รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 643 ทำตามจิตสำนึก

บทที่ 643 ทำตามจิตสำนึก
“พวกคุณสองคนคิดจะเอาฉันเป็นตัวตลกเหรอ ฉันเตือนไว้ก่อนนะ”หวังเฉินจ้องเขม็งผู้ชายทั้งสองคน จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป ข่งซิงน่าที่อยู่ด้านนอกเรียกหล่อนให้ไปทำคดีต่อ
แน่นอน ในใจหวังเฉินรู้สึกซาบซึ้งมาก ส่วนฉินหลั่งที่เห็นหวังเฉินออกไปแล้ว กล่าวว่า “เออ พี่ฉางซิง งั้นผมก็ไปแล้วนะ การแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเปี่ยนเชวี่ย ผมผ่านการทดสอบขั้นแรกแล้ว ตอนนี้เตรียมเข้าแข่งระดับเทศบาล”
อำลากับส้งฉางซิงเสร็จ ฉินหลั่งก็เช็ดคราบปาท่องโก๋ออก จากนั้นก็ออกจากประตูสาขาสถานีตำรวจ
ส้งฉางซิงยังไม่ทันพูดถึงอาการบาดเจ็บของหลานสาว จึงได้แต่ยิ้มฝืดมองแผ่นหลังฉินหลั่งจากไปด้วยความงุนงง ตอนนี้เขาก็สามารถรายงานให้แก่ชายชราลี้ลับได้แล้ว
ฟังจากคำพูดของชายชราลี้ลับแล้ว ต้องรักษาความปลอดภัยของฉินหลั่งเป็นหลัก คือต้องให้การดูแลพิเศษเป็นสิบเท่า ส้งฉางซิงรู้ตำแหน่งอำนาจของชายชราลี้ลับดี เป็นถึงระดับราชากันเลย เมื่อพี่ชายของเขาไปเทียบแล้วก็เท่ากับเป็นเพียงคนตัวน้อยๆเท่านั้นเอง
เห้อ ฉินหลั่งออกไปแล้ว อาการบาดเจ็บของหลานสาวเขา……
ส้งฉางซิงครุ่นคิดดูแล้ว ตอนนี้พวกเขาลงเรือลำเดียวกันแล้ว เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ฉินหลั่งจะไม่สนใจลูกสาวของส้งฉางเว่ย ไว้วันหลังค่อยบอกก็แล้วกัน เพราะยังมีเวลาถมเถ
เพียงแต่เหมือนส้งฉางเว่ยจะมีอคติกับฉินหลั่ง ไม่เหมือนตอนเขาคุยกับฉินหลั่งได้อย่างราบรื่น เกรงว่าการปรับตัวเข้าหากันของพวกเขา คงต้องใช้เวลามากกว่าตนเองกับฉินหลั่งอีก
ฉินหลั่งเดินออกมาได้ระยะหนึ่งก็พบว่าตนยังไม่ได้จ่ายค่าประกันตัว แต่ก็ไม่มีใครวิ่งมาถามเขา เขาจึงรู้สึกเบื่อหน่าย เตรียมกลับไปถาม และเป็นดังคาด หลู่เหม่ยเฉินเคยมาก่อนหน้านี้แล้ว ถึงยังไม่ได้เจอตัวฉินหลั่ง แต่เธอก็จ่ายเงินหนึ่งล้านหยวนเป็นค่าประกันตัวเรียบร้อยแล้ว
เดินอยู่บนถนนอย่างอิสรเสรี ฉินหลั่งรู้สึกสดชื่น เวลานี้บริเวณไม่ไกลนักมีเสียงอันไพเราะดั่งนกบรรเลงเพลงแว่วเข้ามา “ฉินหลั่ง!”
ที่แท้หลู่เหม่ยเฉินรออยู่ด้านนอกนานแล้ว เมื่อเห็นฉินหลั่งก็ดีใจเหลือหลาย ไม่หวาดหวั่นกับคนเดินผ่าน โถมตัวเข้ามากอดฉินหลั่ง
มุดหัวเข้าไปอยู่ในอ้อนกอดฉินหลั่ง ปากเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณยังออกมาได้ ยังออกมาได้ ฉันดีใจจริงๆ ดีใจมาก……”
หลู่เหม่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นหลายส่วน ใบหน้ามีน้ำตาไหลลงมา เห็นได้ชัดว่ากังวลใจมาตลอดทั้งคืน ฉินหลั่งกลายเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว
ไม่ใช่ว่าหลู่เหม่ยเฉินจะไม่รู้อำนาจมืดที่ซับซ้อนในเมืองเย็นจีน ตระกูลเสี้ยง ตระกูลหยาง และยังมีคนญี่ปุ่นอีก ไม่มีพวกไหนอ่อนหัดเลย ฉินหลั่งผู้เป็นวีรบุรุษโดดเดี่ยว สามารถปลีกตัวออกมาอย่างปลอดภัยกับคนพวกนี้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์แล้ว
ประเด็นคือ ฉินหลั่งฆ่าคนจริงๆ หลิงมู่หยวนสาม ยายฮู ล้วนตายในเงื้อมมือของฉินหลั่งทั้งหมด
สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ สังคมสมัยนี้ยึดหลักฐานเป็นหลัก วิธีการฆ่าคนของฉินหลั่ง ไม่แตะต้องแม้กระทั่งร่างกายของศพ จึงไม่มีทางตัดสินโทษให้เขาจริงๆ
สำหรับหลู่เหม่ยเฉินกังวลใจมาโดยตลอดว่า ฉินหลั่งจะออกมาพบหน้าเธอได้หรือไม่
และสิ่งที่ทำให้หลู่เหม่ยเฉินประหลาดใจก็คือ เสี้ยงย่าเยว่ถูกกักขังตัว คนอื่นที่รวมกลุ่มมารังแกเธอก็ถูกลงโทษอย่างยุติธรรมแล้ว มันดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วมาก ทำให้เธอรู้สึกนับถือผลการตัดสินในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“สาวน้อย น้ำตาของคุณไหลมาเปียกเสื้อผ้าของผมแล้ว เสื้อราคาหนึ่งร้อยของผมต้องซื้อใหม่แล้ว”น้ำเสียงฉินหลั่งเฉื่อยชามาก
ราวกับรำคาญที่หลู่เหม่ยเฉินมีความรู้สึกดีๆกับตนเกินเหตุ
หลู่เหม่ยเฉิน หา หนึ่งคำ ถือรับรู้ได้ว่าตัวเองเสียมารยาทแล้ว ฉินหลั่งปฏิบัติกับตนอย่างเย็นชามาโดยตลอด เธอรู้สึกชินแล้ว แต่พออยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ฉินหลั่งก็เผยความเป็นห่วงตนออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย เธอจึงรู้สึกอบอุ่นใจ รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายประเภทหน้านิ่งใจดี เห็นฉินหลั่งช่วยตนอย่างไม่คิดชีวิต ความรู้สึกดีๆของเธอได้สื่อออกไปแล้ว เพียงแต่ฉินหลั่งไม่รับยอมเสมอมาเอง
พอหลู่เหม่ยเฉินออกมาจากอ้อนอกของฉินหลั่งอย่างเขินอาย ฉินหลั่งถึงพูดว่า “คุณไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมพิทักษ์คุณธรรม ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ต้องถูกจำคุกอยู่แล้ว หากผมทำอย่างนี้แล้วยังถูกจับก็คงไร้ความเที่ยงธรรมแล้ว มีคนทำผิดสารพัด ส่วนผมแค่ทำความดีเฉยๆ”
น้ำเสียงฉินหลั่งเริ่มอ่อนโยนขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเขาเห็นหลู่เหม่ยเฉินเป็นห่วงเป็นใยเขามาเนิ่นนานแล้ว จึงอดสงสารไม่ได้
“และอีกอย่าง ผมเดินอยู่ใต้หล้าเดียว แต่มีคุณหนูหลู่คอยหนุนหลัง เรื่องร้ายของผมต้องกลายเป็นดีอยู่แล้ว”
ฉินหลั่งพูดปลอบโยน
“เห้อ ฉินหลั่ง คุณอย่าล้อฉันเล่นเลย ฉันรู้ในความสามารถของตัวเองดี คุณยิ่งชมฉัน ฉันก็ยิ่งเสียใจ ยิ่งรู้สึกผิด”
ใช่แล้ว หลู่เหม่ยเฉินพูดความจริง คุณหลู่ตระกูลหลู่อย่างเธอถูกรังแก หากไม่ใช่ฉินหลั่งยื่นมือเข้ามาช่วย เห็นได้ชัดว่าหยางจ้างกั๋วจะไม่ช่วยเธอทวงความยุติธรรมเป็นแน่ ในสายตาบางคนตระกูลหลู่ก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลย
อีกอย่าง เมื่อฉินหลั่งเกิดเรื่องขึ้น ตั้งแต่เมื่อคนจนถึงตอนนี้ หลู่เหม่ยเฉินติดต่อทุกช่องทางเพื่อลดโทษของฉินหลั่งให้น้อยลง แต่ไม่ว่าเธอจะโทรออกมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดกลับมา เห็นได้ชัดว่ามีอำนาจใหญ่กว่ากำลังแอบซุ่มโจมตีฉินหลั่งอยู่ ส่วนหลู่เหม่ยเฉินอย่างเธอก็เปล่าประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
“ฉินหลั่ง ฉันผิดต่อคุณ เมื่อคืนคุณช่วยฉันในท่วมกลางภัยอันตรายขนาดนั้น แต่ฉันกลับไม่มีความสามารถแก้ไขสถานการณ์ของคุณได้ ฉันหลงคิดว่าตนเป็นคนตระกูลหลู่ แต่ฉันกลับไร้ค่าสิ้นดี”หลู่เหม่ยเฉินรู้สึกขอโทษ ใช่แล้ว หลังจากที่เธอถูกปล่อยตัว แม้แต่โอกาสมองฉินหลั่งก็ยังไม่มี
ตอนนี้หลู่เหม่ยเฉินไม่พอใจต่อหยางจ้างกั๋วเป็นอย่างมาก ไอ้คนขวัญอ่อนเมื่อวานแทงเธอครั้งหลัง ถึงตอนนี้หลู่เหม่ยเฉินก็ยังคงเกลียดชังเป็นอย่างมากอยู่ดี
เธอเริ่มรู้ว่าหยางจ้างกั๋วเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ปากพูดตาขยิบ ซึ่งสันดานที่แท้จริงของหยางจ้างกั๋วคงจะเป็นแบบนี้ หากอยากตัดสินนิสัยใจคอของผู้ชายว่าเป็นอย่างไร เวลาผู้หญิงตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย จึงเป็นตัวพิสูจน์ที่ดีที่สุด
อันที่จริง หลู่เหม่ยเฉินประมาณอำนาจของตระกูลหลู่ต่ำไป ไม่ใช่ตระกูลหลู่ไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะศัตรูของพวกเธอนั้นแข็งแกร่งเกินไป เชื่อมโยงไปทุกด้าน คลื่นใต้น้ำที่มีอยู่ หลู่เหม่ยเฉินยังไม่เห็นชัดเอง
“อืม คุณไม่ต้องคิดอย่างนี้ ไม่ผิดอะไรเลย เรื่องเมื่อคืนคุณคงพยายามเต็มที่แล้ว ผมจะโทษคุณได้ยังไง เพียงแต่……”ฉินหลั่งขมวดคิ้ว
“เพียงแต่อะไร?”หลู่เหม่ยเฉินเห็นฉินหลั่งขมวดคิ้ว รู้สึกใจสั่นขึ้นมา
“เพียงแต่ คุณยึดความรู้สึกมากเกินไป หากใช้อารมณ์มากๆ เรื่องเมื่อคืน จะพูดยังไงดีนะ คุณเข้าใจไหม?”สีหน้าฉินหลั่งยิ่งเย็นชา
“เข้าใจ?เข้าใจอะไร……”หลู่เหม่ยเฉินกัดริมฝีปาก รู้สึกว่าอารมณ์ฉินหลั่งแปรปรวนเร็วมาก สมองของตัวเองหมุนไม่ทัน
แต่เธอรู้สึกว่าฉินหลั่งคงพูดเรื่องไม่ค่อยดีแน่ๆ เธอเลยเตรียมใจรับมือของการถูกตำหนิได้แล้ว
“ผมจะให้คุณเข้าใจว่า ไม่ใช่หลู่เหม่ยเฉินอย่างคุณมีเกียรติมากถึงขั้นให้ผมยื่นมือไปช่วย แต่ความจริงคือ หากอยู่ในสถานการณ์อย่างเมื่อคืน ขอเพียงเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะใช้แซ่อะไร ผมก็จะช่วยอยู่ดี ซึ่งเป็นการกระทำที่มาจากจิตใต้สำนึกฝ่ายดี เห็นคนอื่นถูกรังแกไม่ได้ เมื่อก่อนผมก็เคยถูกรังแกมาก่อน ดังนั้นจึงเข้าช่วยเหลือด้วยความเห็นใจ”ฉินหลั่งพูดอย่างเย็นชา
“ความหมายของคุณคือ……ความหมายของคุณคือ……คุณช่วยฉันโดยไม่เกี่ยวกับฉัน?”หลู่เหม่ยเฉินกัดริมฝีปากเบาๆ สีหน้าซีดขาว ความอ่อนโยนความหวานแหววกลายเป็นขมฝาดทันที
“ใช่ พูดอย่างนี้แล้วกัน ถึงแม้จะเป็นลูกหมาลูกแมว ผมก็จะช่วย แต่ไม่ได้หมายถึงผมจะไปเลี้ยงดูลูกหมาลูกแมว ผมแค่เห็นเธอน่าสงสาร แค่นี้เอง แต่เธอจะมารังควาน อยู่ติดตัวผมไม่ได้ เพราะผมทำด้วยจิตสำนึก ไม่ใช่ความรัก”ฉินหลั่งพูดอย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีความโหดร้ายอยู่บ้าง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset