รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 544 ไม่อาจได้ดั่งใจทุกอย่าง

บทที่ 544 ไม่อาจได้ดั่งใจทุกอย่าง
ทว่าฉินหลั่งค่อนข้างชอบคนแบบเย่ฉางเฟิง ถูกคือถูกผิดคือผิดแถมยังมีความคิดในแบบของตนเอง
ดังนั้นฉินหลั่งจึงไม่ได้ไม่เคารพคำสั่งของเย่ฉางเฟิง ความจริงแล้วเขาคือเจ้านายของยาวเยว่กง ถึงแม้จะไม่ได้มีอำนาจใหญ่คับประเทศ ทว่าเย่ฉางเฟิงก็มีอำนาจในระดับเดียวกัน
เพียงแต่ว่าประมุขเย่มีพระคุณกับเขามากล้น อีกทั้งหลังจากที่ผ่านกระแสของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ฉินหลั่งก็ปรารถนาอยากช่วยฉางจื่อชงและพวกเยาวชนทั้งหลาย
“ฉินหลั่ง นายเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ชอบการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายไร้ความขัดแย้ง ฉันพูดถูกไหม?” เย่ฉางเฟิงเอ่ยถาม
“ใช่ครับ ได้เก็บดอกเก๊กฮวยใต้ภูเขาตงหลี เห็นภูเขาหนานซานสะท้อนอยู่ในสายตา ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ แต่การฆ่าฟันกันนับไม่ถ้วน ศพกองกันเป็นตั้งนั้นเป็นการทำลายความสวยงามของทัศนียภาพ แล้วจะทำไปทำไม?” ฉินหลั่งเอ่ยเรื่องข้องใจขงตัวเองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เย่ฉางเฟิงหันมายิ้มให้บางๆ “ฉินหลั่ง ฉันเข้าใจความคิดของนายว่าการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขนั้นสวยงามมาก ทว่านายอยากอยู่อย่างสงบแต่โลกภายนอกไม่ได้สงบด้วย”
“เมื่อนายเป็นหมอ ชีวิตของนายก็ถูกกำหนดให้ไม่มีวันสงบ”
“เพราะว่าเมื่อต้องเผชิญกับการรังแก เผชิญการเหยียดหยามหรือคนข้างกายต้องเผชิญกับการถูกทำร้าย นายไม่สามารถเอาแต่อดทนอดกลั้นเหมือนอย่างแต่ก่อน”
“และเมื่อไหร่ที่นายคิดจะต่อต้าน เช่นนั้นก็จะได้รับการแก้แค้นที่โหดเหี้ยมกว่าเดิม”
“ดังนั้นนายต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง ทำให้ตัวเองมีอำนาจและตำแหน่ง เช่นนั้นนายถึงจะจัดการกับพวกมันได้ ทำให้พวกมันเข็ด ทำให้พวกมันกลัว เพื่อปกป้องคนข้างกายของเรา”
เขาเหมือนคนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อน ตบลงบนบ่าของฉินหลั่งเบาๆ “มนุษย์อยู่ในยุทธจักรไม่อาจได้ดั่งใจทุกอย่าง”
มนุษย์อยู่ในยุทธจักรไม่อาจได้ดั่งใจทุกอย่าง อย่างนั้นหรือ?
ฉินหลั่งใจกระตุกครั้งหนึ่งก่อนจะเอ่ยถอนหายใจ “ใช่น่ะสิ”
คำพูดประโยคนั้นของเย่ฉางเฟิงทำให้ฉินหลั่งตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะอยู่ในพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เป็นการชั่วคราว
“เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ที่เชิญนายมาในวันนี้ก็เพราะอยากดื่มเหล้ากับนายสักหน่อย”
เย่ฉางเฟิงหัวเราะพลางนั่งลง “เดี๋ยวอีกสักหน่อย ฉันก็จะออกจากเย็นจีนแล้ว จะเจอกันอีกครั้งคงต้องรออีกครึ่งปี”
ฉินหลั่งเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “จะไปไหนหรือ?”
“กลับบ้าน”
น้ำเสียงของเย่ฉางเฟิงอ่อนโยนลง “ไปเยี่ยมเยียนคนในอดีตที่หลับใหลมานานหลายปี……” ฉินหลั่งนั่งเหม่ออยู่บนเรือกว่าครึ่งค่อนวัน ทั้งดื่มชา ทานข้าว ฟังเพลง อย่างสุดท้ายคือเมาไปอีกรอบ
กระทั่งช่วงพลบค่ำ เขาก็มาถึงวิลล่าเชียนชีว
การเดินทางในยุคปัจจุบันพัฒนาไปไกลจนน่าตกใจ จนทำให้ไม่มีความทุกข์ที่เกิดจากความคิดถึงสักเท่าไหร่ จงยู่กลับมาจากภูเขาเทียนแล้ว ดังนั้นเมื่อฉินหลั่งเปิดประตู จงยู่ก็เข้ามาต้อนรับทันที
เธอต้มซุปแก้อาการเมาค้างให้แก่ฉินหลั่ง และยังเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้เขา ช่างประณีตดั่งภรรยาที่เอาใจใส่คนหนึ่ง
ฉินหลั่งเดินไปหยิบซาลาเปาบนโต๊ะอาหาร สุดท้ายก็โดนจงยู่ตีมือเบาๆ เขาจึงจำเป็นต้องหันกลับไปล้างมือ “ยู่เอ๋อ ผมกำลังคิดว่าเราควรจะมีบ้านสักหลังไหม? ที่พักไม่เป็นหลักแหล่งแบบนี้ไม่สบายเลย”
เขาเอ่ยพลางหยิบซาลาเปาลูกหนึ่งขึ้นมากิน ซึมซับบรรยากาศอบอุ่นที่เจอได้ยาก
“ได้ ยังไงฉันก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว คุณตัดสินใจเลยแล้วกัน” ยู่เอ๋อตอบกลับอย่างซุกซน
จากฐานะของฉินหลั่งในตอนนี้ การที่ต้องอาศัยอยู่ในวิลล่าของเหลิ่งเชียนชีวก็ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าแค่เขาเอ่ยปากวิลล่าก็ไม่หนีหายไปไหน แต่นั่นไม่ใช่สไตล์ของฉินหลั่ง
วันที่สองหลังจากทั้งสองคนล่ำลากันแล้ว ฉินหลั่งก็ค่อนข้างจะสบายใจจึงเดินเที่ยวเล่นอยู่บนถนน
“กริ๊ง~”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉินลั่งจึงกดรับสาย
“ฮัลโหล พี่หลั่ง พี่อยู่ที่ไหน?” เป็นสายจากฉางจื่อชงนั่นเอง
ฉินหลั่งจึงบอกตำแหน่งของตนไป
“ได้ เดี๋ยวผมขับรถไปรับพี่ ผมจะปรึกษาเรื่องพันธมิตรศิลปะการต่อสู้กับพี่สักหน่อย”
หลังจากวางสาย ฉินหลั่งก็กวาดสายตามองถนนจากนั้นก็เดินเล่นต่อ
ฉับพลันก็มีใบปลิวใบหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของฉินหลั่ง
“สวัสดีครับคุณผู้ชาย ต้องทราบรายละเอียดของอี้เหอวิลล่าไหมครับ? เราเป็นหมู่บ้านระดับไฮเอนด์ และยังมีโซนวิลล่าที่เป็นเอกลักษณ์ ฐานะอย่างคุณเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมีไว้สักหลัง”
“หลิวหงปิง แกทำงานเป็นไหม? แค่ดูก็รู้เขาจน แถมยังหนุ่มอีก อย่าว่าแต่ซื้อบ้านเลย แค่ห้องน้ำก็คงไม่มีปัญญาหรอก แกแจกใบปลิวให้เขาทำไม?”
ฉินหลั่งเดินเล่นอยู่บนถนนดีๆ ฉับพลันก็มีพนักงานขายโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วยื่นใบปลิวมาให้เขาใบหนึ่ง
พนักงานขายคนนี้ดูท่าทางสะอาดสะอ้าน ทว่าสามารถมองออกว่าตกอับ เพราะว่าเสื้อกันหนาวที่เขาสวมอยู่นั้นถูกซักจนยับย่นทว่าสะอาดมาก
อีกทั้งยังดูอายุไม่มากคงใกล้เคียงกับฉินหลั่ง
ใบหน้าขาวสะอาดนั้นดูแข็งแรงดูมีไฟ ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรงมีเหงื่อซึมอยู่บ้าง
ทว่าเพิ่งพูดได้หนึ่งประโยคยังไม่ทันจบก็ถูกไอ้ผอมสวมชุดสูทและแว่นกันแดดเอ่ยตัดบทก่อน
ไอ้ผอมคนนั้นเดินพุ่งเข้ามาอย่างมีน้ำโหพลางชี้หน้าฉินหลั่ง
“ก่อนออกมาฉันบอกกี่ครั้งแล้ว? บอกว่าจะแจกให้ใครก็ดูด้วย แกดูการแต่งตัว ดูรัศมีของมัน อายุก็ยังน้อย มันเหมือนคนที่มีปัญญาซื้อบ้านหรือ?”
ไอ้ผอมคนนี้คือหัวหน้าพนักงานขาย ตอนนี้กำลังตำหนิชายหนุ่มที่ชื่อว่าหลิวหงปิง
ทว่าหลิวหงปิงก็ไม่ตอบโต้ แต่กลับก้มหน้ารับฟังคำตำหนิ วันนี้เป็นการทำงานวันแรกของเขา เขาไม่อยากถูกไล่ออก เพราะตนนั้นหางานทำมาหนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเงินติดตัวอยู่ไม่เท่าไหร่
“ยังยื่นบื้ออยู่ทำไม? รีบไปแจกใบปลิวสิ!” หัวหน้าพนักงานขายคนนั้นตะคอกใส่
หลิวหงปิงเม้มปากก่อนจะวิ่งออกไป
ทว่าฉินหลั่งกลับหยิบใบปลิวมาดู
“คืนใบปลิวมาให้ฉัน ดูอะไร จนๆอย่างแกมีปัญญาซื้อหรือไง?”
หัวหน้าพนักงานขายแย่งใบปลิวในมือฉินหลั่งกลับคืนไปพลางมองฉินหลั่งด้วยสายตาดูถูก
จากประสบการณ์ที่เขาทำงานในด้านนี้มาหลายปี คนที่แต่งตัวที่เชยอย่างฉินหลั่งแถมอายุยังน้อยมาก แค่ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่ายากจนมาก เขาจะไม่มีทางเสียเวลากับคนยากจนแบบนี้
ด้านฉินหลั่งก็ไม่โกรธ เขาคงไม่สามารถไปซื้อบ้านหลายสิบหลังของโครงการอีกฝ่ายเพียงเพราะความอยากเอาชนะใช่ไหมล่ะ?
ทว่าเขามีความปรารถนาจะซื้อบ้านอยู่จริงๆ
ฉินหลั่งจึงไม่ได้สนใจหัวหน้าพนักงานขายคนนั้นอีก แต่กลับเดินเข้าไปในร้านอาหารซาเสี้ยนร้านหนึ่ง
“เห็นไหม? ฉันพูดผิดตรงไหน? กินข้าวยังต้องเข้าซาเสี้ยน แกคิดว่าเขาจะมีปัญญาซื้อบ้านหรือไง?” หัวหน้าพนักงานขายสั่งสอนหลิวหงปิงลับหลังอีกครั้ง
“จะดูว่าใครมีเงิน แกต้องดูรองเท้า แกต้องดูว่าเขาใส่อะไร? แค่รองเท้าหนังก็ยับย่นไปหมดแล้ว!”
ฉินหลั่งไม่ได้เข้าไปเพื่อทานข้าวแต่ร้านนี้มีซุปถั่วเขียวพอดี เขาต้องซื้อซุปถั่วเขียวกลับไปหนึ่งถุง
เมื่อได้ซุปถั่วเขียวแล้วฉินหลั่งก็ไม่ได้รีบร้อนเดินออกไป เพราะว่าฉางจื่อชงส่งข้อความมาบอกว่าจะมาช้าหน่อย
ฉินหลั่งจึงถือโอกาสนั่งรอด้านใน
“ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้ชาย ผมขอโทษแทนเจ้านายของผมด้วยที่พูดไม่ดีกับคุณเมื่อสักครู่ หวังว่าคำพูดไม่สุภาพของเขาจะไม่ทำให้คุณโกรธ”
ไม่รู้ว่าหลิวหงปิงโผล่มาจากไหน จู่ๆก็เข้ามาขอโทษฉินหลั่ง
“หืม? ทำไมล่ะ?”
“เขาไม่ควรพูดแบบนั้นกับคุณ เพราะไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงินก็ควรได้รบการให้เกียรติ เพราะทุกคนเท่าเทียมกัน เขาไม่ควรดูถูกคนอื่น”
หลิวหงปิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม คำพูดของเขาแฝงไว้ซึ่งความสัตย์จริง ไม่มีการเสแสร้งแม้แต่น้อย
ฉินหลั่งเผยยิ้มจากนั้นก็เอ่ยถามหลิวหงปิง
“จากคำพูดของเจ้านายของนาย นายไม่ควรแจกใบปลิวให้ฉันนี่ ฉันแปลกใจมากว่าทำไมนายถึงแจกใบปลิวให้ฉัน?”
“ความจริงแล้วดูคนแค่ภายนอกนั้นไม่ถูกต้อง” หลิวหงปิงตอบกลับ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset