รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 301 ยังมีความหวัง

บทที่ 301 ยังมีความหวัง
เมื่อเห็นลูกชายตกที่นั่งลำบาก แถมลูกชายยังมีพี่น้องมากมายที่ยืนหยัดเพื่อเขา ในใจหยูจื้อก็รู้สึกยินดี เพื่อนตัวน้อยเหล่านี้ดีกว่าเพื่อนเก่าที่เขารู้จักกันมาหลายปีเสียอีก
“ขอบคุณพี่น้องมาก!”
หยูหมิงเดินไปหยุดต่อหน้ากลุ่มคน พูดว่า “วันนี้เรียกทุกคนมา นอกจากอยากให้ทุกคนเป็นแรงผลักดันให้ครอบครัวพวกเราแล้ว ยังอยากให้ทุกคนยื่นมือบรรเทาทุกข์ครอบครัวหยูด้วย ตอนนี้บริษัทหัวเสร์ต้องใช้เงินอย่างน้อยสองพันห้าร้อยล้านหยวนกว่าจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างมั่นคง แต่ครอบครัวหยูมีเงินกองทุนสภาพคล่องในมือแค่ห้าร้อยล้านหยวน”
เมื่อทุกคนได้ยินว่าต้องการเงินกองทุนสองพันห้าร้อยล้านหยวนก็ตกตะลึง พวกเขามาวันนี้ ใครมีเงินออกเงิน มีแรงออกแรง
มีคนร้องท้วงทันที
“คุณชายหยู จัดการให้คุณเรียบร้อยแล้ว ผมซุนเจี้ยนออกห้าล้าน บัตรอยู่นี่ คุณถือได้เลย!”
ซุนเจี้ยนยื่นบัตร ICBC ใบหนึ่งให้หยูหมิง แถมยังพูดอย่างถ่อมตัว “อย่าติว่ามันน้อย นี่คือในเงินก้นกระเป๋าที่ผมเก็บออมมากว่าหลายปีเชียว ฝั่งคุณพ่อผมนั้นพอผมกลับไปแล้วค่อยไปเอามา”
“คุณชายหยู ผมออกสองล้าน!”
“อ่ะนี่ คุณชายหยู ในบัตรมีอยู่สามล้าน! เท่าไรล้วนเป็นใจจริงของผม ที่เหลือพี่น้องค่อยคิดหาวิธีกันอีกที”
“คุณชายหยู หนึ่งล้าน! ถือเอาไว้ใช้ก่อน ผมจะกลับไปล็อบบี้คุณพ่ออีก ให้เขาเอาให้ครอบครัวคุณมากหน่อย ถ้าไม่ไหวจริงๆ ผมจะขายรถนอกคันนั้นไป!”
……
คุณชายรวยรุ่นที่สองทุกคนต่างลงขันบริจาค ยื่นบัตรธนาคารที่ตัวเองเตรียมไว้เรียบร้อยให้
อันที่จริงหม่าหยางไม่อยากให้ เพราะสถานการณ์ของเขาค่อนข้างพิเศษ พวกเขาครอบครัวหม่าเพิ่งมาที่หลินอานเมื่อสิบกว่าปีก่อน หม่าหยางไม่เหมือนกับคนอื่นเสียหน่อยที่โตขึ้นมาพร้อมกับหยูหมิงและเห็นหยูหมิงเป็นพี่ใหญ่
หม่าหยางรู้ วิกฤตที่ครอบครัวหยูเผชิญในตอนนี้ไม่ได้ใหญ่ธรรมดา ครอบครัวหยูอยากฟื้นตัวกลับมาเป็นเรื่องยากมาก มีเปอร์เซ็นต์ตกต่ำสูง นับจากนี้อาจวิ่งทะยานดิ่งเหว และไม่มีวันฟื้นตัว
เอาเงินตั้งมากมายให้ครอบครัวหยูในเวลาแบบนี้ ในความคิดเขาเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำดีๆ นี่เอง
แต่คุณชายรวยรุ่นที่สองต่างพากันเอาเงินให้ทุกคน มีแต่เขาที่ไม่ให้ นี่คงไม่ได้ทำให้เขาเด่นหัวโด่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเชียวเหรอ
เขาได้แต่ให้เล็กน้อยพอเป็นพิธี
หม่าหยางใช้ไหล่สะกิดเถียนซิง ก่อนขยิบตาให้เธอ ให้เธอร่วมมือกับเขา
ระหว่างทางมาก่อนหน้านี้ หม่าหยางปรึกษากับเถียนซิงแล้วว่าถึงขั้นนี้ควรต้องทำอย่างไร
ถึงแม้เถียนซิงจะรู้สึกว่าไม่เหมาะ แต่ก็ยังพยักหน้าอยู่ดี
เถียนซิงอยู่กับหม่าหยางตั้งนานขนาดนี้ ถึงบางครั้งหม่าหยางจะอารมณ์เสียใส่เธอบ้าง แต่ภาพรวมก็นับว่าไม่เลวทีเดียว เถียนซิงก็รู้สึกว่าด้วยรูปลักษณ์ของเธอคิดอยากหาคุณชายรวยรุ่นที่สองที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าหม่าหยางนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้นเธอจึงผูกดวงใจทั้งหมดยึดติดกับหม่าหยาง หวังใจว่าหม่าหยางได้มีงานมงคลกับหม่าหยางโดยเร็วที่สุด
หม่าหยางเดินไปหยุดข้างๆ หยูหมิง ล้วงบัตรCCBใบหนึ่งออกมา มองหยูหมิงก่อนพูดว่า “คุณชายหยู ในบัตรนี้มีอยู่สามล้าน คุณโปรดรับไว้ด้วย ครอบครัวหยูมีส่วนไหนที่ต้องการความช่วยเหลือ คุณแค่ออกปากก็พอ ผมหม่าหยางจะช่วยสุดแรงใจ ยินดีรับใช้สุดความสามารถแน่นอน”
“หม่าหยาง…”
หยูหมิงคิดไม่ถึงว่าหม่าหยางพี่น้องที่ไม่ได้โตมาพร้อมกับตัวเองก็จะสนับสนุนตนในเวลาแบบนี้ด้วยเช่นกัน ในใจเขาซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
คุณชายรวยรุ่นที่สองคนอื่นๆ ต่างรู้สึกชื่นชมการกระทำของหม่าหยางอยู่ในใจ
“ขอบคุณ…” หยูหมิงตบไหล่หม่าหยาง แล้วตั้งท่าจะเก็บบัตรธนาคาร
“ปัดโถ่ คุณชายหม่า”
ในเวลานี้ เถียนซิงที่อยู่ด้านข้างหม่าหยางก็โพล่งขึ้นมา “คุณหยิบบัตรผิดแล้ว บัตรนี้เป็นบัตรCCBที่มีเงินสองแสนใบนั้น บัตรที่มีเงินสามล้านเป็นบัตร ICBC ต่างหาก!”
“คุณชายหยูอย่าถือโทษเลยนะ หยิบผิดอย่างสะเพร่าเสียได้” หม่าหยางหันไปเอ่ยขอโทษกับหยูหมิง จากนั้นก็ปลิ้นกระเป๋าออกมาอีกครั้ง พูดอย่างตื่นตกใจว่า “บัตรล่ะ บัตร ICBC ใบนั้นของผมอยู่ไหน”
“คุณชายหม่า บัตรใบนั้นฉันเห็นคุณเสียบใส่แจ็คเก็ต LILANZ สีดำตัวนั้น คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลืมหยิบบัตรออกมาด้วยเหรอ” เถียนซิงพูดขึ้น
“โถ่เอ้ย จริงๆ เลย ดูสมองผมสิ”
หม่าหยางตบหน้าผากตัวเองทีหนึ่ง หันไปพูดกับหยูหมิง “คุณชายหยู คุณดูสิ เมื่อวานผมตั้งใจเสียบบัตร ICBC ไว้ในเสื้อผ้าโดยเฉพาะ เตรียมจะเอามาให้คุณวันนี้ ต้องโทษที่ผมสะเพร่า เมื่อเช้าหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาลวกๆ แล้วก็ออกมาเลย”
“คุณชายหม่าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก น้ำใจของคุณผมได้รับแล้ว” หยูหมิงเอ่ย
“ขอบคุณคุณชายหยูที่ให้อภัย บัตรสองแสนนี้ คุณเก็บเอาไว้ กลับไปผมจะส่งบัตรสามล้านใบนั้นมาให้คุณทันที” หม่าหยางพูดอย่างองอาจ
เมื่อเห็นว่าผู้น้อยผู้ใหญ่คนอื่นๆ ไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับตน แถมหยูหมิงยังดูเหมือนจะซาบซึ้งตนมาก ในใจหม่าหยางก็ลำพองสุดๆ
“ครั้งนี้ฉันจ่ายไปแค่สองแสน คนอื่นเทน้ำทิ้งตั้งหลายล้าน ฉันนี่มันฉลาดจริงๆ โว้ย หยูหมิง นายไม่ต้องฝังใจกับบัตร ICBC ที่มีเงินสามล้านของฉันอีกเชียวนะ นั่นมันไม่มีอยู่จริงเลยด้วยซ้ำ แค่หยอกนายเล่นน่ะ ฮ่าๆ”
หม่าหยางกับเถียนซิงกลับไปในหมู่กลุ่มคนอีกครั้ง พอเห็นสายตาที่หม่าหยางมองมาที่ตนเหมือนกับคนกระจอกผยองจนลืมตัว ในใจเถียนซิงก็ยิ่งรู้สึกขายหน้าน้อยๆ
แต่เธอก็ยังระบายยิ้มบางๆ ให้หม่าหยาง ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคตกับเธอ เขาโกหกคนอื่นได้ ขอเพียงไม่โกหกตนก็พอแล้ว
ผู้น้อยผู้ใหญ่ทั้งหมดต่างพากันแสดงท่าทีของตนให้หยูหมิงเห็น
หยูหมิงคำนวณคร่าวๆ คุณชายรวยรุ่นที่สองยี่สิบกว่าคนรวบรวมเงินให้เขาสี่สิบกว่าล้าน!
ดูแล้วไม่น้อยเลย แต่สำหรับเงินกองทุนที่ต้องการถึงสองพันห้าร้อยล้าน ก็ยังเป็นน้ำน้อยแพ้ไฟอยู่ดี
คุณชายรวยรุ่นที่สองคนอื่นๆ ต่างก็มองออก เงินแค่นี้ที่พวกเขาให้มันน้อยเกินไป คิดอยากช่วยครอบครัวหยูข้ามผ่านวิกฤตให้ครั้งนี้ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิด
“พวกเราเพิ่งเรี่ยไรเงินได้แค่นี้เองเหรอ มันยังไม่ถึงครึ่งของร้อยล้านเลยด้วยซ้ำ น่าขายหน้าชะมัด”
“นั่นสิ นี่มันต่างอะไรกับไม่ให้เลย”
“ถ้าแพร่งพรายออกไปจะทำให้คนนอกหัวเราะเยาะเอาได้ พวกเราคุณชายรวยรุ่นที่สองทั่วทั้งหลินอานก็มากันถ้วนหน้าแล้ว สุดท้ายก็ยังช่วยฟื้นคืนชีพครอบครัวหยูไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะคนพวกนั้นที่จ้องเล่นงานครอบครัวหยู อยากทำลายครอบครัวหยู คงยิ่งหัวเราะชอบใจเข้าไปใหญ่!”
“ผมจะโทรหาพ่อผมเดี๋ยวนี้เลย ให้เขาเอาเงินให้ครอบครัวหยูหนึ่งร้อยล้าน!”
……
หยูหมิงห้ามทัพคุณชายรวยรุ่นที่สองที่ตั้งท่าจะโทรไปหาพ่อคนนั้นเอาไว้ เขาพูดกับบรรดาคุณชายรวยรุ่นที่สองด้วยแววตาเจือแววขอบคุณ “เหล่าพี่น้อง ขอบคุณทุกคนมาก น้ำใจที่พวกคุณมีต่อผมหยูหมิงนั้นผมรู้ชัดแล้ว วันนี้ทุกคนลุกมาประคองผม ผมก็รู้สึกขอบคุณมากแล้วจริงๆ!”
“แต่ว่าบริษัทหัวเสร์จะทำอย่างไร คุณชายหยู ลุงหยูไม่มีเงิน บริษัทหัวเสร์ใกล้ล้มละลายแล้วเหรอ…”
“เป็นตายล้วนมีโชคชะตา ร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นอยู่กับสวรรค์ ฟังบัญชาสวรรค์เถอะ” เวลานี้หยูจื้อพูดขึ้นอย่างสงบ แต่คำพูดกลับมีความเย็นเยียบอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“ไม่!”
หยูหมิงหันไปเอ่ยปฏิเสธกับบิดา “พ่อ ถึงเงินไม่พอ แต่ขอเพียงพวกเราทุกคนรวมพลังกัน ผมเชื่อว่าต้องชนะสวรรค์ได้ ไม่มีอุปสรรคที่ข้ามผ่านไม่ได้ บริษัทหัวเสร์จะไม่มีวันตกต่ำ!”
“ใช่ ลุงหยู คนมีใจมั่น ก็ย้ายเขาไท่ซานได้!”
“กลุ่มบริษัทหัวเสร์หยั่งรากอยู่หลินอานมานานขนาดนี้ เป็นหลักประกันชีวิตของครัวเรือนตั้งเท่าไร หากบริษัทหัวเสร์จะตกต่ำ ประชากรหลินอานก็คงไม่เห็นด้วย”
……
หลงเย้นมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ข้างๆ อย่างเงียบเชียบ ทำตัวตามคำกล่าวที่ว่าผู้ชมข้างสนามเห็นชัดกว่า เธอรู้ สองพันห้าร้อยล้านนั้นต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ ไม่มีเงิน คงได้แต่ฟังบัญชาสวรรค์จริงๆ เท่านั้นแล้ว
เธอค่อยๆ เดินออกจากห้องทำงานเงียบๆ เดินวนไปเวียนมาอยู่ที่ทางเดินเท้าด้านนอก หลงเย้นนึกถึงคนที่พอจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันได้…ฉินหลั่ง
ถึงแม้ตอนนี้หลงเย้นก็ยังไม่รู้ว่าครอบครัวที่ฉินหลั่งอาศัยอยู่นั้นเป็นแบบไหนกันแน่
แต่จากท่าทีที่ครอบครัวหยูปฏิบัติต่อเขา และครอบครัวจงในเย็นจีน ที่มีต่อเขา เซี่ยงไฮ้โข่งลิ่งเสียนก็เป็นผู้ใต้บัญชาของเขาไหนจะน้องชายของเขาที่มีฉายาว่า “คุณชายสอง” ที่ปรากฏตัวในงานแต่งของหยูหมิงและพี่สาว สามารถร้องสั่งให้แขกเหรื่อทั้งหมดในงานหันมามองได้
ตระกูลนี้แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย อาจจะแข็งแกร่งถึงขั้นที่เธอก็ไม่สามารถจินตนาการได้
ถึงแม้ฉินหลั่งจะบอกว่าเขาถูกไล่ออกจากบ้าน แต่โลกก็ยากจะคาดเดา บางทีตอนนี้เขาอาจกลับบ้านแล้วก็ได้ใครจะไปรู้
ไม่ว่าอย่างไร เธอก็รู้สึกว่าคนที่สามารถแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้ได้ก็มีแต่ฉินหลั่งเท่านั้นแล้ว
หลงเย้นล้วงมือถือออกมากดเปิดรายชื่อผู้ติดต่อ พอเห็น “ฉินหลั่ง” ใจดวงน้อยของเธอก็เต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่ได้โทรหาฉินหลั่งมานานแล้ว นับตั้งแต่คืนนั้นที่ฉินหลั่งแต่งงานกับพี่สาว เธอก็ปิดล็อคห้องหัวใจของตัวเองเอาไว้แน่นหนา
เธอพยายามลืมฉินหลั่งมาโดยตลอด ก่อนเมื่อวาน มีผลลัพธ์ที่แน่นอนแล้ว อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ได้ฝันถึงฉินหลั่งเมื่อวานนี้ แต่เวลานี้ทอดมองอักษรจีนสองตัวคำว่า “ฉินหลั่ง” ที่เด่นหราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ ความรู้สึกที่เป็นปกติของเธอก็คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
ลักษณะของฉินหลั่งปรากฏในหัวของเธออีกครั้ง ทำให้เธอเหม่อลอย
หลงเย้นสูดหายใจเข้าลึกๆ กดลงไปที่เบอร์โทรของฉินหลั่ง
เย็นจีนในเวลานี้ ฉินหลั่งกำลังหิ้วตะกร้าผลไม้ใบหนึ่งเดินเข้าไปในโรงพยาบาลหรินซิน ห้องผู้ป่วยของต้ายเฉียนโป๋
ในห้องผู้ป่วย ต้ายเฉียนหลิ่วเพิ่งจะคอยประคบประหงมพี่ชายให้ทานข้าวเสร็จ เวลานี้กำลังเก็บจานชาม พอเห็นฉินหลั่งเดินเข้ามา สองพี่น้องต่างพากันตื่นเต้นผิดวิสัย
“ฉินหลั่ง นายเป็นอย่างไรบ้าง” ต้ายเฉียนโป๋นึกอยากลงจากเตียงผู้ป่วยเดี๋ยวนั้น
“ค่อยๆ หน่อย พี่ต้าย ผมไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย พี่จะเกรงใจกับผมขนาดนี้ทำไมกัน” ฉินหลั่งรีบร้อนก้าวขึ้นหน้า ให้ต้ายเฉียนโป๋เอนตัวลงนอนดีๆ
ฉินหลั่งถามไถ่กับต้ายเฉียนหลิ่วเล็กน้อย อาการบาดเจ็บของต้ายเฉียนโป๋ฟื้นตัวได้เร็วมาก
“พี่ต้าย วันนี้มาเยี่ยมพี่ ผมยังนำข่าวดีมาบอกพี่ด้วยนะ!”
ฉินหลั่งมองต้ายเฉียนโป๋และพูดว่า “อาการเจ็บของพี่ครั้งนี้ หัวหน้าเหยาได้ยื่นคำร้องการบาดเจ็บทางอุตสาหกรรมให้พี่ด้วย นี่เป็นเอกสารที่ผมถ่ายมา หรือพูดอีกอย่างคือ ค่ารักษาพยาบาลของพี่ครั้งนี้มหาวิทยาลัยเย็นจีนจ่ายให้ทั้งหมด พี่ก็ไม่ต้องมัวแต่คิดว่าจะคืนเงินให้ผมแล้ว”
ฉินหลั่งใช้โทรศัพท์ถ่ายมา ยื่นภาพเอกสารที่ยืนยันว่าต้ายเฉียนโป๋บาดเจ็บในหน้าที่ให้ต้ายเฉียนโป๋ดู ต้ายเฉียนหลิ่วผู้เป็นน้องสาวก็ประชิดเข้าใกล้เช่นกัน
“ช่างดีเหลือเกิน พี่คะ! พี่ไม่ต้องมัวแต่คิดจะออกจากโรงพยาบาลไปหาเงินมาคืนพี่ฉินให้เร็วที่สุดแล้ว!” ต้ายเฉียนหลิ่วระบายยิ้มดีใจพูดกับต้ายเฉียนโป๋
“เด็กน้อย พี่พูดตั้งแต่เมื่อไรว่าจะรีบเอาเงินคืนฉินหลั่งน่ะ ความสัมพันธ์ของพี่กับฉินหลั่ง พี่สนเหรอ ต่อให้พี่ไม่คืนเขา พี่ฉินของเธอจะว่าอะไรพี่ได้”
ต้ายเฉียนโป๋พูดติดตลก เห็นว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองถูกยืนยันให้เป็นการเจ็บป่วยจากหน้าที่แล้ว สภาพจิตใจที่ห่วงแต่อยากรีบไปทำงานหาเงินในช่วงหลายวันที่ผ่านมาของเขาก็สงบลงมาบ้างแล้ว
ต้ายเฉียนโป๋มองทางฉินหลั่ง ความรู้สึกที่ศรัทธาและซาบซึ้งต่อเขาในใจยิ่งมีมากขึ้น พร้อมพูดว่า “ฉินหลั่ง ครั้งนี้ก็คงเป็นเพราะนายเอ่ยปากแทนฉันด้วยสินะ ขอบใจ รอฉันหายดีแล้ว กลับไปจะเลี้ยงเนื้อหัวหมูนายเอง!”
“ได้ พี่ต้าย นี่พี่สัญญากับผมเองนะ ผมจะรอ!” ฉินหลั่งพูดพลางหัวเราะร่าเริง
ตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยเข้าขา มือถือของฉินหลั่งก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกจากหลงเย้นนั่นเอง ภาพหน้าตาอมชมพูนวลเนียนของหลงเย้นสะท้อนอยู่ในหัวฉินหลั่ง ทำไมยัยคนนี้ถึงนึกโทรหาตนได้กันนะ
ฉินหลั่งกดรับโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกสงสัย
“ว่าไง หลงเย้น ทำไมถึงนึกโทรหาฉันขึ้นมา”
ได้ยินเสียงที่มีอำนาจดึงดูดของฉินหลั่ง หลงเย้นก็เหม่อลอยน้อยๆ จากนั้นก็รีบคืนสติกลับมา พูดว่า
“ฉินหลั่ง มีเรื่องหนึ่งคุณลองดูว่าคุณช่วยได้หรือเปล่า ตอนนี้สถานการณ์ของครอบครัวหยูที่หลินอานอันตรายมาก ต้องรวบรวมเงินถึงสองพันห้าร้อยล้านโดยด่วนถึงอาจจะช่วยพวกเขาก้าวข้ามวิกฤตได้ ตอนนี้ครอบครัวหยูมีไม่ถึงหกร้อยล้าน พวกเขาก็อับจนหนทางแล้ว คุณมีวิธีพอจะควักเงินออกมาสักสองพันล้านหรือเปล่า”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset