รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 243 ยกเลิกข้อห้ามแล้วกลับไปที่ตระกูลฉิน

บทที่ 243 ยกเลิกข้อห้ามแล้วกลับไปที่ตระกูลฉิน
ปล่อยหลงหลิงไปอย่างสิ้นเชิง ก็หมายความว่า คำสั่งห้ามของครอบครัวฉินหลั่งจะถูกยกเลิก
นี่คือสิ่งที่ฉินหยวนไม่อยากจะเห็นมากที่สุด ถ้าเกิดว่าคำสั่งห้ามของครอบครัวถูกยกเลิกแล้ว ฉินหลั่งก็จะได้กลับไปที่ตระกูลฉิน
เขาส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ ฉินหลั่งปล่อยหลงหลิงไปได้ยังไง? นี่ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย!
“ฉินหลั่ง นี่นายพูดอะไรของนาย? ผู้หญิงคนนี้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายกับนายมาก็ตั้งเยอะแยะ แต่ว่าตอนนี้นายจะปล่อยเธอไปยังงั้นเหรอ? นี่นายเป็นผู้ชายรึเปล่า! ”ฉินหยวนชี้หน้าด่าฉินหลั่ง
“เธอเจอบ้านของตัวเองแล้ว สำหรับเธอแล้วนั้น ไม่ว่าฉันจะไปพัวพันกับเธอขนาดไหน ก็มีแต่จะทำให้เธอรังเกียจฉันมากกว่าเดิมเท่านั้น ฉันรักเธอ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยเลือกที่จะจากไป” ฉินหลั่งพูด ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดกับตัวเอง หรือว่าพูดกับหลงหลิงอยู่กันแน่
“เหอะ ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง นี่นายกำลังหาข้ออ้างให้ตัวเองอยู่ชัดๆ อะไรที่หมายความว่า ‘นายรักเธอ ก็เลยเลือกจะจากไป’? ไร้สาระ! ถ้าเกิดว่ารักก็ไม่ควรจะทิ้งเธอไปสิ ควรจะอยู่ข้างๆ เธอสิ! ถ้าเกิดว่านายอยากได้หลงหลิง ฉันในฐานะที่เป็นน้องชายจะช่วยนายเอง ฉันจะให้ตระกูลหยูคืนหลงหลิงให้กับนาย นายอยากได้หลงหลิงไหม? ” ฉินหยวนถามอย่างตื่นเต้น
เขาหวังว่าฉินหลั่งจะยึดมั่นในตัวหลงหลิง แล้วคำสั่งห้ามทางครอบครัวในตัวของเขาก็จะไม่มีวันถูกยกเลิก
ฉินหลั่งค่อยๆ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันพูดไปแล้ว ว่าฉันจะปล่อยหลงหลิงไป ถ้ายังงั้นคำสั่งห้ามทางครอบครัวของฉันก็จะถูกยกเลิกแล้วใช่ไหม? ”
“ข้อห้ามทางครอบครัวของนาย……”ฉินหยวนอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก
ก่อนที่จะมาที่นี่ ฉินป๋อสงบอกแล้วว่า ขอแค่ฉินหลั่งยอมปล่อย ข้อห้ามทางครอบครัวของเขาก็จะถูกยกเลิกทันที
แต่ว่าฉินหยวนไม่เต็มใจที่จะให้คำสั่งข้อห้ามของฉินหลั่งถูกยกเลิก ถ้าเกิดว่าฉินหลั่งกลับไปที่ตระกูลฉินเมื่อไหร่ จะถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างมากสำหรับเขา
โข่งลิ่งเสียนได้ยินท่าทีของฉินหลั่ง ก็จิตใจเบิกบาน เขาเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของฉินหยวน ก็สามารถคาดเดาท่าทีความต้องการของเจ้าบ้านอย่างฉินป๋อสงได้ ทันใดนั้นเขาก็โค้งคำนับแล้วพูดเสียงดังว่า “คุณชายใหญ่ ยินดีด้วยที่คำสั่งห้ามของคุณถูกยกเลิกแล้ว จะได้กลับไปสู่ตระกูลฉิน! ”
เสิ่นวั่นเชียนก็พูดขึ้นมาเหมือนกัน “คุณชายใหญ่ ยินดีด้วยที่ข้อห้ามถูกยกเลิก ได้กลับไป ตระกูลฉิน!”
มือปืนทั้ง10คนที่โข่งลิ่งเสียนนำมา พอได้ยินคำพูดของโข่งลิ่งเสียน ก็พูดออกมาเสียงดังเหมือนกัน “ยินดีด้วยที่คุณชายใหญ่ถูกยกเลิกข้อห้าม ได้กลับไปตระกูลฉินแล้ว!”
เสียงเฮดังก้องไปทั่วห้องโถง
หยูจื้อพอได้ยินคำพูดของโข่งลิ่งเสียน ก็สั่นไปทั้งตัว ฉินหลั่งก็คือ “คุณชายใหญ่! ”
หยูจื้อรับรู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลฉิน ที่ตระกูลหยูสามารถพัฒนามาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหลินอานได้นั้น จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากตระกูลฉิน แต่ว่าเขาไม่เคยเจอคนจากตระกูลฉินมาก่อนเลย
เขารู้ว่าโข่งลิ่งเสียนเป็นคนที่ทำงานให้ตระกูลฉิน ก่อนหน้านี้ก็เคยถามเขาเป็นพิเศษ ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองจะได้เจอคนจากตระกูลฉิน! ส่วนคำตอบที่โข่งลิ่งเสียนมอบให้เขาก็คือ ความสามารถของเขามันอ่อนแอเกินไป คุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ของตระกูลฉิน
หยูจื้อในฐานะที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหลินอาน ยังคุณสมบัติไม่เพียงพอ ถ้ายังงั้นตระกูลฉินที่ลึกลับนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน!
พอได้ยินคำพูดของโข่งลิ่งเสียนแล้ว เขาก็ตัดสินได้ในทันทีว่า ฉินหลั่งก็คือคุณชายใหญ่ของที่ลึกลับ ส่วนชายหนุ่มอีกคนหนึ่งนั้นก็คือน้องชายของตระกูลฉิน และเขาก็ต้องเป็นคุณชายของตระกูลฉินอย่างแน่นอน
ปกติเขาได้แต่ใฝ่ฝันที่จะได้เจอคนจากตระกูลฉิน แต่ว่าตอนนี้กลับได้เจอถึง2คนในพริบตาเดียว!
หยูจื้อมอง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เมื่อ10นาทีก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกรังเกียจในสายตาของเขา แต่ว่าตอนนี้สายตาของหยูจื้อเต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรง!
พอคิดว่าเมื่อกี้ตัวเองส่งคนไปยิงฉินหลั่ง หยูจื้อก็ใจสั่นทันที!
เขารีบเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างๆ ฉินหลั่ง แล้วก็คุกเข่าต่อหน้าเขา
เขาคุกเข่าต่อหน้าฉินหลั่ง แล้วก็ร้องไห้งอแง “ผู้ใต้บังคับบัญชาหยูจื้อได้เจอกับคุณชายใหญ่แล้ว ยินดีกับคุณชายใหญ่ด้วยครับที่ได้กลับตระกูลฉิน ผมมันสมควรตาย กลับกล้าที่จะยิงคุณ ได้โปรดลงโทษผมได้เลยครับ”
คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องโถงนั้นอึ้งไปเลย เมื่อกี้หยูจื้อยังสาบานว่าจะฆ่าฉินหลั่ง ตอนนี้กลับคุกเข่าขอความเมตตาจากเขา
ส่วนพวกเขายังอยู่ต่ำกว่าตระกูลหยูอีก ไม่รู้แม้แต่การมีตัวตนอยู่ของตระกูลฉินที่ลึกลับ จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่รู้เลยว่า สรุปแล้วฉินหลั่งคือใครกันแน่ โข่งลิ่งเสียนแห่งเซี่ยงไฮ้ที่เป็นคนใหญ่คนโตขนาดนั้น ยังเรียกเขาว่าคุณชายใหญ่ ส่วนหยูจื้อ เจ้าบ้านของตระกูลอันดับหนึ่งแห่งหลินอานยังคุกเข่าต่อหน้าเขา
หยูจื้อนึกถึงเมื่อกี้ ที่คนอื่นก็ต่างด่าฉินหลั่ง ก็พลางคิดว่าตัวเองคุกเข่าอยู่แบบนี้ก็ไม่มีทางทำให้ความโกรธในใจของฉินหลั่งเบาลงไปได้หรอก
คนที่ดูถูกฉินหลั่งเมื่อกี้นี้ควรจะคุกเข่าขอโทษ มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่อาจจะทำให้ฉินหลั่งยกโทษให้
ถ้าเกิดว่าฉินหลั่งกำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขาเมื่อไหร่ แล้วเปลี่ยน20ตระกูลแรกของหลินอาน ทำให้พวกเขากลายเป็นขอทานข้างถนนก็เป็นไปได้
หยูจื้อที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นก็มองไปที่คนอื่นๆ แล้วก็ด่าว่า “พวกแกยังมัวงงอะไรกันอยู่ ตัวเองทำเรื่องเลวๆ ยังไม่รู้ตัวอีกรึไงกัน รีบคุกเข่าให้คุณชายใหญ่เดี๋ยวนี้! ขอร้องให้เขายกโทษให้! ”
ทุกคนมองหน้ากัน พวกเขามองหน้าหยูจื้ออย่างมึนงง หยูจื้อแค่คุกเข่าคนเดียวยังไม่พอ แถมยังให้คนอื่นคุกเข่ากับพวกเขาอีก
แต่ว่าคนอื่นๆ ไม่ได้ไม่พอใจอะไรหยูจื้อเลย พวกเขาได้วินิจฉัยอย่างแน่ชัดแล้วว่า ฉินหลั่งทำให้หยูจื้อกลัวจนเป็นสภาพนี้ได้ แสดงว่าภูมิหลังของเขาต้องเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการแน่นอน
พวกเขาอยากจะคุกเข่า แต่ว่าไม่มีใครนำ ทุกคนต่างก็มองหน้ากันอย่างลังเล
“หยูหมิง!”
หยูจื้อมองไปที่ลูกชายของตัวเอง แล้วก็ตะคอกเสียงดัง เสียงตะคอกนี้ทำให้หยูหมิงตกใจจนหัวใจเกือบจะหยุดเต้น เขามองไปที่พ่อของตัวเองอย่างหมดหนทางด้วยสีหน้าที่งุนงง
“ไอ้เด็กเวรนี้ รีบคุกเข่าให้คุณชายใหญ่เดี๋ยวนี้! วันนี้ไม่ว่าคุณชายใหญ่จะจัดการกับพวกเรา2พ่อลูกยังไง พวกเราก็ต้องยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข! ถ้าเกิดว่าไอ้เด็กเวรอย่างแกกล้าแม้แต่ขมวดคิ้ว ฉันจะเป็นคนฆ่าแกก่อนเลย! ยังรออะไรอยู่ คุกเข่าสิ! ” หยูจื้อตะคอกออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
ที่จริงแล้วเขากำลังช่วยลูกชายของตัวเองอยู่ คุกเข่าลงก่อนดีกว่าคุกเข่าทีหลัง! ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้เขาคือคนที่โห่ร้องแรงที่สุดแล้ว
“เอ่อ…ครับ ผมจะคุกเข่า….” หยูหมิงรู้สึกได้ถึงวิกฤตขั้นรุนแรง กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ หยูหมิงที่หลงหลิงกำลังประคองอยู่นั้น ค่อยๆ เดินออกมาจากกลุ่มคน ยังสามารถมองเห็นรอยปัสสาวะบนกางเกงของเขาเมื่อกี้นี้ได้อยู่เลย
เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉินหลั่งด้วยขาที่สั่น หัวเขาอ่อนแรง แล้วก็คุกเข่าลงที่พื้น
เนื้อตัวของเขาสั่นไม่หยุด เขาคุกเข่าไปด้วย แล้วก็พูดอย่างสั่นเครือว่า “คุณ คุณชายใหญ่ เมื่อกี้….เมื่อกี้ผมผิดไปแล้ว ผม…ผมสมควรตาย ที่จะใช้…นักพรตเต๋าขู่เสวียนมาจัดการคุณ ผม…สมองผมมันมีแต่ขี้เลื่อย …ผมรับปากว่า…ต่อไป…ต่อไปไม่กล้าอีกแล้วครับ ขอร้องให้คุณช่วยปล่อยผมไปสักครั้ง…”
หลงหลิงเองก็คุกเข่ากับหยูหมิงเหมือนกัน ตอนนี้ในใจของเธอเห็นหยูหมิงเป็นสามีแล้ว
หยูหมิงไม่สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่พยายามพูดความผิดของตัวเอง ขอร้องให้ฉินหลั่งให้อภัย
ในตอนนั้น หลงหลิงก็รู้สึกไม่คุ้นเคย เธอมองหน้าหยูหมิงด้วยความงุนงง ในใจเกิดความรู้สึกไม่พอใจและดูถูก
หยูหมิงในตอนนี้เหมือนคนแปลกหน้า ไม่ใช่หยูหมิงคนที่เธอรู้จักเลย
คนอื่นๆ พอเห็นว่าหยูหมิงคุกเข่าลงแล้ว พวกเขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป หลายคนวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉินหลั่งแล้วพากันคุกเข่า
จากนั้นก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ทุกคนรีบแย่งกันคุกเข่าลง ในห้องโถงขนาดใหญ่นี้ เหลือเพียงแต่ฉินหลั่งกับพวกเขา10คนที่ยังคงยืนอยู่
ห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงสำนึกผิดและร้องขอความเมตตา ผู้หญิงหลายคนร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว สถานที่นี้เหมือนกับญาติที่มางานศพยังไงยังงั้น
ฉินหลั่งเดินไปหาหลงหลิงช้าๆ
หยูหมิงเห็นฉินหลั่งเดินเข้ามา ก็ตกใจจนหัวใจจะหลุดออกมานอกเบ้าตา เขาเหงื่อออก แล้วก็ก้มหัวลงมากกว่าเดิม เนื้อตัวก็สั่นมากขึ้น “คุณชายใหญ่ ผม…ผมสมควรตาย ขอร้อง…ให้อภัยผมเถอะครับ ให้โอกาส….โอกาสผมอีกครั้งเถอะ….”
ตอนที่ฉินหลั่งยืนอยู่ข้างๆ เขานั้น หยูหมิงกลั้นไม่ไหว กระแสความร้อนก็ไหลออกมาอีกครั้ง ทำให้เป้ากางเกงของเขาเปียก
“ลุกขึ้น” ฉินหลั่งพูดอย่างใจเย็น
“ครับ…”หยูหมิงค่อยๆ ลุกขึ้นเพราะมีหลงหลิงประคองอยู่ ถ้าเกิดว่าไม่มีหลงหลิงคอยประคองอยู่ แม้แต่ยืนเขาก็ไม่สามารถยืนได้แน่นอน
ฉินหลั่งมองหยูหมิงแล้วพูดว่า “ต่อไปนี้หลงหลิงคือภรรยาของนาย ถ้าเกิดฉันรู้ว่าเธอไม่มีความสุข ฉันจะมาคิดบัญชีกับนายแน่! ”
หยูหมิงหน้าซีด แล้วพูดอ้ำอึ้ง “ครับ…”
สุดท้ายแล้วฉินหลั่งก็มองหน้าหลงหลิง แล้วก็เดินออกจากห้องโถงไป
โข่งลิ่งเสียนพูดกับคนในห้องประชุมว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด ห้ามเอาไปพูดต่อข้างนอกเด็ดขาด ถ้าเกิดว่าใครกล้าขัดขืน ก็เตรียมรับผลที่ตามมาได้เลย”
คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นตัวสั่น พวกเขาแค่กล้าตอบเสียงเบาว่า “ครับ/ค่ะ….”
พอโข่งลิ่งเสียนพูดจบ ก็ส่งสัญญาณให้ฉินหยวน แล้วก็พาคนของเขาออกไป
ฉินหยวนยืนอยู่ตรงกลางห้องประชุม ความคับแค้นอัดแน่นอยู่ในใจระบายออกไปไม่ได้!
ฉินหลั่งกลับเลือกที่จะปล่อยหลงหลิงไป คำสั่งห้ามของครอบครัวถูกยกเลิกอย่างน่าอัศจรรย์!
ฉินหลั่งได้กลับไปที่ตระกูลฉิน ถ้ายังงั้นสำหรับเขาแล้ว ก็ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก!
“โว้ย–”
พอคิดถึงความล้มเหลวของตัวเอง ฉินหยวนก็โมโหเป็นอย่างมาก เขาคำรามออกมา เพื่อระบายความโมโหที่อยู่ภายในใจ
เขาเตะใครบางคน และตะคอกด่าว่า “ไอ้พวกโง่ ไอ้ฉินหลั่งนั่นมันมีอะไรน่ากลัวกัน ถึงต้องคุกเข่าให้มัน ไอ้พวกเศษกระดูก! ”
ฉินหยวนเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ หลงหลิง แล้วก็ใช้มือหนึ่งบีบคางของเธอไว้ พร้อมกับพูดกับเธออย่างเลวทรามว่า “ยังโสเภณีชั้นต่ำ ทำไมเธอถึงปฏิเสธฉินหลั่ง ถ้าเกิดว่าเธอไม่พูดอะไรที่ไร้หัวใจขนาดนั้น เขาก็คงไม่ยอมปล่อยเธอไป แล้วก็ข้อห้ามของครอบครัวก็จะไม่ถูกยกเลิก! ”
หลงหลิงถูกบีบคางจนเจ็บไปหมด เธอมองไปที่หยูหมิง ตอนที่อยู่ที่ทะเลสาบตะวันตกนั้น หยูหมิงนั้นต่อให้ตัวเองจะตาย ก็จะปกป้องเธอให้ดี เธอรู้สึกว่าหยูหมิงต้องยื่นมือออกมาปกป้องเธออย่างแน่นอน
แต่ว่าหลงหลิงก็ต้องผิดหวัง เพราะว่าหยูหมิงได้แต่คุกเข่าตัวสั่นอยู่ที่พื้น แม้แต่หน้ายังไม่กล้าเงยขึ้นมามองเลย
ฉินหยวนจิกหัวของหยูหมิงให้เงยหน้าขึ้นมา ให้เขามองเพดานด้วยท่าทางที่ดูแย่มาก แล้วยิ้มเยาะให้หลงหลิงพร้อมกับพูดว่า “เธอคิดว่าไอ้ขี้ขลาดคนนี้จะปกป้องเธองั้นเหรอ? เหอะ ตลกกันใหญ่แล้ว! เธอเชื่อไหม ต่อให้ฉันถอดเสื้อผ้าของเธอออกตอนนี้ ไอ้คนนี้ยังไม่กล้าแม้แต่ตดเลย! ”
“ปึง! ” ฉินหยวนกระแทกศอกใส่หัวของหยูหมิง หยูหมิงล้มลงที่พื้นเหมือนกับหมาตายยังไงยังงั้น
หลงหลิงร้อนรนแล้ว เธอพยายามสะบัดมือของฉินหยวน อยากจะเช็กอาการของหยูหมิง
“ถ้าเกิดว่าตอนนี้เป็นฉินหลั่งล่ะก็ เขาคงทำร้ายฉันโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่ว่าสามีของเธอคนนี้ กลับนอนแกล้งตายอยู่ที่พื้น! ตลกสิ้นดี ที่เธอยอมทิ้งฉินหลั่ง เพราะไอ้ขยะคนนี้! ”
ฉินหยวนยิ้มเย้ยพร้อมกับพร้อมออกมา ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความกระหายเลือด เขากัดฟันแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “โสเภณีอย่างเธอที่ทำลายแผนของฉัน ฉันจะฆ่าเธอซะ! ”
พอพูดจบ มือของเขาที่จับคางของหลงหลิงไว้นั้น ก็ย้ายมาที่คอของเธอ แล้วก็ออกแรง หลงหลิงรู้สึกว่าหายใจลำบากแล้ว
ฉินหยวนหัวเราะอย่างสนุกสนานแล้วพูดว่า “ฉันจะค่อยๆ ออกแรงขึ้นทีละนิด ให้เธอตายไปต่อหน้าฉันช้าๆ! กระบวนการนี้มันต้องสดชื่นเป็นพิเศษแน่นอน! ”
ท่านโสงค่อยๆ โค้งร่างกายที่งอมแงมของเขา พร้อมกับกระซิบพูดด้วยความเป็นกังวลว่า
“คุณชายรอง อย่าพึ่งหุนหันพลันแล่นเลยครับ ถึงแม้ว่าฉินหลั่งจะยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว แต่ว่ามันชัดเจนว่าในใจของฉินหลั่ง เธอยังคงครองตำแหน่งสำคัญ ถ้าเกิดว่าคุณฆ่าเธอตอนนี้ ไม่แน่ว่าคืนนี้ ฉินหลั่งอาจจะหันหน้ามาหาคุณ แบบนั้นมันจะไม่ใช่ข่าวดีกับพวกเราเท่าไหร่นะครับ แล้วอีกอย่าง ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผลดีต่อพวกเรา เอาไว้ถึงเวลาเมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นอาวุธวิเศษที่ทำให้พวกเราชนะก็ได้! ”
พอฉินหยวนได้ยินสิ่งที่ท่านโสงพูด เขาก็สงบลงหน่อยก็เลยยอมปล่อยหลงหลิง หลงหลิงรีบสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในทันที
“ฉินหลั่งก็แค่กลับมาอยู่ระดับเดียวกับฉันเท่านั้น ฉันก็ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้มันพ่ายแพ้ แบบนี้ค่อยน่าสนุกขึ้นหน่อย ฉันจะทำให้มันรู้ว่า เมื่อมาเทียบกับฉันแล้ว มันแย่แค่ไหน! ”
ฉินหยวนหันหลังเดินออกจากห้องประชุมไป ท่านโสงก็เดินตามเข้าออกไปเหมือนกัน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset