รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 529 แสงทรงกลดของพระจันทร์

บทที่ 529 แสงทรงกลดของพระจันทร์
เขายุงตั้งอยู่ทางใต้ของชานเมือง มีภูมิศาสตร์ที่กว้างไกล ทิวทัศน์ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา เหมาะสำหรับการฝึกจิตเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ฉินหลั่งอยู่ที่เขายุง ไม่รู้จะไปแห่งไหน
เหลิ่งเชียนชีว มีบ้านพักขนาดห้าร้อยตารางเมตรบนภูเขา ฉางจื่อชงและคนอื่น ๆ ก็รออยู่ข้างใน
พวกลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมาย ได้อ้อมล้อมวิลล่าไว้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นหญิงที่ถูกขนานนามว่ามีหน้าอกใหญ่ หน้าตาดูมีสง่าราศี ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และนำศิษย์ฝีมือดีของแผนกบังคับใช้กฎหมายหลายสิบคนบุกเข้ามาในห้องโถงอย่างผยอง
ลู้เป้าที่อยู่ข้างประตูตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “พวกคุณมาหาใคร?”
“เพี๊ยะ…”
ไม่แม้แต่จะมองดูลู้เป้า ก็ลงมือตบเขาด้วยหลังมือ จนเขากระเด็นลอบออกไป
เมื่อฉางจื่อชงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จึงก้าวไปข้างหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมพูดว่า “จ้าวฉูฉู่ คุณทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร?”
“เพี๊ยะ…”
จ้าวฉูฉู่ไม่พูดอะไร ก็ตรงเข้าไปตบฉางจื่อชงหนึ่งที
ฝีมือของเธอเก่งไม่เท่าฉินหลั่งและจั่วเฉินบิง แต่ว่าเธอแข็งแกร่งกว่าฉางจื่อชง และลู้เป้าถึงสิบเท่าดังนั้นจึงหลบเลี่ยงไม่ได้
จงเส่นซาน พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “พวกคุณมาที่นี่เพื่อพาลหาเรื่องหรือ?”
ฉางจื่อชง พูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “คุณกล้าตบฉันหรือ?”
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเหลิ่งเชียนชีวหลายคน กำลังจะลงมือ กลับถูกลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายเตะหงายหลัง จากนั้นก็ได้ถือดาบจ่อไปที่คอของพวกเขาเพื่อยับยั้ง
จ้าวฉูฉู่มองไปที่จงเส่นซานและคนอื่น ๆ พร้อมพูดขึ้นอย่างดูถูกว่า “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ ไปเรียกฉินหลั่งออกมาพบฉัน”
โจวกางหยุงพยุงลู้เป้า แล้วพูดขึ้นว่า “ฉินหลั่งได้รับบาดเจ็บ คุณต้องการเจอฉินหลั่งทำไม?”
“ได้รับบาดเจ็บหรอ เหอะ สมน้ำหน้า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ถูกฆ่าตายในสนามรบก็ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว”
จ้าวฉูฉู่ยิ้มที่มุมปาก พร้อมพูดขึ้นอย่างยโสโอหังเป็นอย่างยิ่งว่า “ท่านหัวหน้ากลุ่มจั่วมีคำสั่งให้พรุ่งนี้คือการต่อสู้ที่เด็ดขาดของกำแพงเมืองจีน”
“เพื่อป้องกันไม่ให้ฉินหลั่งขี้ขลาดตาขาว จนหนีการต่อสู้ จากนี้เป็นต้นไปเขาจำเป็นต้องมีพวกเราคอยเฝ้าติดตาม จนกว่าจะถึงการต่อสู้ในเวลาบ่ายสามโมงของวันพรุ่งนี้”
“ทำไมเปลี่ยนเวลาแล้วล่ะ ไม่ใช่คือพระจันทร์เต็มดวงหรือ?” จงเส่นซานพูดขึ้นด้วยอาการที่ตกใจ
“ท่านหัวหน้ากลุ่มจั่วพูดว่า ตอนกลางคืนมันไม่ครึกครื้นเท่าตอนกลางวัน ดังนั้นเขาจึงเป็นตัวแทนของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน เปลี่ยนเวลา ทำไมคุณไม่พอใจหรือ?”
“ดังนั้นพวกคุณรีบให้ตามฉินหลั่ง ให้ไสหัวออกมา ให้พวกเราได้ติดตามเฝ้าดูดีๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะจัดการกับพวกไร้ประโยชน์อย่างพวกคุณพวกนี้ซะ”
เธอมองไปรอบๆ พร้อมตะโกนว่า “ฉินหลั่ง ไสหัวออกมา”
ไม่มีเสียงตอบรับ
ลู้เป้าจึงพูดขึ้นว่า “พี่หลั่งไม่ได้อยู่ที่นี่….”
“ค้น…”
จ้าวฉูฉู่ออกคำสั่ง ลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายหลายสิบคนก็ลงมือทันที ทั้งเตะประตูเปิดค้นดูห้องแต่ละห้อง
ห้องครัว ห้องน้ำก็ถูกรื้อค้นจนไม่เหลือชิ้นดี
เดิมฉางจื่อชงคิดอยากที่จะเข้าไปขวาง แต่กลับกลับลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายผลักล้ม จนเกือบล้มชนมุมแหลมของโต๊ะ
จงเส่นซานพูดด้วยความโกรธว่า “พวกคุณจะทำอะไรกัน?”
ซ่งเสี้ยวหยู่ก็โมโหด้วยเช่นกัน เขาอยากที่จะจัดการ แต่เขาก็รู้ดีว่าคนที่กำลังต่อสู้ด้วยคือคนจากสำนักงานใหญ่ จะมีเรื่องต่อสู้ง่ายๆไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายมีคนจำนวนมากกว่า เมื่อเกิดการต่อสู้ชุลมุนขึ้นมา จะเป็นการทำให้โลกภายนอกรู้สึกถึงการแย่งชิงกันอย่างไม่พอใจ
ตราบใดที่หาตัวฉินหลั่งไม่เจอ งั้นก็ดีไป แต่ถ้าพวกเขาหาตัวฉินหลั่งเจอ เขาต้องการได้รับการปกป้อง พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ต่อสู้เท่านั้น
ในเวลานี้ลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายสิบกว่าคนวิ่งกลับมาพร้อมส่ายหัว บ่งบอกว่าพวกเขาไม่พบฉินหลั่ง
วิลล่าเชียนชิวมีห้องใต้ดินทั้งหมดสองห้อง ห้องหนึ่งอยู่ใต้โรงรถด้านนอก และอีกห้องหนึ่งอยู่ใต้บันไดในห้องโถง
เดิมมีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตรสำหรับเก็บของใช้จิปาถะ หลังจากนั้นกลายเป็นห้องสองห้อง และห้องโถงหนึ่งห้องสำหรับหลีกภัย
ลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายค้นแค่โรงรถ เป็นธรรมดาที่จะหาฉินหลั่งไม่เจอ
“พูดมา ฉินหลั่งอยู่ไหน?”
จ้าวฉูฉู่คว้าจับโจวกางหยุงแล้วนำกระบี่ยาวจ่อที่คอของเธอและตะโกนว่า “ถ้าไม่บอก ฉันจะกรีดหน้าเธอ”
วั้นนั้นโจวเฉียนหยวนพาตัวฉินหลั่งมา ในวันนั้นก็ทำให้เธอขัดหูขัดตาแต่แรกแล้ว
“พวกคุณทำมากเกินไปแล้ว”
ฉางจื่อชงพูดคำรามขึ้นว่า “ พี่หลั่งก็เป็นคนของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เช่นกัน พวกคุณทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไง? อีกอย่างพรุ่งนี้คือวันต่อสู้ เขาต้องมาแน่นอน”
“ตึก….”
จ้าวฉูฉู่เตะฉางจื่อชงกระเด็นออกไปอีกครั้ง พร้อมพูดว่า “ฉันไม่สน ยังไงวันนี้ฉันก็จะพาเขากลับไป ถ้าหาเขาไม่เจอ พวกคุณซวยแน่”
“ฉินหลั่ง ไสหัวออกมาเดียวนี้”
เธอส่งคนมาคอยจับตามองอยู่ที่วิลล่าแห่งนี้ตลอด ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าฉินหลั่งไม่ได้ออกไปข้างนอก ยังไงเขาก็ต้องซ่อนตัวอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งแน่
ตอนนี้เป็นฤดูหนาวจัด หยดน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง เธอรู้อยู่แล้วว่าฉินหลั่งไม่ไปฝึกวิทยายุทธที่เขายุงแน่
ขี้เกียจค้นหาอีก จึงจับคนมาขู่เป็นตัวประกันเลยแล้วกัน
“ไม่ออกมาใช่มั้ย?”
ไม่มีการตอบรับใดๆ จ้าวฉูฉู่ยิ้ม พูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “มานี่ มาเอาตัวโจวกางหยุงไปตีให้พิการ”
เธอแค่โบกมือ ลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายก็วิ่งมารวมตัวกัน
ในขณะที่โจวกางหยุงกำลังจะต่อสู้กลับ เขาก็ถูกเตะด้วยเท้าทันที เขาเซลงกับพื้นและถูกรุมกระทืบอย่างรุนแรง
ทั้งเตะและต่อย
ศีรษะของโจวกางหยุงเต็มไปด้วยรอยเลือดหลายแผล
ฉินหลั่งใกล้จะตายแล้ว ตระกูลโจวก็ใกล้ล่มสลายเช่นกัน
การโดนทั้งต่อยและเตะทำให้โจวกางหยุงร้องครวญครางไม่หยุด และปล่อยให้เลือดไหลออกมาจากหัวของเขา
จงเส่นซานกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถูกนักสู้ยอดฝีมือของแผนกบังคับใช้กฎหมายเจ็ดแปดคนจ้องมองดูอยู่ ยังมีคนใช้ดาบชี้ดาบไปที่คนอื่นๆ
“ฉินหลั่ง ฉันให้เวลาคุณสิบวินาที”
“หากสิบวินาทีแล้วยังไม่ออกมา ก็อย่าหาว่าฉันเป็นคนลงมือโหดเหี้ยม”
จ้าวฉูฉู่ตะโกนขึ้นไปทางด้านบนของห้องโถงว่า “ดาบของฉัน มันไม่รู้จักศิษย์ของพันธมิตรเดียวกันหรอกนะ” ยังคงไม่มีใครตอบรับ
“ดี ดี ฉินหลั่ง คุณยังไม่ออกมาใช่ไหม?”
ทันใดนั้นจ้าวฉูฉู่ยิ้มขึ้นมาอย่างโหดร้าย พร้อมพูดว่า “ได้ ฉันจะแทงตาของอดีตลูกศิษย์อันเป็นที่รักของประธานฉิน ให้ตาบอด ดูสิว่าคุณจะซ่อนได้ถึงเมื่อใด”
เธอไม่กลัวฉินหลั่งแม้แต่น้อย จั่วเฉินบิงเคยบอกว่า ฉินหลั่งถูกเสี่ยวฉวนทำร้ายจนพิการ นับประสาอะไรกับเธอ แม้แต่ลูกศิษย์ธรรมดาเขาก็เอาชนะไม่ได้
หลังจากที่พูดจบ เธอก็ยกดาบอันแหลมคมขึ้น และจ่อไปที่ดวงตาของโจวกางหยุง
โจวกางหยุงตกใจกลัว แต่ก็กัดปากอย่างแน่น
ต่อให้เขาตาย เขาก็จะไม่ยอมร้องเรียกรบกวนฉินหลั่ง
จงเส่นซานคำรามขึ้นด้วยความโกรธว่า “พวกคุณจะทำร้ายศิษย์พวกเดียวกันไม่ได้ —-“
จ้าวฉูฉู่พูดขึ้นอย่างโอ้อวดว่า “ผู้หญิงอย่างฉันต้องการจัดการเธอ เทพเจ้าก็ช่วยไม่ได้”
“บูม —-” ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดจากดินถล่มของเขายุง จากนั้นก็มีแสงและเงาสีขาวพุ่งออกมา แล้วก็พุ่งเข้าไปในห้องโถง
“พวกคุณทั้งหมด ต้องตาย”
น้ำเสียงที่ต่ำและไม่แยแสของฉินหลั่งดังกึกก้องผ่านหูทุกคนราวกับเสียงเทพเจ้า
ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาฉินหลั่งขึ้นไปบนยอดเขายุงจากทางลับ ก้าวเข้าสู่การบำเพ็ญตบะอย่างสูงสุด ค่อยๆมีร่อยรอยในการคลายตัว
พลังจากแสงทรงกลดของพระอาทิตย์และพระจันทร์ ฉินหลั่งล้วนกำลังดูดซับ
เขานั่งอยู่บนยอดเขายุง แสงแดดในฤดูหนาวสาดส่องทั่วทั้งภูเขา เมื่อเขาท่องคาถาคัมภีร์เต่าเย่า พลังงานที่อยู่บริเวณรอบๆ ค่อยๆจางกลายเป็นควันและเจาะเข้าตามร่างกายของเขา
เมื่อเขาค่อยๆโจมตีประตูป้องกัน ร่างกายของเขายิ่งเคลื่อนไหวยิ่งเร็วขึ้น แม้แต่ลมหายใจยังหยุด พลังในการดูดที่มองไม่เห็นขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขากระหายในความหวังที่จะได้รับพลังงานมากขึ้น
ในเวลานี้ พระอาทิตย์ทรงกรดบนท้องฟ้าดูเหมือนถูกดึงดูด กลายเป็นพลังงานที่แผดเผาเข้าสู่ร่างกายของเขา
ดูจากภายนอกแล้วฉินหลั่งถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีขาวจาง ๆ ราวกับไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
เวลาในการบำเพ็ญตบะ สามารถดูดพลังของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ โดยอาศัยวิธีแยกร่างในคัมภีร์เต่าเย่าหากการบำเพ็ญเพียงพอยังสามารถดึงดูดพลังได้
พลังในร่างกายของเขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ในความรู้สึกของฉินหลั่งนั้น อุปสรรคที่ปรากฏขึ้นในวันนั้นก็ค่อยๆคลายตัวลง
แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นความปราดเปรื่องหรือพลังของพระอาทิตย์นั้นยังห่างจากความสำเร็จอีกเพียงขั้นเดียว
“โชคดีที่มีวิธีการปรุงยาอมตะ ตอนนั้นอาจารย์ยายคงต้องเจออุปสรรคแบบนี้มาก่อน เธอจึงปรุงยาอมตะเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จ”
เขาหยิบยาคายเหมิงตัน ที่แบ่งออกเป็นสามเม็ดแล้วกลืนเข้าไปในคำเดียว เมื่อยาลงถึงท้อง เหมือนมีไอร้อนไหลไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย
หัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
ท้ายที่สุดก็เกิดเสียงดัง “คลื่นนน”
ฉากกั้นได้พังลงแล้ว!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset