รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 194 คุณมันอัจฉริยะ

บทที่ 194 คุณมันอัจฉริยะ
“เธอกินเยอะๆหน่อย” ฝู้โยวคีบเต้าหู้ในจานข้าวตัวเองชิ้นนึงวางลงบนข้าวของฉินหลั่งใบหน้าของเขาร้อนผ่าวทันที กล่าวขอบคุณ ดื่มด่ำกับอาหารพลางคิดถึงฟุ้งซ่านในใจ และทานเสร็จอย่างรวดเร็ว เคี้ยวข้าวพลางพูดกับฝู้โยวว่า “ผมต้องไปละ” ฉินหลั่งเก็บจานและเดินออกจากโรงอาหารไป
ในอีกไม่กี่วันถัดมา ฉินหลั่งใช้เวลาว่างจากการเรียน ไปฝึกการแสดงที่หอประชุม เขาไม่มีพื้นฐานการเต้น แต่เขามีมือและเท้าที่ยาว ทำให้ตอนออกท่าทางดูสลวย หลังจากคำแนะนำของครู ฉินหลั่งก็ค่อยๆคุ้นเคยกับการเต้นรำของตนมากขึ้น
เนื่องจากสามารถเจอหลงหลิงในระหว่างการซ้อม ฉินหลั่งจึงมีพลังมากทุกครั้ง แต่เนื่องจากเขาต่อยกับฉาวหนิงบนเวทีครั้งที่แล้ว ทำให้หลงหลิงไม่พอใจเขา และบวกกับ ฉาวหนิงก็คอยขัดขวาง ทำให้ตลอดการซ้อมทั้ง 10 วันเขาแทบไม่ได้คุยกับหลงหลิงเลย
ทุกวันที่ดูหลงหลิงและฉาวหนิงนั่งคุยรายละเอียดการแสดงกัน หัวใจของฉินหลั่งหดหู่
ในวันนี้ที่ฉินหลั่งและคนอื่น ๆ ได้มาซ้อมการแสดงบนเวทีหลักของสนามกีฬา ก็เพราะความสัมพันธ์ระหว่างฉาวหนิงและหลงหลิง มิฉะนั้นคณะกีฬาที่ดูแลพื้นที่นี้ยอมปล่อยว่างมากกว่าที่จะให้คณะอื่นมาใช้
ฉาวหนิงไปห้องน้ำ หลงหลิงยังคงยืนอยู่บนแท่นเพื่อร้องเพลงอะแคปเปลล่า ฉินหลั่งและนักเต้นอีกสองคนยืดขาของพวกเขาไว้บนราวบันได ฉินหลั่งรู้ว่าตอนนี้หลงหลิงไม่ชอบเขามากนัก ดังนั้นเวลายืดขาเขาจึงหาจังหวะแอบมองหลงหลิง ในตอนนี้ขอแค่ได้แอบมองเงาที่อ่อนช้อยของหลงหลิง ก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากแล้ว
ขณะที่ฉินหลั่งยิ้มทึ่มๆพร้อมแอบมองไปทางหลงหลิง ทันใดนั้นหลิงหลิงก็มองกลับมาพอดี ใบหน้าที่บอบบางนั้นทำให้หัวใจของฉินหลั่งเต้นรัว เขารีบหันหลังกลับ ขาของเขากดที่ราว และเสียการทรงตัว เสียงกรีดร้องของ “อ๊ะ” เขาพลิกราวบันไดและตกลงไปอีกด้านของเวที
เวทีมีความสูงมากกว่า 2 เมตร โชคดีที่ฉินหลั่งคว้าราวบันไดไว้ได้ เขาจึงไม่ล้มลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตามก้นกระแทกพื้นจังๆทำให้แขนของเขาช้ำ
“โอ๊ย … ” ฉินหลั่งคำราม รู้สึกแค่ว่ามันน่าอับอายจริงๆ ที่ตกลงมาจากเบื้องบนต่อหน้าหลงหลิง
“ฮ่าฮ่า ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง นายเป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ … ”
“ขนาดนี้ยังตกลงไปได้ ฉันนับถือจริงๆ ก้นไม่ได้แยกออกสองฝั่งใช่ไหม”
นักเต้นอีกสองยืนดูฉินหลั่งและหัวเราะอย่างพร้อมเพรียง และเสียงหัวเราะจากนักเรียนพลศึกษาที่กำลังฝึกอยู่ในสนาม
ฉินหลั่งรู้สึกอับอายและวิตกกังวล เขาแค่อยากจะลุกขึ้นให้เร็วและวิ่งออกไปจากสนามกีฬา โดยไม่หันกลับไปมองอีก เพื่อไม่ให้หลงหลิงเห็นตัวเองในสภาพน่าอายเช่นนี้
ขณะที่เขาลุกขึ้นอย่างลนลาน พบว่ามีร่างปรากฏขึ้นจากด้านขวาของเวที เดินตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ฉินหลั่งเห็นว่าเป็นหลงหลิง พอนึกได้ว่าเขาตกลงมาจากเวทีเพราะการแอบมองหลงหลิง เขารู้สึกอายจนไม่กล้าสู้หน้าเธอ เขาจึงรีบลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินไปอีกด้าน
“ คุณไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?” หลงหลิงคว้าฉินหลั่งและถามอย่างเป็นห่วง ฉินหลั่งได้ยินดังนั้นก็ไม่กล้าจากไป เขาก้มหัวลงและตอบว่า “ผมสบายดี”
“แขนของคุณ … ” หลงหลิงเห็นว่าแขนของฉินหลั่งถลอกจนเห็นเนื้อขาว ดูเหมือนมีเลือดไหลออกมาด้วย เธอจึงกังวลมาก “ให้ฉันดูหน่อย …”
หลงหลิงคว้าแขนของฉินหลั่ง เมื่อมือของเธอสัมผัสกับผิวหนังของเขา หัวใจที่ไม่สงบของฉินหลั่งก็สงบลง และเขารู้สึกได้ถึงมือที่เย็นและลื่นของหลงหลิง
เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของหลงหลิง ดวงตาที่สวยงาม ผิวขาวดั่งหยกขาว และริมฝีปากเรียวบาง เธอไม่ได้หัวเราะเขาที่ “มอง” เธอแล้วตกลงมา และก็ไม่ได้ตำหนิที่เขาแอบมองเธอ
หัวใจของฉินหลั่งสงบลงอย่างสมบูรณ์ เขาลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลและรู้สึกเพียงว่าหลงหลิงใจดีเป็นพิเศษ ไม่แตกต่างจากจงยู่ก่อนหน้านี้
“มากับฉัน” หลงหลิงพาฉินหลั่งไปที่ห้องอุปกรณ์ที่ด้านในมีน้ำแร่เป้นแพ็คเป็นแพ็ควางอยู่ หลงหลิงหยิบน้ำหนึ่งขวด ขอให้ฉินหลั่งนั่งบนเก้าอี้และบอกว่า “กางแขนออก ฉันจะราดน้ำ”
ฉินหลั่งยืดแขนออก หลงหลิงบิดขวดน้ำและเทน้ำเบา ๆ บนแขนของฉินหลั่ง ถูสีดำบนแขนของฉินหลั่งด้วยมือ และเป่าบาดแผลด้วยปาก
เมื่อได้เห็นการรักษาบาดแผลอย่างพิถีพิถันของหลงหลิง ฉินหลั่งก็อดนึกถึงจงยู่ไม่ได้ จงยู่เคยดูแลตัวเองด้วยวิธีนี้ เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่จีนหลิง เขาจำได้ครั้งหนึ่งเขาหั่นมะเขือเทศโดนมือตัวเอง ในเวลานั้นจงยู่ก็รักษาบาดแผลของเขาอย่างอ่อนโยนด้วยวิธีนี้
ฉินหลั่งรู้สึกประทับใจ น้ำตาเอ่อคลอในตาโดยไม่รู้ตัว ภาพในเวลานั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขา แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่แอบมองเธออย่างลับๆฉินหลั่งถามในใจ “คุณคือจงยู่ใช่ไหม ในโลกนี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่อ่อนโยนกับผมที่สุด แล้วคุณยังไม่ยอมรับผมอีกเหรอ”
น้ำตาร่วงหล่นบนมือของหลงหลิง เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นฉินหลั่งน้ำตาเอ่อนอง เธอตกใจและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“จงยู่ …” ฉินหลั่งพูดอย่างติดขัด
“คุณ …” หลงหลิงโมโหเมื่อได้ยินว่าฉินหลั่งคิดว่าตัวเองเป็นแฟนของเขา แต่เมื่อมองไปที่สภาพของฉินหลั่งตอนนี้ แล้วก็ทนไม่ได้ที่จะตำหนิเขาอีก
ในเวลานี้เอง นักเต้นอีกสองคนคือต่งอี้และจางเสี่ยวซานเดินเข้ามา พวกเขาเดินไปที่ด้านข้างของหลงหลิง มองไปที่ฉินหลั่งและถามหลงหลิงอย่างไม่เข้าใจ “หลงหลิงทำไมเขาถึงร้องไห้แบบนี้?”
“ไม่ … ฉันไม่รู้ ฉันแค่ช่วยเขาล้างแผลด้วยน้ำ แล้วเขาก็ร้องไห้” หลงหลิงพูดด้วยสีหน้าหดหู่
“อืม ใช่เหรอ” ต่งอี้ถามด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ยิ้มและพูดกับฉินหลั่ง “ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง น่าอายเกินไปหรือเปล่า แค่นี้ก็ร้องไห้ นายเป็นลูกผู้ชายนะ ฉันนับถือนายจริงๆ”
จางเสี่ยวซายหัวเราะและพูดว่า “ เฮ้ ไม่มีอะไรแปลก ฉินหลั่งอยู่ในหอประชุมทุกวันไม่มีใครมาสนใจเขาเลย หลงหลิงเป็นคนสวยที่สุดในสถานที่ซ้อมนี้ เธอรักษาบาดแผลให้ด้วยตัวเอง ฉินหลั่งจะไม่ซาบซึ้งได้ยังไง ไม่ใช่กำลังร้องไห้ฟูมฟายอยู่เหรอ ใช่ไหมหนอนผู้น่าสงสาร?”
“พอแล้ว หยุดได้แล้ว เราไปกันเถอะ” หลงหลิงรู้ว่าฉินหลั่งร้องไห้แบบนี้เพราะรักแฟนของเขามาก ก่อนไปเธอหันกลับมาพูดกับฉินหลั่งว่า “คุณไปทำแผลที่ห้องพยาบาลก่อนเถอะ”
“ผมเข้าใจ” ฉินหลั่งตอบ และหลงหลิงก็เดินออกจากห้องอุปกรณ์ไป
ฉินหลั่งเช็ดน้ำตาของเขา มองไปที่ขวดน้ำที่หลงหลิงเพิ่งใช้ล้างแผล หัวใจของเขาอบอุ่นมาก เขาถือขวดไว้ในมือ โดยคิดว่าเป็นสิ่งที่หลงหลิงเพิ่งใช้ และรู้สึกมีความสุขมาก ฉินหลั่งเดินออกจากห้องอุปกรณ์แล้วไปทำแผลที่ห้องพยาบาล
หลังออกมาหนึ่งชั่วโมง ฉินหลั่งเดินไปที่สนามกีฬาอีกครั้ง
เมื่อไปถึงเวที เขาพบว่าหลงหลิงและคนอื่น ๆ ไม่ได้ฝึกซ้อม แต่นั่งพักอยู่ หลงหลิงและฉาวหนิงนั่งติดกัน ไม่รู้ว่าหลีซีผู้กำกับการแสดงของงานเลี้ยงต้อนรับก็มาถึงเช่นกัน ฉินหลั่งรู้ว่าหลีซีเป็นคนขี้ประจบ และมาที่นี่เพราะฉาวหนิงโดยเฉพาะ
“โอ้ ฉินหลั่งกลับมาแล้ว”
“บาดเจ็บก็ยังมาซ้อม พิการแค่เพียงทางร่างกาย ใช่ที่จิตวิญญาณ”
ต่งอี้และจางเสี่ยวซานยิ้ม ฉินหลั่งไม่สนใจพวกเขา แต่เดินไปนั่งพักบนม้านั่งตัวเล็กของตน
“บนเวทีมีราวบันได แต่ก็ยังตกลงไปได้ ช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ!” ฉาวหนิงพึมพำ คนอื่น ๆ ก็หัวเราะและมองไปที่ฉินหลั่งอย่างประชดประชัน
มีเพียงใบหน้าของหลงหลิงเท่านั้นที่ดูเคร่งขรึม เธอรู้ว่าฉินหลั่งตกลงเพราะเธอเห็นเขากำลังมองดูเธอ เธอเพิกเฉยต่อการเยาะเย้ยของคนอื่นและมองไปที่ระยะไกล หลงหลิงอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจ “เขาเป็นผู้ชายที่มีความอดทนสูงจริงๆ”
“คุณชายฉาว งานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น แต่สหภาพนักศึกษาขยะพวกนั้นหาได้แค่สปอนเซอร์เล็กๆไม่กี่ราย ทำได้เพียงป้ายและน้ำแร่เท่านั้น คุณรู้ไหม แม้ว่าเราจะซ้อมอยู่ในหอประชุม แต่ในวันงานจะจัดที่หน้าห้องสมุด สำหรับการสร้างเวที เครื่องแต่งกาย แสงสีเสียง และการแต่งหน้าก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น โรงเรียนของเราก็ขี้เหนียว ไม่ยอมออกเงินเลย คนเป็นผู้กำกับอย่างฉันจึงเครียดมาก”
ฉาวหนิงจะไม่เข้าใจความหมายของหลีซีได้อย่างไร นี่เป็นการขอเงินจากเขา แต่ฉาวหนิงไม่ได้ใส่ใจ ครอบครัวของเขารวยติดอันดับหนึ่งใน 20ในหลินอาน ให้การสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับพวกเขา
“ผมจะกลับไปบอกพ่อให้เขาเป็นสปอนเซอร์งานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่นี้ ว่าแต่เอาเงินให้คุณได้เลยใช่ไหม” ฉาวหนิงถาม
“ขอบคุณ ขอบคุณคุณชายฉาว คุณช่างประเสริฐมาก!” หลีซีขอบคุณซ้ำ ๆ “จำนวนเงินนี้ค่อนข้างมาก ไม่สามารถส่งมอบให้ฉันได้โดยตรง คุณขอให้พ่อของคุณโอนเงินไปที่แผนกบัญชีของโรงเรียน เงินเข้าบัญชีแล้ว ฉันค่อยทำเรื่องเบิกจ่ายเอาค่ะ”
“ โอเค ผมเข้าใจ … ” ฉาวหนิงตอบตกลง
“คุณชายฉาว หลงหลิง วันนี้พวกคุณฝึกซ้อมมานานแล้ว การขับร้องของคุณสมบูรณ์แบบจริงๆ ต้องทำให้งานปาร์ตี้ยอดเยี่ยมมากแน่ ใกล้เที่ยงแล้วเราไปหาอะไรทานกันไหม”
“ก็ดี ที่ห้างสรรพสินค้าวั่นต๋ามีร้านอาหารระดับมิชลิน 3 ดาวมิชลินอยู่ รสชาติไม่เลว หลงหลิงคุณเคยไปที่นั่นไหม” ฉาวหนิงยิ้มให้หลงหลิง เมื่อเห็นหลงหลิงส่ายหัวช้าๆฉาวหนิงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “อืม หากหลงหลิงไม่เคยไป งั้นเราไปที่นั่นกัน เดี๋ยวผมจะขับรถพาทุกคนไป”
“เจ๋งมากคุณชายฉาว เรายังไม่เคยกินร้านอาหารระดับมิชลิน 3 ดาวเลย”
“ใช่ โพสต์ลงโมเมนต์ คนอื่นต้องอิจฉามากแน่ๆ”
ต่งอี้และจางเสี่ยวซานคุยกันอย่างตื่นเต้นขณะเก็บข้าวของของตัวเอง และแทบรอไม่ไหวฉาวหนิงโทรให้ผู้ติดตามขับรถ Kaired มาให้
ฉาวหนิงและหลงหลิงเดินนำหน้าฉินหลั่งและคนอื่น ๆ จากนั้นหลีซีมองไปที่ฉินหลั่งและถามฉาวหนิงว่า “คุณชายฉาว เขาไม่ต้องไปด้วยหรอกมั้ง”
ทุกคนหยุด ฉาวหนิงมองไปที่ฉินหลั่งด้วยสายตาเย้ยหยันและแววตาของเขาดูเหมือนจะพูดว่า “พวกนายก็เป็นเหมือนโจรขโมยไก่ พอได้ยินว่าฉันจะไปร้านอาหารมิชลินสามดาว ก็เดินตามมาด้วย ขี้เหนียวไหมล่ะ”
ฉินหลั่งแสร้งเป็นไม่เห็นดวงตาของเขา เขาแค่อยากมีโอกาสใกล้ชิดกับหลงหลิงมากขึ้น
“หลงหลิง คุณจะพาเขาไปไหม รถผมนั่งได้แค่ 5 คน” ฉาวหนิงถาม
หลงหลิงมองไปที่ฉินหลั่ง เห็นเขามองตนอยู่อย่างทื่อๆ แววตาแฝงไปด้วยความลึกซึ้ง ฉาวหนิงคิดว่าฉินหลั่งมองหลงหลิงเป็นจงยู่ มันถลำลึกขึ้นเรื่อยๆเขาจึงพูดอย่างโหดร้าย “เราจะอเมริกันแชร์กัน ฉินหลั่งคงไม่มีเงินจ่าย เราไปกันเองเถอะ”
หลงหลิงรู้ว่าฉินหลั่งไม่มีเงิน จึงคิดถึงเหตุผลนี้ในการปฏิเสธเขา เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อพูดจบ เธอรู้ว่าตอนซ้อมในหอประชุมผู้คนมักไม่ใช้เรื่องเงินมาล้อเลียนฉินหลั่ง แม้ว่าเธออยากจะปฏิเสธเขา แต่เธอก็ไม่ควรใช้เหตุผลที่ทำร้ายจิตใจแบบนี้ แต่ก็พูดออกไปแล้ว หลงหลิงไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จึงหันกลับไม่หันไปมองเขาอีก
“ฮ่าฮ่า ใช่ เราจะอเมริกันแชร์กัน ยาจกที่น่าสงสารนี้ไม่มีเงินจ่ายหรอก คิดจะมาหลอกกินเหรอ ไม่มีทาง” หลีซีหัวเราะ เธอรู้ว่าที่หลงหลิงบอกว่าอเมริกันแชร์เพื่อหาเหตุผลปฏิเสธฉินหลั่ง ไม่ได้แชร์จริงๆ จึงกล้าผยองแบบนั้น
“ไปกันเถอะ” ฉาวหนิงเหลือบมองไปที่ฉินหลั่งอย่างมีชัย เดินเคียงไหล่ออกจากเวทีไปพร้อมกัน ทั้งห้าคนขึ้นรถขับออกไป เหลือเพียงฉินหลั่งที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่บนเวที

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset