รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 162 นั่นไม่ใช่​ลูกสาวของเขา

บทที่ ​162 นั่นไม่ใช่​ลูกสาว​ของ​เขา
“บ้าเอ๊ย นายทำอะไรไปเนี่ย”เห้อหยู่เฉินชกหน้ากัปตัน​เรืออย่างแรง ส่วนกัปตัน​เรือกลับยืนให้ชกหน้าเหมือนคนโง่ ไม่มีท่าทีต่อต้าน​ ปากของเขายังพึมพำว่าตายแน่ ตายแน่ๆอยู่​ตลอด
“ไอ้คนไร้ประโยชน์” เห้อหยู่เฉินด่ากัปตัน​เรือ ห้องควบคุม​อยู่​ชั้นหนึ่ง เขาจะมัวมาอยู่ในสถานที่อันตราย​แบบนี้ไม่ได้แล้ว เห้อหยู่เฉินรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที
กัปตัน​เรือทรุดตัว​นั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง เมื่อตะกี้เขาลองดู​แล้ว​ แต่ระบบควบคุม​ของ​เรือเสียหายไปมากกว่าครึ่ง ไม่มีทางจะแล่นจนกลับถึงฝั่งได้ ตอนนี้ยังมีน้ำเข้ามาในเรืออีก ตอนนี้เรือสำราญอยู่​ห่างจากฝั่งถึงหกสิบไมล์ทะเล​ กว่าเรือช่วยเหลือ​จะมาถึงก็ใช้​เวลาถึงสองชั่วโมง​ ตอนที่พวกเขาเดินทางมาถึง เรือสำราญลำนี้คงจะจมลงไปในน้ำเรียบร้อย​แล้ว​
พอคิดว่าตัวเองต้องทำให้​ผู้คนถึงหนึ่งพันกว่าชีวิตต้องตาย ถึงจะโชคดี​ช่วยกลับขึ้นฝั่งได้ แต่ตัวเองก็ได้ทำลายเรือสำราญที่ราคาหลายร้อยล้านไป ทุกอย่างในชีวิต​ของ​ตัวเองคงจะจบลงแล้ว​
ระหว่าง​ขาทั้งสองข้างของกัปตัน​เรือมีของเหลว​สีเหลืองไหลออกมาเป็นทาง เขาไม่​รู้สึก​ตัวเลย ว่าเริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาภายในห้องควบคุม​แล้ว ถึงจะเห็น เขาก็ยังนั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ เขายังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เขาทำได้แค่กดปุ่มสามเหลี่ยม​สีแดงตรงแผงควบคุม​ ทันใดนั้น​เอง​ ระบบเตือนภัย​ภายในเรือสำราญก็ส่งเสียงขึ้นมา…
เห้อหยู่เฉินวิ่งหนีขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ เสียงของระบบเตือนภัยก็ส่งเสียงดังขึ้นมาพอดี “วี๊หว่อ วี๊หว่อ วี๊หว่อ”ฟังดูแล้วเหมือนเสียงเรียกวิญญาณ​ แสงไฟสีแดงของสัญญาณเตือนภัย​ เหมือนโคมไฟ​ของ​ประตู​ยมบาลเลยก็ว่าได้
ทุกคนแตกตื่นแทบตาย สาวๆบางคนกอดแฟนแล้วร้องไห้ บางคนอยากโทรหาคนในครอบครัว แต่พบว่าไม่มีสัญญาณเลย บางคนรีบหยิบห่วงยางมาคล้องไว้กับตัว แล้วนั่งเงียบ ๆที่พื้น ท่าทางเหมือนคนเสียสติไปแล้ว
เหตุการณ์บนดาดฟ้าเริ่มแตกตื่นวุ่นวายกันไปหมด
“คุณสามารถช่วยดึงเพื่อนของฉันขึ้นมา ฉันขอร้อง ได้โปรดเถอะค่ะ” ฮวนฮวนรีบขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างๆ ตอนนี้ดาดฟ้าอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เห้อหยู่เฉินคงจะไม่มีเวลามาสนใจพวกฉินหลั่งแน่นอน ฮวนฮวนจึงรีบขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
ผู้คนที่อยู่รอบข้างมีหลายคนที่ยังมีน้ำใจ ทุกคนรีบช่วยกันถึงเชือกที่ผูกอยู่ที่ราวเรือขึ้นมา
ฉินหลั่งรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังดึงเขาขึ้นไป จึงรู้สึกดีใจมาก ในขณะที่เขากับจางเจียซินกำลังถูกดึงขึ้นไป ดูเหมือนจางเจียซินจะเริ่มหมดแรง และกำลังจะตกลงไปในน้ำอีกครั้ง ฉินหลั่งรีบกอดเธอไว้ให้แน่นขึ้นไปอีก
“จับให้แน่น คุณตายแน่ ถ้าคุณตกลงไป!” ฉินหลั่งตะโกนเสียงดัง จางเจียซินรีบจับเชือกอย่างแน่นหนา และทั้งสองก็ขึ้นไปทีละนิดเมื่อถึงราวเรือแล้ว ฉินหลั่งรีบยกจางเจียซินขึ้นไปก่อน รอจนจางเจียซินขึ้นไปถึงดาดฟ้าอย่างปลอดภัย จากนั้นตนเองถึงจะถูกดึงขึ้นไปบนดาดฟ้า
“เจียซิน เธอเป็นยังไงบ้าง” พอเห็นว่าจางเจียซินถูกดึงขึ้นมาได้ ฮวนฮวนดีใจมากกว่าใคร เธอคุกเข่านั่งลงไปบนพื้น แล้วพยุงศีรษะของจางเจียซินขึ้นมา
“ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้” ฉินหลั่งนอนหมดแรงอยู่บนดาดฟ้าประมาณสิบกว่าวินาที ก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่งคุกเข่าบนพื้น แล้วกล่าวขอบคุณกลุ่มคนที่ช่วยดึงเขาขึ้นมา
“ไม่เป็นไรครับ”
“พ่อหนุ่ม นายดวงแข็งมาก ฉันคิดว่าดึงขึ้นมาจะเป็น…ช่างเถอะ ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว”
“นี่นายยังจะช่วยเธอขึ้นมาด้วยเหรอ เฮ้อ…”
“ขึ้นมาแล้วก็ต้องตายอยู่ดี…”
……
กลุ่มคนพอช่วยเหลือฉินหลั่งขึ้นมาได้ ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเรื่องของฉินหลั่งอีกต่อไป พวกเขาเดินจากไปทีละคน
ฉินหลั่งมองไปที่ผู้คนที่วิ่งวุ่นไปมาบนดาดฟ้า รวมถึงไฟเตือนภัยที่สว่างขึ้นและเสียงไซเรนเตือนภัยกับเสียงผู้คนที่ตื่นตระหนก เขาถึงตระหนักได้ว่าเรือกำลังรั่ว
“ฮือฮือ…”จางเจียซินกอดฮวนฮวนไว้แน่น แล้วร้องไห้อย่างหนัก “ฉันนึกว่าตัวเองจะตายซะแล้ว…ฮวนฮวน เมื่อตะกี่ฉันกลัวมากจริงๆ ฉันกลัวว่าตกลงไปในทะเล แล้วจะมีปลาลามมากินฉัน จนไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย…”
“เอาล่ะ เจียซินไม่ต้องร้องไห้แล้ว ตอนนี้เธอขึ้นมาแล้วนะ” ฮวนฮวนตบหลังจางเจียซินเบาๆ ก่อนจะพูดปลอบเธอ หลังจากผ่านไปสิบนาที จางเจียซินถึงได้สงบลงได้
เธอเช็ดน้ำตาแล้วมองไปด้านข้างของเธอ ฉินหลั่งกำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้ามองไปที่เธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จางเจียซิน สัมผัสได้ถึงสายตาของ ฉินหลั่ง หัวใจของเธอก็เต้นแรง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอเคยทำกับฉินหลั่งก่อนหน้านี้ จางเจียซิน รู้สึกผิดมากจนเธออยากจะหาที่เอาหน้ามุดเข้าไป
“ขอโทษ ฉันทำผิดกับคุณจริงๆ ฉันไม่ใช่มนุษย์ ฉันเลวมาก … ” จางเจียซิน ค่อยๆคลานไปหาฉินหลั่ง เพราะต้องตะเกียกตะกายในทะเลเป็นเวลานานทำให้เธอไม่มีแรง: “ฉินหลั่ง คุณตีฉันเถอะ คราวนี้ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ฉันผิดไปแล้ว จากนี้ไปคุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ … ”
ฉินหลั่งหันหน้าไปทางอื่น เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของจางเจียซินอีกจ่อไปแล้ว
“ฉินหลั่ง ฉันรู้ว่าคุณผิดหวังกับฉันมาก ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่เลวเกินไป … ” จางเจียซินมองไปทางฉินหลั่งที่ไม่สนใจเธอความรู้สึกผิดในใจของเธอเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เธอคุกเข่าลงบนพื้นแล้วโขกศีรษะให้ฉินหลั่งอยู่หลาย “ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ ฉันจะหาโอกาสตอบแทนบุญคุณของคุณในอนาคต ขอบคุณจริงๆ”
ฉินหลั่งไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังสิ่งที่จางเจียซินกำลังพูด เมื่อมองไปที่ทะเลอันกว้างใหญ่ ฉินหลั่งคิดว่าเขาจะตายที่นี่จริงๆเหรอ? ครึ่งชั่วโมงต่อมา พายุไต้ฝุ่นได้พัดเข้ามา ก่อนหน้านี้เรือสำราญได้แล่นออกจากศูนย์กลางของไต้ฝุ่นแล้ว ในเวลานี้ความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นไม่ใช่ลมที่สามารถพัดจนต้นไม้หักล้มได้ แต่ก็ไม่ได้บางเบา พวกเก้าอี้นั่งเล่นและโต๊ะไวน์บนดาดฟ้าทั้งหมด มันถูกพัดจนกระจาย มีบางกลุ่มถูกพัดจนตกลงไปในทะเลแล้ว
“เปรี๊ยง เปรี๊ยง” สิ่งที่ตามหลังพายุมาคือฝน “ซ่า ซ่า”ตกลงมาอย่างหนัก คนที่อยู่บนดาดฟ้า ทำได้แค่หาที่หลบฝนบนดาดฟ้า เพราะเริ่มมีน้ำไหลเข้ามาในเรือแล้ว ไม่มีใครโง่ถึงขนาดเสี่ยงอันตรายเข้าไปหลบฝนข้างใน
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ยังไม่เห็นเรือของหน่วยกู้ภัย อีกทั้งน้ำทะเลได้ไหลเข้ามาจนท่วมถึงชั้นที่สามแล้ว และใกล้จะท่วนขึ้นมาถึงดาดฟ้าเรือแล้ว
“ตายแน่ๆเลย”
“ทำยังไงดี ฉันยังไม่อยากตาย”
“แม่จ๋า หนูกลัว”
กลุ่มคนที่อยู่บนดาดฟ้ามีอาการหวาดกลัวจนถึงขีดสุด พวกเขาต่างก็เริ่มคิดว่าตนเองจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้วแน่ๆ
“บ้าเอ๊ย เพราะมึงคนเดียวเลยที่เรียกกูมาล่องเรือ กูมันโง่เองที่ตามมึงมา”
“มึงรวยมากไม่ใช่หรือไง แน่มากไม่ใช่หรือไง หะ”
“มึงอยากหาที่ตายก็อย่ากูมาด้วยสิ บ้าเอ๊ย”
ตรงมุมหนึ่งของดาดฟ้าเรือ มีวัยรุ่นหลายคนกำลังยืนล้อมเห้อหยู่เฉินไว้ แล้วพูดต่อว่าอย่างโมโห
“พวกมึงจะทำอะไร ถอยไปเดี๋ยวนี้นะ อยากตายแล้วหรือไง”เห้อหยู่เฉินที่เป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ จะมารู้สึกหวาดกลัวที่ถูกบรรดาคุณชายระดับล่างล้อมไว้ได้ยังไงกัน
“อ้าวเฮ้ย จนถึงตอนนี้แล้วมึงยังจะวางตัวใหญ่อีกเหรอวะ”มีชายหนุ่มคนหนึ่งถ่มน้ำลายใส่หน้าของเห้อหยู่เฉิน
“เฮ้ยพวกเรา อัดมันให้น่วมเลย” ชายหนุ่มอีกคนตะโกนพูด ก่อนที่ชายหนุ่มอีกสี่ถึงห้าคนก็เริ่มรุมทำร้ายเห้อหยู่เฉิน ชายหนุ่มกลุ่มนั้นคิดว่าตัวเองอาจจะต้องมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว ทำไมพวกเขาจะต้องกลัวเห้อหยู่เฉินอีกล่ะ
“หยุดได้แล้ว ไม่ต้องตีแล้ว ลูกพี่ ขอร้องล่ะ อย่าตีอีกเลย”เห้อหยู่เฉินเริ่มร้องขอความเมตตา ถ้าไม่มีฐานะคุณชายของเขาแล้ว ยังจะมีใครใส่ใจเขาอีก
“ยังไงก็ต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว กูจะฆ่าคนที่วางมาดอย่างมึงก่อน ให้มึงลงไปเบิกทางในยมโลกก่อนเลย” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา ก่อนจะยกเก้าอี้ขึ้นสูง แล้วทุ่มไปทางเห้อหยู่เฉินสุดแรง
“อย่านะ ลูกพี่ ขอร้องเถอะ ผมผิดไปแล้ว ผมยอมยกสมบัติทั้งหมดของผมให้ ขอร้องล่ะ อย่าฆ่าผมเลย”เห้อหยู่เฉินคุกเข่าลงบนพื้น แล้วโขกศีรษะขอร้องอย่างหวาดกลัว
“จะตายกันอยู่แล้ว ถึงมึงจะให้เงินกูพันล้าน ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”สีหน้าของชายหนุ่มดุเดือด และเตรียมจะทุ่มเก้าอี้ลงไป
“เรือกู้ภัยมาแล้ว”
“ดูสิ ตรงนั้นมีแสงไฟ”
……
ทันใดนั้นเอง มีเสียงคนตะโกนลั่น ทำให้ทุกคนที่อยู่บนดาดฟ้าเริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมา ทุกคนพากันมองไปที่ท้องทะเลตรงหน้า และพบว่ามีแสงไฟเล็กๆกระพริบอยู่
ชายหนุ่มรีบวางเก้าอี้ลง แล้วรีบมองไปทางแสงไฟข้างหน้าเหมือนกับคนอื่นๆ ก่อนจะตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ทางนี้ครับ ทางนี้”
“ช่วยด้วยครับ”
“มาช่วยพวกเราด้วยครับ”
……
ทันใดนั้นเอง ทุกคนเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที
แสงไฟเริ่มสว่างมากขึ้น และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่นานแสงไฟนั้นก็มาหยุดอยู่ข้างๆเรือสำราญ เป็นเหลือของหน่วยกู้ภัยที่ถูกส่งออกมาช่วยเหลือ แต่เมื่อเทียบกับเรือสำราญลำนี้แล้ว มันมีขนาดเล็กกว่ามาก
“พวกเราเองก็ไปดูกันเถอะ”จางเจียซินกับฮวนฮวนเองก็เห็นเรือของหน่วยกู้ภัยแล้วเช่นกัน พวกเธอต่างก็ดีใจมาก จางเจียซินที่ได้พักมาหนึ่งชั่วโมงกว่า เริ่มมีแรงกลับคืนมาบ้าง เธอสามารถลุกขึ้นยืนเองได้แล้ว เธออยากจะเดินไปทางเรือของหน่วยกู้ภัยพร้อมกับฉินหลั่ง
แต่ฉินหลั่งกลับไม่สนใจเธอ แล้วลุกขึ้นมาเอง ก่อนจะเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่น จางเจียซินรู้สึกเจ็บตรงหัวใจ สุดท้ายก็เดินตามหลังฉินหลั่งไปพร้อมกับฮวนฮวน
ในเวลานี้มีผู้รับผิดชอบคนหนึ่งเดินออกมาจากเรือกู้ภัย เขามองดูผู้คนที่ติดอยู่บนเรือ พวกเขาไม่สามารถให้ขึ้นมาบนเรือกู้ภัยได้ทั้งหมด เขาขมวดคิ้ว แล้วพูดใส่โทรโข่ง: “คนที่ติดอยู่บนเรือทุกท่าน ทุกคนอย่าตกใจ พวกเราจะพาคุณกลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้มีจำนวนคนมากเกินไป เรือกู้ภัยของเราไม่สามารถรับได้ เราต้องแบ่งเป็นสองชุด ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เรือกู้ภัยอีกสองลำกำลัง รีบมาที่นี่แล้วเช่นกัน … ”
“เอาอย่างนี้นะครับ พวกเราจะช่วยผู้หญิงกับเด็กและผู้สูงอายุขึ้นมาก่อน ส่วนที่เหลือให้รอรอบต่อไป ทุกคนวางใจได้ครับ ทางเราจะช่วยพวกคุณทุกคนขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัยแน่นอน”
ถึงแม้คนที่รับหน้าที่เขามาช่วยเหลือจะพูดแบบนี้ แต่ภายในใจของทุกคนต่างก็อยากจะรีบหนีไปจากเรือลำนี้ให้เร็วที่สุด ถ้าต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว ก็เท่ากับต้องตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นไปอีก
เรือกู้ภัยทำการเชื่อมบันไดมาทางเรือสำราญ โดยมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยคอยให้ความช่วยเหลือ
“เอาล่ะครับ ตอนนี้คุณผู้หญิงกับเด็กและผู้ปกครองเชิญขึ้นมาบนเรือได้ครับ ส่วนคนอื่นรอเรือกู้ภัยลำต่อไป”ผู้รับผิดชอบพูดใส่โทรโข่ง ผู้หญิงกับเด็กและผู้ปกครองเริ่มเดินขึ้นไปบนเรือกู้ภัย
ในตอนนี้เห้อหยู่เฉินเองก็ร้อนใจมาก เขาเองก็ไม่อยากตาย แน่นอนว่าเขาเองก็อยากขึ้นเรือลำนี้กลับไป แต่เขาไม่ใช่ผู้หญิง และไม่มีลูกด้วยนี่สิ
เห้อหยู่เฉินเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นเรือกู้ภัยโดยมีลูกสาวอยู่ในอ้อมแขน เขากลอกตาไปมา ก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว เขากระซิบข้างหูผู้หญิงคนนั้น แล้วบอกให้เธอยืมลูกสาวไปอยู่กับตนเอง รอเธอกลับถึงเซี่ยงไฮ้ เขาจะให้เงินรางวัลแก่เธอหนึ่งล้านหยวน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอม เห้อหยู่เฉินร้อนใจมาก เขารีบฉกลูกสาวของเธอมาอุ้มไว้โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว แล้วพูดข่มขู่ผู้หญิงคนนั้น ถ้าเธอกล้าเปิดเผยความจริงออกไป เขาจะโยนลูกสาวของเธอลงทะเลให้จมน้ำตาย เขาเป็นคนรวย ถึงจะทำคนจมน้ำตายเขาก็ไม่กลัว
ผู้หญิง​คน​นั้น​ถูก​เห้อหยู่เฉินจับจุดอ่อน​ได้ จึงทำได้แค่ยอมปล่อยให้เห้อหยู่เฉินอุ้มลูกสาวของ​เธอ​ไว้
​เห้อหยู่เฉินปิดตากเด็กสาวไว้ ก่อนอุ้มเธอยืนต่อแถวขึ้นไปบนเรือกู้ภัย
“นี่ลูกสาวของคุณเหรอครับ” เจ้าหน้าที่​หน่วยกู้ภัยเห็นว่า​เห้อหยู่เฉินยังเป็นวัยรุ่น​อยู่​ ท่าทางดูไม่เหมือนคนที่จะมีลูก​อายุประมาณ​หกเจ็ด​ปีได้ แล้ว​​เห้อหยู่เฉินเองก็ปิดปากเด็กสาวไว้ จึงดูแปลก​มาก
“เอ่อ… ลูกสาสของผมจริงๆ​ครับ เธอไม่สบาย อยากจะอ้วก เดี๋ยว​ขึ้นไปบนเรือแล้ว​ ผมจะพาเธอไปอ้วกที่ห้องน้ำเองครับ” ​เห้อหยู่เฉินพยายามทำท่าทางให้ดูเป็นธรรมชาติ​ที่​สุด
“ขึ้นไปได้ครับ”ข้างหลัง​ยังมีอีกหลายคน เจ้าหน้าที่​หน่วยกู้ภัย​จึงให้​เห้อหยู่เฉินขึ้นไป
“เด็กคนนั้นไม่ใช่​ลูก​ของ​เขาค่ะ อย่าให้​เขาขึ้นไปบนเรือ” ในขณะนั้น​เอง มีเสียงแหลมตะโกนขึ้นมา

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset