รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 253 ตั้งแต่บัดนี้ไม่ใช่คนตระกูลฉินอีกต่อไป

บทที่ 253 ตั้งแต่บัดนี้ไม่ใช่คนตระกูลฉินอีกต่อไป
เมื่อกี้ตอนที่ฉินเว๋ยหย้วนจำหลินจูได้ ฉินหลั่งก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าหลินจูจะเป็นลูกสาวของอาคนที่เก้า งั้นเธอก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาด้วย
เขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่เขายังเด็ก มีแม่ลูกคู่หนึ่งมาอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นเขายังเด็กและไม่รู้ว่าแม่ลูกนั้นเป็นใคร เมื่อโตขึ้นเขาถามพ่อแม่ จึงรู้ว่าแม่ลูกนั่นเป็นภรรยาและลูกสาวของอาเก้า
เขาจำได้ว่าเขาเคยสัมผัสกับแม่ลูกคู่นั้นเพียงครั้งเดียว เมื่อเขาเล่นข้างนอกเสร็จ เขาก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นในบ้าน เห็นเด็กผู้หญิงน่าเกลียดยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นและทำเครื่องบินของเล่นของเขาพัง
ฉินหลั่งโกรธมาก เขาจึงรีบไปด่าเธอ เด็กสาวก็ด่าเขากลับ และจากนั้นทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กัน ฉินหลั่งที่เป็นเด็กผู้ชาย เขาทุบตีเด็กผู้หญิงจนเธอร้องไห้ แล้วแม่ของเธอก็พาเธอไป หลังจากนั้นแม่ลูกก็อยู่ในห้องอีกด้านหนึ่งของวิลล่า และฉินหลั่งก็ไม่เคยติดต่อพวกเขาอีกเลย จนกระทั่งพวกเขาออกไป
ตอนนี้ฉินหลั่งรู้แล้วว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ปีนั้นก็คือหลินจู!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่หลินจูพูดกับเขาก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งก็ตกใจอีกครั้ง คิดว่าหลินจูแอบรักตนมาตลอด?
เขามองไปที่หลินจู สายตาประสานกัน แววตาของหลินจูนั้นสงบมาก เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจด้วยว่าเด็กชายที่เธอรำลึกอยู่ตลอดมาคือตัวเขาเอง
ฉินป๋อสงลังเล เขารู้สึกผิดต่อหลินจู แต่ฉินหลั่งก็ต้องโดนลงโทษ ทุกคนที่อยู่ด้านล่างกำลังรอการตัดสินใจของเขา
ฉินป๋อสงครุ่นคิดสักครู่และกล่าวว่า “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของฉันได้ ถ้าฉินหลั่งไม่ต้องการรับโทษ งั้นก็ง่าย ออกจากตระกูลฉินไป ทั้งโทษของตนและโทษของพ่อแม่จะได้รับการยกเว้น ตัดสินใจอย่างไร เธอก็คิดเอาเอง”
ออกจากตระกูลฉิน! ครอบครัวฉินตกตะลึง และเกิดความโกลาหลขึ้นในห้องโถง สิ่งนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าโทษโบย 100 ครั้งเสียอีก เมื่อถอนตัวนั่นหมายความว่าฉินหลั่งไม่ใช่คนตระกูลฉินอีกต่อไป ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งประมุขของตระกูล
ฉินหยวนดีใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาตะโกนในใจ “ออกไป ออกไป…”
เมื่อคนอื่นได้ยินคำพูดของฉินป๋อสง พวกเขาก็ลุ้นเหมือนกันว่าฉินหลั่งจะตัดสินใจอย่างไร พวกเขารู้สึกว่าฉินหลั่งจะยอมถูกทุบตีมากกว่าที่จะถอนตัวออกจากตระกูลฉิน เพราะฉินหลั่งมีโอกาสที่ดีในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประมุขของตระกูล หากตำแหน่งอยู่ในมือเขา เขาจะมีความสุขมากกว่าผู้นำของประเทศใหญ่ซะอีก
บางคนคิดว่าฉินหลั่งโง่มากที่จะทำให้ฉินป๋อสงโกรธ เพื่อผู้หญิงในหมู่บ้านบนภูเขาคนหนึ่ง! ถ้าเป็นพวกเขา พวกเขาจะไม่ทำผิดเพราะผู้หญิงตั้งแต่แรกแน่นอน!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ฉินหลั่ง ฉินหลั่งคิดในใจสักสองสามวินาที ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและค่อยๆหันหน้าไปทางคนด้านล่าง
คนอื่น ๆ กำลังสงสัยว่าฉินหลั่งกำลังจะทำอะไร
ฉินหลั่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างช้าๆ เขาก้มคำนับ 3 ครั้งไปยังญาติที่อยู่ด้านล่าง ยืนขึ้นอีกครั้งเดินไปข้างหน้าพ่อแม่แล้วคำนับอีก 3 ครั้งและในที่สุดเขาก็เดินไปที่ฉินป๋อสง คุกเข่าลงและคำนับอีก 3 ครั้ง
เมื่อฉินหลั่งลุกขึ้นยืนอีกครั้ง มีรอยแดงเกิดขึ้นบนหน้าผากของเขา เขามองไปที่ฉินป๋อสงและพูดว่า “คุณปู่ ฉินหลั่งทายาทที่ไร้ยางอายของตระกูลฉิน ขอถอนตัวจากตระกูลฉินโดยสมัครใจ ต่อจากนี้ผมไม่ใช่คนตระกูลฉินและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลฉินอีก!” เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉินหลั่งรู้ว่าเขามีทางเลือกเดียวเท่านั้น
เสียงของฉินหลั่งไม่ดัง แต่มันสั่นสะเทือนหัวใจของตระกูลฉิน ทุกคนในบรรดารุ่นที่สามของตระกูลฉิน ฉินหลั่งคือคนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดจากฉินป๋อสงได้ถอนตัวจากตระกูลฉิน! ช่างน่าเสียดาย
ฉินเว๋ยเฉิงและจ้าวหมิงหมิงต่างทั้งดีใจและเสียใจเมื่อได้ยินการตัดสินใจของฉินหลั่ง
หลินจูมองไปที่ฉินหลั่ง เธอรู้ว่าในขณะนี้หัวใจของฉินหลั่งต้องขมขื่นอย่างมาก
“ดี ถอนตัวออกแล้ว ดี” ฉินป๋อสงมองไปที่ฉินหลั่งด้วยรอยยิ้ม จากนั้นน้ำตาก็ค่อยๆเอ่อขึ้นในดวงตาของเขาและกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็สั่น นี่คือการแสดงออกที่หายากของชายชราคนนี้
“ถอนตัวแล้ว ไม่ต้องยืนอยู่ที่บ้านตระกูลฉินอีก เก็บของและออกจากเกาะฟ้าไป หลังจากนี้จะเป็นหรือตายก็จะไม่มีใครสนใจแก! ออกไป ออกไปจากที่นี่เลย!”
ฉินป๋อสงรู้สึกเศร้าจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเสียฟอร์มต่อหน้าครอบครัว
“คุณปู่ ลาก่อน” ฉินหลั่งเหลือบมองไปที่ฉินป๋อสงเป็นครั้งสุดท้าย พูดกับพ่อแม่ญาติคนอื่น ๆ และเพื่อน ๆ สองสามคำและเดินออกจากห้องโถง หญิงสาวทั้งสี่ ลม ดอกไม้ หิมะ ดวงจันทร์ ตามออกไป หลินจูต้องการทำตาม แต่เธอถูกฉุ่เฉิงควบคุมไว้จึงออกไปไม่ได้
“จูเอ๋อ ให้พ่อดูลูกชัดๆสิ” ฉินเว๋ยหย้วนผลักคนแผนกลงโทษออกและเดินไปที่หลินจูเพื่อต้องการดูลูกสาวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไปให้พ้น!”
หลินจูตะโกนด้วยความโกรธ เธอไม่มองฉินเว๋ยหย้วน แม่ของเธอบอกกับเธอตั้งแต่เธอยังเด็กว่าพ่อของเธอชื่อว่าฉินเว๋ยหย้วน แต่หลินจูเกลียดพ่อเพราะเธอไม่เคยเห็นพ่อของเธอและมีแค่แม่ที่พึ่งพากันและกันมาตลอด
เมื่อเธอโตขึ้น หลินจูก็จินตนาการว่าพ่อของเธอเป็นคนทรยศ เธอยังคิดว่าวันหนึ่งเมื่อเธอพบพ่อของเธอ เธอจะต้องฆ่าเขา
“ แม่เสียชีวิตเพราะคิดถึงคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แม่คงไม่ตาย ทำไมคุณต้องทำร้ายเรา! คุณโกหก ฉันเกลียดคุณแทบตาย”
“อะไรนะ! ชิงชิง … ตายแล้ว” ฉินเว๋ยหย้วนถึงกับผงะ เขาหมดเรี่ยวแรงจนเกือบล้มลงกับพื้น เขากล่าวด้วยความอาลัยอย่างแผ่วเบา “ฉันขอโทษ ฉันทำให้พวกเธอต้องทนทุกข์ทรมาน มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ……”
“จูเอ๋อ อันที่จริงผู้กระทำผิดตัวจริงคือเขา” ฉินเว๋ยหย้วนชี้ไปที่ฉินป๋อสง แล้ววิงวอน “ตอนนั้นฉันไม่สามารถทำอะไรได้ หนูจะให้โอกาสฉันชดเชยได้ไหม ฉันเป็นพ่อนะ!” “ไปให้พ้น เหี้ย!”
หลินจูกระแทกร่างกายของฉินเว่ยหย้วนด้วยกำปั้น จากนั้นก็ยกดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอขึ้นมองฉินเว๋ยหย้วน เมื่อเธอเห็นความรักในดวงตาของฉินเว๋ยหย้วน หลินจูก็ทนไม่ได้ เธอกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของฉินเว๋ยหย้วน ซบและร้องไห้โฮบนไหล่ของเขา “พ่อ ทำไมพ่อไม่ต้องการเรา พ่อรู้ไหมว่าแม่กับฉันมีชีวิตที่ยากลำบากขนาดไหนในบรูไน …”
ตั้งแต่เด็กเธออยากมีพ่อเธอมาก เมื่อกี้ได้ยินว่าความจริงแล้วฉินเว๋ยหย้วนรักแม่ลูกทั้งสองมาก แต่เพราะฉินป๋อสงคอยขัดขวาง
“ เด็กดี กลับมาหาพ่อนะ พ่อจะชดเชยสิ่งที่ติดค้างหนูตลอด 20 ปีนี้ให้” ฉินเว๋ยหย้วนกล่าวพร้อมกับลูบผมนุ่ม ๆ ของหลินจู
ถัดไปงานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินต่อไป แต่บรรยากาศหดหู่มาก
หลังจากฉินป๋อสงตัดเค้กแล้ว เขาก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องโถง!
ครอบครัวของฉินหยวนมีความสุขเป็นพิเศษ ในเวลานี้ฉินเว๋ยเจียนถึงจะยอมรับฉินหยวน เขายกแก้วไปทางฉินหยวนแล้วพูดว่า “ลูกชาย เชียร์ส!”
ฉินหยวนมองไปที่ฉินเว๋ยเจียนด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้ชนแก้วกับเขา ในความคิดของเขา พ่อของเขาเป็นแค่คนที่เห็นตัวเองชนะ เลยมาโบกธงและโห่ให้ คนแบบนี้สู้ฉาวหนิงก็ไม่ได้ เขาจึงขี้เกียจไปสนใจ
ในเวลานี้ฉินเว๋ยเจียนไม่ได้แสดงความโกรธ เขายิ้มเฉื่อยและดื่มไวน์แก้วนั้นด้วยตัวเอง
“สามีคะ ไปดูพี่ใหญ่และพี่สะใภ้กันเถอะ” หลิ่วเพียวเพียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลิ่วเพียวเพียวชอบเปรียบเทียบกับจ้าวหมิงหมิงเสมอ และทุกครั้งก็เทียบไม่ได้ แต่วันนี้แตกต่างออกไป ลูกชายของจ้าวหมิงหมิงถูกไล่ออกจากบ้าน จ้าวหมิงหมิงจะสู้ตัวเองได้อย่างไร?
หลิ่วเพียวเพียวและฉินเว๋ยเจียนมาที่โต๊ะของฉินเว๋ยเฉิงพร้อมกับแก้วไวน์ หลิ่วเพียวเพียวยิ้มและพูดว่า “วันนี้เป็นวันดี มาดื่มกันเถอะค่ะ!”
“เธอพูดว่าอะไรนะ!” จ้าวหมิงหมิงลุกเป็นไฟ
ลูกชายของเธอถูกไล่ออกจากบ้าน หลิ่วเพียวเพียวกล่าวว่าเป็นวันดี เธอจงใจดูถูกเธอชัดๆ “ทำไมเหรอ วันนี้เป็นวันเกิดพ่อ ฉันบอกว่าวันนี้เป็นวันดีไม่ถูกเหรอ!เธอว่ามาสิ” หลิ่วเพียวเพียวไม่เต็มใจที่จะแสดงความอ่อนแอ
จ้าวหมิงหมิงมองไปที่หลิ่วเพียวเพียวด้วยความโมโห ตาของเธอเป็นสีแดง ฉินเว๋ยเฉิงกอดเธอเบา ๆ และกระซิบข้างหูเธอ “อย่าหุนหันพลันแล่น …”
หากมีบางอย่างเกิดขึ้นในครอบครัวอีกครั้ง และไปเข้าหูของฉินป๋อสง จะเป็นผลดีต่อพวกเขา
“เฮ้ บอกไม่ได้ใช่ไหม”
หลิ่วเพียวเพียวยิ้มอย่างมีชัย เธอเขย่าแก้วในมือแล้วยิ้มอย่างสบายใจ “จริงๆแล้วฉันชอบฉินหลั่งหลานชายคนนี้มาก เพราะเขาแข่งกับฉินหยวน ทำให้ฉินหยวนเก่งขึ้น แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหาซะเอง โอ้ ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าลูกชายของฉันจะต้องดีขึ้นกว่านี้”
เมื่อเห็นจ้าวหมิงหมิงหน้าเขียว หลิ่วเพียวเพียวรู้สึกสบายใจมากกว่าการฉีดยากระตุ้น!
“พี่ใหญ่! เพียวเพียวเสียมารยาท ความจริงที่ยิ่งใหญ่บางอย่าง วันนี้ที่ฉินหลั่งมีปัญหาเช่นนี้ ไม่สามารถตำหนิเขาได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็เป็นความรับผิดชอบของผู้ใหญ่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เราควรสอนเขาตั้งแต่เด็กว่าสำหรับผู้ชาย ธุรกิจสำคัญกว่าผู้หญิงเสมอ ฮ่า ๆ ๆ”
ฉินเว๋ยเจียนหัวเราะและพูดด้วยรอยยิ้มกับฉินเว๋ยเฉิง
“ขอบคุณที่เตือนฉัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนถึงวินาทีสุดท้ายใช่ไหม” ฉินเว๋ยเฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าใบหน้าเขาจะยิ้ม แต่หัวใจของเขาก็ซับซ้อนยุ่งเหยิง
“ เฮ้ พี่ยังนึกภาพว่าฉินหลั่งสามารถกลับเข้ามาในตระกูลฉินได้อีกเหรอ พี่ใหญ่ปล่อยภาพลวงตาไปเถอะ หลายร้อยปีนี้ คนที่ถูกขับออกจากตระกูลฉิน มีใครได้กลับมาบ้าง!” ฉินเว๋ยเจียนยิ้มอย่างสบาย ๆ มองไปที่ฉินเว๋ยเฉิงและจ้าวหมิงหมิงอีกครั้ง และพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “พี่ทั้งสองอาจจะพยายามอีกครั้ง คลอดลูกชายออกมาอีกคน อาจจะมีโอกาส ฮ่าฮ่า …”
หลังจากพูดเสร็จก็เดินจากไปอย่างภาคภูมิใจ
สมาชิกในครอบครัวฉินจำนวนมาก เข้ามาล้อมรอบฉินเว๋ยเจียนและหลิ่วเพียวเพียวทันที เมื่อก่อนระหว่างฉินหลั่งและฉินหยวน พวกเขาไม่กล้าที่จะเลือกข้างชัดเจน แต่ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว ฉินหยวนมีโอกาสครอบครองตระกูลฉินมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย คนในตระกูลจึงต้องเอาใจพวกเขาเป็นธรรมดา
แต่ละคนเข้าคิวชนแก้วกันเรียงราย
“ เว๋ยเจียน ชนแก้ว ครอบครัวของคุณให้ ‘เทพเจ้าแห่งความอายุยืนถือลูกท้อ’พ่อน่าจะชอบที่สุด!”
“เพียวเพียว วันนี้สวยจัง เธอชอบเครื่องประดับเพชรใช่ไหม ฉันมีเพชรล้ำค่าที่ประมูลที่แอฟริกาใต้ได้ แล้วจะเอามาให้นะ”
“ฉินหยวน ช่างมีความสามารถจริงๆ เขาทำธุรกิจมูลค่าพันล้านดอลลาร์ติดต่อกันหลายรอบ เก่งกว่าพวกเรามาก”
……
ที่โต๊ะของฉินเว๋ยเฉิงและจ้าวหมิงหมิงไม่มีใครมาชนแก้วเลยซักคน มีเพียงฉินเทียน โข่งลิ่งเสียน และท่านหวงเท่านั้นที่นั่งอยู่ที่นี่เพื่อปลอบโยนพวกเขา
ตามกฎของตระกูลฉิน งานเลี้ยงจะจบลงในเวลา 23 นาฬิกา
จ้าวหมิงหมิงโทรหาฉินหลั่งทันทีและรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินเกาะฟ้า พวกเขาจึงรีบตามไปที่นั่น
ฉินหลั่งรออยู่ที่สนามบินเกาะฟ้าเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ครอบครัวของตระกูลฉินอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงต้องออกจากเกาะฟ้าในคืนนี้
“ลม ดอกไม้ หิมะ ดวงจันทร์” หญิงทั้งสี่อยู่เคียงข้างฉินหลั่ง ทำให้เขาไม่เหงา
“หลั่งเอ๋อ!” ในที่สุดจ้าวหมิงหมิงและพรรคพวกก็มาถึง!
เมื่อจ้าวหมิงหมิงเห็นฉินหลั่ง เขาก็เหวี่ยงตัวไปโอบกอดเขาและร้องไม่หยุด “เจ้าโง่มากเจ้าไม่เหมือนลูกชายของแม่ …”
จ้าวหมิงหมิงกำลัง “วิจารณ์” ฉินหลั่ง ถ้าฉินหลั่งฉลาดกว่านี้ สถานการณ์ในวันนี้คงไม่ถึงจุดนี้
“พอแล้ว ลูกกำลังจะจากไป เลิกดุได้แล้ว” ฉินเว๋ยเฉิงกล่าว
จ้าวหมิงหมิงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที เธอมองไปที่ฉินหลั่งและยิ้มทั้งน้ำตา “ลูก แม่ไม่ได้ว่าลูก ลูกเป็นลูกที่ดีของแม่ แม่ภูมิใจในตัวลูกนะ …”
“ผมทราบครับ ตอนนี้ผมก็ดีอยู่นี่ ดีกว่าโดนโบยก้นลายและมั้ง” ฉินหลั่งจงใจพูดติดตลก แม้คนอื่น ๆ จะยิ้มไม่ออก แต่พวกเขาก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“พี่ใหญ่ ไม่ว่าพี่จะเป็นคนตระกูลฉินหรือไม่ พี่ก็ยังเป็นพี่ใหญ่ของผม!” ฉินเทียนต่อยฉินหลั่งเบา ๆ ที่หน้าอก
“น้องรัก!” ฉินหลั่งยิ้ม เขารู้สึกโชคดีมากที่มีน้องชายอย่างฉินเทียน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset