รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 381 3วันก็ยังไม่ทันเหรอ

บทที่ 381 3วันก็ยังไม่ทันเหรอ
เด็กหญิงขี้เหร่ค่อยๆกดปีกหมวกลง มองไปที่โต๊ะนั้นด้วยความเกลียดชัง จากนั้นหยิบข้าวสวยชามหนึ่งขึ้นมากินอย่างมูมมาม
ทำไมผู้หญิงตอแหลพวกนั้นถึงชอบฉินหลั่งกันนะ พวกเขาเข้าใจฉินหลั่งไหม? !
หญิงสาวขี้เหร่คนนี้ก็คือฉินจูลูกพี่ลูกน้องของฉินหลั่ง หญิงสาวที่เคยขายแพนเค้ก
“ฉินหลั่ง ฉันจะมองเธออย่างเงียบ ๆ อยู่ข้างหลัง ฉันจะไม่รบกวนเธอสักนิดเดียว ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ฉันไม่สามารถคิดแบบอื่นกับเธอได้ แต่ฉันก็พอใจแล้ว” หญิงสาวขี้เหร่ตักข้าวใส่ปาก น้ำตาตกลงไปในชามอย่างเงียบ ๆ แต่เธอไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร
เมื่อก่อน ผู้มาเยือนน้ำตกหูโข่วยังสามารถเข้าใกล้ผู้อาวุโสลึกลับที่ริมแม่น้ำฮวงโหได้ แต่วันนี้แตกต่างออกไป บริเวณริมสุดของน้ำตก ผู้อาวุโสยังคงนั่งสมาธิอย่างไม่สนใจใคร เมื่อพวกขาต้องการเข้าใกล้มากขึ้น ก็มีคนมาหยุดไว้กะทันหัน
“พวกเราเป็นนักท่องเที่ยวนะ! ทำไมไม่ให้เราเขาดูใกล้ ๆ ล่ะ?”
“พวกเราก็แค่มาดูน้ำตกหูโข่ว ถ้าคุณไม่ให้เราเข้าไป เราก็มาเสียเที่ยวสิ?”
“ มีกฏไหม?”
นักท่องเที่ยวที่แท้จริงบางคนยังไม่รู้เรื่อง จึงตะโกนใส่คนที่เบรกพวกเขา
“ขออภัยครับ โซนนี้ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พวกคุณสามารถรับชมได้จากมุมอื่น!” กลุ่มชายในชุดดำที่พูดภาษาจีนกลางไม่ชัด คำพูดของพวกเขาสุภาพมาก แต่การกระทำของพวกเขารุนแรง นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่ถูกเบรกเดินไปด้านหน้ามากขึ้น
“ยังมีกฎเกณฑ์ไหม ยังมีกฎหมายไหม คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเหรอ”
“พวกคุณคิดจะครอบครองสถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะ คุณต้องการทำอะไร?!”
แน่นอนว่าผู้คนไม่พอใจ และบ่นอย่างโกรธเคือง
ผู้ชายพวกนั้นหยุดพูด เอามือไพล่หลัง ทำท่าทีเย็นชา มองออกไปข้างนอก ให้ความรู้สึกที่อันตรายมาก
โดยเฉพาะตอนที่เจค์เข้ามา ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นและดวงตาที่น่าสยดสยอง ทำให้นักท่องเที่ยวตกตะลึง ใส่เสื้อเปิดแขนในฤดูหนาวเนี่ยนะ ดวงตาของเขาเหมือนกระหายเลือด ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี
นักท่องเที่ยวขี้กลัวบางคนเดินออกไปอย่างทุลักทุเล คนเหล่านี้เป็นใคร ดูเหมือนคนเลวในทีวี ไม่ไปล่วงเกินดีกว่า
หลังจากการประลองในประเทศจีน เจค์กลายเป็นที่รังเกียจของสำนักสอนศิลปะการต่อสู้ ของจีน ความโหดเหี้ยมปกติของเขาในแก๊งหัวชิงถูกเปิดเผยโดยไม่มีการปิดบังใด ๆ มารยาท ความสุภาพที่แสร้งทำในตอนแรก ถูกความโฉดเฉาไล่ออกไปไม่เหลือ
ผู้คนยอมรับข้อเท็จจริงนี้ ต่างเดินกลับไปกลับมานอกวงล้อมนั้น
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เข้าไปไม่ได้ หลายคนที่สวมเสื้อคลุมยาวแบบจีนยังสามารถเข้าไปได้ เมื่อมองแวบแรกก็รู้ว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของวงการต่อสู้ และมีคนไม่น้อยที่แต่งตัวแบบนี้
กู่ซาก็ถูกปิดกั้นไว้ด้านนอกเช่นกัน เธอและเผิงเมิ่งรอมานานกว่าหนึ่งเดือน แต่ก็ไม่เคยเข้าใกล้แม่น้ำหวงได้ พวกเขาโกรธจนแยกเขี้ยวยิงฟัน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าโวยวายต่อสาธารณะ พวกเขาเลือกที่จะรายงานไปยังหน่วยงานท้องถิ่น
ชาวบ้านในท้องที่พูดอย่างกระตือรือร้นทางโทรศัพท์ว่า ประธานจ้านจะจัดการประชุมศิลปะการต่อสู้ที่เมืองหูโข่ว พวกเขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว ตามความเห็นของจ้านอู๋หยา คนทั่วไปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องโดนลูกหลง
กู่ซาวางสายโทรศัพท์อย่างโกรธ ๆ ด้านหลังของเธอคือส้งเส่นเอ๋อ เผิงเมิ่งและหลงเย้นและผู้หญิงคนอื่น ๆ อีกมากมาย จะหาบัตรผ่านประตูสักสองสามใบไม่ได้เลยเหรอ?
“ว่าไงบ้างกู่ซา” หลงเย้นรู้สึกกังวล ตอนนี้หญิงสาวเก็บความริษยาของกันและกันไว้ในใจ ร่วมมือร่วมใจกันเพื่อมาดูฉินหลั่ง หากเข้าไปไม่ได้พวกเขาก็จะเสียแรงเปล่า
“อย่างพวกแก แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ แค่ประธานคนนึงก็จะควบคุมแม่น้ำหวงทั้งหมดได้ พวกแกคิดว่าแกเจ๋งเหรอ นี่เรียกว่าอิทธิพล การครอบงำ มีสิทธิ์อะไรอ่ะ!”
กู่ซาสาดน้ำลาย โทษฟ้าโทษดิน ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
“ เจค์ ปล่อยพวกเขาเข้ามา … ”
เป็นเสียงที่มาจากระยะไกล ทำให้สาวสวยทั้งสี่ตกใจ เพราะจริงๆแล้วผู้อาวุโสที่นั่งไขว่ขาที่พวกเธอมองเห็น เล็กเท่าจุดสีดำด้วยซ้ำ แต่ทำไมเสียงของเขาราวกับอยู่ข้างหูของพวกเธอ?
“คุณได้ยินที่ฉันพูดนี่” กู่ซาแหงนหน้าพูดกับท้องฟ้า เธอคิดว่านี่มันบ้าอะไรกัน?
“ ถูกต้อง คนในวงการต่อสู้ สามารถได้ยินเสียงของผู้คนในระยะพันไมล์ได้ ไม่ต้องพูดถึงในระยะใกล้แค่นี้ ฮิฮิ ” จุดสีดำเล็ก ๆส่งเสียง เสียงหัวเราะ “ฮิฮิ”นั้นดังก้องออกมา
ส้งเส่นเอ๋อเป็นคนแรกที่ไม่รีรอ เธอผลักผู้คุมออก ก้าวเท้ายาวๆเข้าไป สาวสวยทั้งสี่ก็เข้ามาทีละคน แต่ในใจของเธอเป็นทุกข์ ชายชราคนนี้เก่งขนาดนี้ ฉินหลั่งจะเอาชนะได้จริงหรือ?
มีเพียงเผิงเมิ่งที่มีจิตใจละเอียดอ่อน ทันทีที่เธอเข้าไป เธอก็เห็นดวงตาที่อาฆาตแค้นคู่หนึ่งในร้านอาหารแม่น้ำเหลือง เธอมักจะรู้สึกว่าดวงตาคู่นี้จ้องมองพวกเธอตลอดเวลา
ใช่แล้ว นั่นคือฉินจู เธอใช้สถานะของคนในสำนักศิลปะการต่อสู้เข้ามานั่งด้านในนานแล้ว
ตรงกลางเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง นั่งหันหน้าไปทางแม่น้ำหวง ท่าทางผ่าเผย ไม่กระดุกกระดิก ส่วนคนอื่น ๆ ที่มาดูจะนั่งตรงไหนก็ได้ เพราะบนโขดหินกว้างใหญ่นี้ไม่ได้มีเก้าอี้ มีแค่เบาะเหมือนพรมผืนเล็ก ทุกคนนั่งล้อมวงกัน และจ้านอู๋หยานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายดวงดาวที่ห้อมล้อมพระจันทร์
“พวกเขาต่อสู้อย่างไร บนหน้าผานี้หรือ ถ้าตกลงไปในแม่น้ำหวงล่ะ?” กู่ซาถามด้วยความสงสัย
กู่ซาไม่เข้าใจ และทุกคนก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมจ้านอู๋หยาถึงเลือกที่จะจัดการต่อสู้นัดเขย่าโลกที่ริมแม่น้ำหวงนี้?
“ ปรมาจารย์การต่อสู้ประเภทนี้ มีพละกำลังมาก หากต่อสู้โรงยิมธรรมดา เกรงว่าสู้กันไม่กี่ครั้งห้องจะพังยับเยินเสียก่อน” ปรมาจารย์ที่อยู่ข้างๆอธิบาย
“ โห เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?” ส้งเส่นเอ๋ออ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนคิดว่ามันเกินจริงไปมั้ง ไม่ว่ายังไงมันก็คือสงครามระหว่างคนกับคน คงไม่เหมือนเซนต์เซย่าเซนต์เซย่า ที่สามารถทำลายโลกได้
ในสายตาของส้งเส่นเอ๋อมีความรังเกียจเพิ่มขึ้น มันช่างลึกลับพิกล ซึ่งหมายถึงผู้อาวุโสคนนี้แหละ

ณ โรงพยาบาลเย็นจีน หน้าประตูแผนกผู้ป่วยหนัก จงจิ่วเจินจ้องมองไปที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อ ความสนใจกับการต่อสู้เขย่าโลกครั้งนี้ เทียบไม่ได้กับความกังวลเกี่ยวกับจงยู่
แต่ข่าวก็ถูกปล่อยออกไปแล้ว ฉินหลั่งจะไปหูโข่วทันไหม?
การนัดหมายสามวัน วันนี้ก็วันที่สามแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้กินไม่ดื่ม ถ้าไม่ใช่ให้จงจิ่วเจินเฝ้าประตูเอาไว้ เจ้าหน้าที่พยาบาลคงบุกเข้าไปแล้ว
จงจิ่วเจินมีความไว้วางใจในฉินหลั่งอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเขาหมดพลังกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำตามคำพูดของฉินหลั่งอย่างจริงจัง
เอี๊ยด ประตูเปิดออก
ทีมหมอและจงจิ่วเจินรีบเดินเข้าไป และตกตะลึงกับฉากตรงหน้าพวกเขา
ห้องนั้นอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ และความรู้สึกที่อำมหิตเยือกเย็นนั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์
ความอบอุ่นแบบนี้ไม่ใช่ความอบอุ่นที่ผิดธรรมชาติที่เกิดจากเครื่องทำความร้อน แต่เป็นลักษณะภูมิอากาศที่ฤดูใบไม้ผลิกลับคืนสู่พื้นโลกและทุกสิ่งกำลังฟื้นขึ้นมา
ฉินหลั่งยืนมือไขว้หลัง พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
และที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย คือเด็กผู้หญิงผมสีดำขลับ ผิวขาวบริสุทธิ์ ไม่มีรอยตำหนิบนใบหน้า สวยเกินปกติ งดงามเกินใคร
“เรียบร้อยรึยัง?” หญิงสาวถามเบา ๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย สิ่งที่ฉินหลั่งพยายามอย่างสุดความสามารถอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อให้เธอได้เกิดใหม่ ที่แม้แต่คนเหล็กก็ไม่สามารถทนได้?

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset