัวนิ่มเกราะเหล็กได้มุ่งหน้าไปในพื้นที่หนึ่งในภูเขา แต่ในตอนนี้มันเคลื่อนไหวได้ช้าลงเพราะเป็นชั้นหินหนา

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ในที่สุด ตัวนิ่มเกราะเหล็กก็ได้จะทะลุผ่านชั้นหินนี้ได้ เป็นตอนนี้ที่กลุ่มก้อนของบางสิ่งได้ระยิบระยับอยู่ตรงหน้า ภาพของแก่นวิญญาณได้ปรากฏในจิตใจของเฉินเฉียง

มันคือสายแร่แก่นวิญญาณ

ในตอนนี้ เมื่อตัวนิ่มเกราะเหล็กได้พบสายแร่แก่นวิญญาณขนาดใหญ่นี้ มันกลิ้งตัวไปมาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะหันหลังเตรียมที่จะกลับเข้ามาในทิศทางเดิม

หรือก็คือเส้นทางที่เฉินเฉียงอยู่

เฉินเฉียงแสยะยิ้มในทันที เขากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ -ฮี่ฮี่ฮี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็อย่าได้หวังจะได้กลับไปเลยเอ็ง-

เมื่อคิดดังนี้แล้ว เฉินเฉียงได้หยุดอยู่ตรงทางที่ตัวนิ่มเกราะเหล็กกำลังจะเข้ามา และก็ได้ผุดออกไปปรากฏตัวต่อหน้าตัวนิ่มเกราะเหล็ก

ด้วยการที่ตัวนิ่มเกราะเหล็กนั้นมีระดับค่าพลังจิตที่ต่ำต้อย การที่มันมาที่นี่ได้นั้นเป็นเพราะสัญชาตญาณของมันล้วนๆ

และในตอนที่มันกำลังจะกลับไปรายงาน มันก็ถูกหยุดเอาไว้โดยเฉินเฉียง

ด้วยการที่ออร่าของเฉินเฉียงนั้นปลดปล่อยออกมาในปริมาณที่ต่ำอย่างมาก นี่ทำให้มันนั้นเข้าใจผิดและคิดไปว่าเฉินเฉียงนั้นอ่อนแอจึงได้คำรามลั่นและพุ่งตรงเข้าใส่เฉินเฉียง

ฉากนี้เองทำให้เฉินเฉียงนั้นรู้สึกคุ้นเคยนักก็ไม่รู้เหมือนกัน

เมื่อเขาเห็นฉากนี้ เฉินเฉียงก็ได้นำดาบดั้นเมฆออกมา ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ตัวนิ่มเกราะเหล็กเช่นเดียวกัน

ด้วยการที่ทักษะการขุดของเขานั้นอยู่ในระดับสูงสุด นี่หมายความว่าเขานั้นแข็งแกร่งกว่าศัตรูของเขา

และสิ่งที่เกิดก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด ผลก็คือเฉินเฉียงชนะได้ด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว และนี่ทำให้ร่างกายของตัวนิ่มเกราะเหล็กถูกทะลวงโดยเฉินเฉียง

หลังจากดูดซับพลังงานจากซากร่างของตัวนิ่มเกราะเหล็กตัวนี้แล้ว แต่กระนั้นทักษะและค่าสถานะของเขาก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมนี่ทำให้เฉินเฉียงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพลางถอดถอนลมหายใจ

หลังถอนหายใจแล้ว เฉินเฉียงก็ได้ขุดแก่นคริสตัลออกมาจากซากร่างของตัวนิ่มเกราะเหล็กและรีบดำดินออกมา

ไม่นาน เมื่อเฉินเฉียงได้กลับไปถึงจุดที่เขาจากมา จางหยวน เจิ้งยี่ และคนอื่นๆกำลังย่อตัวลงอยู่ตรงนั้นประหนึ่งดังค้างคาวสายฟ้าที่กำลังรอคอยเหยื่ออย่างไม่ไหวติง

ในการนี้ ยาเสริมสร้างจิตวิญญาณได้แสดงผลลัพธ์ของมันออกมา เฉินเฉียงเองได้กวักมือเรียกเจิ้งยี่และคนอื่นๆพร้อมทั้งปล่อยกระแสจิตตรวจสอบออกไปเพื่อไม่ให้สัตว์ประหลาดและกองกำลังอื่นได้รู้ตัว ก่อนที่จะรีบเร่งพาพวกเขาไปหาสายแร่แก่นวิญญาณ

ในขณะเดียวกัน ทางด้านสัตว์ประหลาดนั้น เมื่อพวกมันเห็นว่าตัวนิ่มเกราะเหล็กไม่กลับมาสักที นี่ทำให้เสือดาวมีปีกรอจนคลั่งและนำพากองกำลังของมันพุ่งเข้าใส่พื้นที่ที่มีหมอกหนาตรงหน้ามัน

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset