รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 465 อยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า

บทที่ 465 ประทับอยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า
“ช่างเถอะ บอกพวกคุณไปก็ไม่มีปัญหาอะไร พ่อของผมสินต้าหัวได้นัดแนะกับหัวหน้าเสว่ซ่าทั้งสามไว้อย่างลับๆ แล้ว แล้วก็ยังมีลุงจื้อพ่อบ้านตระกูลผม คอยหนุนหลังอีกที ปรมาจารย์ทั้ง4คนออกหน้าช่วยเหลือ ต่อให้ฉินหลั่งจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องตายอย่างแน่นอน” สินเทียนเฉิงคิดในใจเช่นนั้น
“เสว่ซ่า!”
ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยน ใครบ้างไม่รู้ว่าพวกเสว่ซ่าเป็นกลุ่มนักฆ่าลึกลับอันดับหนึ่งของจีน ถ้าตกอยู่ในสายตาพวกนั้นแล้วละก็ ต่อให้จะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว ก็มีแต่ตายกับตาย เพราะพวกเขาจะติดตามตัวคุณเป็นดั่งวิญญาณคอยหลอกหลอน ทำให้คุณต้องระแวงตลอดเวลา ไม่ให้คุณมีเวลาได้พักผ่อน
ปีนั้นท่านหม่าโย่วกุ้ย เศรษฐีอันดับหนึ่งของเจียงเป่ย ก็ถูกเสว่ซ่าจับตามอง สุดท้ายก็มาจบชีวิตที่แอฟริกาใต้
“มีพวกเสว่ซ่ามาล้อมไว้ ผมคิดว่าปรมาจารย์ฉินจะต้องตายแน่นอน” คนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“ดูเหมือนว่าความยิ่งใหญ่ของตระกูลสินจะหยุดไว้ไม่ได้จริงๆ”
สายตาที่มีความอิจฉาของทุกคน ก็จ้องมองมายังตัวของสินเทียนเฉิง คุณชายที่สีหน้านิ่งๆ ใบหน้ากับอายุต่างกันคนนี้ วันข้างหน้าอาจจะเป็นคุณชายแห่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีตำแหน่งในสังคมสูงขึ้น พอถึงตอนนั้น ถ้าพวกเขาอยากจะพบหน้าสินเทียนเฉิง ก็เกรงว่าจะไม่ง่ายเช่นนี้อีกแล้ว
“ฮ่าๆๆ !” สินเทียนเฉิงหัวเราะดังขึ้น เขาและสินต้าหัวรอวันนี้มานานแล้ว ในที่สุดตระกูลสินก็ได้รุ่งเรืองแล้ว
แต่สินเทียนเฉิงได้หัวเราะแค่ไม่กี่คำ ก็มีแสงสายฟ้าสาดเข้ามา ปากของสินเทียนเฉิงก็อ้ากว้างออก ดวงตาก็ลืมโตมาก จากนั้นก็เอามือมาจับลำคอของตนเองไว้ ดิ้นอย่างทุรนทุรายไปหลายครั้ง แล้วก็นอนคว่ำลงบนโต๊ะอาหาร โดยไม่ขยับตัวอีกเลย
“คุณชายใหญ่!”
“คุณเป็นอะไร? ใครก็ได้รีบเข้มาหน่อย!”
ในห้องนั้นวุ่นวายไปหมด ทุกคนทั้งตกใจทั้งสงสัย แค่มีแสงสาดเข้ามา แล้วก็ไม่เห็นอะไรเลย สินเทียนเฉิงก็ตายเลยอย่างนั้นหรือ? สรุปว่ามันเกี่ยวอะไรกับแสงสายฟ้านั่น? ไม่มีใครสามารถไขข้อสงสัยนี้ได้
บนร่างของสินเทียนเฉิงไม่มีรอยบาดแผลใดๆ ดูเหมือนว่าจะตายโดยไม่มีโรคอะไร
ในตอนนั้น หัวหน้าทั้งสามของเสว่ซ่าก็กำลังเดินทางบริเวณตรอกซอกซอย พวกเขามีท่าทางเร่งรีบ ราวกับกำลังตามหาร่องรอยของใครบางคน
ฟิ้ว มีลมพัดเข้ามา ฉินหลั่งเข้ามาขวางหัวหน้าทั้งสามนั้นไว้
หัวหน้าทั้งสามมองเห็นฉินหลั่ง ก็รีบคุกเข่าลงที่พื้น “ประมุข พวกผมขอทำความเคารพ”
“อืม เรื่องในเมืองเย็น พวกเอ็งไม่ต้องไปยุ่ง และห้ามแตะต้องคนตระกูลฉินแม้แต่เส้นผม แต่ถ้าพบกับคนตระกูลฉินเข้า ก็ช่วยดูแลให้ดี เข้าใจไหม?”
“ครับ!ครับ!ครับ!” หัวหน้าทั้งสามทำความเคารพพร้อมกัน แล้วก็หันตัวหายไปในความมืด
“ประมุขหรือ?” ซ่งซื่อหยูนในความมืดก็มีใบหน้าสงสัย เขานึกว่าฉินหลั่งจะต่อสู้กับหัวหน้าทั้งสามของเสว่ซ่า ใครจะรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หัวหน้าทั้งสามเป็นถึงปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ แต่มาก้มหัวทำความเคารพแก่ฉินหลั่ง เช่นนั้นตำแหน่งของฉินหลั่งก็คือ……….
เดิมทีซ่งซื่อหยูนหลังจากออกจากการเก็บตัวแล้ว ก็คิดจะต่อสู้สร้างชื่อไปทั่วสารทิศ ถึงขนาดมีความคิดอยากจะรวบรวมยุทธจักรให้เป็นหนึ่ง ตอนนี้ได้มาเห็นวัยรุ่นตระกูลฉินที่ลึกลับคนนี้แล้ว ความกล้าก็หายไปในบัดดล แล้วรับรู้ได้ว่ายุทธจักรนั้นกว้างใหญ่ ตนเองนั้นก็เป็นเพียงกบในกะลา ไม่รู้เรื่องในยุทธจักรอะไรเลย ถึงขนาดคิดว่า ที่เขาได้เห็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดกับฉินหลั่ง ล้วนเป็นเพราะว่าฉินหลั่งตั้งใจให้เข้าได้รับรู้ ชีวิตตนเองจะเป็นตายอยู่ในเสี้ยววินาที เพียงแต่ฝั่งตรงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะลงมือฆ่า
หลังจากสินเทียนเฉิงตายไปโดยไม่รู้สาเหตุนั้น กรณีเดียวกันก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงในสมาคมต่างๆ แม้แต่ทั่วเมืองเย็นจีนเอง หรือจะเป็นที่ต่างๆ ในประเทศจีน ก็เกิดการตายผิดธรรมชาติทั้งสิ้น
พวกเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่คบไม่ได้ของตระกูลสิน ก็ล้มหงายหลังตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ตายผิดธรรมชาติ บนร่างก็ไม่มีร่องรอยใดทั้งสิ้น
พวกลูกน้องมีฝีมือของตระกูลสินที่กำลังน่าดำคร่ำเครียดอยากจะเอาชนะฉินหลั่ง ก็หมดลมหายใจไปภายในห้องทำงานหรือไม่ก็ที่บ้านพัก
ผู้อาวุโสของตระกูลสินที่อายุมากแล้ว นั่งอยู่ในสวนดีๆ ก็ตายไปเฉยๆ ไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุอะไรเลย
“ฆ่าหนึ่ง!”
“ฆ่าสอง!”
“ฆ่าสาม!”
“ฆ่าคนที่สิบแปด!”
คนหลักๆ ของตระกูลสินทยอยตายตามกันไปเรื่อยๆ ส่วนตายฝีมือใครนั้น ตอนที่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าใครทำ แม้แต่คนที่อยู่ข้างๆ พวกเขาก็ไม่รู้ เพราะมันตายอย่างฉับพลัน ไม่มีใครเข้าใกล้ก็ตายไปเสียอย่างนั้น
แก้แค้นให้แม่ นี่คือคำสาบานของฉินหลั่ง ส่วนตระกูลสินก็ได้รับผลกรรมที่ตนเองไม่รู้จักประเมินกำลังตนเอง
ภายในเวลาไม่ถึง3วัน คนตระกูลสินตายไปทั้งสิ้น82คน จนเกือบจะตายกันทั้งตระกูล ส่วนฉินหลั่งในตอนนี้ ก็กลายเป็นดั่งเทพที่ประทับอยู่บนเก้าชั้นฟ้าอย่างที่จ้านอู๋หยาเคยคิดเอาไว้ ไม่มีใครสามารถมาต่อกรกับความโกรธของเขาได้ คนที่มาท้าทายเขา ล้วนเป็นเพียงฝูงมดฝูงหนึ่งเท่านั้น
ถ้าจะสามารถให้โอกาสตระกูลสิน ตระกูลสินจะกล้าหาเรื่องกับเทพเจ้าอย่างนี้อีกไหม?
ไม่มีใครรู้คำตอบ แต่ทุกคนต่างก็รู้ดี ว่าตระกูลฉินนั้นไม่อาจจะแตะต้องได้ ถ้าไปแตะต้องเข้า แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจละเว้นได้ ไม่เช่นนั้นคนตระกูลสินจะตายติดต่อกันโดยไม่ทราบสาเหตุเช่นนี้หรือ?
มีเพียงซ่งซื่อหยูนที่เห็นฉินหลั่งใช้พลังฆ่าลุงจื้อในตอนนั้น รู้ว่านั่นคือความโกรธของปรมาจารย์ฉิน ในโลกนี้ยังมีการมีอยู่ของความสุดยอดที่ทำให้คนระทึกเช่นนี้ เป็นการมีอยู่ดั่งเทพเซียน แม้แค่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนตระกูลสินตายด้วยสาเหตุอะไร หรือว่านี่ก็คือปรมาจารย์แดนฟ้าที่ในโลกนี้เขาล่ำลือกัน?
ในใจซ่งซื่อหยูนก็ร่ำไห้ ต่อหน้าปรมาจารย์เช่นนี้ คุณจะรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่มีตัวตน ความทะเยอทะยานสุดกำลังของตนเองนั้น เป็นเพียงเรื่องตลกของฝั่งตรงข้าม อยากจะฟื้นฟูตระกูล อยากจะรวบรวมยุทธจักร ก็เป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น
ตอนที่ความมั่นหน้าของซ่งซื่อหยูนกำลังหมดไปนั้น เขารู้สึกโชคดีกับการตัดสินใจของซ่งเสี้ยวหยู่ ที่ตระกูลซ่งไม่ได้เปิดตัวออกมาช่วยเหลือตระกูลสิน นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดที่เขาได้รับ
ตระกูลสินั้นผิดตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาคิดว่าตนเองนั้นมีส่วนกลางคอยช่วยเหลือ ก็เลยจะมีโอกาสชนะอยู่ในมือ แต่ได้ดูถูกฝีมือของฉินหลั่งไป ไม่สนใจว่าฉินหลั่งนั้นเป็นกำลังสำคัญของตระกูลฉิน
รอให้หลังจากคนมีฝีมือของตระกูลสินถูกฉินหลั่งกำจัดจนหมดสิ้น ตระกูลสินยังจะมีสายเลือดหลงเหลืออีกหรือ ใครกันจะออกหน้ายื่นมือช่วยเหลือตระกูลสินที่พ่ายแพ้ บทสรุปมันก็เห็นได้ชัดเจน
คนตระกูลสินบางคนที่อยู่เมืองนอกก็กำลังคิด การที่ไปลงมือกับจ้าวหมิงหมิงนั้น เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลาเบาปัญญามาก
ลมนาวพัดโบก ภายนอกเงียบสงบของเมืองเย็นจีน ถูกคลื่นใต้น้ำซัดจนแตกออก
ในตอนนี้ ฉินหลั่งที่เดินคนเดียวบนถนน ในที่สุดเขาก็ได้ล้มตระกูลสินได้แล้ว จากนั้นก็มายืนอยู่ที่บ้านพักหลังใหญ่ของตระกูลสินอยู่นานพอสมควร
ตอนนั้นเขาก็เห็นซ่งซื่อหยูน แล้วก็มองเขาไป ในสายตามีแต่ความนัยต่างๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ขาของซ่งซื่อหยูนก็อ่อนแรง แล้วก็คุกเข่าลงให้กับฉินหลั่งโดยไม่รู้ตัว
“ปรมาจารย์ฉิน ผมกราบ ผมกราบ……”
ซ่งซื่อหยูนทำความเคารพอย่างผิดปกติ เกือบจะหมอบอยู่ที่พื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา มันเป็นการนอนราบไปทั้งตัว นั่นมันคือความกลัวอย่างสุดขีด
เขาก็ก้มกราบต่อไป คุกเข่าลงไปประมาณ15นาที ไม่รอเสียงของฉินหลั่ง สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมาเองพบว่าฉินหลั่งได้หายไปนานแล้ว
ถังหย่วนชิงก็ก้มกราบต่อไป คุกเข่าลงไปประมาณ15นาที ไม่รอเสียงของฉินหลั่ง สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมาเองพบว่าฉินหลั่งได้หายไปนานแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset