รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 115 อันนี้เรียกว่าด้ายหนึ่งเส้นที่เชื่อมโยง

บทที่ 115 อันนี้เรียกว่าด้ายหนึ่งเส้นที่เชื่อมโยง
“โจวซิน เธอให้หวงเกอบอกฉินหลั่ง ให้เขากลับไปเถอะ พวกเราเดินเที่ยวกันเอง” ส้งเส่นเอ๋อดึงมือของโจวซิน แววตาเด็ดเดี่ยวมาก
“เส่นเอ๋อ เธอก็รู้ว่าในเวลากลางคืนเป็นอันตรายมากกับพวกเราลูกผู้หญิง ช่วงนี้ในสังคมมีเหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกล่วงละเมิดเกิดขึ้นหลายครั้ง ยังมีเพราะเรื่องนี้ทำให้เสียชีวิตแล้วด้วย เธอไม่กลัว? ก็เพราะว่าอย่างนี้ หวงเกอถึงได้ให้ฉินหลั่งติดตามพวกเรา” โจวซินพูดกับส้งเส่นเอ๋อจนปากเปียกปากแฉะ
“มีอะไรให้กลัวกัน ตลาดกลางคืนคนมากมายขนาดนั้น พวกเราคงไม่ได้ซวยขนาดนั้นหรอก?” แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่เมื่อโจวซินตักเตือน ในใจของส้งเส่นเอ๋อก็เกิดกลัวจริงๆขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว : “แล้วให้เขาฉินหลั่งมา พวกเราประสบกับอันตราย บางทีเขาอาจจะวิ่งหนีไปเร็วกว่าพวกเราอีก”
“ไม่หรอก ฉันยังคงมีความเชื่อมั่นในตัวของฉินหลั่ง เธอลืมแล้วหรอ ครั้งก่อนที่Berkeley Hotel ยังเป็นฉินหลั่งที่ช่วยเธอนะ” โจวซินมองส้งเส่นเอ๋อที่มีความหวาดกลัวนิดหน่อยแล้ว หล่อนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดโน้มน้าว : “ยังไงซะเขาก็รอพวกเราอยู่ที่นั่นแล้ว ก็ให้เขาเดินเที่ยวกับพวกเราเหอะ อย่างมากถ้าเธอไม่ชอบเขา ก็ไม่ต้องไปใส่ใจเขาก็ได้แล้ว”
“พูดไปก็ใช่ ก็แค่ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนก็ได้แล้ว” เวลานี้ส้งเส่นเอ๋อก็ทำได้เพียงตอบรับไปเช่นนี้
แท็กซี่ขับมาถึงตลาดกลางคืนถนนตานเฟิ่งอย่างรวดเร็ว
ที่นี่คือสถานที่ที่คณะผู้นำเมืองจีนหลิงที่ได้เข้ารับตำแหน่งใหม่ได้ทำการพัฒนาให้เป็นที่สาธารณะเพื่อการพักผ่อนสนุกสนานเพลิดเพลินในยามค่ำคืนของประชาชนในเมือง และยังเป็นหน้าต่างสำหรับการแสดงวัฒนธรรมการดำรงชีวิตยามค่ำคืนการกินอาหารของประชาชนชาวจีนหลิงต่อนักท่องเที่ยวต่างถิ่น
ซุ้มขายของที่ประดับประดาเป็นประตูเมืองในแบบโบราณเรียงรายเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ป้ายหน้าร้านขายของใช้ป้ายไฟหลากสีเหมือนกันทั้งหมดเพื่อเขียนเนื้อหาของกิจการตัวเอง “ซุปหม่าล่า” “ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส่” “ปิ้งย่าง” “อาหารทะเล” “เหล้าเบียร์” “กุ้งก้ามกราม” มีครบครันทุกอย่าง
ไฟหลากสีส่องแสงสว่างระยิบระยับ หน้าร้านขายของหัวคนขยับไปมา ผู้คนขวักไขว่คึกคักเป็นที่สุด
เมื่อส้งเส่นเอ๋อและโจวซินลงจากรถ ก็ได้ถูกความคึกคักของบรรยากาศและกลิ่นหอมหวนชวนกินของอาหารที่นี่ดึงดูดเข้าให้แล้ว
“โจวซิน ส้งเส่นเอ๋อ” ขณะที่พวกหล่อนกำลังเข้าไหลเข้าไปยังกลุ่มคนพอดี ฉินหลั่งก็เดินมาจากด้านข้าง ยิ้มเล็กน้อยทักทายไปทางพวกหล่อน
“ฉินหลั่ง เธอมาเร็วจัง” โจวซินยิ้มให้ฉินหลั่ง แม้ว่าจะปฏิเสธความน่าจะเป็นลูกคนรวยของฉินหลั่งแล้ว แต่โจวซินยังมีความประทับใจที่ดีมากต่อฉินหลั่งอยู่ คนคนนี้ถึงจะจนไปนิด ในด้านการปฏิบัติตัวก็ไม่เลวทีเดียว เธอกับหวงเกอแทบจะสนิทกันแล้ว ฉินหลั่งเป็นพี่น้องของหวงเกอ โจวซินจำเป็นต้องทำความสัมพันธ์ที่ดีกับฉินหลั่ง
ส้งเส่นเอ๋อเห็นฉินหลั่ง เดิมหล่อนคิดว่าเมื่อตัวเองเจอฉินหลั่ง จะต้องเอือมระอาเป็นพิเศษ แต่เมื่อหล่อนเห็นฉินหลั่งแวบแรก หล่อนกลับพบว่า ในใจของตัวเองเกิดเป็นระลอกคลื่นกระเพื่อมขึ้นอย่างคาดไม่ถึง นี่ทำให้หล่อนเกิดความแปลกใจ
ส้งเส่นเอ๋อไม่ได้ทักทายฉินหลั่ง ทำท่าทางเหมือนมองไม่เห็นเขา
“เส่นเอ๋อเธอ…” โจวซินอยากทำให้ส้งเส่นเอ๋อจบลงด้วยดี แต่เธอแน่ใจว่าฉินหลั่งก็รู้ ส้งเส่นเอ๋อทำไมถึงได้มีท่าทีแบบนี้กับเขา ก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“ไม่เป็นไร……” ฉินหลั่งกลับยิ้มอย่างสบายใจ เขาคิดไว้ตั้งนานแล้วว่าส้งเส่นเอ๋อจะต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“พวกเราไปเดินเที่ยวกันเถอะ ในนี้มีของกินของให้เล่นมากมาย” พูดไป โจวซินคล้องแขนของส้งเส่นเอ๋อไว้ เดินอยู่ด้านหน้า ฉินหลั่งตามอยู่ข้างหลัง
ส้งเส่นเอ๋อทำเหมือนฉินหลั่งไม่มีตัวตนจริงๆ หล่อนลากโจวซินดูอันนี้ที ลองอันนั้นที และเมื่อพวกเธอเล่น ฉินหลั่งก็นั่งอยู่ข้างอย่างเงียบๆ หรือว่าดูโทรศัพท์ หรือตัวเองก็เอาขนมจากเจ้าของร้านมาลองชิม
ส้งเส่นเอ๋อและโจวซินเดินไปเล่นไปตลอดทาง ร้านค้าเล็กๆที่แขวนไฟไว้ที่หนึ่งได้ดึงความสนใจของพวกเธอไว้ ด้านหน้าร้านเล็กๆมีวัยรุ่นหนุ่มสาวมากมาย ส้งเส่นเอ๋อลากโจวซินเดินเข้าไป
นี่เป็นร้านขายจี้ห้อยคอร้านเล็กๆ ด้านในมีโครงที่ทำจากไม้ตั้งตระหง่านอยู่สองสามอัน ข้างบนแขวนจี้ห้อยคอเล็กๆประณีตอยู่นับไม่ถ้วน มี“หยก” มี“ทอง” มี”หินโมรา” รูปร่างแตกต่างกันไป พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ สิบสองนักษัตร “อยู่เย็นเป็นสุข” “โชคดี” “บุพเพสันนิวาส” ……
ส้งเส่นเอ๋อและโจวซินดูอย่างมีความสุข พวกเธอชอบของชิ้นเล็กเหล่านี้มากจริงๆ คนหนึ่งเลือกได้สองสามแบบ พวกเขาถามเจ้าของร้านแล้ว เหล่านี้ล้วนไม่ใช่“หยก”ของจริง เส้นหนึ่งก็เพียงแค่ยี่สิบหยวนเท่านั้น
“ฉินหลั่ง เธอก็เข้ามาดูสิ” โจวซินเห็นฉินหลั่งยืนอยู่ด้านนอกร้านเล็กๆคนเดียวดูโดดเดี่ยวมาก จึงเรียกเขา ฉินหลั่งเดินไปข้างหน้าโครงที่เต็มไปด้วยจี้ห้อยคอที่แขวนไว้อย่างช้าๆ
ส้งเส่นเอ๋อไม่ยอมอยู่ใกล้กับฉินหลั่งขนาดนั้น หล่อนเอาจี้ห้อยคอที่ตัวเองเลือกให้เจ้าของร้านดู ให้เขาคิดเงิน เจ้าของร้านเป็นหญิงชราหลังค่อมมีอายุที่มีใบหน้าเหี่ยวย่น
“ทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบหยวน” หญิงชราพูดจบ ก็ใส่ถุงให้ส้งเส่นเอ๋อ หล่อนก็ได้หยิบเอาจี้ที่มัดกับเชือกสีแดงจากด้านข้างมาอีกสองสามเส้น มอบให้ส้งเส่นเอ๋อ : “แม่สาว หากว่าเชือกของจี้สกปรกแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นพวกนี้ อีกอย่าง เชือกแดงนี้ยังมีผลอย่างอื่นอีก”
“อ๋อ?” ส้งเส่นเอ๋อ โจวซินล้วนตะลึงไปทันที
“นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก เธอเอามือของเธอมาให้ฉัน” มือแห้งเหี่ยวของหญิงชราจับมือของส้งเส่นเอ๋อ หล่อนดึงเชือกแดงออกมาเส้นหนึ่ง ค่อยๆเอาเชือกสีแดงพันที่นิ้วชี้ของส้งเส่นเอ๋อ พันเสร็จก็เหมือนแหวนวงหนึ่ง ส้งเส่นเอ๋อมองดูโจวซิน ทั้งสองคนยังไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอะไรกันแน่
“พ่อหนุ่ม เอามือของเธอให้ฉัน” หญิงชรามองไปทางฉินหลั่งอีก
“อ่อ” ฉินหลั่งยื่นมือให้หญิงชรา หญิงชราก็เอาเชือกแดงเส้นหนึ่งผูกที่นิ้วชี้ของฉินหลั่งอย่างเชื่องช้า
“นี่ ก็เหมือนแบบนี้ นี่เรียกว่า ‘ด้ายหนึ่งเส้นเชื่อมโยงบุพเพสันนิวาสหมื่นลี้’ ในมือมีเชือกแดงเส้นนี้ แม้ว่าพวกเธอจะไกลกันเป็นหมื่นลี้ เพียงแค่ขยับเชือกแดงที่พันอยู่ที่นิ้วชี้นี้ ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของกันและกัน” คุณยายกล่าวด้วยน้ำเสียงแบบผู้มีประสบการณ์
ห๊ะ? ที่แท้คุณยายก็มองว่าส้งเส่นเอ๋อและฉินหลั่งเป็นคู่รักกันแล้ว
ส้งเส่นเอ๋อหน้าแดง ฉินหลั่งก็ตะลึงงัน
“เจ้าของร้านคุณพูดอะไรเลอะเทอะคะ?” ส้งเส่นเอ๋อกล่าวว่าหญิงชรา หล่อนได้เหลือบมองฉินหลั่งแวบหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว พบว่าฉินหลั่งยังคงมีท่าทางเหมือนปกติสีหน้าเรียบเฉย นี่ทำให้ส้งเส่นเอ๋อยิ่งรู้สึกเสียหน้า หล่อนรู้สึกว่าตัวเองแสดงความตื่นเต้นขนาดนี้ จะทำให้ฉินหลั่งหัวเราะตัวเอง
ส้งเส่นเอ๋อก็ไม่พูดแล้ว เธอเริ่มแกะเชือกแดงที่นิ้วมือออกอย่างรีบร้อน หญิงชรามัดได้แน่นมาก ส้งเส่นเอ๋อใช้เวลาอยู่นานมาก ในที่สุดเชือกแดงก็ถูกแกะออก หล่อนจ้องฉินหลั่งที่ยืนไม่กระดิกอยู่ข้างๆแวบหนึ่ง โยนเชือกแดงลงไปที่พื้น เดินออกด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว
“เส่นเอ๋อ รอฉันก่อน……” โจวซินเรียกเส่นเอ๋อแล้วตามออกไป
ฉินหลั่งส่ายหัวอย่างจนปัญญา เขาโค้งตัวลงไปเก็บเชือกแดงที่ส้งเส่นเอ๋อทิ้งไว้บนพื้น แล้วก็แกะเชือกแดงของตัวเองออกมา เขารู้สึกว่าน่าสนใจ ก็คิดว่าหลังจากที่รอให้หาจงยู่พบแล้ว จะเอาเชือกแดงมัดไว้ที่มือของหล่อน แบบนี้ ไม่ว่าจงยู่จะวิ่งไปที่ไหน ฉินหลั่งก็จะสามารถสัมผัสถึงความคงอยู่ของเธอได้
ฉินหลั่งเอาเชือกแดงใส่กระเป๋า แล้วเดินออกไป
มองเห็นเงาของโจวซินและส้งเส่นเอ๋อไกลๆ ขณะที่ฉินหลั่งกำลังจะเดินเข้าไปพอดี เวลานี้ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นผู้จัดการเสี่ยวหงของCHIU·SHUIโทรศัพท์มา
“เจ้านาย คุณรีบมานะ……” เมื่อรับโทรศัพท์ ปลายสายเป็นน้ำเสียงที่ตื่นตระหนักของเสี่ยวหงดังมา คิ้วของฉินหลั่งขมวดขึ้นทันใด รีบถาม : “ทำไมหรือ”
“แฟนเก่าของคุณมาโวยวายเสียงดังอยู่ในร้าน เธอปิดร้านของพวกเราไปแล้ว ยังจะเอาเงินจากพวกเราไปอีก เธอบอกว่าเธอเป็นนายผู้หญิงของที่นี่ ให้พวกเราทุกคนฟังเธอ ไม่อย่างนั้นจะไล่พวกเราออก……” เสี่ยวหงพูดอย่างรีบร้อน ฉินหลั่งยังได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่งของเส้เหวินจี้งจากในโทรศัพท์
“ได้ ไม่ต้องกังวล ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ฉินหลั่งพูดจบ ก็วางโทรศัพท์
ช่วงบ่ายเส้เหวินจี้งโทรมาหาตัวเองหลายสาย ตัวเองไม่ได้รับเลย หล่อนต้องโมโหมากแน่นอน ดังนั้นจึงคิดใช้วิธีนี้เพื่อบังคับให้ตัวเองไปพบหล่อน
เขาได้ขีดเส้นขอบเขตอย่างชัดเจนกับเส้เหวินจี้งแล้ว เส้เหวินจี้งยังจะต้องการพบเจอตัวเองอีกทำไม? ฉินหลั่งขมวดคิ้ว
มองดูเงาของโจวซินและส้งเส่นเอ๋อที่อยู่ไกลๆ ฉินหลั่งคิดในใจ ตอนนี้ส้งเส่นเอ๋อกำลังโกรธอยู่ ตัวเองตามไปจะกลับเป็นการยั่วหล่อนให้โมโห จะดีกว่าถ้าปล่อยให้ส้งเส่นเอ๋อใจเย็นลงสักพัก ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าเลดดี้ที่CHIU·SHUIตั้งอยู่ หนึ่งชั่วโมงก็สามารถกลับมาได้ทัน ที่นี่คนเยอะขนาดนี้ ที่ไหนจะเกิดอันตรายได้ง่ายขนาดนั้น?
คิดเช่นนั้น ฉินหลั่งก็หมุนตัวเตรียมไปที่CHIU·SHUI
“โอ้ย” ฉินหลั่งรีบร้อนเกินไป เมื่อหมุนตัวก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งด้านหลัง คนนั้นร้องเสียงหนึ่ง
“ขอโทษครับ ขอโทษครับ……” ฉินหลั่งรีบขอโทษ เขาพบว่าคนที่ชนเข้าเป็นคนตาบอดผู้หนึ่ง เพราะเขาใส่แว่นกันแดด
ไม้เท้าตาบอดของเขาโดนตัวเองชนไปอยู่ที่พื้น เขายังใส่หมวกกับแว่นกันแดด สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวของทหารทั้งตัว
“ไม่เป็นไร……” คนตาบอกรีบก้มหัว และกลับแสดงออกอย่างอ่อนน้อม
ฉินหลั่งกำลังเตรียมที่จะช่วยเขาเก็บไม้เท้าตาบอด คิดไม่ถึงว่าคนตาบอดจะเก็บไม้เท้าขึ้นมาด้วยตัวเองแล้ว จากนั้นเขาก็จิ้มไปที่พื้นแล้วเดินไปข้างหน้า
น่าแปลก คนคนนี้ทำไมต้องแสร้งเป็นคนตาบอด? อาจจะคิดใช้ความสงสารจากคนอื่นเพื่อที่จะหาเงินเล็กน้อยในแบบผิดๆสินะ? ฉินหลั่งไม่ได้คิดมาก ก็มุ่งไปที่CHIU·SHUIด้วยความรีบร้อน
ในไม่ช้า ฉินหลั่งก็มาถึงCHIU·SHUI เมื่อเขาเข้าไป เส้เหวินจี้งก็อยู่ในร้านกำลัง“บ้าคลั่ง” หล่อนตะโกนด้วยสีหน้าหยิ่งยโส :
“ฉันเป็นนายหญิงของพวกแก พวกแกคนไหนที่ไม่ต้องการเชื่อฟังฉัน ใครที่กล้าดึงฉันแตะต้องตัวฉันอีกนิด ฉันจะให้เจ้านายของพวกแกไล่คนนั้นออก เปิดตู้เงินออก ข้างในเป็นเงินของฉันทั้งหมด เอาให้ฉัน ฉันต้องการใช้……”
เส้เหวินจี้งเห็นทุกคนมองไปทางประตู หล่อนก็หมุนตัวไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อมองเห็นฉินหลั่ง หล่อนก็ไม่พูดแล้ว หน้าของหล่อนก็ขมวดเข้ามาด้วยความน้อยใจ : “ในที่สุดคุณก็ยอมมาพบฉันแล้ว ในที่สุดคุณก็ยอมมาพบฉันแล้ว……”
เส้เหวินจี้งกล่าวด้วยความน่าสงสาร
เมื่อวาน หลังจากที่หล่อนถูกเผิงหนานไล่ออกมา หล่อนก็ไม่ได้จากไป แต่หลบอยู่หลังต้นไม้ข้างๆ
ทั้งๆที่หล่อนจะได้แต่งงานเข้าไปในตระกูลที่มีเงินแล้วแท้ๆ แต่เป็นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ช่วงนั้นระหว่างหล่อนกับฉินหลั่ง ทำให้ยายแก่ตระกูลเผิงไม่ยอมรับตัวเอง สุดท้ายเผิงหนานก็ไล่หล่อนออกมาอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ความฝันเป็นตระกูลที่ร่ำรวยของหล่อนสลายไป ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะฉินหลั่งสร้างขึ้น!
หลังจากที่หล่อนซ่อนอยู่หลังต้นไม้ ก็เพื่อที่จะได้เห็นกับตาตัวเอง เหตุการณ์ที่ฉินหลั่งถูกคนของตระกูลเผิงไล่ออกมา!
แต่เรื่องราวหลังจากนั้นเกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของหล่อน ฉินหลั่งไม่เพียงแต่ไม่ได้โดนคนของตระกูลเผิงไล่ออกมา สุดท้ายผู้จัดการสวีของศูนย์จัดแสดงรถจีนหลิงและผู้อำนวยการบริษัทเฟอร์รารี่ ใช้รถติดอาวุธคุ้มกันนำส่งสินค้าด้วยตัวเอง มาส่งเฟอร์รารี่ให้กับฉินหลั่ง !
ทั้งยังเป็นรถเฟอร์รารี่คันที่ราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์! เวลานั้นเส้เหวินจี้งที่อยู่หลังต้นไม้ปิดปากของตัวเอง ถึงทำให้ตัวเองไม่ส่งเสียงออกมา
เมื่อฉินหลั่งขับรถชนเฟอร์รารี่ของฟางหลุนจนพังยับเยิน เส้เหวินจี้งก็รู้อย่างกระจ่างแล้ว ฉินหลั่งไม่เป็นยาจกแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว ไม่ว่าเงินของเขาจะมาได้ยังไง มีเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ นั่นก็คือ ฉินหลั่งมีเงินอย่างมหาศาล ก็คือตระกูลเผิงต่อหน้าเขาแล้ว ก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ย
สุดท้ายเส้เหวินจี้งเดินกลับมาจากทะเลสาบจื่อเสียเป็นระยะทางสิบกว่ากิโลเมตร เมื่อคืนในสมองของหล่อนมีแต่ภาพที่ฉินหลั่งขับเฟอร์รารี่
วันนี้ หล่อนรู้สำนึกแล้ว หล่อนตระหนักได้ว่าที่เลิกกับฉินหลั่งไปตอนแรกนั้นเป็นการตัดสินใจที่โง่มากขนาดไหน ถึงยังไงหล่อนก็เคยเป็นแฟนที่ฉินหลั่งเคยแคร์มากที่สุด ไม่ว่ายังไงก็ตามหล่อนก็ต้องการพยายามที่จะทำให้ฉินหลั่งกลับมาอยู่ในมือของตัวเองอีกครั้ง เวลานี้ หล่อนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้หล่อนเคยทำอะไรไว้กับฉินหลั่งบ้าง ยังจะคิดเพ้อฝันว่า เพียงตัวเองยอมรับผิดขอโทษ ฉินหลั่งคนนั้นที่เคยตามใจเชื่อฟังหล่อนทุกอย่างจะยกโทษให้ตัวเอง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset