รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 195 บริจาคไปทั้ง1.5ล้านยูโร

บทที่ 195 บริจาคไปทั้ง1.5ล้านยูโร
ฉินหลั่งถอนหายใจรู้สึกหดหู่เป็นพิเศษ เขาเก็บไมโครโฟน เบาะรองนั่งที่หลงหลิงและคนอื่นๆยังไม่ได้เก็บ ไปวางไว้ในห้องอุปกรณ์ ไปที่โรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารและกลับไปที่หอพัก
นอนอยู่บนเตียง ฉินหลั่งอดนึกถึงคำพูดของหลีซี เกี่ยวกับการขาดค่าสปอนเซอร์สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับไม่ได้
“เงินสนับสนุน …” ฉินหลั่งพึมพำ ตาลอยไปที่ใต้เตียง จึงนึกถึงเงินกว่า 1.5 ล้านยูโรที่จ้าวหมิงหมิงเคยมอบให้เขาก่อนหน้านี้ได้ เขาไม่สามารถฝากเงินมากกว่า 1.5 ล้านยูโรไว้ในธนาคาร มิฉะนั้นครอบครัวจะค้นพบ เมื่อเงินยูโรไม่สามารถใช้ในประเทศได้ แม้ว่าเขาจะมีเงินมาก แต่ก็เหมือนกับไม่มี
ฉินหลั่งคิดว่า “ทำไมฉันไม่เอาเงิน 1.5 ล้านยูโรให้โรงเรียนทั้งหมดและขอให้พวกเขารับประกันเรื่องอาหาร ที่พักและค่าใช้จ่ายอื่น ๆทั้งหมดที่มหาวิทยาลัยเจียงหนานนี้ ดีกว่าเก็บเงิน 1.5 ล้านไว้ให้ฝุ่นจับ”
ฉินหลั่งพิจารณาอย่างรอบคอบ ยืนยันความคิดของเขาและตัดสินใจส่งมอบเงิน 1.5 ล้านยูโรให้กับโรงเรียนโดยเร็วที่สุด
หลังเลิกเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น ฉินหลั่งกลับไปที่หอพักและหยิบเงิน1.5 ล้านยูโรในถุงขยะออกมาจากกระเป๋าเดินทาง เขาต้องการใส่ถุงขยะลงในกระเป๋าเป้ แต่กระเป๋าเป้ของเขามีขนาดเล็กเกินไป เขาจึงไม่ใส่แล้ว
“ ฉินหลั่ง นายเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริง ขยะก็ยัดใส่กระเป๋าเดินทางได้ ฉันนับถือนายจริงๆ”
“เอาไปทิ้งเถอะ ขยะก็เป็นสมบัติเนอะ”
รูมเมททั้งสองพูดกับฉินหลั่ง
“ โอเค จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ฉินหลั่งรู้สึกขบขัน ดูเหมือนว่าถุงขยะช่วยอำพรางได้ดี เขาพูดพลางถือถุงขยะและเดินออกจากหอพักไป
ฉินหลั่งเดินตรงไปที่ตึกอำนวยการ นี่เป็นศูนย์กลางของแผนกต่างๆของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน เขาต้องการส่งมอบเงิน 1.5 ล้านให้กับแผนกการเงิน
ในไม่ช้า ฉินหลั่งก็มาถึงประตูของแผนกการเงิน หลังจากเคาะประตูได้ยินเสียง “เชิญเข้ามา” จากข้างใน เขาก็ถือถุงขยะเดินเข้าไป
ภายในสำนักงานมีโต๊ะทำงานเป็นแถว มีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ 4 คน หนึ่งในนั้นมีชายหัวโล้นในวัย 50 ปี น่าจะเป็นผู้อำนวยการหลิว ตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่มีนักเรียนสองคนนั่งอยู่ นั่นคือฉาวหนิงและหลีซีผู้กำกับงานเลี้ยงต้อนรับ
“นายมาทำอะไรในแผนกบัญชี” ฉาวหนิงถามอย่างประหลาดใจ
เมื่อวานเขาบอกพ่อของเขาเกี่ยวกับการสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่ ในฐานะนักธุรกิจพ่อของเขามีความรอบคอบมากกว่าเขา เขาให้ถามโรงเรียนว่าต้องการเงินเท่าไร และจะใช้จ่ายอะไรบ้าง เขาประเมินแล้วจึงตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเท่าไหร่ วันนี้ฉาวหนิงและหลีซีจึงมาถามเรื่องนี้
“เอ่อ … ฉันมาที่นี่ …” ฉินหลั่งตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับฉาวหนิงและคนอื่น ๆ ที่นี่ เขาซ่อนถุงขยะไว้ข้างหลังทันที
ครอบครัวของฉาวหนิงก็ติดอันดับในหลินอาน จู่ๆเขาจะควักเงินจำนวนมากถึง 1.5 ล้านยูโร ถ้าเขาโดนตรวจสอบและโยงไปถึงโข่งลิ่งเสียน ทำให้ครอบครัวรู้ว่าแม่ของเขาแอบให้เงินเขามากมายขนาดนี้ จะไม่เป็นผลดีต่อพ่อแม่ของเขา
“นายเอาถุงขยะมาแผนกการเงิน มารยาทน่ะมีไหม” หลีซีชี้ไปที่ถุงขยะด้านหลังฉินหลั่งและกล่าว
ทันทีที่เขาพูด ทำให้คนอื่นก็สนใจที่ถุงขยะด้านหลังเขาด้วย เจ้าหน้าที่หลายคนวิจารณ์กันอย่างไม่พอใจ
“ใช่ เอาถุงขยะมาสกปรกจะตาย”
“แผนกการเงินคือแผนกหนึ่งของโรงเรียน มาพร้อมถุงขยะ เสียมารยาทมากๆ”

“ขอโทษครับ” ฉินหลั่งกล่าว
“ยังดีที่รู้จักการขอโทษ” หลีซียิ้มเย้ย จากนั้นเหลือบไปมองฉินหลั่งและพูดกับฉาวหนิงว่า “คุณชายฉาว ฉันคิดว่าไอ้นี่มาที่แผนกการเงินเพื่อขอทุนฐานะยากจนของโรงเรียน ดูเขาสวมชุดชั้นต่ำแบบนี้ก็รู้ละ และฉันได้ยินมาว่าเขาต้องไปทำแพนเค้กเป็นเวลาสองเดือนในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ครอบครัวเขาไม่ได้ยากจนธรรมดา”
“อืม มีมือมีเท้า ก็ไปหางานพาร์ทไทม์ในห้องสมุดหรือร้านอาหารทำสิ ความคิดไม่ก้าวหน้าจึงต้องขอเงินสงเคราะห์คนยากจน คนแบบนี้พูดตรงๆก็คือขี้เกียจ”ฉาวหนิงกล่าว
“นักเรียนคนนี้ หากคุณต้องการขอรับเบี้ยยังชีพ โปรดเขียนใบสมัครแล้วส่งมอบให้กับคณะกรรมการห้อง แผนกการเงินไม่รับสมัคร เธอกลับไปเถอะ” ผู้อำนวยการหลิวที่หัวล้านครึ่งหัวเดินไปพูดข้างๆฉินหลั่ง
ฉินหลั่งคิดว่าตอนนี้ฉาวหนิงและคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอธิบาย เขาพยักหน้าให้ผู้อำนวยการหลิว แล้วเดินออกไปนอกประตู ขณะที่ปิดประตู เขาได้ยินผู้อำนวยการหลิวพึมพำ “นักเรียนคนนี้จะขอเงินสงเคราะห์ความยากจนก็ไม่ศึกษาขั้นตอนเลย กองทุนความยากจนถ้าให้นักเรียนแบบนี้จะได้ประโยชน์อะไร…”
ฉินหลั่งไม่ได้ไปไหนไกล เขายืนอยู่ตรงทางเดินและมองไปที่วิวใต้หน้าต่าง หลังจากผ่านไปกว่า 40 นาที ประตูห้องทำงานก็เปิดออก ผู้อำนวยการหลิวออกมาส่งฉาวหนิงและหลีซีด้วยรอยยิ้ม
“นายยังไม่ไปอีกเหรอ” ฉาวหนิงเห็นว่าฉินหลั่งยังอยู่ที่นั่นจึงพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย และพูดกับผู้อำนวยการหลิวว่า “ผู้อำนวยการหลิวไปก่อนนะครับ ผมจะคุยเรื่องสปอนเซอร์กับพ่อและให้คำตอบคุณเร็วที่สุด คุณจัดการปัญหาของนักเรียนยากจนคนนี้ก่อนเถอะครับ”
หลังจากพูดจบ ฉาวหนิงและหลี่ซีมองไปที่ฉินหลั่งอย่างเหยียดหยาม แล้วเดินจากไป
“เฮ้ นักเรียนคนนี้ ฉันได้แจ้งให้เธอทราบอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าเธอต้องการขอเงินสงเคราะห์ความยากจน คุณต้องเขียนใบสมัครถึงคณะกรรมการชั้นเรียนก่อน ฝ่ายการเงินไม่รับใบสมัครโดยตรง รีบไปได้แล้ว” ผู้อำนวยการหลิวโบกมือแล้วเดินกลับไปในสำนักงาน ฉินหลั่งเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ
“ เด็กคนนี้คิดจะทำอะไร?” ผู้อำนวยการหลิวไม่พอใจ
“ผมไม่ได้จะขอรับเงินสงเคราะห์ความยากจน ผมชื่อฉินหลั่ง มาที่นี่เพื่อสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่” ฉินหลั่งรู้ว่าเขาแต่งตัวไม่ดี ไม่น่าแปลกที่ผู้อำนวยการหลิวจะเข้าใจผิด
หลังจากที่ฉินหลั่งพูดจบ ผู้อำนวยการหลิวและเจ้าหน้าที่หลายคนในสำนักงานก็หัวเราะตอนที่ฉาวหนิงอยู่ที่นั่น เขาได้บอกทุกคนในสำนักงานแล้วว่า ฉินหลั่งเป็นยาจกคนนึงในภาควิชาชีววิทยา ไม่ต้องสนใจเขา
“นักเรียนที่ให้การสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่ ไม่ใช่จะบริจาคร้อยสองร้อยได้นะ เรายอมรับความปรารถนาดีของเธอ เธอกลับไปเถอะนะ” ผู้อำนวยการหลิวหัวเราะ
“ไม่ ผมจะบริจาคเงินจำนวนมาก ผมขอให้คนอื่นออกไปก่อนได้ไหมครับ” ฉินหลั่งคิดว่า ยิ่งมีคนรู้เรื่องการบริจาคเงินน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
“ เฮ้ นายคิดว่านายเป็นใคร ถึงจะให้พวกเราออกไป”
“ใช่ นายบริจาคเท่าไหร่ ถึงกลัวว่าเราจะเห็น”
“ถ้าไม่บริจาคก็ออกไป! ไม่ต้องเพ้อเจ้อ” เมื่อนักเรียนที่ทำงานหลายคนได้ยินว่าฉินหลั่งขอให้พวกเขาออกไป พวกเขาก็ไม่พอใจทันที
“ฉันว่านายกลับไปเถอะนะ ฉันได้ยินคุณชายฉาวบอกว่าสถานการณ์ของนายไม่ค่อยดีนัก ถ้านายมีเงินร้อยสองร้อยหยวน นายควรเอาไปซื้อชุดที่ดีให้ตัวเองนะ” ผู้อำนวยการหลิวเห็นว่าฉินหลั่งดื้อดึงมาก พูดพลางผลักเขาออกไป
“เฮ้ อย่ารีบร้อยสิผู้อำนวยการหลิว” ฉินหลั่งถอนหายใจและยื่นถุงขยะในมือใส่มือผู้อำนวยการหลิว
“อี๋ เด็กคนนี้ สกปรกไหมนี่” ผู้อำนวยการหลิวร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่ามือของเขากำลังจะจับถุงขยะ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับถุงขยะเขาก็หยุดโวยวายกะทันหันเขารู้สึกว่ามีเงินเป็นฟ่อนๆอยู่ในถุงขยะนั้น ผู้อำนวยการหลิวตกตะลึง เขามองไปที่ฉินหลั่งด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นฉินหลั่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย เขาก็ขยิบตาไปยังบุคคลอื่น ๆ
“พวกเธอออกไปก่อน!” ผู้อำนวยการหลิวพูดกับคนอื่น ๆ ที่บ่นครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อผู้อำนวยการหลิวตะคอกอีกครั้ง พวกเขาก็ออกไป
“ในนี้คืออะไร” ผู้อำนวยการหลิวถามเมื่อคนอื่น ๆ ออกไป
ฉินหลั่งหยิบถุงขยะและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบาย ๆ วางถุงขยะลงบนโต๊ะและค่อยๆแกะออก ดวงตาของผู้อำนวยการหลิวจ้องไปที่ฉินหลั่ง โดยมีคำถามอยู่ในใจเสมอ ฉินหลั่งแต่งตัวธรรมดาแบบนี้ จะมีเงินมากมายในถุงขยะได้อย่างไร หรือในนั้นไม่ใช่เงิน แต่เป็นกระดาษสีขาวหรือเหรียญผี
ฉินหลั่งปลดถุงขยะและค่อยๆเปิดเผยเงินภายใน
“ ไอ้หนุ่ม นายจงใจหลอกฉันใช่ไหม” จู่ๆผู้อำนวยการหลิวก็ตะโกนขึ้น
“อะไร นี่คือเงินยูโร คุณดูให้ชัดเจนก่อน” ฉินหลั่งกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
“ยูโร …” ผู้อำนวยการหลิวมองเข้าไปใกล้ๆทันใดบนหน้าก็ยิ้มเหมือนดอกไม้แย้มบาน ในตอนแรกสิ่งที่เขาคิดในหัวคือก้อนเงินหยวนสีแดง แต่เมื่อเขาเห็นสีม่วงและสีเขียว เขาจึงคิดว่ามันเป็นเหรียญผี เมื่อมองให้ชัดแล้ว จึงรู้ว่ามันเป็นถุงขยะยูโรซึ่งมีค่ามากกว่าเงินหยวน
“ขออภัย เมื่อกี้เสียมารยาท คุณนำเงินมากมายมาเพื่อ … “ เมื่อเห็นเงินจำนวนมาก ทัศนคติของผู้อำนวยการหลิวต่อฉินหลั่งเปลี่ยนไปทันที
“ ผมต้องการบริจาคเงินนี้ให้กับโรงเรียนเพื่อสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่” ฉินหลั่งกล่าว
“ คุณมีเงินมากมาย และงานเลี้ยงต้อนรับไม่จำเป็นต้องใช้เงินได้มากนัก ประมาณ 200,000 หยวนก็เพียงพอแล้ว” ผู้อำนวยการหลิวกล่าว
“ใช้แค่นั้นเองเหรอ งั้นที่เหลือก็ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในโรงเรียนก็แล้วกัน” ฉินหลั่งคิดสักพักแล้วกล่าว
“หากคุณต้องการบริจาคเงินทั้งหมด ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมาก ผมจะรายงานการกระทำของคุณกับอาจารย์ใหญ่ และให้เขามอบเกียรติคุณทั้งหมดในมหาวิทยาลัยให้คุณ …” ผู้อำนวยการหลิวกล่าวด้วยความดีใจ
ตอนที่เขาคุยกับฉาวหนิงก่อนหน้านี้ ฉาวหนิงถามว่าอันนั้นใช้เงินเท่าไหร่ อันนี้ใช้เงินเท่าไหร่ คุณชายจากครอบครัวติด 20 อันดับแรกในหลินอาน จะจ่ายเงิน200,000หยวนต้องคิดนั่นคิดนี่ ในท้ายสุดยังต้องหารือกับพ่อก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะบริจาคหรือไม่ กับอีกคนหนึ่งซึ่งมาพร้อมกับเงิน 1.5 ล้านยูโร ให้เงินแล้วไม่ถามด้วยว่าจะเอาเงินไปใช้อะไรบ้าง นี่เป็นจิตวิญญาณของผู้ร่ำรวยอย่างแท้ทรู
“ไม่ต้องครับ ผมมีข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียว นั่นคือโรงเรียนจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตทั้งหมดของผมในโรงเรียน อีกอย่างคือผมไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับการบริจาคของผม” ฉินหลั่งกล่าวเบา ๆ
“อ่า … ได้ ได้ครับ” ผู้อำนวยการหลิวตอบอย่างสงสัย
“โอเคครับ คุณทำงานเถอะ ผมไปก่อน” ฉินหลั่งขอให้ผู้อำนวยการหลิวเก็บเงิน หลังจากพูดแล้วเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องทำงานไป
เจ้าหน้าที่หลายคนเดินเข้ามา มองไปที่ผู้อำนวยการหลิว และบ่นว่า “ผู้อำนวยการคุณไว้หน้าเด็กคนนั้นเกินไป เขาบริจาคเงินไหม”
“ปิดปากของพวกเธอไว้ ถ้าใครวิจารณ์เพื่อนนักเรียนคนนี้อีก ต่อไปไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้ว!” ผู้อำนวยการหลิวกล่าวอย่างจริงจัง
เมื่อเห็นคนอื่นๆดูไม่สบอารมณ์ ผู้อำนวยการหลิวก็แอบขำในใจ คนอื่นเขาบริจาคเงินหลายล้านยูโร สำหรับเขาแล้วพวกเธอก็เป็นยาจกคนนึง และยังมีหน้าจะมาวิจารณ์เขาอีก
สองชั่วโมงต่อมาผู้อำนวยการหลิว ได้รับโทรศัพท์อีกครั้งจากพ่อของฉาวหนิง
“ฮัลโหล นี่แผนกการเงินของมหาวิทยาลัยเจียงหนานนะ ผมคือฉาวเจี้ยนเฟิงจากบริษัทฉาวซื่อ ผมต้องการสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่ของคุณ … ”
“สวัสดีครับท่านประธานฉาว งานเลี้ยงได้รับการสนับสนุนแล้วครับ คุณสามารถสนับสนุนโครงการอื่น ๆ ของโรงเรียนของเราได้ …” เมื่อนึกถึงการเปรียบเทียบระหว่าง ฉาวหนิงและฉินหลั่งผู้อำนวยการหลิวก็อดเยาะเย้ยไม่ได้
“อะไรนะ มีคนให้การสนับสนุนแล้ว งั้นช่างเถอะ ผมขอเป็นสปอนเซอร์ในปีหน้าก็แล้วกัน”หลังจากนั้นฉาวเจี้ยนเฟิงก็วางสายไป
ผู้อำนวยการหลิวบ่นว่า แม้แต่เจ้าของบริษัทฉาวซื่อก็ยังลังเลที่จะให้เงิน 200,000 หยวน เชอะ เมื่อเทียบกับเพื่อนนักเรียนฉินหลั่งคนนั้นห่างไกลกันเหลือเกิน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset