รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 550 ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็รู้แล้ว

บทที่ 550 ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็รู้แล้ว
เดิมทีโม่เป้ยเป้ยจะเจรจาให้กับทั้งสองฝ่าย ทว่าเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามึนงง “ฉินหลั่ง คุณไม่พอใจเธอต่อว่ากลับสักหน่อยก็พอแล้ว ทำไมต้องบอกว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว”
ฉินหลั่งตอบกลับเสียงเรียบ “เธอไม่ขอบคุณผมก็ไม่เป็นไร แต่นี่ยังจะให้ผมขอโทษอีก ยังมีเหตุผลกันอยู่ไหม”
“หากว่ายังไม่เชื่อก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็รู้แน่ชัดแล้วไม่ใช่หรือไง”
“ไอ้สารเลว! ยังสาปแช่งฉันอีก แกบอกให้ฉันไปโรงพยาบาลฉันก็ต้องไปรึไง?!” เหอซินหย่าโมโหจนตัวสั่น เธออยากตบหน้าฉินหลั่งจนแทบจะทนไม่ไหว
ขณะที่เธอยื่นมือออกไปเตรียมจะฟาดใส่หน้าฉินหลั่ง ฉับพลันก็ถูกเป้ยเป้ยจับไว้กลางอากาศ “ซินหย่า อย่าวู่วามสิ ฉินหลั่งก็แค่โกรธ ต่างฝ่ายต่างยอมกันหน่อยดีไหม……”
แน่นอนว่าโม่เป้ยเป้ยไม่เชื่อว่าฉินหลั่งจะมองเห็นโรคของอีกฝ่ายได้ด้วยตาเปล่า มันเป็นไปไม่ได้ ฉินหลั่งคงโมโหซินหย่าเลยตั้งใจยั่วโมโหคืน
เหอซินหย่าชี้หน้าฉินลั่งพลางตะโกนด่า “เป้ยเป้ย ปล่อยฉันนะ ไอ้สารเลวไอ้ยาจกนี่มันสาปแช่งฉัน ฉันจะสั่งสอนมัน”
“เรากลับที่นั่งกันเถอะ เห็นแก่ฉันหน่อยถือว่าฉันขอ ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเถอะ เราไม่พูดถึงเรื่องนี้กันแล้วดีไหม?”
โม่เป้ยเป้ยลากเพื่อนรักกลับไปยังที่นั่งและบอกเป็นนัยแก่ฉินหลั่งว่าหยุดทะเลาะกันได้แล้ว
“จำไว้ ลงจากรถไฟแล้วรีบไปโรงพยาบาลล่ะ”
ฉินหลั่งปิดเปลือกตาเพื่อพักผ่อน “ไม่อย่างนั้นคงจะไม่รอด……”
“ยังไม่หยุดอีก?”
เหอซินหย่าโมโหแทบตายทว่าไม่สามารถหลุดจากการเกาะกุมของโม่เป้ยเป้ย ทำได้เพียงชี้หน้าด่าฉินหลั่งเท่านั้น “ฉินหลั่ง ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะมาเอาคืนแน่ ”
เหอซินหย่าโกรธจนควันออกหู หญิงสาวสวยคนหนึ่งถูกหาว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือกขาวจนคนทั้งรถหันมามอง แถมคนที่กุเรื่องขึ้นมายังเป็นไอ้ยาจก เธอทนไม่ได้จริงๆ
โม่เป้นเป้ยก็เอือมระอา ต้องคอยปลอบเพื่อนรักตลอดทางและไม่ได้เข้ามาคุยกับฉินหลั่งอีก
ฉินหลั่งปิดเปลือกตาเพื่อพักผ่อนโดยไม่สนใจ
เขาเห็นแก่โม่เป้ยเป้ยถึงบอกอาการป่วยแกเหอซินหย่า อีกฝ่ายไม่ขอบคุณแถมยังหยิ่งยโสอีก ฉินหลั่งก็ขี้เกียจจะสนใจแล้ว
สามชั่วโมงผ่านไปรถไฟก็มาถึงสถานี ฉินหลั่งบิดขี้เกียจก่อนจะเดินออกมา จากนั้นก็ยืนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่บริเวณที่โล่งกว้าง
“ฉินหลั่ง ฉันให้โอกาสครั้งสุดท้าย ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้แล้วฉันจะไม่ถือสาเรื่องวันนี้เพราะเห็นแก่เป้ยเป้ย”
ฉินหลั่งยังไม่ทันได้หิ้วสัมภาระจากไป เหอซินหย่าก็ลากตัวโม่เป้ยเป้ยมายืนดักหน้าฉินหลั่งด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
โม่เป้ยเป้ยก็ฝืนเอ่ยขึ้นมา “ฉินหลั่ง ขอโทษซินหย่าเถอะ”
เธอพยายามมาหลายชั่วโมงถึงจะทำให้เพื่อนรักสงบลงได้ ไม่อย่างนั้นจากนิสัยและอำนาจของเหอซินหย่า เกรงว่าวันนี้ต้องเกิดเรื่องกับฉินหลั่งแน่
ฉินหลั่งมองหน้าเหอซินหย่าพลางเอ่ยขึ้น “ขอโทษหรือ?”
“ทำไม? ให้แกขอโทษแกยังไม่ยอมอีก? นี่คือโอกาสที่เป้ยเป้ยอุตส่าห์ขอไว้เพื่อแกเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการนาย”
เหอซินหย่าคิ้วกระตุก นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ให้ฉินหลั่ง
ฉินหลั่งส่ายหน้าเบาๆ “เกรงว่าเธอจะยังไม่ได้สิทธิ์นั้น”
นั่นเป็นเพราะเขามีความเมตตา ไม่อย่างนั้นฉินหลั่งก็ไม่ถือสาหากต้องขอโทษ แล้วปล่อยให้เหอซินหย่ามองข้ามโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากนั้นก็ทรมานจนตาย
“ฉันยังไม่มีสิทธิ์?”
เหอซินหย่าไม่โกรธทว่ากลับหัวเราะ “แกลองพูดใหม่อีกครั้งซิ?”
เธอสมเพชความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงขอฉินหลั่งจริงๆ หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่โม่เป้ยเป้ย เธอคงเหยียบฉินหลั่งตายไปแล้ว
ฉินหลั่งไม่ปฏิเสธ “พูดสองรอบก็ได้ เธอไม่มีสิทธิ์”
“ได้ๆ แกอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
เหอซินหย่าหมุนตัวกลับไปหาโม่เป้ยเป้ย “เป้ยเป้ย แกเห็นแล้วใช่ไหม ไม่ใช่ฉันไม่เห็นแก่หน้ามันนะ แต่มันไม่ยอมกลับใจเอง”
“เธอไม่ต้องขอร้องฉันแล้ว”
“คนบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ถ้าไม่ให้บทเรียนแก่มันหน่อยมันก็คงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”
เอ่ยจบเธอก็เดินไปทางบันไดเลื่อนพลางหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก
เธอจะหาคนมาสั่งสอนฉินหลั่ง
เมื่อเห็นว่าเหอซินหย่าโกรธแล้วจริๆ โม่เป้ยเป้ยก็ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปยิ้มอย่างเอือมระอากับฉินหลั่ง
“ฉินหลั่ง ครั้งนี้คุณพลาดแล้วจริงๆ”
“เหอซินหย่าไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป บ้านเธอรวยมาก แฟนหนุ่มของเธอก็มีอำนาจ มีเส้นสายกว้างขวาง”
“เมื่อสักครู่คุณพลาดโอกาสที่จะคืนดีไปแล้ว”
“พูดตามความจริง จากเบื้องหลังของคุณไม่สามารถต่อกรกับเหอซินหย่าได้ เมื่อกี้หากคุณขอโทษจะช่วยให้คุณไม่ต้องเดือดร้อนมาก”
โม่เป้ยเป้ยเองก็เริ่มเหนื่อยใจ เธอขอร้องมาตลอดทางทว่าสุดท้ายฉินหลั่งกลับไม่เห็นค่า
“ผมไม่คิดว่าผมจะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร”
ฉินหลั่งยิ้มบางๆ “คุณต่างหาก เตือนเธอให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วย ไม่อย่างนั้นเธอจะอยู่ได้อีกไม่เกินสามเดือน”
เขาพยายามสุดความสามารถของตนเองแล้ว ไม่อยากเห็นชีวิตหนึ่งต้องตายจากไปดื้อๆ
“ฉินหลั่ง!”
โม่เป้ยเป้ยน้ำเสียงดุดันขึ้น “ทะเลาะก็ส่วนทะเลาะ อย่าไปสาปแช่งคนอื่น”
เธอค่อนข้างประทับใจในตัวฉินหลั่ง ทว่าฉินหลั่งกลับเอาโรคร้ายไปสาปแช่งคนอื่น มันชักจะเกินไปหน่อยแล้ว
ส่วนเรื่องที่ว่าฉินหลั่งมีวิชาแพทย์ เธอไม่เชื่อ อายุน้อยขนาดนี้ยังไม่เห็นเค้าของแพทย์เลยสักนิด
“ได้ อย่างนั้นไม่พูดแล้ว”
ฉินหลั่งเผยยิ้มจางๆจากนั้นก็เดินไปทางบันไดเลื่อน
เขาพยายามแล้ว
เมื่อเห็นท่าทีของฉินหลั่ง โม่เป้ยเป้ยก็กุมขมับ รู้สึกว่าฉินหลั่งจะแยกแยะสถานการณ์ไม่ออก
ทว่าเมื่อคิดถึงตอนนี้ฉินหลั่งเคยช่วยเธอไว้ เธอจึงตัดสินใจว่าจะขอร้องเพื่อนรักของเธออีกครั้ง
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจความคิดเห็นของโม่เป้ยเป้ย เขาเพียงแค่หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูที่อยู่ของบ้านตระกูลเหลียน เพิ่งดูเสร็จมือถือก็สั่นขึ้นมา
ฉินหลั่งสวมหูฟังบลูทูธ “ฮัลโหล ใครครับ?”
“ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้านายฉินใช่ไหม?”
น้ำเสียงแสดงถึงความเคารพดังมาจากอีกฟากของสาย
“ผมเป็นพ่อบ้านของตระกูลเหลียน ชื่อเหลียนหรงหวา นายหญิงให้ผมมารับคุณที่สถานีรถไฟความเร็วสูง ไม่ทราบว่าเจ้านายฉินอยู่ตรงทางออกไหนครับ?”
ฉินหลั่งชะงักไปพักหนึ่ง รู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองมาโดยรถไฟความเร็วสูง แถมยังรู้เวลาที่ตนมา เห็นทีว่าตระกูลเหลียนจะไม่ใช่คนธรรมดา
“รบกวนพ่อบ้านเหลียนแล้ว ผมออกมาทางทิศเหนือ”
ฉินหลั่งบอกลักษณะของตนเอง “ผมสวมเสื้อขนสัตว์สีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์ ในมือถือกระเป๋าสัมภาระสีเขียว”
“เข้าใจแล้วครับ”
เหลียนหรงหวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “รบกวนพ่อหนุ่มฉินรอสักครู่ กระผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ฉินหลั่งจึงกดวางสาย นึกถึงน้ำเสียงเคารพของเหลียนหรงหวา แล้วก็นึกถึงท่าทีอวดดีของเหอซินหย่า เขารู้ซึ้งว่าระหว่างคนรวยเหมือนกันก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สามนาทีต่อมา ฉินหลั่งยืนอยู่ตรงประตูทางออกด้านทิศเหนือ เหอซินหย่าและโม่เป้ยเป้ยก็ยืนรอรถอยู่ตรงพื้นที่ว่าง
“ฉินหลั่ง แกจะไม่ขอโทษฉันจริงๆใช่ไหม?”
ดูแล้วเหอซินหย่ายังคงโมโหอยู่ ทว่ากลับโมโหจนยิ้มออกมา แต่เป็นยิ้มแบบเย็นยะเยือก
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเธอ หวังดีแต่เธอไม่เห็นค่า เช่นนั้นเขาก็จนปัญญาแล้ว
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉินหลั่งกลับมาเคร่งขรึม โม่เป้ยเป้ยก็ไม่ได้เข้าไปเอ่ยโน้มน้าวฉินหลั่งอีก
โม่เป้ยเป้ยหวังดีต่อฉินหลั่งจริงๆ ทว่าดูแล้วฉินหลั่งไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
โม่เป้ยเป้ยรู้จักนิสัยของเหอซินหย่าดี ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง คุณมาทำให้ผู้หญิงอย่างเหอซินหย่าโมโห เช่นนั้นเกรงว่าชีวิตของคุณในเมืองเจียงคงต้องลำบากแล้วล่ะ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset