รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 282 การเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่

บทที่ 282 การเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่
“พวกนายคิดว่า? หึ การตรวจสอบคดีใครบอกพวกนายว่าให้’ คิดว่า’ เป็นมหาวิทยาลัยความมั่นคงสาธารณะ? โรงเรียนตำรวจ? หรือว่าผู้ใหญ่ในสถานีคนไหนสอนพวกนาย พวกนายลองบอกมาให้ฉันฟังสิ!”
หวังเฉินโมโหมาก พูดจาก็เลยรุนแรง
ตำรวจสองนายที่ถูกด่า ถึงแม้จะรู้สึกอายขายหน้า ที่หวังเฉินอาจจะว่าเกินไป แต่ก็เป็นตัวเองทำผิดเอง ก็เลยก้มหน้าต่ำ ยอมรับคำด่าของหวังเฉิน
“พวกนายบอกว่าวันนี้ทั้งวัน ตำรวจหายายแก่คนนั้นไม่ใช่หรอ? เป็นยังไงบ้าง?” หวังเฉินถามอีก
“พวกเราดูกล้องวงจรปิดไปเยอะมาก แต่ว่า…แต่ว่าไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นใคร” ตำรวจนายหนึ่งพูดอย่างละอายใจ
“หึ”
หวังเฉินยิ้มเย้ย แล้วพูด: “ก็เป็นว่า วันนี้ทั้งวัน ไม่ใช่แค่ไม่สามารถรู้ว่ายายแด่คนนั้นเป็นใคร ยังปล่อยให้ศพของเฉิงเหมิ่งถูกเอาไป ดี ดีมาก! พวกนายลองพูดดูสิ วันนี้ทั้งวัน พวกนายทำอะไรไปบ้าง?”
ตำรวจทั้งสองนายถูกหวังเฉินด่าจนพูดไม่ออก นั่งไม่นิ่ง อยากจะหาที่มุดลงไป
“หัวหน้า จริงๆ แล้วพวกเขาเองก็ไม่อยาก” หลิวจื้อกางที่ตายหวังเฉินตลอด เดินเข้าไปใกล้หวังเฉิน พูดกับเธอ
พอหวังเฉินใจเย็นลงบ้าง ตอนนี้สิ่งที่เธอจะทำไม่ใช่การโทษใคร แต่เป็นการตรวจสอบต่อ หาความจริงออกมาให้ได้
“โอเค เมื่อกี้ฉันใช้อารมณ์มากเกินไป ตอนนี้นี้สองคนไปสืบประวัติยายแก่มาต่อ หวังเฉินควบคุมอารมณ์แล้วพูด จากนั้นก็มองไปที่หลิวจื้อกางเเล้วพูด: “พวกนายลองไปถามที่โรงพยาบาล คนที่มารับศพเฉิงเหมิ่งไปเป็นเพื่อนอะไรกับเขา เดี๋ยวเราไปเจอพวกเขากัน!”
“ครับ!” ตำรวจทั้ง4นายตอบ พอเสร็จแล้ว ก็แบ่งกันไปสองทาง ไปจัดการเรื่องของตัวเอง
หวังเฉินก็เดินออกไปทางประตูของทางใต้ล่าง เธออยากจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก จัดการความคิดในสมองเธอใหม่ แล้วค่อยตั้งใจตรวจสอบใหม่
พอหวังเฉินเพิ่งเดินมาถึงประตูของชั้นใต้ดิน โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เป็นเบอร์แปลก หวังเฉินก็รับอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เธอเคยจัดการมาหลายคดีแล้ว เคยทิ้งเบอร์ของตนไว้ให้คนไม่น้อย ให้เวลาที่พวกเขามีปัญหาอะไร ไว้โทรหาเธอ
“” ฮาโหล สวัสดีค่ะ! ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครคะ?”
“ตำรวจหวัง สวัสดีครับ!” เป็นเสียงของผู้ชาย หวังเฉินก็ฟังออกเลยว่าเป็นเสียงของใคร นี่เป็นเสียงของซ่งอวี่ ทันใดนั้นเธอก็เครียดขึ้นมาเลย
“เรื่องในวันนี้นายเป็นคนทำใช่ไหม?”
หวังเฉินถามอย่างเย็นยะเยือก เธอรู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เฉิงเหมิ่งตายอย่างกระทันกัน หรือว่าถูกรับศพไป ก็เป็นซ่งอวี่เป็นคนทำ
“ตำรวจหวัง ผมว่าในขณะที่คุณยังไม่มีหลักฐาน ก็อย่าเอาโทษมาใส่ผมดีกว่า ไม่เช่นนั้น ปมก็จะห้องคุณในคดีหมิ่นประมาท” ซ่งอวี่พูด
หวังเฉินจับมือข้างที่จับโทรศัพท์แล้ว เธอเป็นผู้บังคับใช้กฎ รู้ดีว่าซ่งอวี่ฟ้องเธอในคดีหมิ่นประมาทได้
เห็นว่าหวังเฉินเงียบ ซ่งอวี่ก็หัวเราะออกมาเสียงเบา
“คุณอย่าเพิ่งโมโหสิ ก่อนหน้านี้ผมก็เคยบอกแล้ว เฉิงเหมิ่งมีเรื่องที่ไม่พอใจผม ก็เลยใส่ร้ายผม คำสุภาษิตเก่าเคยกบอกไว้ ‘ใส่ร้ายผู้อื่นก็เท่ากับการใส่ร้ายตน’ เฉิงเหมิ่งทำให้ตัวเองตายแล้วไง”
ได้ยินซ่งอวี่พูดอย่างสบายใจ หวังเฉินเองก็ไม่สงสัยอีกต่อไป ก็คือซ่งอวี่แน่ๆ ที่ส่งคนไปฆ่าเฉิงเหมิ่ง แต่เสียดายที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเธอไม่มีหลักฐาน
“ผมได้ยินว่าเพื่อนของเฉิงเหมิ่งได้ไปเอาศพของเขา ออกมาจากห้องจับจิตของโรงพยาบาลออกมาแล้ว ถึงแม้ว่าเฉิงเหมิ่งจะใส่ร้ายผม แต่อย่างน้อยก็เคยทำงานกับผม ผมก็เลยไปหาเพื่อนของเขา เจอเฉิงเหมิ่งเป็นครั้งสุดท้าย” ซ่งอวี่พูด
“ตอนนี้เฉิงเหมิ่งอยู่ไหน?” หวังเฉินถามอย่างรีบร้อน ถ้าหาศพของเฉิงเหมิ่งเจอ ก็อาจจะหาข้อมูลหลักฐานบางอย่างจากศพของเฉิงเหมิ่งได้บ้าง
“ตอนนี้เขาอยู่ที่เมรุตงเจียว” ซ่งอวี่พูด
“เมรุตงเจียว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” หวังเฉินดีใจ พูดแล้ววิ่งไปทางประตูเลย แล้วขับรถไปทางเมรุตงเจียวเลย
“ตำรวจหวัง ถ้าคุณยังอยากเจอเฉิงเหมิ่งเป็นครั้งสุดท้าย ก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าเฉิงเหมิ่งกำลังจะถูกผลักเข้ากองไฟแล้ว”
“อะไรนะ เป็นไปไม่ได้ พวกนายจะทำอะไร เฉิงเหมิ่งเป็นพยานสำคัญ ฉันเป็นตำรวจ ฉันขอใส่ให้นายห้ามเผาศพเฉิงเหมิ่ง” หวังเฉินพูดอย่างรีบร้อน
“ขอโทษด้วยนะ ตำรวจหวัง เพื่อนของเฉิงเหมิ่งคงคิดว่าอาจจะให้เขาไปอย่างสงบ ตอนนี้ผมว่า ประตูของเตาเผาคงจะเปิดแล้ว จ้างในคือไฟที่ร้อนแรง……” ซ่งอวี่บอกกับหวังเฉินอย่างกับการไลฟ์สด
“หยุดนะ! บอกให้พวกเขาหยุด” หวังเฉินตะโกนใส่โทรศัพท์
“ไอ่หยา ตำรวจหวัง ผมอาจจะช่วยคุณมาก แต่ว่าตอนนี้ไม่ทันแล้ว เฉิงเหมิ่งถูกเอาเข้าไปในเตาเผาทั้งตัวแล้ว รอตอนที่เขาออกมา คุณก็มาดูขี้เถ้าของเขาได้ ลองดูว่าในขี้เถ้าจะหาอะไรออกมาได้บ้าง เป็นไง?” ซ่งอวี่พูดอย่างท้าทาย
“ซ่งอวี่ไอคนชั่ว!” หวังเฉินควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ด่าโทรศัพท์: “ฉันจะบอกนายนะ ต้องมีสักวัน ฉันจะเป็นคนจับนายเอง ทำให้นายรับโทษในสิ่งที่ทำไว้”
“ได้ ผมรอวันนั้นนะ”
ซ่งอวี่พูด น้ำเสียงของเขาแสดงถึง ว่าวันนั้นไม่มีทางมาถึงแน่ น้ำเสียงของซ่งอวี่ก็เย็นลง: “ตำรวจหวัง ผมหวังว่าคุณจะจำได้ ผมเคยพูดว่า ถ้าครั้งนี้คุณเข้าใจผมผิด ผมจะทำให้คุณรับผิดชอบ ผมไม่เคยพูดแล้วไม่ทำ เพราะฉะนั้น……”
พอพูดถึงตรงนี้ ซ่งอวี่ก็ไม่พูดแล้ว จากนั้นก็หัวเราะออกมา แล้ววางสาย
เห็นศพของเฉิงเหมิ่งถูกเอาเข้าไปเผาในไฟที่ร้อนแรง ซ่งอวี่รู้ดี ว่าหวังเฉินไม่มีทางมีหลักฐานอะไรแล้ว เขาหันหลัง แล้วเดินออกจากเมรุ
ก่อนที่เขาจะให้หวังเฉินรับผิดชอบ หวังเฉินต้องไปประลองกับบ้านตระกูลจงก่อน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าบ้านตระกูลซ่งกอบกุมเย็นจีนและภาคเหนือ ทุกอย่างก็ง่ายแล้ว
ซ่งอวี่เข้าไปนั่งในรถเบนซ์ระดับs พ่อของเขาเป็นคนมียศสูง นั่งรถที่หรูมากไม่ได้ แต่เวลาที่ซ่งอวี่ไปไหนมาไหนคนเดียว ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้
มีคนขับรถขับ ในสมองของซ่งอวี่กำลังคิด สถานการณ์ที่ต่อรองเจรจากับจงจิ่วเจิน ก็แค่คิดดูเท่านั้น ก็ทำให้ซ่งอวี่ตื่นเต้นแล้ว เขาได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลจงและจงจิ่วเจิน
คิดไม่ถึงเลย ไม่นานเขาก็จะได้ประลองกับ คนที่เป็นผู้ชนะที่ตั้งแต่เขายังเด็ก หรือว่าตั้งแต่ร้อยปี ประลองกับตระกูลจงที่เป็นผู้ชนะในเย็นจีนและภาคเหนือ ทุกอย่างดูไม่จริงเลย
แต่1ปีกว่ามานี้ พ่อของเขาซ่งจงผิงเคยปรึกษากับเขามาหลายรอบแล้ว ถ้าตัดสินใจจะแย่งที่กับตระกูลจงแล้ว ต้องทำยังไง ต้องเจรจายังไง ซ่งอวี่ก็เคยฝึกซ้อมในสมองมาหลายรอบแล้ว
แต่ว่าถึงเวลานั้นจริงๆ ซ่งอวี่ก็อยากจะทำความแน่ใจกับพ่อเขาอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อผิดพลาด
ครั้งนี้ ซ่งอวี่ไม่ได้กลับไปยังที่ที่ใดในบ้าน แต่ว่ามาที่บ้านส่วนตัวที่ชุมชนนอกเมืองที่หนึ่ง
บ้านของตระกูลซ่งอยู่ข้างถนนหลวงพางซาง อยู่ล่างภูเขาก้อนหนึ่ง หลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ ยังให้คนมาซ่อมถนนเป็นพิเศษ
แน่นอนเพื่อหลบหลีกปิดบัง ก็แค่ทำทางใต้ดินเท่านั้นเอง
รถจอดไว้ตรงหน้าบ้าน พอลงจากรถ ซ่งอวี่ก็รู้สึกถึงลมที่เหน็บหนาว อากาศของในเขตนอกเมืองจะต่ำกว่าของเย็นจีนเยอะมาก
ซ่งอวี่จัดเสื้อของตน แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ในบ้านอบอุ่นกว่าเยอะเลย
ซ่งจงผิงใส่เสื้อสีน้ำเงิน ยืนไว้หน้าหน้าต่าง สูบบุหรี่ไปด้วย และชื่นชมวิวข้างนอกไปด้วย
หัวของเขาล้านไม่มีผม ผมปลอมของเขาวางไว้ตรงโต๊ะชา สำหรับเขาแล้ว ผมปลอมก็เหมือนกับสิ่งที่แปลกปลอม พอใส่ผมปลอม เขาก็กลายเป็นคนที่รักประชาชน พอถอดออก เขาถึงจะเป็นตัวของตัวเองได้
“พ่อครับ ผมจัดการเฉิงเหมิ่งเสร็จแล้ว” ซ่งอวี่เดินไปด้านหลังของซ่งจงผิงแล้วพูด
“ดีมาก” ซ่งจงผิงไม่ได้หันไปมอง เขาก็ยังคงยืนดูวิวที่หน้าต่าง แล้วพูดขึ้น: “เตรียมตัวที่จะไปเจรจากับจงจิ่วเจินแล้วรึยัง?”
“ครับ พร้อมแล้ว ผมรอโอกาสนี้มาโดนตลอด…..”
ซ่งอวี่พูด เขาไม่กล้าแสดงความไม่มั่นใจต่อหน้าพ่อของเขาสักนิด ไม่อย่างนั้นจะทำให้พ่อเขาโมโห
“ดี” ซ่งจงผิงค่อยๆ หันตัวมามองซ่งอวี่ ในแววตาของเขาแสดงความดีใจ เพราะว่าตอนที่เขาดูรอบๆ ภูเขานี้ เขารู้สึกว่าเขาอยู่ห่างจากตำแหน่งที่เป็นผู้นำของสังคมอิทธิพลมืดที่เย็นจีนและภาคเหนือไม่ไกลแล้ว อีกไม่กี่วัน รอเขาชนะตระกูลจง ก็จะมีคนมาเคารพเขาที่นี่
ซ่งจงผิงเดินไปใกล้ๆ ซ่งอวี่ ตบบ่าของเขาเบาๆ เพื่อเป็นการแสดงความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เดินไปทางห้องรับแขก กดโทรออกไป
“เจ้านายใหญ่ มีคำสั่งอะไรหรอครับ” ในสายเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้คือลูกน้องของตระกูลซ่ง ปกติจะเรียกซ่งอวี่ว่า ‘เจ้านาย’ เรียกซ่งจงผิงว่า ‘เจ้านายใหญ่’ คนที่โทรมาสั่งงานเขา วันนี้คือ ‘เจ้านายใหญ่’ ที่โทรหาเขา แสดงว่าต้องมีเรื่องใหญ่จะเกิดขึ้น
“คืนนี้พาลูกน้อง20คนมาล่มงานที่ ‘Aikemai KTV’ จำไว้3คำ ‘เร็ว แรง กล้า” ล่มเร็วก็หนีเลย ไม่ต้องกลัว ที่เหลือฉันจัดการเอง” ซ่งจงผิงพูด
“Akemai KTV” เป็นสถานบันเทิงเล็กๆ ที่หนึ่งของตระกูลจง วันนี้ซ่งจงผิงก็แค่อยากจะขู่จงจิ่วเจินเท่านั้นเอง
“ครับ เจ้านายใหญ่วางใจได้ ผมจะพาลูกน้องไปตัดการอย่างดี”
“ดีมาก ตอนนี้นายพาลูกน้องไปเตรียมตัวได้แล้ว!” พูดจบ ซ่งจงผิงก็วางสาย
ซ่งจงผิงยิ้มแล้วมองซ่งอวี่ ใจของซ่งอวี่เต้นตึกตัก ถ้าวันนี้ไปล่มงานของตระกูลจง ก็แปลว่ามันเป็นการต่อสู้กันที่รอคอยมายาวนาน กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว สำหรับตระกูลซ่งและตระกูลจงแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นคนแพ้ก็แสดงว่าสูญเสียอำนาจนี้ไป
ข้อแลกเปลี่ยนที่หนักแบบนี้ ทำให้ซ่งอวี่กลัวมาก แต่ว่าเขาก็มองไปยังพ่อของเขา แล้วยิ้ม
เขามีความเชื่อ ภายใต้ความช่วยเหลือจากหัวชิงของสหรัฐ พวกเขาต้องชนะแน่นอน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset