รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 614 ล่องูออกจากถ้ำ

บทที่ 614 ล่องูออกจากถ้ำ
การปรากฏตัวของส้งฉางเว่ยทำให้ส้งฉางซิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าส้งฉางซิงไม่เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชาย ตอนนี้เขาเพียงแค่ทำเพื่อประนีประนอมชั่วคราว
ส่วนฉินหลั่งไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะไม่ว่าจะมีสองพี่น้องตระกูลส้งอยู่หรือไม่การที่ฉินหลั่นอยากจะออกจากคุกเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เหตุผลที่เขายังอยู่ตรงนี้ก็เป็นเพราะต้องการรอดูว่าศัตรูจะโจมตีมาจากทางไหน
คงจะเรียกได้ว่าล่องูให้ออกจากถ้ำมั้ง
หลังจากที่ส้งฉางเว่ยพาตัวส้งฉางซิงจากไป พวกข่งซิงน่าได้นำอาหารเช้ามาให้กับฉินหลั่งและยังให้อิสระกับเขาอย่างเหมาะสม
เวลาที่สอบสวนก็ดูเกรงใจขึ้นมา
ไม่ว่าส้งฉางซิงจะอยู่หรือไม่แต่เส้นสายของฉินหลั่งมันก็ตราบตรึงอยู่ตรงนั้น พวกเขาไม่อยากไปสร้างปัญหาตามอำเภอใจ จะได้หลีกเลี่ยงเวลาเทพเจ้าตีกันแล้วเดือดร้อนมาถึงคนธรรมดา
ครั้งนี้ฉินหลั่งไม่ได้พูดวนไปวนมา เขาเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างจริงจังออกมาและรวมถึงเรื่องที่เมิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนกระโดดลงไปเอง
ถึงแม้ว่าพวกข่งซิงน่าจะรู้สึกว่าเขากำลังโกหก แต่ครั้งนี้ไม่มีใครเพิงเฉยและพวกเขาบันทึกข้อมูลทุกอย่างลงในคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด……..
ในขณะเดียวกัน สนามแข่งม้าชิลีฉวนของเมืองเย้นจีน หยางจ้างกั๋วกำลังขี่ม้าควบตรงไปข้างหน้า โดยด้านข้างมีเมิ่งลี่ลี่ในที่สวมชุดทะมัดทะแมง
เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวีรบุรุษหญิง ขาทั้งสองข้างเรียวยาว ซึ่งดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ผ่านมาได้หลายสิบเมตร หยางจ้างกั๋วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “พ่อของคนเป็นคนหาส้งฉางเว่ยมาเหรอ?”
“น่าจะใช่อยู่มั้ง รองผู้อำนวยการส้งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อฉัน และการห้ามปรามน้องชายของตัวเองมันก็เป็นเรื่องปกติ”
เมิ่งลี่ลี่ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เศร้า “หลังจากที่เขาได้ข่าวก็รีบพาคนไปห้ามทันที ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่าตอนนี้ส้งฉางซิงถูกถีบออกจากสถานีตำรวจไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งได้อีก”
“เมื่อไม่มีส้งฉางซิงคอยช่วยเหลือ การที่ฉินหลั่งคิดจะออกมาคงเป็นเรื่องยาก”
ริมฝีปากสีแดงของเธอเปิดขึ้น “พวกคุณนี่มันเรียกได้ว่าฆ่าคนอย่างไร้ที่ติเสียจริง”
หยางจ้างกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย “พวกคุณไม่สมควรให้ส้งวฉางเว่ยเข้ามายุ่ง”
เมิ่งลี่ลี่รู้สึกอึ้งเล็กน้อย “ไม่ให้เขาเข้าไปยุ่ง ส้งฉางซิงก็จะสามารถทำให้ฉินหลั่งออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยสถานะและความสามารถของเขาคิดจะปกป้องฉินหลั่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด”
หยางจ้างกั๋วหรี่ตาลงเล็กน้อย “เมื่อเทียบกับฉินหลั่งต้องติดคุกหัวโต ผมอยากจะให้เขาถูกทำลายมากกว่า”
“ผมไม่กังวลเรื่องที่ส้งฉางซิงใช้อำนาจเพื่อเรื่องส่วนตัว ขอเพียงแค่เขาละเมิดกฎในการปกป้องฉินหลั่ง ผมก็จะสามารถจับขาของเขาแล้วลากให้จมลงน้ำไปด้วยกัน”
“เกมนี้ผมไม่เพียงแต่จะให้ฉินหลั่งซวยเท่านั้นและผมจะทำให้ส้งฉางซิงซวยไปด้วย ใครที่เข้ามายุ่งคนนั้นก็จะต้องซวยไปด้วย”
เขาเผยให้เห็นร่องรอยแห่งความเสียดาย “ตอนนี้ส้งฉางซิงถูกดึงออกมาไม่ให้ยุ่งก็เท่ากับว่าผลกระทบที่ตามมาก็จะน้อยลง”
เมิ่งลี่ลี่ก้มหน้าแล้วครุ่นคิด หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ดูเหมือนว่าพวกเราจะใจร้อนมากเกินไป”
“ยิ่งไปกว่านั้นพวกคุณยังทำพลาดไปเรื่องหนึ่ง”
หยางจ้างกั๋วที่อยู่ท่ามกลางลมหนาวเงยหน้ามองภูเขาที่อยู่ไม่ไกล “ที่ส้งฉางเว่ยสามารถยืนอยู่ในเมืองเย็นจีนได้อย่างมั่นคง นอกจากความสามารถและภูมิหลังแล้ว สิ่งที่เขามีก็คือความดื้อด้านและเป็นคนมีความยุติธรรมไม่ว่าจะต่อภายในหรือภายนอกก็ไม่มีการลำเอียง”
“เขาไม่แน่ว่าจะยอมเป็นต้องเป็นตุ๊กตาไว้ให้ตระกูลเมิ่งควบคุม แต่ในทางกลับกันเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของภาครัฐที่มีความหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว”
“พวกคุณลากเขาเข้ามายุ่ง เขาจะกลายเป็นดาบสองคม”
“เขาไม่เพียงแต่จะคอยจับจ้องส้งฉางซิงไม่ให้ทำอะไรผิดพลาด แต่มันยังจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของพวกเราด้วย”
“เขารับผิดชอบเรื่องของฉินหลั่งตั้งแต่เริ่มจนจบ เรื่องราวทั้งหมดคงต้องดำเนินไปตามกระบวนการจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว”
“หรือพูดอีกอย่างก็คือเริ่มตั้งแต่ตอนนี้พวกเราไม่สามารถทำอะไรกับฉินหลั่งได้แล้ว อย่างน้อยตอนนี้พยานคำให้การของเราก็ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว”
คำพูดสั้นๆของเขาทำให้เมิ่งเหมิงเหมิงเข้าใจทุกอย่างในทันที
เดิมทีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขของเธอ ตอนนี้เคร่งขรึมลงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ขมขื่น
ถูกต้อง อุปสรรคอย่างส้งฉางเว่ยเป็นคนที่เยือกเย็น ทะเยอทะยาน เย่อหยิ่ง ไม่ชอบสร้างความสัมพันธ์กับใครและในขณะเดียวกันเขาไม่ชอบให้มีเรื่องผิดพลาดเกินขึ้น
เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนเดียวที่กล้าโต้เถียงกับพ่อของเธอในสำนักงานคณะกรรมการยา
เพราะในทำเนียบผู้หลักผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบนิสัยใจคอของส้งฉางเว่ยมีเยอะแยะมากไป
พวกเขาถึงขั้นรู้สึกว่าถึงแม้ส้งฉางเว่ยจะอยู่ในการควบคุมของเมิ่งเย่าตงเขาก็ไม่มีทางสูญเสียความเป็นตัวเองไป
แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วส้งฉางเว่ยยังคงให้ความเคารพแก่ความคิดเห็นของเมิ่งเย่าตง ตัวสำรองยังไงก็เป็นตัวสำรอง ไม่เคยใช้อำนาจเกินเลยและเคารพผู้อำนวยการอย่างมาก
ตั้งแต่ที่สภาพร่างกายของเมิ่งลี่ลี่ฟื้นฟูกลับมา ทำให้เธอเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ใบหน้าเริ่มอวบอิ่ม ไม่ว่าเธอจะอ้วนหรือผอมก็ยังคงดูสวยงาม
การตายของเมิ่งเหมิงเหมิงไม่ได้ทำให้เมิ่งลี่ลี่รู้สึกแปลกใจมากนัก เพราะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ความลับส่วนตัวของเมิ่งเหมิงเหมิง เพียงแต่ว่าในใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะโศกเศร้าเพราะยังไงเขาก็เป็นน้องชายของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นมีความเกี่ยวพันกับฉินหลั่งเป็นอย่างมาก
ฉินหลั่งที่อยู่ในใจของเมิ่งลี่ลี่มันไม่ได้เป็นแค่ใบหน้าธรรมดา แต่มันซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ
ตอนนี้พวกเขาเป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้อีกแล้ว
เมิ่งลี่ลี่ลองถาม “ขั้นต่อไปควรจะทำยังไง?”
“ไม่ทำอะไรแล้ว?”
หยางจ้างกั๋วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เรื่องที่มีการเจาะจงทำร้ายฉินหลั่งโดยตรงไม่จำเป็นต้องมีอีกแล้ว”
เมิ่งลี่ลี่พยักหน้า “เข้าใจแล้ว ฉันจะสั่งให้คนเก็บกวาดสิ่งของที่ไม่จำเป็นทิ้ง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่พ่อของฉันส่งมาจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับเรา”
“ใช่แล้ว หลงเย้นคนนั้นยอมรับความหวังดีของคุณหรือเปล่า?” น้ำเสียงของเมิ่งลี่ลี่ฟังแล้วเหมือนมีอาการหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก
มีประกายแสงในแววตาของเธอ “เธอไม่อยากให้ฉินหลั่งตาย?”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่แปลกมาก”
เมื่อเอ่ยถึงหลงเย้น รอยยิ้มของหยางจ้างกั๋วดูเย็นชาขึ้นมาทันที “เธอมีความรู้สึกดีต่อฉินหลั่งและยังเป็นประเภทที่ยอมทำทุกอย่าง เมื่อเจอกับข้อเสนอของผมเธอตอบตกลงโดยแทบจะไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ”
“ก็แค่ฝันกลางวันที่ถูกแต่งเติมสีสันที่เป็นเรื่องไร้สาระก็เท่านั้น” เมิ่งลี่ลี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็น “เธอยังอ่อนหัด”
“ฮื่ม กับดักที่ผมวางเอาไว้เธอไม่มีทางเลือกอื่น”
กับดักที่ดีขนาดนี้มีเหรอที่สัตว์ป่าจะไม่กระโดดเข้ามา หยางจ้างกั๋วรู้สึกสบายใจ
เมิ่งลี่ลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันหวังว่าจุดจบของเธอมันจะน่าเวทนาจนไม่สามารถอธิบายได้ และสุดท้ายโดดเดี่ยวจนตาย”
“ไม่ เธอเป็นลูกสาวของหลงเถิงแห่งหลินอานและเป็นผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่อยู่ในสายตาของผม”
หยางจ้างกั๋วได้ทำการบ้านเกี่ยวกับหลงเย้นมาอย่างดี “แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้คนหนึ่ง เพียงแค่ถูกกระตุ้นเล็กน้อยเธอก็จะระเบิดมันออกมาในทันที”
“โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตัวฉินหลั่ง มันยิ่งทำให้เธอสูญเสียสติสัมปชัญญะได้ง่ายมาก และบางครั้งมันอาจจะเกินกว่าที่คุณจินตนาการไว้ด้วยซ้ำ”
“ข้อเสนอให้การเท็จของผมสามารถส่งผลกระทบต่อฉินหลั่งได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเธอจะต้องตอบตกลงยังไม่ลังเลเพื่อที่จะช่วยเหลือเขาโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไงอย่างแน่นอน”
“แต่ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ห้ามประเมินความคิดของเธอต่ำเกินไป เธอไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไงแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้หวาดระแวงผม ”
แววตาของเขาปรากฏให้เห็นถึงความสงสัย
เมิ่งลี่ลี่ถอนหายใจ “แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ คงจะต้องเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากอย่างแน่นอน เป็นผู้หญิงที่มีความหมายใช้ได้”
“ไม่ เธอก็เหมือนกับจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง”
แววตาของหยางจ้างกั๋วลุกวาวเป็นประกาย “เวลาอยู่ในสายตาของคุณหรืออยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือภายในขอบเขตและเธอยังทำท่าไม่หวาดระแวงต่อคุณด้วย แต่พอคุณยื่นมือออกมาเธอก็จะกระโดดหนีทันที”
“ทำให้คุณทำได้เพียงแค่มองแต่ไม่สามารถจับต้องได้”
“แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเธอจะต้องเป็นคนที่เดินเข้ามาอ้อนวอนผมด้วยตัวเอง”
น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์ความบ้าคลั่งที่มีความสุขราวกับว่าการเอาชนะหลงเย้นเป็นเรื่องที่น่าสนุกมาก
เมิ่งลี่ลี่รักษารอยยิ้มเอาไว้แต่ไม่พูดอะไร ส่วนในแววตาของเธอปรากฏให้เห็นถึงความเยือกเย็น
เธอคิดมาโดยตลอดที่หยางจ้างกั๋วอยากเอาชนะหลงเย้นเพราะเขาเห็นว่าเธอเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่ง แค่ใช้ทำให้ฉินหลั่งต้องรู้สึกเจ็บปวด แล้วหลังจากนั้นถีบส่งเธอทิ้งไป
แต่ตอนนี้เมิ่งลี่ลี่กลับพบว่า ความสนใจที่หยางจ้างกั๋วมีต่อหลงเย้นมันเกินกว่าคำว่าแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้นไปแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset