รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 281การตายของเฉิงเหมิ่ง

บทที่ 281 การตายของเฉิงเหมิ่ง
ยายแก่เข้าไปในห้องผู้ป่วย ปิดประตูลง สายตาของเธอมองไปยังเฉิงเหมิ่งที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย สายตาที่บริสุทธิ์ก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์
เธอเอาเข็ดฉีดยาแบบใช้ครั้งเดียวออกมาจากเสื้อข้อมือ ในนั้นเต็มไปด้วยของเหลวที่เป็นสีเหลืองๆ
นี่คือยาเสพติดจากตะวันออกกลาง สารประกอบที่มีคือพิษของงูในทะเลทรายแห่งนี้
ในบริเวณรอบโลกในตอนนี้ ความเข้าใจของพิษตัวนี้สามารถใช้คำว่า ‘รู้น้อยไป’ มาอธิบาย แต่สิ่งที่มหัศจรรย์กว่านั้นคือ ถ้าโดนยาพิษนี้เข้าไป 3วันก่อนหน้านั้น ผู้ที่ถูกยาตัวนี้จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคือสารอะไร ต้องหลังจากนั้น3วัน อาการถึงจะค่อยๆ แสดงออกมา
ยายแก่เอาเข็มฉีดยา เดินเข้าไปตรงหน้าเตียงของเฉิงเหมิ่ง
บนเตียง เฉิงเหมิ่งยังหลับอยู่ บนมือขวาของเขาให้น้ำเกลือไว้ มือซ้ายถูกกุญแจมือล็อกไว้กับเตียงผู้ป่วย
ยายแก่ค่อยๆ ก้มตัวลง ดึงหัวเข็มฉีดยาออก หัวหัวเข็มเล็กไปที่ที่เส้นเลือดหลังมือของเฉิงเหมิ่ง ค่อยๆ แทงเข้าไป
ความเจ็บที่มือ ตาของเฉิงเหมิ่งเริ่มรู้สึกขยับ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น รูปร่างของยายแก่คนหนึ่งที่ยืนต่อหน้าเขาค่อยๆ ดับลง และยายแก่คนนั้นก็ได้ฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือดของเฉิงเหมิ่งแล้ว
“คือแก……” เฉิงเหมิ่งจำคนแก่ได้
เธอเองก็เป็นลูกน้องคนหนึ่งของซ่งอวี่ ก่อนหน้านี้ เฉิงเหมิ่งเคยเห็นมาก่อน ยายแก่คนนี้เคยช่วยซ่งอวี่จัดการผู้ชายคนหนึ่งในวงการบันเทิง ในตอนนั้น ผู้ชายถูกคุณหนูมอมเหล้า ยายแก่เข้าไปด้านในในฐานะคนทำความสะอาด ใช้ผ้าปิดจมูกของผู้ชาย ให้ขาดอากาศหายใจจนตาย
เขาเพิ่งส่งเสียง ยายแก่ก็รีบปิดปากเขาไว้
“ใช่แล้ว ฉันคือยายไป๋ ฉันคิดว่าตอนนี้นายก็คงจะเข้าใจแล้ว ว่าใครสั่งให้ฉันมาฆ่านาย! นายคิดดูนายเองก็เป็นคนของคุณชายซ่ง แต่ทำไมถึงหักหลังคุณชาย ดูสิ นายกล้าหักหลังเจ้านาย นายก็ต้องตาย”
ดูก้อนเนื้อบนหน้าของเฉิงเหมิ่ง สายตาที่ค่อยๆ พร่ามัว ลมหายใจที่ค่อยๆ อ่อนลง ยายไป๋รู้ว่านี้คือฤทธิ์ยาออกแล้ว เธอก็ค่อยๆ ปล่อยเฉิงเหมิ่ง
เฉิงเหมิ่งที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีเรี่ยวแรง เขารู้สึกว่าจะหายใจไม่ออกแล้ว เขาอยากสูดอากาศที่มากกว่านี้ แต่ทันใดนั้นก็รู้ว่า การหายใจแบบพื้นฐาน ก็ทำไม่ได้แล้ว
จากนั้นค่อยๆ สติของเขาก็ค่อยๆ หายไป เหมือนว่าเห็นสวรรค์แสดงสีทอง วิญญาณของเขากลายเป็นบางเบา ค่อยๆ ลอยขึ้น
ตาของเฉิงเหมิ่งไม่ตอบสนองแล้ว กลายเป็นตาของปลาที่ตายแล้ว ชีวิตของเขาได้จบลงไปแล้ว
ยายไป๋มองดูผลงานของจนบนเตียง ยิ้มออกมา จากนั้นก็ทำความสะอาดห้องผู้ป่วยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเสร็จแล้ว ยายไป๋ก็เดินออกจากห้องผู้ป่วย
“ยาย ทำความสะอาดเสร็จแล้วหรอ!” ตำรวจสองนายลืมตาขึ้นแล้วถาม
“แคร่กๆ เสร็จแล้ว ฉันไปก่อนนะ ขอบคุณนะคุณตำรวจ” ยายไป๋ยิ้มแล้วพูดให้ตำรวจสองนายนั้น พอพูดเสร็จ ก็เดินมาทางรถอุปกรณ์ทำความสะอาด แล้วหายไปตรงบันได
หลังจากนั้น1ชั่วโมง พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้าไปตรวจห้องของเฉิงเหมิ่ง
“กรี๊ด!” เธอเพิ่งเข้าไป จากนั้นก็ตายด้วยเสียงกรีดร้อง ตำรวจ2นายรีบพุ่งเข้าไป
พวกเขาเห็น เฉิงเหมิ่งที่อยู่บนเตียงตายแล้ว
ตำรวจทั้ง2ต่างตกใจ
“รีบไปเชิญหมอมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!” ตำรวจนายหนึ่งพูด
“ค่ะ ฉันจะไปเรียนหมอกัวเดี๋ยวนี้เลย!” พยาบาลพูดเสร็จ ก็รีบวิ่งออกไป หมอที่รักษาเฉิงเหมิ่งก็เข้ามาในห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่หมอกำลังตรวจสอบร่างกายของเฉิงเหมิ่ง ตำรวจนายหนึ่งโทรหาหวังเฉิน
“หัวหน้าหวัง เฉิงเหมิ่ง…ตายแล้วครับ!” ตำรวจพูดอย่างรู้สึกผิด
“ตายแล้ว!”
หวังเฉิงกำลังนั่งรถไปสถานีตำรวจ พอได้ฟังข่าวนี้ เธอก็เกือบจะชนเข้ากับถนนข้างทาง: “ทำไมถึงตาย? เมื่อวานพวกนายเพิ่งบอกว่ายังดีๆ อยู่เลย อีกไม่กี่วันก็สอบปากคำได้แล้วไม่ใช่หรอ!”
“ใช่ครับ เมื่อวานหมอบอกแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม วันนี้เฉิงเหมิ่งถึงตายอย่างกะทันหัน….” ถึงตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่รู้ ทำไมเฉิงเหมิ่งถึงตายอย่างกะทันหันแบบนี้
ในขณะนี้ ตำรวจตรวจร่างกายเสร็จ ก็เดินมา ตำรวจก็รีบถามถึงสาเหตุการตายของเฉิงเหมิ่ง
“สภาพร่างกายของคุณเฉิงปกติดีทุกอย่าง แต่ว่าสามารถแน่ใจได้เลยว่าการตายของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผลที่ถูกยิง อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของเขาอาจจะมีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่น และกำเริบวันนี้พอดี ตอนนี้ก็มีแค่การคาดเดาเท่านี้ ยังหาสาเหตุอื่นไม่เจอ แต่ว่าโอกาสที่จะเป็นแบบนี้ได้ก็น้อย ผมเองก็คิดไม่ออก ว่าโรคอะไรที่กำเริบแล้วจะรุนแรงได้ขนาดนี้ และแม้แต่ไม่มีเสียงอะไรเลย…..” หมอพูดแล้วส่ายหน้า
“เป็นไปไม่ได้ คงไม่บังเอิญขนาดนี้…..”
ในสาย หวังเฉินได้ยินที่หมอพูด แต่เธอก็ไม่เชื่อ เธอยังคงเชื่อว่า การตายของเฉิงเหมิ่งนั้นซ่งอวี่เองก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เธอถาม: “มีคนเคยเข้าไปในห้องผู้ป่วยของเฉิงเหมิ่งไหม?”
“ไม่มี…ไม่ มีอยู่คนนึง แต่ว่านั้นเป็นยายแก่ที่ทำความสะอาดในโรงพยาบาล” ตำรวจพูด
“เดี๋ยวก่อน คุณตำรวจ คุณบอกว่าคนที่ทำความสะอาดคือ ‘ยายแก่’ ?” หมอถาม
“ใช่ ร่างกายของเธออึกอัก มีรอยย่นเต็มหน้า ดูแล้วคงจะ60ปี ไม่ใช่ยายแก่แล้วคืออะไร?” ตำรวจพูด
“ไม่ใช่สิ! คนทำความสะอาดของโรงพยาบาลเราเป็นหญิงสาวอายุ20กว่าๆ เธอเป็นญาติของพนักงานในโรงพยาบาลของเรา เพราะว่ามีปัญหาทางสมอง ไม่เคยเรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลตกลงให้เธอมาทำความสะอาดในโรงพยาบาล!” คุณพยาบาลพูด
“แย่แล้ว!”
ตอนนี้ตำรวจทั้ง2ก็เข้าใจแล้ว น่าจะตอนที่ยายแก่คนนั้นเข้ามา แล้วทำอะไรกับเฉิงเหมิ่ง พวกเขารีบขอโทษหวังเฉิน: “หัวหน้าหวัง ขอโทษครับ พวกผมพลาดไปแล้ว”
“ขอโทษตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร!”
หวังเฉินกล่าวโทษ ตอนนี้เธอรู้สึกแย่มาก พูดสั่ง: “นายทั้ง2รีบไปดูกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล หายายแก่คนนั้นออกมาให้ได้! อีกอย่าง ต้องดูแลศพของเฉิงเหมิ่งให้ดี ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
“ครับ!” ตำรวจทั้ง2นายตอบ
พอวางสาย หวังเฉินก็ขับรถ ก็มุ่งไปสู่สถานีตำรวจ ในสมองของเธอกำลังคิด เฉิงเหมิ่งต้องตายเพราะซ่งอวี่แน่เลย
พอกลับมาถึงสถานีตำรวจ หวังเฉินรีบเรียกตัวตำรวจ2ราย เตรียมตัวขับรถตำรวจไปที่โรงพยาบาลอีเคอต้าสาขาที่สามในเย็นเคอกับเธอ ไปตรวจสอบการตายของเฉิงเหมิ่ง
“หัวหน้าหวัง ได้รับสารว่า ที่อำเภออี้ซ่วนเกิดเหตุการชิงทรัพย์ ผู้ร้ายถูกตำรวจทางสน.อี้ซ่วนจับกุมตัวแล้ว จากอินเทอร์เน็ตแล้วเราทราบว่าว่าผู้คนนี้เคยก่อคดีในเขตพื้นที่ของเรา 3ครั้ง เป็นเงิน3ล้าน ทั้ง3คดีนี้ก็เป็นท่านที่ดำเนินคดี ทางนั้นเลยเชิญคนของเราไปช่วยสอบสวน ทางผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาแล้ว สั่งให้ท่านรีบไปช่วยตรวจสอบทางนั้น”
ตำรวจนายหนึ่งพูดต่อหน้าหวังเฉิน
หวังเฉินรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ ผ่านการวิเคราะห์โดยใช้เวลาสั้นๆ หวังเฉินก็เปลี่ยนความคิดที่จะไปโรงพยาบาล พาตำรวจทั้ง2นาย ขับรถไปทางสถานีตำรวจอี้ซ่วน
ดูหวังเฉินที่ขับรถออกไปไกล ฝานเฟิงที่นั่งในห้องทำงาน ก็ยิ้มออกมา แล้วกดโทรศัพท์โทรออกไป…..
ครั้งแรกคิดว่าใช้แค่2,3ชั่วโมง ก็จบการสอบปากคำได้แล้ว แต่คิดไม่ถึง เพราะการไม่ให้ความร่วมมือของผู้ร้าย จนถึงเวลา7โมงกลางคืน ฟ้าก็มืดแล้ว คดีก็คืบหน้าแค่นิดเดียว
ในใจของหวังเฉินก็คิดแต่ การตายของเฉิงเหมิ่ง เธอบอกลากับหัวหน้าของอี้ซ่วน ขับรถตำรวจกับตำรวจ2นาย มุ่งไปสู่โรงพยาบาลอีเคอต้าสาขาที่สาม
วนไปตามถนนของเย็นจีนอย่างรวดเร็ว ไฟสีเหลืองส่งบนหน้าของหวังเฉินเป็นช่วงๆ ใบหน้าที่กล้าหาญของเธอกลับไม่ตกใจเลย นอกจากสายตาของเธอที่ดูทางแล้ว ก็คือคิดเรื่องการตายของเฉิงเหมิ่ง
หวังเฉินไม่เชื่อ ว่าการตายของเฉิงเหมิ่งเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เป็นแค่เหตุสุดวิสัย ต้องมีคนทำแน่นอน และคนที่ทำนั้น ที่เธอคิดไว้ก็มีแค่คนเดียว ก็คือซ่งอวี่!
พอถึงโรงพยาบาลสาขาที่สาย หวังเฉินเปิดประตูรถ แล้วก็วิ่งไปด้านในโรงพยาบาลเลย
เธอวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยของเฉิงเหมิ่ง บนเตียงของเฉิงเหมิ่งไม่มีอะไรเลย บนเตียงสีขาวไม่มีรอยยับอะไรเลย
“ไม่ทราบว่าผู้ป่วยบนเตียงนี้ไปไหนแล้ว?” หวังเฉินเดินออกไปนอนห้อง ดึงพยาบาลคนหนึ่งที่เดินผ่านไว้ แล้วถามอย่างเป็นห่วง
พยาบาลสาวที่เดินไปด้วย จดบันทึกการตรวจห้องผู้ป่วยอยู่ ตกใจที่ถูกหวังเฉินถามอย่างกะทันหัน แล้วพูด: “ผู้ป่วยท่านนี้ได้เสียชีวิตตั้งแต่เช้านี้แล้ว ตอนนี้ถูกส่งไปยังห้องดับจิตแล้ว…”
“โอเค ขอบคุณค่ะ” หวังเฉินค่อยโล่งอก พอเธอคิดว่าตัวเองคิดมากไปเอง คนตายแล้ว ก็ต้องถูกส่งไปยังห้องดับจิตสิ จะอยู่ในห้องผู้ป่วยได้ยังไง?
“เราไปเดี๋ยวนี้เลย” หวังเฉินพูดกับลูกน้องทั้งสองคน
หวังเฉินพวกเขามาถึงชั้นล่างของโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ที่นี่คือห้องดับจิต เย็นมาก รู้สึกถึงอากาศเย็นๆ
“สวัสดีค่ะ เราเป็นตำรวจของสถานีตำรวจเฉาไว่ เราอยากจะแน่ใจว่า ศพของเฉิงเหมิ่งอยู่ที่นี่ไหม? เดี๋ยวฉันจะบอกให้หมอมาชันสูตรศพ กับร่างกายของเฉิงเหมิ่ง!” หวังเฉินเดินไปพูดกับลุงแก่รูปร่างผอมบางคนหนึ่งตรงหน้าประตูห้องดับจิต
เฉิงเหมิ่ง คนที่ฆ่าคนตายหรอ?”
ลุงแก่เงยหน้าขึ้นมองหวังเฉินแล้วพูด: “เช้านี้เวลาประมาณ8โมงเช้า เขาถูกส่งมาที่ห้องดับจิต แต่ว่าวันนี้ตอนบ่ายโมงครึ่ง ก็มีเพื่อนของเขามารับศพไปแล้ว”
“อะไรนะ!”
หวังเฉินกับตำรวจทั้งสองนายเองก็ตกใจ: “ทำไมเขาถึงถูกเอาศพไปได้? ทางตำรวจไม่ได้บอกลุงไว้หรอ เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฆ่าคน เขาเป็นคนสำคัญในการตามคดี พวกคุณก็ปล่อยให้คนอื่นมาเอาศพไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ!
“ไม่เกี่ยวกับปม พวกเขาเอาใบรับรองของทางโรงพยาบาลมา ผมก็แค่คนดูแลห้องดับจิต พวกคุณก็อย่ามาถามหาการรับผิดชอบจากผมเลย….”
พอลุงแก่ถูกหวังเฉินพูดแบบนี้ ก็ทำท่าทางที่กลัวออกมา
หวังเฉินรู้สึกถึงความประมาทของตน ก็กล่าวขอโทษลุงแก จากนั้นก็เดินไปข้างๆ โทรหาตำรวจสองนายที่เฝ้าเฉิงเหมิ่ง ให้พวกเขามาหาเธอที่ห้องดับจิต
พอผ่านไปไม่นาน ตำรวจทั้งสองนายก็มาถึง
“หัวหน้าหวัง…”
“ศพของเฉิงเหมิ่งถูกคนเอาไปแล้ว พวกนายทำอะไรกันแน่? ฉันกำชับแล้ว ว่าอย่าให้ใครมายุ่งกับศพของเฉิงเหมิ่งโดนเด็ดขาด?”
หวังเฉินกล่าวโทษ สำหรับข้อผิดพลาดของลูกน้อง ในใจเธอโมโหมาก การตายของเฉิงเหมิ่งเป็นผลเสียต่อทางตำรวจมาก ตอนนี้แม้แต่ศพก็ถูกเอาไปแล้ว นี้แสดงว่า หลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับซ่งอวี่ ก็ไม่มีแล้ว
“หะ ถูกเอาไปแล้ว!”
ตำรวจทั้งสองนายก็ทำท่าทางตกใจ พวกเขามองหวังเฉินแล้วรีบอธิบาย: “หวังหน้าหวังหลังจากที่เราสองคนดูศพของเฉิงเหมิ่งถูกส่งมาที่ห้องดับจิตแล้ว ก็ไปดูกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล และยังติดต่อกับคนของทางสำนักขนส่ง ตามหายายแก่ที่ปลอมตัวเป็นคนทำความสะอาด เราคิดว่าศพของเฉิงเหมิ่งมาถึงห้องดับจิตก็ปลอดภัยแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลย…คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนมารับไป….”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset