รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 117 ขึ้นรถกลับกลายเป็นจุดจบ

บทที่ 117 ขึ้นรถกลับกลายเป็นจุดจบ
“เหอะเหอะ ส้งเส่นเอ๋อ แกยังจำฉันได้อีกเหรอ?” เขาหันมายิ้มให้ส้งเส่นเอ๋ออย่างดุร้าย
“แกคิดจะทำอะไร? รีบเปิดประตูรถเดี๋ยวนี้นะ!” ส้งเส่นเอ๋อขมวดคิ้ว แล้วใช้แรงเพื่อที่จะเปิดประตูรถ แต่ประตูถูกล็อกอย่างแน่นหนา เธอจึงหันไปด่าหม่าเก๋อ
ก่อนหน้านี้ประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิง ชื๋อหยินจ้งเป็นคนช่วยเหลือจัดการปัญหาที่หม่าเก๋อเป็นคนนำมาให้ตระกูลของเธอ นี่ทำให้ส้งเส่นเอ๋อมีความมั่นใจอย่างมาก เธอจึงได้แข็งข้อกับหม่าเก๋อมาโดยตลอด
“เพี๊ยะ!”
หม่าเก๋อตบหน้าส้งเส่นเอ๋อ เขาบีบคางของส้งเส่นเอ๋อเอาไว้ และกัดฟันพูดด้วยความโกรธว่า: “จนป่านนี้แล้ว แกยังจะมาเสแสร้งต่อหน้าฉันอีก! แกคิดว่าแกเป็นใคร ฉันแค่จับแกโยนลงแม่น้ำก็พอแล้ว แค่นี้แกจะทำอะไรได้?”
หม่าเก๋อเหวี่ยงส้งเส่นเอ๋ออย่างแรงด้วยความเหี้ยมโหด คอของส้งเส้นเอ๋อบิด มีเลือดสดๆไหลออกมาจากปากของเธอ
“เส่นเอ๋อ” โจวซินรีบประคองส้งเส่นเอ๋อไว้ ตอนนี้ เธอรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก เธอรู้สึกมาตลอดว่าหม่าเก๋อจะต้องคิดทำอะไรกับพวกเธอสักอย่าง
“แกไม่กลัวว่าประธานชื๋อจะมาจัดการกับตระกูลของพวกแกหรืออย่างไร!” ในใจของส้งเส้นเอ๋อรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว แต่ตอนนี้เอไม่สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ มิเช่นนั้นหม่าเก๋อจะยิ่งได้ใจ เช่นนั้นไม่เป็นการดีต่อพวกเธอเอง ส้งเส่นเอ๋อแค่อยากจะใช้ประธานชื๋อมาขู่ให้หม่าเก๋อกลัว เพื่อที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเธอเอาไว้ก่อน
“หึ” หม่าเก๋อหัวเราะเยาะเบาๆ เขามองดูส้งเส้นเอ๋ออย่างผ่านๆ: “ดูๆไปแล้วตระกูลของพวกแกคงไม่ได้ไปมาหาสู่กับประธานชื๋อบ่อยนักล่ะสิ”
“เอ่อ……แกหมายความว่าอย่างไร?” ส้งเส่นเอ๋อถามด้วยความประหลดใจ
หม่าเก๋อส่ายหน้าแล้วหัวเราะเยาะ ถึงแม้ครั้งก่อนตระกูลของเขาจะขอโทษตระกูลของส้งเส่นเอ๋อไปแล้ว แต่ประธานชื๋อก็ไม่เคยที่จะปล่อยตระกูลของเขา ในเวลานี้ ประธานชื๋อเพิ่มแรงกดดันในทุกๆด้านให้แก่บริษัทเทียนซีกรุ๊ปของตระกูลเขา พูดได้ว่าต้องการที่จะให้ธุรกิจของตระกูลเขาตกอยู่ในขั้นวิกฤตและมีรายได้ที่ลดลง ถ้ายังดำเนินการต่อในสถานการณ์เช่นนี้ บริษัทของตระกูลเขาก็คงยากที่จะดำเนินกิจการต่อไป
ในความเป็นจริง เป็นเพราะประธานชื๋อคาดเดาความมหายของโข่งลิ่งเสียนผิดไป ดังนั้นในภายหลังจึงได้โจมตีธุรกิจของตระกูลหม่าเก๋อมาโดยตลอด
พ่อของหม่าเก๋อนามว่าหม่าวั่นถัง เห็นว่าสถานการณ์ที่แย่ลงยากที่จะย้อนกลับ จึงใช้ความเด็ดขาด ตัดสินใจถอนทรัพย์สินทางธุรกิจของครอบครัวออกจากจีนหลิง แล้วกระจายไปเก็บไว้ยังที่ต่างๆ
ที่หม่าเก๋อหัวเราะเป็นเพราะว่า เขากับพ่อเดามาตลอดว่า ประธานชื๋อยื่นมาเข้ามาช่วยตระกูลเส่นเอ๋อ เป็นเพียงแค่”ความบังเอิญ” ตอนนี้เมื่อพบกับส้งเส่นเอ๋อจึงได้รู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องที่ประธานชื๋อโจมตีธุรกิจของตระกูลเขาเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากตระกูลของส้งเส่นเอ๋อและประธานชื๋อมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรื่องสำคัญขนาดนี้มีหรือที่เขาจะไม่บอกตระกูลของเธอ? นี่พอจะอธิบายได้ว่า การคาดเดาของพวกเขานั้นถูกต้อง
“แกหัวเราะอะไร!” ส้งเส่นเอ๋อรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ตัวเองยกเรื่องประธานชื๋อขึ้นมาพูด แต่ทำไมกลับถูกหม่าเก๋อเห็นเป็นเพียงเรื่องตลก
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ต่อให้ประธานชื๋อมาด้วยตัวเอง แล้วจะมีอะไรให้น่ากลัวอย่างนั้นหรือ?” ตอนนี้หม่าเก๋อยังจะกลัวประธานชื๋ออีกทำไม พ่อของเขาตัดสินใจที่จะย้ายออกไปเติบโตนอกเมืองจีนหลิงแล้ว ประธานชื๋อเป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิงแล้วยังไง? เขาจะสามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งทุกที่ได้หรืออย่างไร?
“เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน ฉันจะโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้ ให้เขาบอกประธานชื๋อให้จัดการกับตระกูลของพวกแก……” ส้งเส่นเอ๋อยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หม่าเก๋อตบหน้าส้งเส่นเอ๋ออีกครั้งอย่างไร้ความปราณี ส้งเส่นเอ๋อถูกตบจนล้มคว่ำลงไปบนเบาะ โจวซินรีบประคองเธอขึ้นมา
“นังสารเลว หากแกยังจะพูดมากอีก ฉันจะตีแกให้ตาย” หม่าเก๋อหันไปด่าส้งเส่นเอ๋ออย่างโหดร้าย
ส้งเส่นเอ๋อไม่กล้าพูดอะไรอีก โจวซินเองก็พอจะรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างมาก เธอนึกขึ้นมาในใจว่า รถที่เธอขึ้นมานั่งคันนี้เป็นรถที่กำหนดความตายเอาไว้แล้ว
“หึ” เมื่อเห็นว่าส้งเส่นเอ๋อชื่อฟังแล้ว หม่าเก๋อก็ยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ดวงตาคู่นั่นของเขามองดูส้งเส่นเอ๋อและโจวซินโดยไม่หลบสายตาเลยแม้แต่น้อย ส่องประกายแห่งความชั่วร้ายออกมา จากนั่นจึงหันหลังกลับแล้วขับรถออกไป……
“ฮัลโหล…ฮัลโหล ส้งเส่นเอ๋อ ……” ฉินหลังตะโกนเรียกในโทรศัพท์เสียงดัง แต่เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงที่ถูกตัดสายไป
“หม่าเก๋อ” ฉินหลั่งเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ถ้าส้งเส่นเอ๋อกับโจวซินตกอยู่ในเงื้อมมือของหม่าเก๋อจริง นั่นแทบไม่กล้าคิดถึงจุดจบเลย
เขามาถึงห้องตรวจสอบที่รับผิดชอบดูแลตลาดกลางคืนในทันที เขารีบเปิดดูกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้ยินว่าเพื่อนของเขาหายไป ก็รีบเปิดภาพวงจรปิดในขณะที่เกิดเหตุให้ฉินหลั่งดูในทันที
ฉินหลั่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เห็นส้งเส่นเอ๋อและโจวซินกำลังประคองคนตาบอดที่ตนเองชนล้มลงเมื่อก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นี่แสดงให้เห็นว่าหม่าเก๋อวางแผนมาอย่างดีแล้ว ดูจากสิ่งนี้ ก็พอจะรู้ได้ว่าที่เขาทำเช่นนี้ต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่ธรรมดาแน่ ถ้าหากไม่รีบช่วยพวกเธอออกมาให้เร็วที่สุด จุดจบคงจะไม่ดีแน่ๆ
เมื่อตระหนักได้ถึงความร้ายแรงและความเร่งด่วนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉินหลั่งก็รีบออกมาจากห้องตรวจสอบ แล้วรีบโทรศัพท์หาโข่งลิ่งเสียน เพราะการที่ให้โข่งลิ่งเสียนมาจัดการเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด
“คุณชายใหญ่ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ ผมจะโทรหาหม่าวั่นถังเดี๋ยวนี้ รับรองว่าเขาจะไม่กล้าแตะต้องเพื่อนคุณอย่างแน่นอน……”โข่งลิ่งเสียนได้ยินฉินหลั่งพูดด้วยความร้อนใจเช่นนี้ จึงพูดปลอบใจฉินหลั่งก่อน
“ดี” ในเมื่อโข่งลิ่งเสียนพูดเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาจะต้องจัดการได้อย่างเหมาะสมแน่นอน ฉินหลั่งจึงค่อยเบาใจลง แล้วจึงวางโทรศัพท์
ยังไม่ทันถึง 10 นาที โข่งลิ่งเสียนก็โทรศัพท์มาอีกครั้ง
“คุณชายใหญ่ โทรศัพท์ของหม่าวั่นถังโทรไม่ติด อีกอย่างผมได้ยินมาว่า เขาจะโอนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกไปไว้ที่อื่น ครั้งก่อนเราใช้ประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิง ชื๋อหยินจ้งในการเตือนเขา ดูๆไปแล้วการเคลื่อนไหวของเขาในช่วงนี้ดูจะผิดปกติ นี่อาจจะเป็นการแก้แค้นที่พวกเขาจะทำกับส้งเส่นเอ๋อก่อนที่จะจากจีนหลิงไป ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง เรื่องคงจะวุ่นวายแน่……” น้ำเสียงของโขงลิ่งเสียนดูจริงจังขึ้นมาก
“ตอนนี้คุณอยู่ที่จีนหลิงใช่ไหม? ผมจะไปหาคุณที่นั่น” เมื่อฟังโข่งลิ่งเสียนที่พูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ก็ทำให้ฉินหลั่งรู้สึกกังวลขึ้นมาอีกครั้ง เอาอยากจะไปหาโข่งลิ่งเสียนด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ มาเดินเล่นเป็นเพื่อนพวกโจวซิคืนนี้ หวงเกอเป็นคนขอร้องตน ถ้าหากพวกเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ แล้วฉินหลั่งจะมีหน้าไปพบหวงเกออีกได้อย่างไร
“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบส่งคนไปรับคุณเดี่ยวนี้ ผมเองก็จะพยายามอย่างเร็วที่สุดที่หาตามหาเบาะแสของเพื่อนคุณ……”
ผ่านไป 20 นาที ก็มีรถมาเซราติlevanteสีดำ มาจอดที่ตรงหน้าฉินหลั่ง ฉินหลั่งเข้าไปนั่งตรงที่ของโข่งลิ่งเสียน
ในเวลาเดียวกัน หม่าเก๋อก็ขับรถไปจอดอยู่ด้านหน้าโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองจีนหลิง เสียง “เอี๊ยด” ดังขึ้น เขาจอดรถแล้ว
หม่าเก๋อลงจากรถ แล้วเปิดประตูรถ ลากคอส้งเส่นเอ๋อออกมาก่อน แล้วใช้เชือกมัดข้ามือของเธอเอาไว้ จากนั้นจึงลากโจวซินลงมา แล้วมัดแบบเดียวกันที่ข้อมือของเธอ “ปัง” จากนั้นก็ปิดประตู เขาจิกผมลองทั้งสองคน แล้วผลักพวกเธอให้เดินเข้าไปในโรงแรม
เจ้าของโรงแรมเป็นคนสนิทของตระกูลเขา ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีคนอื่นเห็นเข้า แล้วใครจะกล้ายุ่ง?
“เข้าไป!” หม่าเก๋อผลักทั้งสองคนเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ส้งเส่นเอ๋อและโจวซินล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง หม่าเก๋อปิดประตู
ไม่ง่ายที่โจวซินและส้งเส่นเอ๋อจะลุกยืนขึ้นมา ตอนนี้พวกเธอเห็นแล้วว่า ตรงกลางห้องมีชายแก่อีกคนอยู่ด้วย รูปร่างหน้าตาเหมือนกับหม่าเก๋อในอีก 30 ปีให้หลัง
“พ่อ แล้ววันนี้ก็มาถึง เดิมทีตั้งใจจะไปจับตัวส้งเส่นเอ๋อ คิดไม่ถึงว่าจะได้ของแถมเพิ่มมาอีกคน ดูๆไปแล้วคงจะไม่ต่างกับส้งเส่นเอ๋อมากนัก” หม่าเก๋อเดินไปข้างๆหม่าวั่นถังผู้เป็นพ่อ หันไปมองโจวซินและส้งเส่นเอ๋อแล้วหัวเราะเบาๆ
“อย่างนั้นก็ดีเลย พวกเราก็หนึ่งต่อหนึ่ง พอเล่นเบื่อแล้ว ก็ค่อยสลับกันเล่น แบบนี้ถึงจะสนุก!” หม่าวั่นถังลูบคาง ท่าทางหื่นกระหายของสองพ่อลูก เหมือนถอดแบบกันออกมาอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อมองดูสองพ่อลูกนี่ ส้งเส่นเอ๋อและโจวซินก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พวกเธอวิ่งเข้าไปหลบที่มุมห้องอย่างหวาดกลัว เหมือนกับหนูนาสองตัวที่กำลังโดนงูพิษจ้องอยู่
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที! ช่วยพวกเราด้วย……” โจวซินตะโกนเสียงดัง ส้งเส่นเอ๋อเองก็ตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน
“พวกนังแพศยา! ตะโกนให้ดังๆอีกสิ!” หม่าเก๋อเดินพุ่งเข้าไปหาทั้งสองคน แล้วตบปากส้งเส่นเอ๋อ จากนั้นจึงตบปากของโจวซิน! ตอนนี้พวกของโจวซินไม่กล้าปริปากร้องอีกต่อไป
“ลูกชาย แกตีพวกเธอทำไม ให้พวกเธอร้องนะดีแล้ว” หม่าวั่นถังกลับยิ้ม เขายังคงนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง แล้วมองดูส้งเส่นเอ๋อและโจวซินที่กำลังมองดูเขาด้วยความโกรธแค้น: “พวกเธอตะโกนแล้วจะมีคนมาช่วยพวดเธออย่างนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันเปิดห้องที่ในเมืองไม่ดีกว่าหรือ จะเสียเวลาถ่อมาถึงที่นี่ทำไมกัน?”
“ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ ต่อให้ฉันเปิดประตู ให้คนอื่นๆเห็นพวกเธอร้องตะโกนอยู่ที่กลางห้อง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้ามายุ่ง เธอเชื่อไหมล่ะ?” หม่าวั่นถังเหมือนกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ฟังดูไร้สาระ
ใจของโจวซินและส้งเส่นเอ๋อเหมือนจะค่อยๆห่อเหี่ยวลง ตอนนี้พวกเธอรู้สึกสิ้นหวัง ขาของส้งเส่นเอ๋ออ่อนแรง แทบจะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
“หึ” หม่าวั่นถังหัวเราะเบาๆ เขาเหลือบไปมองหม่าเก๋อ: “แกอย่ามัวยืนนิ่งอยู่ รีบไปอาบน้ำได้แล้ว พวกเราจะได้เริ่มกัน”
หม่าเก๋อขานรับ หันไปมองส้งเส่นเอ๋อแล้วแสยะยิ้ม จากนั้นจึงเข้าห้องน้ำไป เสียงน้ำไหลดังขึ้น
พวกแก…จะทำอะไร?” โจวซินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“หา?” หม่าวั่นถังแสดงท่าทีแปลกใจออกมา แล้วถามกลับไปว่า: “ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในห้องด้วยกัน แล้วพวกเธอคิดว่าจะทำอะไรล่ะ เล่นหมากรุกอย่างนั้นหรือ?”
โจวซินรู้สึกสมองว่างเปล่า เธออ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว ใจของส้งเส่นเอ๋อเต้นแรง “ตึก”… “ตึก”… “ตึก” เหมือนนับเวลาถอยหลังสู่ความตายอย่างไรอย่างนั้น
เสียงน้ำไหลหยุดลง หัวใจของโจวซินและส้งเส่นเอ๋อลงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
หม่าเก๋อพันผ้าขนหนูไว้ที่ช่วงล่างหนึ่งผืน แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดผมที่เปียกอยู่เดินออกมา กล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขามีหยดน้ำเกาะอยู่ หม่าวั่นถังเองก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“ไม่นะ ฉันขอร้องพวกคุณอย่าทำแบบนี้……” ส้งเส่นเอ๋อรู้ดีว่า หากผ่านไปอีกสิบนาที เธอคงจะไม่อาจรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้อีกต่อไป เธอคุกเข่าลงที่พื้น แล้วหันไปคำนับหม่าเก๋อ: “ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะ เมื่อก่อนฉันไม่ดีเอง ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ……”
“ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ หากก่อนหน้านี้มีอะไรที่พวกเราทำผิดไป พวกเราจะใช้วิธีอื่นในการชดใช้ให้พวกคุณ การลงโทษแบบนี้มัน……” ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่โจวซินเองก็หันไปอ้อนวอนหม่าเก๋อสองพ่อลูกเช่นกัน
“เหอะ ตอนนี้เพิ่งมานึกเสียใจ แกยังจำได้ไหม ก่อนหน้านี้ที่อยู่หน้าผับโอวโล่ แกเคยดูถูกฉันยังไง? ตอนนั้นฉันสาบานกับตัวเองแล้วว่า ฉันจะต้องเอาความอัปยศอดสูนั่นส่งคืนให้แก่แกเป็นสองเท่าให้ได้!” พูดพลาง หม่าเก๋อก็โยนผ้าขนหนูลงบนพื้น จ้องมองส้งเส่นเอ๋อแล้วเดินเข้าไปหา
“อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา……” ส้งเส่นเอ๋อถอยหลัง แต่ด้านหลังของเธอนั้นเป็นกำแพง
มือขวาของหม่าเก๋อบีบอยู่ที่คางของส้งเส่นเอ๋อ เขาจับส้งเส่นเอ๋อพิงที่กำแพง เหมือนงูพิษที่กำลังแลบลิ้นออกมาเพื่อสัมผัสถึงรสชาติ ค่อยๆใกล้เข้าไปที่ใบหน้าของส้งเส่นเอ๋อทุกทีๆ และมีรอยยิ้มเผยอยู่ที่มุมปาก
ส้งเส่นเอ๋อตกใจจนปิดตาลง ตอนนี้เธอเหมือนแกะที่กำลังจะถูกฆ่า……
ตอนที่หม่าวั่นถังกำลังจะเดินเข้าไปหาโจวซิน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“กรี๊ง กรี๊ง……”
หม่าวั่นถังหันไปมองโทรศัพท์ด้วยความประหลาดใจ เขากำชับเจ้าของโรงแรมเอาไว้แล้วว่า คืนนี้ตนเองจะทำธุระ ดังนั้นไม่มีทางที่โรงแรมจะโทรศัพท์หาตนเองแน่นอน ถ้าหากมีเรื่องที่ต้องการจะหาเขา ก็น่าจะมาเคาะประตู
โทรศัพท์สายนี้ไม่ใช่โรงแรมเป็นผู้โทรมา แล้วใครโทรมาล่ะ? โทรศัพท์นี่โทรได้เฉพาะสายภายในโรงแรมเท่านั้นนี่……
สุดท้ายหม่าวั่นถังก็เดินไปที่โทรศัพท์ เขาค่อยๆยกหูโทรศัพท์ขึ้น ไม่มีเสียงพูด อีกฝ่ายถอนหายใจเบาๆก่อน จากนั้นจึงพูดว่า: “ผมคือโข่งลิ่งเสียน ไม่ว่าตอนนี้คุณกำลังจะทำอะไรกับคุณหนูโจวซิน ขอให้หยุดเดี๋ยวนี้

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset