รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 113 เขาเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆจริงๆ

บทที่ 113 เขาเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆจริงๆ
“คุณชายฉิน คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” หยางซือฉีเงยหน้าถามฉินหลั่ง ในพริบตานี้ ฉินหลั่งรู้สึกประทับใจเล็กน้อย หล่อนถูกตี แต่กลับมาถามตัวเองก่อน
“แก……” แม่หยางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ : “แกจะทำให้พวกฉันโมโหตายจริงๆหรอ!”
ที่พวกเขานี้ได้มีคนมามุงดูอย่างคึกคักมากมายตั้งนานแล้ว ล้วนชี้ไปชี้มาทางคนในครอบครัวที่แปลกประหลาดนี้
“ทุกคนตัดสินให้ฉัน คนคนนี้อยู่ข้างนอกขอเงินจากผู้อื่น ยังจะล่อลวงลูกสาวของฉัน! ทำให้ลูกสาวบ้านฉันคลั่งไคล้จนโงหัวไม่ขึ้น จะบอกเลิกแฟนของเขา แต่ไหนแต่ไรมาลูกสาวของฉันไม่เคยทะเลาะกับพวกเราสองคนมาก่อน ดูดูตอนนี้ เธอทะเลาะกับพวกเราอะไรขนาดนี้……..” แม่หยางจนปัญญาแล้วจริงๆ จึงได้ระบายความทุกข์กับคนที่มุงดู
“ผู้ชายคนนี้ชั่งไม่มีความเป็นคนเลย”
“ต้องทำให้ภรรยาของคนอื่นแยกทางกันถึงจะพอใจหรือ?”
“ฉันว่าเขาทำเพื่อเงิน ในสังคมคนเลวอะไรก็มีทั้งนั้น? ยอมแล้วจริงๆ!”
……
ผู้คนที่อยู่รอบๆโดนแม่หยางขับเคลื่อน โจมตีไปทางฉินหลั่ง
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของฉินหลั่งดังขึ้น เป็นผู้จัดการชือโทรมา หยางซือฉีผละจากฉินหลั่ง ให้ฉินหลั่งรับโทรศัพท์
“สวัสดีผู้จัดการชือ! จะถามเกี่ยวกับเรื่องค่าชดเชยเมื่อคืนของผมใช่ไหม?” ฉินหลั่งคิด ชือฮุยอาจจะอยากทำความเข้าใจจากเขาเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนที่เขาชนรถของฟางหลุนเสียหาย เรื่องจ่ายค่าชดเชยให้เขา
“ไม่ใช่ครับ เรื่องเมื่อคืนผมจะจัดการให้เรียบร้อย คุณวางใจได้ครับ” ชือฮุยพูดกับเขาอย่างเคารพ : “เป็นแบบนี้ครับ ผมได้ช่วยคุณมองหาคอนโดมิเนียมตึกสูงสองตึกไว้แล้ว ตำแหน่ง เงื่อนไขสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินและการตกแต่งก็ล้วนดีมาก ผมได้รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว คุณอยู่ที่ไหนครับ ผมจะเอาข้อมูลไปให้ ให้คุณดูครับ”
“ห๊ะ….คอนโดมิเนียมตึกสูง? หมายความว่าอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ?” ฉินหลั่งฟังด้วยสีหน้ามึนงง นี่หมายความว่าอะไรกันแน่ ชือฮุยทำไมต้องช่วยดูคอนโดมิเนียมตึกสูงให้ตัวเอง?
“อ๋อ คุณยังไม่รู้หรือครับ? เป็นความผิดผม ผมมาอธิบายให้คุณฟัง ครั้งก่อนตอนที่คุณเสิ่นเสิ่นวั่นเชียนให้ผมช่วยคุณเอาสามสิบสี่ล้านยอดชำระงวดสุดท้ายของเฟอร์รารี่จ่ายให้กับบริษัทเฟอร์รารี่ มอบงานให้ผมช่วยคุณมองหาคอนโดมิเนียมตึกสูงในเมืองจีนหลิง บอกว่าเพราะคุณเห็นถึงแนวโน้มที่ดีของราคาบ้านในอนาคตของจีนหลิง……”
“อ่อ แบบนี้เอง” ฉินหลั่งได้ฟังชือฮุยพูดจบ เขาก็เข้าใจแล้ว เป็นเสิ่นวั่นเชียนช่วยตัวเองเดินเรื่องทั้งหมด เขาอยากให้ตัวเองเริ่มรับช่วงโครงการธุรกิจบ้าง ฝึกฝนตัวเอง ยังไงซะในอนาคตตัวเองก็จะต้องรับช่วงของอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ของวงศ์ตระกูล เขามองไปที่คนครอบครัวหยางที่จ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง รู้ว่าพวกเขาต้องไม่ให้เขาจากไปอย่างง่ายดายเป็นแน่
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็รบกวนผู้จัดการชือคุณเอาข้อมูลมาส่งให้ผมที่ห้างสรรพสินค้าวั่นต๋าที่ร้านอาหารหูเป่ยที่นี่เถอะครับ” ฉินหลั่งกล่าวอย่างเกรงใจเสร็จ วางโทรศัพท์แล้ว
“เป็นผู้จัดการชือ?” หยางซือฉีถามฉินหลั่งอย่างกังวล ให้ผู้จัดการชือเห็นหล่อนที่ลาป่วยแล้วมาช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าวั่นต๋า นี่ไม่ใช่ว่าโดนพบเข้าพอดีหรือ?
“งั้นฉันไปก่อนนะคะ ให้ผู้จัดการชือเห็นฉันไม่ได้!” เห็นฉินหลั่งพยักหน้า หยางซือฉีบอกว่าจะจากไปก็จากไป
“ไปอะไรล่ะไป!” แม่หยางดึงหยางซือฉีไว้ : “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ พวกเธอสองคนกำลังแสดงละครคู่กันอยู่! วันนี้จำเป็นจะต้องจัดการเรื่องนี้”
“แม่ ผู้จัดการชือจะมาจริงๆ แม่อย่าดึงฉันไว้ได้ไหม?” หยางซือฉีพูดอย่างกังวล
“ซือฉี ตอนนี้แกเปลี่ยนไปเป็นคนเจ้าเล่ห์มากแล้วจริงๆ แกคิดว่าแม่จะเชื่อแกหรือ?” แม่หยางมองแล้วพูดกับหยางซือฉี หล่อนก็เคลื่อนสายตาไปยังฉินหลั่งอีก : “เขาสามารถรู้จักกับผู้จัดการของพวกแก? ผีถึงจะเชื่อ ยังมีอะไรคอนโดมิเนียมตึกสูงอีก แสร้งได้เหมือนมากนะ?”
“ใช่ ผมแสร้งได้เหมือนโอเคแล้วสินะ?” ฉินหลั่งจนปัญญากับคนบ้านนี้แล้ว
“พี่สาว พี่อย่าโวยวายไร้เหตุผลอีกเลย” เสี้ยฉีงเดินมาด้านหน้าของหยางซือฉี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกหล่อนสองพี่น้องได้ปรึกษากันแล้วว่า จะใช้ฉินหลั่งมากระตุ้นจ้าวเหว่ย แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพี่สาวเอนห่างไกลออกไปจากลู่ทางแล้ว หากว่าให้พี่สาวทำเรื่องวุ่นวายนี้ต่อไป หล่อนกับจ้าวเหว่ยจะต้องจบเห่อย่างสิ้นเชิงแน่ๆ
“อย่าดื้อ พี่สาว พี่เพียงแค่ขอโทษพี่จ้าว ฉันชื่อว่าพี่จ้าวจะต้องยกโทษให้พี่แน่ๆ” เสี้ยฉีงพยายามพูดเพื่อให้หยางซือฉีและจ้าวเหว่ยจบลงด้วยดี
“เสี้ยฉีงเรื่องของฉันแกอย่ามายุ่งให้มาก ในใจของฉันมีเพียงคุณชายฉิน เขาจ้าวเหว่ยอยากทำอะไรก็ทำ!” หยางซือฉีไม่พอใจเสี้ยฉีงมาก เพราะว่าหล่อนทำลายเรื่องดีๆของตัวมาหลายครั้งแล้ว
เสี้ยฉีงก็ไม่มีวิธีอื่นกับพี่สาวแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะฉินหลั่งสร้างขึ้น
“ฉินหลั่ง!” ตอนนี้เสี้ยฉีงเดินมาข้าวหน้าของฉินหลั่งด้วยความโกรธ : “เธอสามารถนะ ทำให้พี่สาวฉันคลั่งไคล้จนโงหัวไม่ขึ้น! ลืมไปแล้วหรือว่าตอนแรกฉันบอกเธอว่ายังไง!”
“ตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะตามจีบพี่สาวของฉันในใจเธอไม่คิดไว้บ้างหรอ? ฉันต้องการให้เธอรับรองกับฉันตอนนี้ หลังจากนี้จะตัดการติดต่อกับพี่สาวของฉัน! พูด!” ต่อหน้าฉินหลั่งเสี้ยฉีงมักจะแข็งกระด้างเสมอ
หากว่าปกติ ฉินหลั่งยอมให้เสี้ยฉีงหน่อยก็ไม่มีอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ ท่าทางลักษณะนี้ที่พ่อหยางแม่หยางมีต่อตัวเอง แล้วตัวเองยังจะอ่อนข้อให้พวกเขา? ฉินหลั่งทำไม่ได้จริงๆ ที่สำคัญกว่าก็คือ เมื่อตัวเองได้รับรองไปแล้ว ความพยายามทั้งหมดที่ทำไปก่อนหน้านี้ที่ทำไปเพื่อให้จ้าวเหว่ยออกไปจากหยางซือฉีก็สูญเปล่าหมด
เห็นได้ชัดว่าหยางซือฉีไม่ชอบจ้าวเหว่ย ฉินหลั่งจะไม่ผลักหล่อนไปอยู่ข้างกายจ้าวเหว่ยอย่างแน่นอน?
สำหรับคำพูดของเสี้ยฉีง ฉินหลั่งก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน
“ยาจก แกหูหนวกแล้วหรอ!” เสี้ยฉีงตะคอกเสียงดังใส่ฉินหลั่ง พูดไป หล่อนก็ขมวดคิ้ว ยกมือขึ้น จำพัดลงไปที่บนหน้าของฉินหลั่ง ในทีมเชียร์ก่อนหน้านี้ เสี้ยฉีงก็เคยตบหน้าฉินหลั่ง ฉินหลั่งก็ไม่ตอบโต้ แต่ครั้งนี้ ฉินหลั่งจับมือของเสี้ยฉีงไว้
“เธออย่าให้เกินไปนัก!” ฉินหลั่งพูดอย่างไม่พอใจ
“ปล่อย ไอ้ยาจก!” เสี้ยฉีงคิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะกล้าจับตัวเอง หล่อนโกรธและสะบัดไปสองครั้ง แต่ก็สะบัดออกจากมือของฉินหลั่งไม่ได้สักนิด
ภายใต้ความโกรธอย่างที่สุด เสี้ยฉีงก็ยกมือซ้ายขึ้นมาอีก ต่อยไปทางฉินหลั่ง แต่ก็ถูกฉินหลั่งจับไว้เหมือนกัน
“แก ปล่อย!” เสี้ยฉีงทั้งอายทั้งโกรธ หล่อนตะคอกใส่ฉินหลั่งด้วยสีหน้าโกรธจัด
“ฉันปล่อยเธอก็ได้ แต่เธอต้องรับรองก่อน ว่าจะไม่ตีฉันอีก!” ฉินหลั่งพูดอย่างเคร่งขรึม
“ไป เธอคิดว่าเป็นอะไรกัน!” เสี้ยฉีงไม่ยอมอ่อนข้อให้ฉินหลั่ง เสี้ยฉีงกลอกตาไปมา
“ลวนลาม ทุกคนดูไอ้นี่ลวนลามฉัน……” เสี้ยฉีงใช่เวลาที่ฉินหลั่งเบนความสนใจ กัดไปที่มือของฉินหลั่ง ฉินหลั่งร้องอย่างน่าสงสาร ปล่อยมือ เมื่อดู มือขวาตรงปากเสือ ถูกเสี้ยฉีงกัดจะเป็นรอยฟันหนึ่งวง รอบนอกมีรอยเลือดออกมา
เสี้ยฉีงยืนอยู่ด้านหน้าฉินหลั่งมองเขาด้วยความอวดดี
“กัดได้ดี!”
“กัดให้ผีจนๆตายไปถึงจะดี!” จ้าวเหว่ยและพ่อหยางแม่หยางพูดอย่างเยาะเย้ย
หยางซือฉีพุ่งเข้ามาข้างกายฉินหลั่ง ตรวจสอบดูบาดแผลของฉินหลั่งด้วยความสงสาร
“นั่นเหมือนว่าเป็น…ผู้จัดการชือ……” รอยยิ้มบนหน้าของเสี้ยฉีงค่อยๆจางหายไปแล้ว หล่อนเห็นอย่างกะทันหัน ผู้จัดการชือเดินเข้ามาจากประตูร้านอาหารแล้ว
“ห๊ะ! อยู่ไหน? แม่เจ้า เป็นผู้จัดการชือจริงๆ……” แม่หยางก็เห็นผู้จัดการชือแล้ว หล่อนกล่าวด้วยความตกใจจนหน้าซีด คนครอบครัวหยางลนลานหมด พวกเขาล้วนเข้าใจ เมื่อหยางซือฉี “ลาป่วย” เรื่องถูกเปิดเผยแล้ว หยางซือฉีก็จะเสียหายหนัก
“ซือฉี แกยังจะอึ้งทำอะไรอีก? รีบไปซ่อน ผู้จัดการของแกมาแล้ว……” แม่หยางกล่าวขึ้นกับหยางซือฉีในสถานการณ์ที่สำคัญนี้
“ไม่ต้องซ่อน” ฉินหลั่งพูดกับหยางซือฉีเบาๆ แม้ว่าฉินหลั่งไม่เอ่ย หยางซือฉีก็จะไม่ฟังแม่ ตอนนี้มือของฉินหลั่งบาดเจ็บ หล่อนสงสารแทบจะสงสารไม่ทันแล้ว
“ไม่ต้องซ่อนบ้าอะไร นี้เกี่ยวข้องกับเงินรางวัลหนึ่งแสนหยวนและการเลื่อนตำแหน่งของลูกสาวฉันเชียวนะ แน่นอนว่าเธอไม่ร้อนใจอยู่แล้ว! ซือฉี แกมองลักษณะนิสัยของคนคนนี้ออกแล้วสินะ?” แม่หยางด่าฉินหลั่งด้วยความโกรธ : “ซือฉี แกอย่าโง่อึ้งอยู่ รีบไปซ่อนสิ!”
“ไม่ทันแล้ว ผู้จัดการชือเดินมาทางพวกเรานี้แล้ว” เสี้ยฉีงพูดพร้อมกับเบิกตาโต
“คุณฉิน!” ผู้จัดการชือทักทายแล้วเดินเข้ามา เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ถึงพบว่า หยางซือฉีก็อยู่ที่นี่ด้วย : “เอ๊ะ? ผู้จัดการหยาง ไม่ใช่ว่าคุณลาป่วยแล้วหรือ? ทำไม……”
โดนผู้จัดการชือจับได้แล้ว หยางซือฉีก็ไม่ได้คิดอยากจะแก้ตัวอะไรให้ตัวเอง เพียงแต่ยืนก้มหน้าอยู่ข้างฉินหลั่ง
“อ๋อ…เป็นแบบนี้ ผู้จัดการชือ ฉันเป็นแม่ของซือฉี ซือฉีของบ้านพวกเราน่ะ ทีแรกก็นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านมาตลอด ฉันเบื่อไม่มีอะไรทำเลยลากเขาออกมาซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนฉัน ล้วนเป็นความผิดของฉัน ไม่เกี่ยวกับซือฉี เธอยังป่วยอยู่เลยนะ……”
“ใช่แล้ว เมื่อคืนซือฉีป่วยหนักมาก ทั้งอาเจียนออกมาเป็นน้ำย่อย ทั้งไข้ขึ้น……”
“…อืม พวกเราเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับพี่สาว……”
……
แม่หยางพวกเขารีบแก้ตัวเพื่อหยางซือฉี
“อ๋อ……” ผู้จัดการชือยิ้มเป็นทีเล่น : “พวกคุณยอดเยี่ยมมาก หยางซือฉีไม่สบาย คนทั้งบ้านยังจะมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าเป็นเพื่อนเธอ ไปโรงพยาบาล ผมขอถามหน่อย พวกคุณพาหยางซือฉีไปโรงพยาบาลไหนครับ?”
“เอ่อ……” แม่หยางพวกเขามองหน้ากัน พวกเขาก็ไม่รู้ใครจะเป็นคนพูด ใช้สายตาบอกใบ้เป็นนัยก็ไม่เข้าใจกัน สี่คนพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่คาดคิด :
“โรงพยาบาลถงเหริน”
“โรงพยาบาลซื่ออี”
“โรงพยาบาลเหอจี้”
“โรงพยาบาลแพทย์แผนจีน”
พูดจบ ทั้งสี่คนก็มีสีหน้าที่เสียใจ ตัวเองจะพูดมากทำไมนะ?
“เยี่ยมจริงๆ เพียงแค่ไข้หวัดเล็กๆเท่านั้น วนไปโรงพยาบาลตั้งสี่แห่งเชียว” ผู้จัดการชือพูดยิ้มเยาะเสียดสี
“ผู้จัดการชือ คุณฟังฉันอธิบาย……” แม่หยางยังคิดจะดึงสถานการณ์กลับมา
“ไม่จำเป็นแล้วครับ ในใจพอจะประมาณได้แล้ว” ผู้จัดการชือปฏิเสธที่จะฟังคำอธิบายของแม่หยาง
ใจของแม่หยางสามสี่คนจมลงสู่ก้นบึ้ง โอกาสเงินรางวัลหนึ่งแสนและการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานธนาคารของลูกสาวครั้งนี้ ก็นับว่าจบเห่แล้ว
“ผู้จัดการชือ” เวลานี้ฉินหลั่งเรียกขึ้นเสียงหนึ่ง
“ครับ คุณว่ามาได้เลยครับ” เมื่อเผชิญหน้ากับฉินหลั่ง ผู้จัดการชือก็รีบเปลี่ยนท่าทางเป็นนอบน้อมทันที
“วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดี เชิญผู้จัดการหยางออกมาเดินห้างสรรพสินค้าเป็นเพื่อน ผมไม่รู้ว่านี่จะละเมิดกฎของธนาคารของพวกคุณ ผมขอโทษคุณด้วยครับ” ฉินหลั่งพูดอย่างเกรงใจ
“อ๋อ…” ผู้จัดการชือตกใจ ไหนเลยที่เขาจะฟังไม่ออกว่าฉินหลั่งหมายความว่าอะไร ในใจของผู้จัดการชือเกิดความกลัวขึ้นมาก หยางซือฉียืนอยู่ข้างฉินหลั่งมาตลอด เพียงแค่คาดคะเนสักเล็กน้อย ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขากลับมองข้ามไปอย่างไม่รอบคอบเช่นนี้
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง งั้นก็เป็นการเข้าใจผิดครับ” ผู้จัดการชือยิ้มอย่างเคอะเขิน เดินไปข้างหน้าหยางซือฉีแล้วกล่าว : “ผู้จัดการหยาง คุณดีขึ้นบ้างหรือยังครับ? คุณมีโอกาสมากในการปรับเปลี่ยนบุคลากรในธนาคารในวันนี้ หวังว่าหลังจากนี้คุณจะพยายามขยันมากขึ้น รักษาความกระตือรือร้นอย่างตอนนี้ไว้ ที่เป็นของคุณยังไงก็เป็นของคุณอยู่ดี”
ผู้จัดการชือหมายความว่าอะไร ใครที่อยู่ในเหตุการณ์จะฟังไม่เข้าใจ?
ผู้สูงวัยทั้งสองของครอบครัวหยางและเสี้ยฉีง จ้าวเหว่ยล้วนงงงวย แม่เจ้า นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ยาจกฉินหลั่งพูดไปสองประโยค ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว? ทำไมผู้จัดการชือถึงได้ให้เกียรติฉินหลั่ง? ทั้งๆที่เขาเป็นแค่นักเรียนของมหาวิทยาลัยจีนหลิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง?
“คุณฉิน เชิญคุณนั่งครับ นี่คือข้อมูลรายละเอียดของคอนโดมิเนียมตึกสูงสองตึกที่ผมช่วยคุณหา ตำแหน่งที่ตั้งอย่างละเอียดของมันอยู่ที่เขตฉินหวยใกล้กับวัดขงจื้อ จากการประมาณการ คร่าวๆประมาณแปดร้อยเก้าสิบล้านก็เพียงพอที่จะสามารถเอามาได้ครับ…..”
แปดร้อยเก้าสิบล้าน! ได้ยินตัวเลขนี้ พ่อหยางแม่หยาง เสี้ยฉีงจ้าวเหว่ยล้วนยิ่งตะลึงงัน! หากว่าฉินหลั่งเป็นคนพูดเองว่าจะซื้อคอนโดมิเนียมตึกสูงแปดร้อยเก้าสิบล้าน พวกเขาคงมองว่าเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ได้ออกมาจากปากของผู้จัดการชือ ผู้จัดการชือมีฐานะเป็นผู้จัดการของลูกค้าของธนาคารซิตี้แบงก์ เขาคงไม่ได้ร่วมแสดงละครกับฉินหลั่งเป็นแน่ งั้นก็แสดงว่า พวกเขากำลังหารือเรื่องเงินก้อนใหญ่จำนวนแปดร้อยเก้าสิบล้านอยู่จริงๆ!
เช่นนั้นฉินหลั่ง…
ยิ่งคิดต่อไป แม่หยางพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจนต้องหายใจเฮือกใหญ่ หรือว่าฉินหลั่งจะเป็นอภิมหาเศรษฐีที่ถือเงินเก้าล้านอยู่ในมือจริงๆ! ?

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset