ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 309 ความรักของชิงเฟิง

ตอนที่ 309 ความรักของชิงเฟิง
สำหรับการเผชิญหน้ากับองค์กรดาร์คลิลลี่นั้นไม่เหมือนกับการเผชิญหน้ากับแก๊งชิงหรือตงเซียงกรุ๊ปเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าหากการโจมตีเพียงครั้งเดียวล้มเหลวล่ะก็มันไม่เพียงแค่เปิดเผยตัวตนของนากาจิมะชินนะและทำให้เธอได้รับอันตรายเพียงเท่านั้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการจะหาโอกาสดีๆ ในครั้งอื่นๆ ในการโจมตีองค์กรดาร์คลิลลี่ในอนาคตนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ กระต่ายเจ้าเล่ห์มักจะมีโพรงสามโพรงแล้วใครจะรู้ได้ว่าองค์กรดาร์คลิลลี่นั้นมีฐานที่มั่นลับอื่นๆ อีกหรือไม่และถึงแม้ว่ามันจะไม่มีก็ตามแต่ถึงยังไงหลังจากการโจมตีครั้งนี้ไปแล้วเกรงว่าพวกเธอก็คงจะมีแหล่งกบดานอื่นๆ เป็นแน่เพราะที่แห่งนี้คือประเทศญี่ปุ่นดินแดนของพวกเธอและเขี้ยวหมาป่าเองก็ไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ ทางภูมิศาสตร์เลยแม้แต่น้อย

“องค์กรดาร์คลิลลี่จะมีการจัดประชุมใหญ่ในอีกสามวัน..โดยมีสมาชิกแนวหน้าทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมและรวมไปถึงผู้นำด้วย” นากาจิมะชินนะพูดต่อ “ส่วนสถานที่ของการประชุมลับในครั้งนี้ผู้นำยังไม่ได้ระบุเอาไว้..แต่มันก็น่าจะเป็นสถานที่ที่มีประชากรน้อยๆ และลับตาผู้คน..ถ้าพวกคุณพลาดโอกาสนี้ไปฉันคิดว่ามันน่าจะยากมากที่จะมีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกในอนาคต”

เย่เชียนขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะๆ ..แล้วสามวันต่อจากนี้คุณจะแจ้งข่าวให้เราทราบได้ยังไง”

“ฉันมีวิธีเฉพาะของตัวเอง..ฉันจะทิ้งรหัสและโค้ดลับเอาไว้แล้วคุณเย่ก็ไปที่นั่นเมื่อถึงเวลา” นากาจิมะชินนะพูด

“แล้วถ้าหากพวกเราเริ่มโจมตีกันแล้วแบบนั้นคุณจะไม่เสี่ยงเกินไปหรอ..เท่าที่ผมรู้มาสมาชิกของดาร์คลิลลี่มีไม่ต่ำกว่าร้อยคนและมีอย่างน้อยๆ ห้าสิบคนที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้..แต่ฝ่ายเรามีเพียงพวกเราแค่สามคนและถ้าหากพวกเราโจมตีจากระยะไกลล่ะก็คุณเองก็เสี่ยงมากเช่นกัน” เย่เชียนพูดอย่างกังวล เพราะท้ายที่สุดแล้วนากาจิมะชินนะก็เป็นเหมือนพี่น้องและเพื่อนพ้องของเขาเพราะฉะนั้นเย่เชียนจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อชีวิตของเธอได้เพียงเพื่อที่จะมุ่งทำลายองค์กรดาร์คลิลลี่เพียงเท่านั้น

“คุณเย่คะ..คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน..ฉันมีวิธีหนีออกมา” นากาจิมะชินนะพูด

“ไม่! ..ฉันไม่เห็นด้วย!” ชิงเฟิงพูดอย่างแน่วแน่ “ถึงเธอจะบอกว่าเธอมีวิธีของเธอก็เถอะ..แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นล่ะ..มันก็เท่ากับว่าฉันฆ่าเธอด้วยตัวเองน่ะสิ..ฉันไม่ยอม!”

เย่เชียนกับม่อหลงถึงกับหันไปมองที่ชิงเฟิงด้วยความประหลาดใจอย่างมากเพราะน้องชายคนนี้ดูตื่นเต้นและออกหน้าออกตามากเกินไป ส่วนนากาจิมะชินนะเองก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อยเพราะหลังจากที่เธอเป็นนักฆ่ามานานหลายปีเธอก็แทบจะไม่มีเพื่อนเลยสักคนนอกจากซ่งหลันที่เป็นเหมือนพี่สาวของเธอเพียงเท่านั้น แต่โดยธรรมชาติแล้วซ่งหลันและเธอนั้นก็ไม่สามารถพูดหรือคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้เพราะพวกเธอนั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆ แต่ถึงยังไงผู้หญิงก็ยังต้องการให้คนอื่นมารักมาสนใจเธอและต้องการให้ผู้ชายมาคอยดูแลเอาใจใส่เธอเหมือนผู้หญิงปกติเช่นกัน และเมื่อมองไปที่ชิงเฟิงแล้วหัวใจของนากาจิมะชินนะก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

อย่างไรก็ตามในฐานะนักฆ่าแล้วเธอก็ไม่รู้เลยว่าจะแสดงความรู้สึกของเธอออกมาอย่างไรเธอเพียงจ้องมองชิงเฟิงอย่างเย็นชาและพูดว่า “ฉันไม่ได้ถามความคิดเห็นของนายสักหน่อย..ถ้านายไม่เห็นด้วยที่จะทำก็แล้วแต่..เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวและถ้าพลาดครั้งนี้ไปก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องรอไปอีกเมื่อไหร่ถึงจะมีโอกาสดีๆ อีก”

นากาจิมะชินนะหันหน้าไปมองเย่เชียนและพูดอย่างแน่วแน่ว่า “คุณเย่นี่เป็นโอกาสเดียวนะ..ถ้าคุณต้องการกวาดล้างดาร์คลิลลี่จริงๆ ล่ะก็นี่แหละเป็นโอกาสที่ดีที่สุด..ฉันหวังว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสนี้ไปนะ..คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงฉันหรอก..ฉันมีวิธีเอาตัวรอด..แต่ถ้าฉันไม่รอดจริงๆ ล่ะก็อย่างน้อยๆ ฉันก็จะได้โล่งใจ” ในขณะที่ธอพูดร่องรอยแห่งความโศกเศร้าก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของนากาจิมะชินนะ

“บอส! ..อย่าไปฟังเธอ..ผมไม่เห็นด้วย..ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง!” ชิงเฟิงพูดเสียงแข็งและดุดัน

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เย่เชียนก็พูดว่า “ทำตามแผนเดิมไปก่อนเถอะ..ฉันจะคิดให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง..ว่าแต่คุณนากาจิมะครับ..ถ้าหากดาร์คลิลลี่ถูกทำลายลงแล้วคุณจะทำอะไรต่อไปในอนาคตหรอ?”

แสงแห่งความงุนงงและสับสนอ้างว้างก็สว่างวาบอยู่ภายในดวงตาของนากาจิมะชินนะ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน..อาจจะไปหาที่เงียบๆ ที่ห่างไกลจากสถานที่ที่มีข้อพิพาททางโลก..และใช้ชีวิตที่เหลือของฉัน..”

ชิงเฟิงก็ถึงกับตกตะลึงและกำลังจะอ้าปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อคำพูดนั้นๆ กำลังจะออกจากปากของเขาแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

“เอ่อ..คุณนากาจิมะชินนะ” เย่เชียนกำลังจะพูดแต่ทว่านากาจิมะชินนะก็พูดขัดจังหวะว่า “คุณเย่..คุณเรียกฉันว่าชินนะเถอะค่ะ..อย่าสุภาพกับฉันแบบนี้เลย”

เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “เอาล่ะๆ ..ชินนะ..ถ้าเธอไม่รังเกียจเธอก็มาทำงานกับเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสิ..พี่หลันก็อยู่ที่นั่นด้วย..เธอจะได้ไปอยู่กับพี่สาวของเธอไง”

“ใช่ๆ ..ชินนะ..เธอไปประเทศจีนสิ..ฉันจะได้เจอหน้าเธอทุกๆ วัน” ชิงเฟิงพูดอย่างกระตือรือร้นและถือโอกาสนี้เรียกชื่อเธอเหมือนกันกับที่เย่เชียนเรียก

“ฉันไม่ได้อยากเห็นหน้านายสักหน่อย..ฉันเห็นหน้านายทีไรฉันก็อยากจะฆ่านายทุกที!” นากาจิมะชินนะจ้องเขม็งไปที่ชิงเฟิงและพูด

“เอาเถอะ..ยังไงก็ได้..ตราบใดที่เธอมาประเทศจีนเธอก็มาฆ่าฉันได้เลย..ฉันเต็มใจที่จะตายด้วยน้ำมือของเธอ” ชิงเฟิงฉวยโอกาสอิงไหล่นากาจิมะชินนะและโน้มตัวไปหาเธออย่างทะเล้นและซุกซน

เย่เชียนกับม่อหลงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและเย่เชียนก็คิดกับตัวเองบางทีนากาจิมะชินนะอาจจะถูกชิงเฟิงไล่ตามจีบไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเย่เชียนยังจำคำพูดของหลี่เหว่ยที่พูดเอาไว้ว่าถ้าเราไล่ตามจีบผู้หญิงล่ะก็เราก็ต้องกล้าหาญและไร้ยางอายและหน้าด้านเข้าไว้จนถึงที่สุดและถ้าหากเราทำได้ล่ะก็จะไม่มีผู้หญิงคนใดในโลกใบนี้ที่ไม่พ่ายแพ้และใจอ่อนให้กับเรา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชิงเฟิงที่ไร้ยางอายคนนี้นั้นทำได้ดีมากและชิงเฟิงนั้นก็ช่างน่าหน้าด้านยิงนัก แต่ถึงยังไงเย่เชียนก็ไม่ได้ห้ามหรือเข้าไปแทรกแซงระหว่างพวกเขาทั้งสอง ซึ่งเมื่อครั้งที่พวกเขาไปเยือนประเทศเมียนมาร์ครั้งล่าสุดนั้นน้องชายคนนี้ใช้ความคิดที่น่ารังเกียจเช่นนี้ในการทรมานหลัวโจ่วผู้นำองค์ทหารรับจ้างดอกฝิ่นซึ่งแสดงให้เห็นว่าชิงเฟิงนั้นมีนิสัยที่เหมือนเด็กแหละค่อนข้างที่จะหยาบคายเกินไปหน่อยแต่ถึงยังไงเขาก็อาจจะเชี่ยวชาญในด้านการจีบผู้หญิงไม่น้อยไปกว่าหลี่เหว่ยเป็นแน่

เห็นได้ชัดเลยว่านากาจิมะชินนะนั้นไม่คุ้นเคยกับบทสนทนาและการกระทำที่สนิทสนมใกล้ชิดกันเช่นนี้ เธอจึงหันไปมองชิงเฟิงและพูดว่า “ฉันเตือนนายแล้วนะว่าอย่ามาเข้าใกล้ฉัน..ไม่งั้นฉันจะฆ่านายจริงๆ!”

ชิงเฟิงก็แลบลิ้นใส่และถอยออกมาเพราะเขาก็รู้ดีว่าแค่นี้มันเพียงพอแล้วเพราะเมื่อไล่จีบผู้หญิงเราก็ต้องเข้าใจในระดับหนึ่งและไม่มากเกินไปด้วยเช่นกัน

“ขอบคุณค่ะคุณเย่..ฉันจะเก็บไปพิจารณาดูนะคะ” นากาจิมะชินนะพูด “คุณเย่..ฉันขอตัวไปก่อนนะคะ..คุณเตรียมพร้อมสำหรับรหัศและโค้ดลับของฉันด้วยนะคะ”

“ชินนะอย่าเพิ่งไป! ..นั่งลงก่อน..ฉันยังมีเรื่องที่จะบอกเธออีกตั้งเยอะ!” ชิงเฟิงลุกขึ้นยืนด้วยความรีบร้อนและพูดอย่างเร่งรีบ

นากาจิมะชินนะเหลือบมองไปที่ชิงเฟิงจากนั้นก็กระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างน่าหวาดเสียวเพราะนี่คือชั้นแปดถ้าพลาดไปไม่ตายก็พิการ เมื่อเห็นเช่นนั้นชิงเฟิงก็วิ่งไปที่หน้าต่างอย่างเร่งรีบเพียงเพื่อมองนากาจิมะชินนะและชั่วพริบตาเธอก็เข้าไปในท่อระบายน้ำและลงไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยซึ่งทำให้ชิงเฟิงโล่งใจเป็นอย่างมาก

“ชอบเธอหรอ” ม่อหลงยิ้มเล็กยิ้มน้อยและถามขึ้นมา

ชิงเฟิงฉีกยิ้มและพูดว่า “ใช่ๆ ..ผมชอบเธอ” ในขณะที่เขาพูดเขานั่งลงข้างๆ เย่เชียนและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จากนั้นก็พูดว่า “บอสครับ..ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่สวยเท่านี้มาก่อนเลย..บอสต้องช่วยผมนะ..บอสอย่าส่งเธอไปตายนะ”

เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มแหยงๆ และพูดว่า “นี่ไอ้หนู! ..นายเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ”

ชิงเฟิงยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ไม่ๆ ..ไม่แน่นอน..บอสไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว..แต่ว่าบอส! ..ผมอยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้..ผมอยากให้เธอเป็นภรรยาของผม!”

“นายไม่กลัวว่าเธอจะฆ่านายตอนที่นายหลับกลางดึกเลยเหรอ” ม่อหลงหยอกล้อ

“โถ่พี่..ผมคิดว่าเธอคงเปลี่ยนใจเมื่อเวลานั้นน่ะ” ชิงเฟิงพูดอย่างมีความสุข

เย่เชียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และพูดว่า “เห้อ..เออๆ ..ก็ได้ๆ .. หลังจากเรื่องนี้จบฉันจะไปคุยกับพี่หลันให้..เดี๋ยวจะถามให้ว่าจะให้เธอจะช่วยเป็นแม่สื่อให้นายยังไงได้บ้าง”

“ฟื้บ! ..” ชิงเฟิงจูบและหอมแก้มของเย่เชียนอย่างดุเดือดและพูดว่า “เย้..บอสเนี่ยเข้าใจหัวอกของผมที่สุดเลย! ..ผมรักบอสที่สุดเลย..บอสพูดแล้วนะ..บอสอย่าคืนคำล่ะ”

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นและเช็ดน้ำลายของชิงเฟิงบนใบหน้าของเขาออกและพูดว่า “ได้..ฉันสัญญา..ฉันจะไม่คืนคำ..เอาล่ะคุณทุกคนกลับไปทำธุระของตัวเองเถอะ..จะไปทำอะไรก็ได้ภายในสองวันนี้..และก็ชิงเฟิง! ..นายดูแลหวงฟู่ชิงเส้าเจี๋ยดีๆ ล่ะ..จำเอาไว้ด้วยว่าอย่าทำให้ฉันต้องเดือดร้อนในช่วงเวลานี้..นายเข้าใจใช่มั้ย?”

“ไม่มีปัญหาครับบอส! ..ไม่ต้องกังวลไป..ผมสัญญาเลยว่าจะทำตัวดีๆ ..และผมก็จะดูแลรักษาตัวเองเอาไว้เพื่อนากาจิมะชินนะที่น่ารักของผม” ชิงเฟิงพูด

ม่อหลงก็มองชิงเฟิงและยิ้มเล็กยิ้มน้อย ส่วนเย่เชียนก็จ้องเขม็งชิงเฟิงและพูดว่า “ดีๆ ..ฉันล่ะกังวลกับพวกนายจริงๆ ..ดูแลเส้าเจี๋ยด้วยก็แล้วกัน..ไอ้หมอนั่นเขาเหมือนกับนายเลย..อย่าสร้างปัญหากันล่ะ”

“รับทราบ!” ชิงเฟิงยิ้มอย่างมีความสุขและเดินออกไปจากห้องของเย่เชียน ส่วนม่อหลงก็พยักหน้าให้เย่เชียนและลุกขึ้นเดินตามชิงเฟิงออกไป

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เย่เชียนนอนหลับเต็มอิ่มอย่างสบายและเมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยตงไป่โดยถามว่าเย่เชียนมีเวลาว่างหรือไม่เขาจะพาไปหาเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเย่เชียนเองก็เห็นด้วยโดยธรรมชาติเพราะการมีเพื่อนเพิ่มนั้นก็ดียิ่งกว่าการเพิ่มศัตรูเป็นไหนๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแล้วที่คนที่เดินบนเส้นทางนี้จะต้องมีมิตรสหายมากมาย

หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวแล้วเย่เชียนก็เห็นรถของโย่วซวนจอดอยู่ด้านนอกของโรงแรมและตอนที่เขาลงไปที่ชั้นล่างเย่เชียนก็เห็นโย่วซวนซึ่งยืนรออยู่ และเมื่อโย่วซวนเห็นเย่เชียนลงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมแล้สเขาจึงรีบทักทายว่า “คุณเย่อรุณสวัสดิ์ครับ!”

เย่เชียนก็ยิ้มกว้างๆ และพูดว่า “คุณหัวหน้าอย่าสุภาพกับผมขนาดนี้สิครับ..เรียกผมว่าเย่เชียนก็พอแล้ว”

“นั่นคือความอ่อนน้อมถ่อมตนของคุณเย่ฉันเข้าใจดี..แต่ถึงยังไงโย่วซวนคนนี้ก็ต้องเคารพคนอย่างคุณเย่อย่างสุภาพ” โย่วซวนพูด ชายวัยกลางคนผู้สวมแว่นตาสีทองแต่งตัวเรียบร้อยผู้นี้ดั่งนักวิชาการระดับสูงและสุภาพเรียบร้อยเช่นนี้ซึ่งแตกต่างจากตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเกรงใจและพูดว่า “ครับๆ ..เราไปกันเถอะ!”

“เชิญครับ!” โย่วซวนก็ยังคงเชิญเย่เชียนขึ้นรถอย่างสุภาพ

รถขับไปตามท้องถนนอย่างช้าๆ ท่ามกลางหิมะจางๆ ที่หยุดตกและหิมะบนถนนก็ถูกกวาดออกไปอยู่ข้างทางโดยมีเหล่าเด็กน้อยหลายคนวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน และเมื่อเห็นฉากนี้แล้วเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงวัยเด็กของเขา แต่น่าเสียดายที่ความทรงจำของเขาในวัยเด็กนั้นเลือนรางไปหมด

“คุณหัวหน้าอยู่ที่แก๊งฝูชิงมากี่ปีแล้วครับ?” เย่เชียนถามขณะจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

“สามสิบปี..สิบเดือน..กับอีกแปดวัน” โย่วซวนพูด “ตั้งแต่ที่ฉันมาเหยียบประเทศญี่ปุ่นฉันก็ได้พบกับปรมาจารย์เซี่ยโดยบังเอิญ..และต้องขอบคุณความเมตตาของเขาที่ฉันได้มาอยู่กับปรมาจารย์เซี่ยจนถึงทุกวันนี้”

“โห..คุณหัวหน้าจำได้ยังไงเนี่ย..นี่มันตั้ง30ปีมาแล้ว..และในที่สุดหัวหน้าก็บรรลุความสำเร็จของตัวเองสู่ความยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้” เย่เชียนพูด

“คุณเย่ก็ยกย่องฉันเกินไป..ทั้งหมดก็มาจากความช่วยเหลือของท่านผู้นำ..ถ้าหากไม่มีท่านผู้นำล่ะก็คงจะไม่มีโย่วซวนคนนี้ในทุกวันนี้หรอก” โย่วซวนพูด

เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ เพราะคนที่รู้จักความกตัญญูและบุญคุณนั้นก็คือคนที่ควรค่าแก่การเคารพอย่างยิ่งและนี่ก็อาจเป็นองค์ประกอบและผลของความสำเร็จของโย่วซวนเองที่จงรักภักดีมาเสมอ แต่แน่นอนว่าความพยายามและความมุ่งมั่นของโย่วซวนและรวมไปถึงพรสวรรค์ของเขาก็ต้องขาดไม่ได้อีกด้วยในเรื่องนี้ เพราะทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเรื่อง่ายๆ เลยที่คนๆ หนึ่งจะมาถึงจุดนี้ได้

.

.

.

.

.

.

.

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

อ่านนิยาย ยอดนักรบจอมราชัน
Status: Ongoing
เรื่องย่อ เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม… ————————————– ————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset