รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 527 ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าขยะ

บทที่ 527 ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าขยะ
คนๆนี้มวยผมไว้กลางศีรษะ มีเคราสี่เหลี่ยมเป็นพวง เขาสง่างามและดูแข็งแกร่ง สวมเสื้อคลุมแบบตะวันออก เดินเล่นท่ามกลางสายลม
ลูกศิษย์เกือบร้อยคนของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ต้องการที่จะขัดขวาง แต่กลับถูกท่าทีอันทรงพลังของกดดัน พวกเขาจึงถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
“ฆ่า”
ลู้เป้าคำรามด้วยความโกรธ ให้ความร่วมมือซ่งเสี้ยวหยู่กับฉางจื่อชงเข้าโจมตีพร้อมกัน
ชายชราแห่งญี่ปุ่นเดินไปเรื่อย ๆ แขนเสื้อของเขาโบกไหวเบาๆ
“ปังปังปัง —-” ทั้งสามคนล้มคว่ำในทันที กระอักเลือดออกจากปากและจมูก ตกลงไปที่พื้นอย่างแรง
ไม่มีใครสู้เขาได้
“กวาดล้างกองทหารข้าศึกด้วยจำนวนที่มาก? คุณใช้วิธีกวาดล้างกองทหารข้าศึกด้วยจำนวนที่มากหรือ?”
จั่วเฉินบิงอุทานขึ้นว่า “เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งหรือ?”
ฉินหลั่งมองด้วยแววตาสงสัย คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งจะมาด้วยตัวเอง
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งล็อกสายตาอยู่ที่ฉินหลั่ง เดินอย่างเชื่องช้า โบกแขนเสื้อไปมาอย่างสบายๆ
“ปังปังปัง —-” ลูกศิษย์นับร้อยคนที่เข้าขัดขวางทั้งหมดปลิวกระเด็นเหมือนคลื่นทะเลทั้งที่ไม่ได้สัมผัสโดนตัว เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งแม้แต่น้อย
เสื้อผ้าสีขาวที่ปลิวพริ้ว สวยดั่งเทพนิยาย
“สัตว์ประหลาดเฒ่า”
ฉินหลั่งตะโกนพูดในใจ เสี่ยวฉวนดูมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิดไว้
อย่างไรก็ตามฉินหลั่งก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ก้าวเท้าเดินและชี้ไปที่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอีกครั้ง
พลังที่ระเบิดออกมาดั่งกระแสไฟฟ้าพวยพุ่งออกมา
พลังที่พุ่งออกมาด้วยความเร็วนั้น เป็นเส้นบางๆที่สามารถมองเห็นได้ ห่างออกไปสิบเมตรเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งยังคงนิ่งสงบ
เมื่อพลังพุ่งไปข้างหน้า มือขวาของเขาชกไปข้างหน้า
กำปั้นในสายลมเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่โกรธเกรี้ยว
“ตึ๊ง —-” ทุบครั้งนี้ เขาใช้พลังที่ฝึกฝนมาทุบเพื่อหยุดหอกประกายไฟกระเด็นปลิวว่อนไปทุกหนแห่ง
ในขณะนั้นฉินหลั่งบินพุ่งออกไปราวกับนางฟ้าเต้นรำ
เหมือนดั่งฟ้าร้อง เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งผู้ซึ่งทะนงตัวสูงส่งมาโดยตลอดนั้น ครั้งนี้เขาถึงกับแสดงสีหน้าที่ค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจ
เขาพลิกมือคว้าแสงสีขาวกลายเป็นดาบยาวและแทงไปข้างหน้า
ดาบเหมือนดั่งฟ้าผ่า ร้องดังไปทั่วปฐพี “ตึ๊ง”
เมื่อปืนและดาบปะทะกัน แสงเงาพังทลายลง ฉินหลั่งปลิวกระเด็นออกไป
“ฟิ้ว —-” ฉินหลั่งบิดไปมากลางอากาศสองสามครั้ง ก่อนที่จะล้มตกลงบนขั้นบันไดด้วยเสียงอู้อี้ ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังจากที่โจมตีฉินหลั่ง เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งก็ไม่ได้หยุดโจมตี แต่โยนดาบใส่ฉินหลั่งแทน
“ซิ”
สายฟ้าพุ่งออกมาและชี้ไปที่ฉินหลั่ง ฉินหลั่งหรี่ตาลง ทันใดนั้นมือของเขาก็ประสานเข้าด้วยกัน มีพลังเกิดขึ้นระหว่างฝ่ามือของเขา แล้วปล่อยพุ่งออกไปด้านหน้า
“ตึ๊ง—-” มีเสียงน่าตกใจดังขึ้นอีกครั้ง
ต่อจากนั้น พลังอันทรงพลังพุ่งออกมา ระเบิดต่อหน้าฉินหลั่งในทันใด
ชั่วพริบตา ฉินหลั่งก็ปลิวกระเด็นกระแทกเข้ากับเสาของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ กระแทกลงพื้น
“ฟู่…”ฉินหลั่งครางในลำคอ ในที่สุดก็ไม่สามารถทนทานได้ กระอักเลือดออกมา
ฉางจื่อชงกับซ่งเสี้ยวหยู่ พวกเขาตกตะลึงอย่างที่สุด
ความสามารถของฉินหลั่งพวกเขาเคยเห็นมาก่อนแล้ว ต้องเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ไม่มีใครเทียมทานแน่ แต่ไม่คิดว่าเมื่อได้เจอกับสิบกระบวนท่าของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งก็สู้เขาไม่ได้แล้ว
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งคนนี้มีข่าวลือว่า อยู่ในระดับสามของแดนฟ้า กลัวว่าจะไม่ต่ำกว่าแม้แต่ระดับสามของแดนฟ้าแค่นี้แน่ เห็นทีเรื่องง่ายจะกลายเป็นเรื่องยาก จัดการกับเรื่องเล็กๆ เสียก่อน
เมื่อเห็นว่าฉินหลั่งได้รับบาดเจ็บ ฉางจื่อชงก็ไม่สนใจความเจ็บปวดรีบไปช่วยพยุงเขา พร้อมพูดว่า “ประธานฉิน”
จากนั้นพวกคนหนุ่มหลายคนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างเงียบ ๆ จ้องมองเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งด้วยความเย็นชา
พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นแค่ชิ้นเนื้อที่อยู่ตรงหน้าของเสี่ยวฉวนเท่านั้น แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็จะปกป้องฉินหลั่งอย่างสุดความสามารถ
โจวเฉียนหยวนยืนอยู่ตรงหน้าพวกคนหนุ่มเหล่านั้น เขานั่งท่ายองๆ และมองไปยังเสี่ยวฉวนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาเข้าร่วมการต่อสู้มากกว่าร้อยครั้ง แต่เขาไม่เคยเห็นคู่ต่อสู้เช่นนี้มาก่อน วันนี้เขาทำได้เพียง สู้ตายเท่านั้นเพื่อปกป้องประธาน
จั่วเฉินบิงและผู้หญิงนมโตกำลังยิ้มกริ่มดีใจในความโชคร้ายของผู้อื่น หากไม่ใช่เพราะพวกเขาล้วนเป็นลูกศิษย์ของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ พวกเขาต่างก็ร้องดีใจกันขึ้นมาแล้ว
“ฉันไม่เป็นไร”
ฉินหลั่งคุกเข่าไอ พร้อมกับห้ามพวกเขาไว้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกโจมตีพ่ายแพ้แบบนี้ แต่สีหน้าของฉินหลั่งไม่ได้หดหู่หรือเจ็บปวดแต่อย่างใด ยิ่งไม่ถึงกับว่าเขาหมดหนทางจนปัญญาหาทางออกไม่ได้ อย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้
เพราะว่าการบำเพ็ญฝึกการต่อสู้ของเขากำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญ เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งปรากฏตัวในเวลานี้พอดี เป็นเพราะสวรรค์กำหนดหรือ?
หากผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ เขามั่นใจว่าเขาจะเอาชนะเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งได้
อย่างไรก็ตามในสายตาของคนอื่นๆ ฉินหลั่งคือคนที่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ฉินหลั่งหายใจเข้าลึกๆอย่างหนักและสวดคาถาคัมภีร์เต่าเย่า หวังว่าจะสามารถเอาพลังลมปราณกลับคืนมาได้
คุณยายพริกกล่าวว่าศิลปะการต่อสู้ของยาวเย่วกงนั้นล้ำลึกมาก แต่มีความลับที่ได้รับการปกปิดอย่างเคร่งครัดมาหลายชั่วอายุคน ในบางช่วงเวลาที่พิเศษพลังจะลดลง โดยปกติในช่วงเวลานี้จะลดลงอย่างมาก โดยทั่วไปเมื่อถึงเวลานี้ปรมาจารย์จะแอบเข้าไปในภูเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการไล่ล่าตามฆ่าของศัตรู มีการฝึกฝนสมาธิจนกว่าศิลปะการป้องกันตัวจะกลับคืนมา
มันเหมือนกับที่ว่าทุกอย่าง ต้องได้จำศีลในฤดูหนาวแบบนั้น
น่าเสียดาย หลังจากเมื่อวานที่มีโคลนดินออกมาจากร่างกาย แม้ว่าร่างกายของฉินหลั่งจะกลับมาทำงานตามเดิมแล้วก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกว่าพลังงานที่แท้จริงของเขาไม่ได้ถูกปล่อยออกมาได้อย่างราบรื่น
ในตอนนี้ฉินหลั่งรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในร่างกายของเขาอีกด้วย
เส้นเลือดเริ่มไม่สามารถควบคุมไอร้อน ร้อนไปทั่วร่างกาย ฉินหลั่งรู้สึกว่าเซลล์ทั่วร่างกายของเขากำลังวิ่งพล่าน
พวกมันกำลังวิ่งอย่างดุเดือดอยู่ภายในร่างกาย
กระดูกก็มีเสียงเปรี๊ยะปร๊ะ เหมือนเสียงของกระดูกที่แตกร้าว
เลือดยังคงตีขึ้นมาถึงคอ เกือบกระอักเลือดออกมาแล้วหลายครั้ง
“ฉินหลั่ง วันนี้ฉันจะไม่ฆ่าคุณ”
เมื่อเห็นแก้มของฉินหลั่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวสีแดงเดี๋ยวสีขาว เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บภายในอย่างมาก เสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง พูดด้วยสีหน้าดูถูกว่า “เพราะว่าหากฆ่าคุณตอนนี้มันไม่มีประโยชน์ อีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ผมจะทำลายคุณต่อหน้าทุกคนบนกำแพงเมืองจีน”
“ผมไม่เพียง แก้แค้นให้อู๋หย่งลูกชายของผมเท่านั้น ผมยังต้องการบอกให้โลกรู้ด้วยว่าศิลปะการต่อสู้หัวเซียในสายตาของผม อยู่ในกำมือของผม เป็นกำลังที่อ่อนแอและไม่สามารถทนต่อการโจมตีได้…”
“แค่เพียงผมยกมือ ผมก็สามารถทำให้พวกคุณให้ตายได้แล้ว”
“คุณอย่าแม้แต่จะคิดหนี ผมเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง ต้องการที่จะฆ่าใคร เทพเจ้าก็ช่วยไม่ได้ หนีไม่พ้น”
“ดูแลตัวเองให้ดีๆ”
หลังจากพูดเสร็จเขาก็หันหลังเดินตรงไปที่ประตู
ลูกศิษย์ของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้คิดจะเข้าไปขัดขวาง แต่กลับโดนโจวเฉียนหยพูดสั่งห้ามว่า “อย่าขวางเขาปล่อยเขาไป”
โจวเฉียนหยวนรู้ดีแก่ใจว่าทุกคนในที่นี้ไม่สามารถสู้กับเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งได้เลย มีแต่จะถูกเขาฆ่าตาย
ลูกศิษย์ของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ทำได้แค่กัดฟันหลีกทางเท่านั้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังคงมีอารมณ์ขุ่นมัว
พื้นที่ปกครองของตนเอง ถูกศัตรูเหยียบย่ำเข้ามาได้โดยไม่มีใครรู้ เกรงว่าต่อไปพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนจะกลายเป็นถูกหัวเราะเยาะ
“ฉินหลั่ง จำไว้ อีกเจ็ดวัน ไปตายที่กำแพงเมืองจีนเสียดีๆ”
“ช้าไปหนึ่งวินาที ผมจะฆ่าคนสิบคน ช้าไปหนึ่งนาที ผมจะฆ่าคนของคุณพันคน หากกล้าที่จะไม่มา ผมจะฆ่าคนของคุณทั้งหมด”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเดินจากไปด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
คนญี่ปุ่นเดินหัวเราะออกประตูไป ระหว่างทางพวกเขาพบกับลูกศิษย์พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ถีบล้มลงพื้น
อันธพาลอย่างที่สุด
“เพี๊ยะ…”
ในขณะนี้ ผู้หญิงนมโตก็เดินเข้าไปตบฉินหลั่งโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
“ขยะ”
เห็นได้ชัดว่าเธอมั่นใจว่าฉินหลั่งต้องตายแน่ ดังนั้นเธอจึงไม่ปิดบังความเกลียดแค้นของตนอีกต่อไป
“คุณ —-” พวกฉางจื่อชงพุ่งไปข้างหน้าพวกเขาด้วยความโกรธ แต่ถูกจั่วเฉินบิงมองสั่งให้กลับไป พร้อมพูดว่า “คุณกำลังทำอะไร?ต้องการก่อกบฏหรือ?”
“ฉูฉู่พูดว่าฉินหลั่งคือขยะ เธอพูดผิดหรือ?”
“ฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ ไม่ถ่อมตัวทำตัวเย่อหยิ่ง ทำร้ายคนอื่นจนเป็นการกลับมาทำร้ายตัวเอง ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าขยะ
“ฉินหลั่ง เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นเพราะคุณ ก็ควรถูกทำลายเพราะคุณ คุณควรจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว มิฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบไปถึงพันธมิตรศิลปะการต่อสู้”
“ยังมีอีก นับแต่นี้เป็นต้นไป ขอสั่งระงับอำนาจประธานของคุณ คุณจะไม่มีสิทธิ์ที่จะระดมลูกศิษย์ไปเป็นเกราะป้องกัน”
จั่วเฉินบิงพูดขึ้นอย่างสะใจกับความหายนะนี้ว่า “ถ้าคุณกล้าที่จะหักหลัง คุณจะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานีทันที”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset