รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 175 ฉันไม่ใช่จงยู่จริงๆ

บทที่ 175 ฉันไม่ใช่จงยู่จริงๆ
“เอ๊ะ ก็ใช่นะ เธอทำแพนเค้กจีนทอดก็ต้องทำให้แมลงวันถูกไฟทอดตายสิ”
“ใช่ เมื่อกี้นึกไม่ถึง”
“คงไม่ได้เข้าใจพวกเขาผิดไป”
……
“คุณอย่าทำให้สิ่งที่เห็นกับได้ยินเกิดความสับสน อาจจะเป็นแพนเค้กจีนที่คุณทอดเสร็จแล้ว และตอนที่ห่อเลยบินเข้าไป” ฟ่านเจินเริ่มทำสีหน้าที่ดูเปลี่ยนไป ภายในใจรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา
“ยิ่งพูดจาเรื่อยเปื่อยกว่าเดิม คุณรู้ว่าอุณหภูมิกระทะที่ฉันทอดแพนเค้กจีนนั้นสูงแค่ไหน คนก็ไม่ยอมเข้าใกล้แล้ว คุณคิดว่าแมลงวันจะเข้าใกล้ไหม? ” หลินจูจึงคัดค้านอย่างเด็ดขาด
“ใช่ อุณหภูมิสูงมาก ทุกครั้งตอนฉันซื้อแพนเค้กจีนยังต้องยืนห่างจากไปมองสองเมตรเลย”
“แมลงวันคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก”
“งั้นก็แสดงว่าพวกรปภ.ตั้งใจจะใส่ความสองผัวเมียนี้สิ”
……
ครั้งนี้นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็ถูกเบี่ยงเบนความคิด พวกเขาต่างก็ก่นด่าพวกรปภ.ขึ้นมา
“ฉันถามนาย นายกินแมลงวันจากแพนเค้กจีนจริงๆ หรือไม่” หลงเย้นเดินไปตรงหน้ารปภ.คนนั้น แล้วถามขึ้น “ฉันจะบอกไว้ก่อน ฉันคือหลงเย้น ถืงหลงกรุ๊ปแห่งหลินอานเป็นครอบครัวของพวกฉัน ถ้านายกล้าพูดปลดต่อหน้าฉัน ผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงมาก”
นักท่องเที่ยวรอบๆ ได้ยินว่าสาวสวยคนนี้กลับเป็นถึงคุณหนูตระกูลหลงแห่งถืงหลงกรุ๊ปที่เป็นธุรกิจใหญ่อันโด่งดัง จึงรู้สึกสะดุ้งตกใจ แล้วสายตาที่มองหลงเย้นเคล้าก็มีความเคารพและอิจฉามากขึ้น
จริงๆ แล้วหลงเย้นตั้งใจขู่รปภ.คนนี้ และรีบที่จะเรียกความเป็นธรรมให้กับฉินหลั่ง ปกติเธอเป็นคนที่ใจเย็น น้อยครั้งที่จะรู้สึกโมโห
“ผม……” ตอนนี้รปภ.คนนี้กำลังลังเลใจภายในใจ เขามีโครงสร้างยาวแหลม และมีริมฝีปากเป็นทรงพระจันทร์เสี้ยว แล้วกำลังอ้ำๆ อึ้มๆ
ฟ่านเจินและโสงฮุยที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“คือ……คือคุณฟ่านสั่งให้ผมจับแมลงวันเพื่อที่จะใส่ร้ายพวกเขา ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ…….” สุดท้าย เส้นป้องกันทางจิตวิทยาของรปภ.ก็ถูกทำลายไป ถืงหลงกรุ๊ปในหลินอานเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ทุกคนรู้จักกันดี การรุกรานตระกูลหลงก็ไม่ใช่เรื่องตลก
สายตาของหลงเย้นจับจ้องไปยังฟ่านเจิน หัวใจฟ่านเจินก็เต้นรัวทันที เหมือนจะเต้นออกจากปากแล้ว
“คุณหนูหลง นี่ไม่ใช่ความคิดของผม คือ……คือ…..โสงฮุยให้ผมทำ ใช่ เขาเป็นคนที่สั่งให้ผมทำ……” ฟ่านเจินกลัวว่าจะผิดใจกับตระกูลหลง เวลานี้จะโยนความรับผิดชอบทุกอย่างไปไว้ในตัวของโสงฮุย
“อ๊ะ……” ครั้งนี้โสงฮุยรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาจริงๆ เขารีบเดินเข้าไปใกล้หลิงเย้นหน่อย แล้วกล่าวขอโทษ “ขอโทษครับคุณหนูหลง สมองผมเลอะเลือนไปทันที เลยทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้ ได้โปรดท่านอย่าโกรธ……”
“คุณหนูหลง คุณไม่ต้องไปเชื่อเขา คนๆ นี้หลายวันก่อนก็มากินแพนเค้กจีนของฉันที่จัตุรัสชิ่งชุนก็ไม่ยอมให้เงิน จากนั้นก็ยังว่าจะตีพวกเรา ยังดีที่ฉินหลั่งเก่งกว่าเขาในการต่อสู้ ไม่งั้นตอนนี้เราคงอยู่โรงพยาบาลแล้ว……” หลินจูพูดขึ้นอย่างกัดฟันกรอด
ได้ยินหลินจูพูดทุกอย่างของเขาต่อหน้าหลงเย้น โสงฮุยมีใจที่อยากจะตายแล้วจริงๆ
“โสงฮุย ที่เธอพูดคือความจริงไหม? ” หลงเย้นถามด้วยเสียงเรียบ
“เออ……” ใจของโสงฮุยรู้สึกว่างเปล่าไปครึ่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี จึงพูดขึ้นอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ “เรื่องนี้……จริงๆ แล้วทุกอย่างมีเหตุผลครับ ตอนนั้นผมกำลังตีเกมส์ไม่มีเวลาจ่ายเงิน เธอเลยใส่น้ำยาขัดรองเท้าในแพนเค้กจีนให้ผม……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” หลงเย้นจึงขัดขวางคำพูดของโสงฮุย แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “กลับไปนายก็ไปบอกให้พ่อฉัน ให้เขาจัดงานใหม่ให้นายเถอะ”
“อ๊ะ ไม่ใช่ครับ คุณหนูหลง ได้โปรดยกโทษให้ผมในครั้งนี้เถอะ ผมรับประกันว่าจะไม่ทำความผิดเหมือนเดิม……” โสงฮุยพูดด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่มีการศึกษา และไม่เคยร่ำเรียนหนังสือ นอกจากเป็นบอร์ดี้การ์ด เขาคงจะไม่มีงานอะไรทำในตระกูลหลง ถ้าตัวเองไปรายงานเรื่องนี้กับท่านประธานหลง แล้วถูกหลงเย้นไล่ออก ท่านประธานหลงจะมีปฏิกิริยายังไง? แล้วจะให้เขาอยู่ที่ตระกูลหลงต่ออีกไหมก็ยังเป็นคำถามที่น่าสงสัย
“คนที่นายควรขอโทษไม่ใช่ฉัน” หลงเย้นพูดขึ้น
“ใช่ครับ ใช่ครับ” โสงฮุยเดินไปตรงหน้าฉินหลั่งและหลินจู จากนั้นก็โน้มคำนับลงอย่างก้มต่ำไปสองครั้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่กระวนกระวาย “ก่อนหน้านี้ผมเองที่ทำไม่ดีกับทั้งสองท่าน ผมต้องขอโทษพวกคุณแล้ว ผมเองที่โง่ กินน้ำยาขัดรองเท้าไปก็สมควรแล้ว วันหลังผมแฟนที่ผมหาจะสวมเขาให้เขาตลอด ลูกชายที่คลอดออกมาไม่มีอวัยวะเพศชาย……”
โสงฮุยอยู่ตรงหน้าพวกฉินหลั่ง แล้วตนเองก็ก่นด่าหนึ่งรอบอย่างไม่เหลือเยื่อใย สุดท้ายจึงจะพูดขึ้น
“ทั้งสองท่าน ผมด่าตัวเองได้ยากลำบากมากพอแล้ว พวกท่านทั้งสองคงจะได้รับการระบายความโกรธแล้วใช่ไหม? ผม……” โสงฮุยกำลังจะพูดขึ้นต่อ แค่ได้ยินหลินจูแย่งพูดขึ้นก่อน “อะไรความโกรธของพวกเราหายแล้ว นายพูดได้ง่ายเนอะ? เมื่อกี้ยังตบปากฉินหลั่งไปสองที ถ้าไม่ให้พวกเราตบกลับ ความโกรธนี้ไม่มีทางหาย”
“ใช่ๆ แค่เดี๋ยวทั้งสองท่านช่วยผมขอร้อง ผมจะให้พวกท่านตบหน้าผมก็ได้” โสงฮุยพูดไปก็ยื่นหน้าออกไปตรงหน้าของฉินหลั่ง ทว่าคนอย่างฉินหลั่งก็น่าแปลก คนอื่นยื่นหน้ามาตรงหน้าแล้ว เขากลับไม่มีความสนใจที่อยากจะตบเลย
“ตบสิ! ” หลินจูมองใบหน้าที่ขาวผ่องนี้ของโสงฮุยก็รู้สึกคันมือ
“ช่างเถอะ ผมไม่อยากตีแล้ว” ฉินหลั่งพูดขึ้น
“ใช่ๆ ยังไงน้องชายก็มีน้ำใจ ฉันต้องขอบคุณน้องชายมากๆ ……” โสงฮุยได้ยินฉินหลั่งพูดว่าไม่ตบ ก็รู้สึกดีใจอย่างคาดคิดไม่ถึงจริงๆ ต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ถูกตบหน้าก็คงเป็นเรื่องที่น่าอับอาย เขาจึงรีบดึงหน้ากลับไปทันที
“เหอะ คุณหนอคุณ โง่จริงๆ ฉันว่าคุณสมควรโดนตบ” หลินจูด่าฉินหลั่งหนึ่งประโยค แล้วยื่นมือไปจับหูของโสงฮุยไว้ จากนั้นก็พูดอย่างโหดเหี้ยม “เขาไม่ตบฉันตบเอง”
กำลังพูดขึ้น มืออีกข้างก็ถูกยกขึ้นและตบลงไป “เพี้ยะๆ ” สองทีบนใบหน้าของโสงฮุย
โสงฮุยรู้สึกเจ็บจนหน้าร้อนระอุ ภายในใจอยากจะชกหลินจูแรงๆ จวนจะใจขาด ทว่าพอนึกถึงว่าต้องจอให้ฉินหลั่งและหลินจูไปขอร้องแทนตัวเอง ก็พยายามอดกลั้นไว้ ทำได้เพียงพูดขึ้น “ตบได้ดี ตบได้ดี……”
“ทั้งสองท่านสามารถไปขอร้องคุณหนูของผมแทนผมแล้วหรือยัง? ” โสงฮุยคลายยิ้มอย่างร่าเริง ใบหน้ากูบวมแดงขึ้นมา
“สันดานชั่วๆ อย่างแกยังคิดจะให้พวกเราขอร้องแทนแกอีก เหอะ แกฝันสวยเกินไปไหม! ” หลินจูกอดแขนของไว้ แล้วยิ้มพูดด้วยความได้ใจ
“แก……” โสงฮุยที่เกือบจะถูกคำหยาบออกมาก็ถูกกลืนเข้าไปต่อ จากนั้นก็ยิ้มพูดขึ้น “ผมให้คุณตบหน้าไปแล้ว คุณก็ควรจะขอร้องแทนผม…..”
“เราพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าถ้าได้ตบหน้าแกแล้ว จะไปขอร้องแทนแก ไอ้สารเลวที่หน้าไม่อายจริงๆ ” หลินจูโสงฮุยพลางก่นด่า
สายตาของโสงฮุยเหมือนกำลังจะกลืนกินหลินจูจวนใจจะขาด เขามองฉินหลั่งอีกครั้ง คนๆ นี้ถึงจะเป็นเพื่อนของคุณหนูหลง แค่เขาพูดอะไรแทนตัวเอง คุณหนูหลงต้องไม่ลงโทษตน “คุณผู้ชายท่านนี้ ได้โปรดไปขอร้องแทนผมหน่อยเถอะ……”
เขานึกว่าฉินหลั่งเป็นคนที่พูดง่าย นึกไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะยืนอยู่ตรงหน้าเขา แล้วคำพูดของเขาก็ไม่มีเหตุผลเลย
ฉินหลั่งเป็นคนที่มีจิตใจที่กว้างขวางนั้นไม่ผิด ทว่าไม่ได้แปลว่าเขาโง่ คุณธรรมของโสงฮุยทำให้เห็นว่ามีปัญหา ฉินหลั่งไม่มีทางขอร้องเพื่อเขาหรอก
“พอเถอะ โสงฮุย นายอย่างพูดอะไรอีกเลย กลับไปหาพ่อฉันเถอะ” เวลานี้ หลงเย้นพูดขึ้น
โสงฮุยตอนนี้ก็ไม่มีคำพูดดีๆ อะไรจะพูดอีก เขาแค่ก้มหน้าอย่างถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง พร้อมกับเดินไปข้างหลังหลงเย้น ภายในใจกำลังคิดว่าจะพูดยังไงกับเจ้านายหลงดี
“ตอนนี้ปัญหาก็ได้ถูกแก้ไขแล้ว พวกคุณทำแพนเค้กจีนให้ฉันกินหนึ่งแผ่นได้ไหม? ” หลงเย้นมองฉินหลั่งแล้วยิ้มพูดขึ้น
“ได้ค่ะ ฉันจะรีบทำให้คุณเดี๋ยวนี้” หลินจูจึงรีบตอบตกลง แล้วไม่ใช่หลงเย้น เธอกับฉินหลั่งวันนี้ก็คงแย่แล้ว หลินจูมองท่าทางของฉินหลั่งและหลงเย้น ทั้งสองก็ดูสนิทสนมกัน เธอมองฉินหลั่งเพียงชั่วพริบตาเดียว ตนเองก็เข้าไปในรถขายอาหารเพื่อที่จะทำแพนเค้กจีน
“ขอบคุณคุณมาก วันนี้ถ้าไม่ใช่คุณ เราก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้ว” ฉินหลั่งยิ้มพลางพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ไม่ต้องหรอก ครั้งที่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันก็คง……” พูดถึงครั้งที่แล้วเกือบถูกผู้จัดการติงล่วงระเมิดที่อาคารหลิงอู่ จนถึงวันนี้หลงเย้นยังรู้สึกเหมือนเป็นฝันร้าย พอนึกถึงวันนั้นที่ฉินหลั่งเหมือนทหารเทพที่ลงจากฟ้าและมาช่วยเธอ หลงเย้นก็คลายยิ้ม “พระคุณของคุณที่มีต่อฉัน ฉันจดจำไว้ภายในใจทั้งหมด และไม่มีทางลืมแม้แต่วินาทีเดียว ครั้งนี้พอได้เจอคุณ ฉันก็รู้สึกดีใจมาก”
ฉินหลั่งมองเธอที่พูดอย่างเขินอายและรู้สึกหวาดกลัว และยังมีอาการของความโรแมนติกของหญิงสาวไร้เดียงสา ภายในใจเหมือนถูกกระตุ้นเบาๆ
“คุณหนูหลง แพนเค้กจีนของคุณได้แล้วค่ะ” เวลานี้ หลินจูเอาแพนเค้กจีนแล้วเดินมาตรงหน้าหลงเย้น “ท่านกลับไปท่องเที่ยวบนเขาต่อเถอะ เราก็จะทำงานเหมือนกันค่ะ”
หลินจูส่งยิ้มให้หลงเย้น แล้วดึงเสื้อของฉินหลั่งพลางเดินไปตรงรถขายอาหาร
หลงเย้นมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของฉินหลั่งและหลินจูอย่างตะลึง ภายในใจก็รู้สึกเศร้าหมอง
“หลงเย้น แพนเค้กจีนซื้อเสร็จแล้วหรือยัง? ” เวลานี้ หญิงสาวชุดเขียวกับบอร์ดี้การ์ดเซอเว๋ยเดินมา พวกเขากินข้าวเสร็จ แล้วยังไม่เห็นหลงเย้นกลับมา จึงมาดู
พอได้ยินเสียงของหญิงสาวใส่ชุดเขียว ฉินหลั่งจึงอดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน หน้าอกเริ่มร้อน หัวใจดวงนี้เต้นแรงขึ้น เขาจึงรีบหันไป แล้วไปตามทิศทางของเสียงที่ส่งมา
“นี่ ฉินหลั่ง คุณมองอะไร! คุณหนูหลงเกิดมาหน้าตาสวย คุณดูสิ ลูกตาของคุณแทบจะบินออกมาแล้ว ช่างน่าอายจริงๆ ……” คำพูดของหลินจูมีอาการหึงแอบแฝงอยู่
ฉินหลั่งไม่ได้ฟังคำพูดของหลินจูเข้าไป เขามองหญิงสาวชุดเขียวที่พูดเมื่อกี้นี้ ใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มที่ดีใจมากออกมา หนังหน้าจึงสั้นงันงกขึ้น และแทบจะไม่กล้าเชื่อว่าสิ่งที่เห็นทั้งหมดจะเป็นความจริง หญิงสาวชุดเขียวคนนั้นไม่ได้เป็นจงยู่ที่เขาตามหาแล้วจะเป็นใครได้
“จงยู่! ” ฉินหลั่งทั้งตกใจและดีใจ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาจงยู่
“ทำอะไร! ” บอร์ดี้การ์ดเซอเว๋ยที่อยู่ข้างๆ เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังพุ่งเข้าหาคุณหนู ภายในใจรู้สึกตกใจ และขู่ขึ้นหนึ่งเสียง รอจนกว่าเขาพุ่งมาข้างหน้า เซอเว๋ยเป็นคนที่มีเทคนิคการต่อสู้ จึงทำให้ฉินหลั่งล้มลงบนพื้น
“ทำอะไร! พูดมา” เซอเว๋ยกดตัวฉินหลั่งไว้บนพื้น แล้วเอ่ยถามขึ้น
“พี่เซอ รีบปล่อยเขาเร็ว เขาคือคนดี” หลงเย้นจึงรีบเดินมาตรงหน้าเซอเว๋ยแล้วพูดขึ้น
“จงยู่ ผมหาคุณเจอสักที ขอโทษ ผมเองที่ไม่ได้ปกป้องคุณดีๆ คุณกำลังเคียดแค้นผมในใจใช่ไหม…..” ฉินหลั่งมองจงยู่แล้วพูดขึ้นตลอด แค่หวังว่าเธอจะให้อภัย
จงยู่กลับถูกการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฉินหลั่งทำให้ตกใจ เธอมองฉินหลั่งด้วยความตกใจ แล้วไม่สามารถเข้าใจในท่าทีและการกระทำของเขา
“พี่เซอ ให้เขาลุกขึ้นก่อน เขาไม่ทำร้ายพี่สาวหรอก” หลงเย้นพูดจบ เซอเว๋ยก็พลิกไปจับสองมือของฉินหลั่งไว้ แล้วให้เขาลุกขึ้น
“คุณพูดอะไร เธอเป็นพี่สาวของคุณหรอ? ” ฉินหลั่งรู้สึกตกตะลึงมาก
“ใช่ไง เธอเป็นพี่สาวของฉันหลงหลิง ไม่ใช่จงยู่อะไรที่คุณพูด คุณจำผิดคนแล้ว” หลงเย้นพูดอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่มีทาง ผมไม่มีทางจำผิด” ฉินหลั่งมองจงยู่ แล้วพูดขึ้น “จงยู่ ขอโทษ ก่อนหน้านี้ผมสารเลวเอง ผมเองที่สมควรตาย คุณกลับมาอยู่ข้างกายผม ผมจะชดใช้ในความผิดก่อนหน้านี้ของผม ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม……”
ทว่าจงยู่กลับเหมือนฟังไม่รู้เรื่องว่าฉินหลั่งพูดอะไรอยู่ ในสายตาของเธอฉินหลั่งก็เหมือนคนบ้า
“ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่จงยู่ที่คุณตามหาจริงๆ ฉันคือหลงหลิง จงยู่ที่คุณจะหาเหมือนฉันมากเลยหรอ? ” หลงหลิงพยายามตั้งสติ แล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset