รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 652 พูดเป็นต่อยหอย

บทที่ 652 พูดเป็นต่อยหอย
“จากที่สื่อของผมรู้ ตอนนี้คนในตระกูลพวกนี้เริ่มใช้นโยบายการทำงานเป็นกะแล้ว บางคนถึงขั้นเสี่ยงติดคุก มีการเริ่มเผาวันละเล็กละน้อย ก็เพื่อให้บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินของคุณหวาดผวา ทำธุรกิจต่อไม่ได้”
“ตอนนี้พวกเขาเริ่มเผาแล้ว แต่เหม่ยเฉินยังไม่ทำอะไรอีก เพราะสื่อต่างๆกำลังประณามบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน ว่าอาศัยที่ตนแกร่งกว่ามาข่มเหงรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่เต็มใจที่จะแก้ไขวิกฤต”
“ประธานหลู่ สถานการณ์ไม่ดีกับคุณเลยนะ แม้ในใจคุณจะรู้สึกไม่ยุติธรรมมากๆ แต่คุณก็ไม่ได้ติดต่อกับBaipin Mediaของผมนี่ เลยเป็นฝ่ายถูกกระทำแบบนี้”
ต่งเต๋อเผยพูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล เพื่อผลประโยชน์ เป้าหมายที่ต้องการก็คือเงิน1พันล้านหยวน
“เหอะ ต่งเต๋อเผยคุณเห็นฉันเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ใช่ไหม?ต้องการเงินก้อนโตงั้นเหรอ?แล้วถ้าฉันไม่สนใจล่ะ?คุณคงมีอุบายอื่นมาให้ฉันฟังคำสั่งอีกใช่ไหม?”หลู่เหม่ยเฉินเอนตัวไปด้านหลัง สายตาเยือกเย็นสุดๆ
“ฮ่าๆๆ คุณทายถูกแล้ว ตอนนี้ทีมรายงานข่าวของผมได้ตรวจสอบหมดแล้ว และรวบรวมเป็นรายงานเชิงลึก เมื่อถึงตอนนั้น หากประธานหลู่ไม่สนใจจริงๆ งั้นพวกเราคงต้องแถลงข่าว รายละเอียดของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินต่อตลาด เพื่อให้ได้รู้ความจริงแล้วล่ะ ”ต่งเต๋อเผยพูดแฝงไปด้วยคำขู่
“ทั่วทั้งประเทศจีนล้วนมีช่องข่าวของเรา ผมรับรองว่าบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินดังแน่”ต่งเต๋อเผยพูดเสียงหนักแน่น และรอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดา
“ผมเชื่อว่าเมื่อข่าวของพวกเราออกไป บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินต้องไม่น่าเชื่อถืออีกแน่ ถึงจะไม่ล้มละลาย แต่ยอดการตลาดจะหดหายไปจากเดิมเยอะมากแน่นอน ประเมินคร่าวๆคงเสียหายอย่างน้อยพันล้าน ผมคิดว่าเมื่อถึงตอนนั้นประธานหลู่คง ไม่หยาบคายเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่น่าจะขอร้องให้เราร่วมมือด้วยแน่ ดังนั้นผมจึงเตือนคุณก่อน เพราะเห็นแก่ที่เรามีไมตรีต่อกัน หวังว่าคุณจะแยกแยะคุณและโทษได้”
ต่งเต๋อเผยพูดถึงตอนที่พึงพอใจ พลางหยิบบุหรี่ออกมาจุดราวกับข้างๆไม่มีใครอยู่ด้วย แล้วพ่นควันออกมา รอยแผลบนหน้าก็แดงไปด้วย เขาเป็นแค่พวกไม่มีเหตุผลสมกับราคา ที่เอาหนังด้านนอกออกไปชั้นหนึ่งก็แค่นั้น
เขาถามข้อแก้ต่างออกมาแบบนี้ ต่อหน้าบริษัทต่างๆล้วนไม่พอใจ แม้แต่บริษัทมหาชนจำกัดมูลค่าหลายหมื่นล้านเหล่านั้น ยังยอมจ่ายระงับความพินาศ หลู่เหม่ยเฉินเป็นใครกัน ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีค่าพอให้พูดถึงก็แค่นั้น
“ประธานหลู่……”ต่งเต๋อเผยหรี่ตาพูดพลางยกแก้วชาขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น:
“ไสหัวออกไป!”
หลู่เหม่ยเฉินสีหน้าเย็นชา ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
ต่งเต๋อเผยแทบสำลักน้ำชาออกมา หนึ่งเพราะมันร้อน และเพราะท่าทีของหลู่เหม่ยเฉินที่ทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว ต่งเต๋อเผยปัดใบชาบนเสื้อผ้าออกอย่างรุนแรง หน้าถอดสีพลางพูด:“หลู่เหม่ยเฉิน ผมพูดแต่เรื่องดีๆ คุณอย่าพูดดีๆไม่ชอบ ชอบให้บังคับดีกว่า”
“ต่อให้เมื่อครู่ผมทำร้ายคุณ แต่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้บริษัทเหม่ยเฉินของคุณไม่มีที่อยู่ได้”
“แค่พันล้าน ไม่ได้เยอะอะไรเลย เพราะบริษัทคุณเป็นบริษัทขนาดกลาง เราไม่เอาเรื่องนั้นมาเอาเปรียบหรอก”
“ผมเห็นแก่ตระกูลหลู่จึงหาทางออกให้คุณ คุณเข้าใจความปรารถนาดีของผู้อื่น งั้นผมก็ไม่เกรงใจแล้ว”
“หากเป็นคนอื่น ไม่เพียงแต่ทำลายบริษัทคุณจนหมด ยังให้คุณไปปรนนิบัติผมบนเตียงด้วยซ้ำ”
“ผมพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าคุณไม่โอนเงินจำนวน1พันล้านให้ผมภายใน15นาทีหลังจากนี้ คุณและบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินรอรับหายนะที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้เลย”
“ผมจะบอกคุณให้นะ ตอนนี้คนด้านนอกพวกนั้น กำลังรอผลการเจรจาของผม หากพวกเขาจุดไฟเผาตอนกลางคืน คุณเตรียมย่อยยับได้เลย”
สายตาหลู่เหม่ยเฉินเต็มไปด้วยความเย็นชา แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขู่งั้นเหรอ?สิ่งที่หลู่เหม่ยเฉินไม่กลัวที่สุดคือการข่มขู่ แม้แต่การแต่งงานกับเจ้าชายบ่อน้ำมันเธอยังกล้าทำลาย ยังไม่อะไรที่เธอไม่กล้าอีก?
อ่อนนอกแข็งใน ฆ่าอย่างไม่ลังเล คำเหล่านี้เหมาะกับหลู่เหม่ยเฉินที่สุดแล้ว
เธอมองต่งเต๋อเผยด้วยความเยือกเย็น ได้เปรียบ และเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ต่งเต๋อเผยดูอวดดีเป็นอย่างมาก ลืมไปแล้วว่าที่นี่เป็นบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน และหลู่เหม่ยเฉินเป็นราชินีของตึกนี้
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังซ่า!
ผู้ชายคนหนึ่งหยิบแก้วชาที่อยู่ตรงหน้าต่งเต๋อเผย สาดเข้าเต็มๆหน้าต่งเต๋อเผย
ต่งเต๋อเผยอึ้ง แม่งนี่มันอะไรกันวะเนี่ย
“ผมให้เวลาคุณ5นาที คุกเข่าลงแล้วขอโทษ ตบหน้าตัวเอง10ครั้ง แล้วตัดนิ้วออก1นิ้ว”
เสียงเย็นยะเยือกดังมาจากข้างๆ เสียงของฉินหลั่งยังไงล่ะ
“ไม่งั้นBaipin Mediaอะไรนั่นของคุณล้มละลาย คุณเดินเร่ร่อนอยู่บนถนน ก็ไม่มีสื่อไหนใช้วิธีต่ำๆเหมือนคุณแบบนี้หรอก”
“ถ้าไซต์งานของผมขาดคนขนอิฐ คุณมาทำก็ได้นะ มีข้าวให้กิน”ฉินหลั่งพูดน้ำเสียงปกติ ต่งเต๋อเผยฟังแล้วไม่ได้รู้สึกกลัว แต่เหมือนพูดละเมอมากกว่า
ส่วนหลู่เหม่ยเฉินก็ไม่ได้แสดงออกถึงการพึ่งพาฉินหลั่ง เธอไม่ได้อะไรกับสิ่งที่ฉินหลั่งพูด ทำตัวสูงส่งเช่นเดิม รักษามาดราชินีเหม่ยเฉินของตนไว้
นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้ต่งเต๋อเผยเห็น ว่าไม่มีจุดอ่อนใดๆ ไม่งั้นต่อไปไอ้ไม่มีเหตุผลคนนี้จะได้คืบแล้วเอาศอก
แน่นอนว่าดวงตาหลู่เหม่ยเฉินแฝงไปด้วยแสงอันแรงกล้า สายตามันหลอกกันไม่ได้
เพียงแต่ต่งเต๋อเผยโง่เง่า ไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของตนเป็นยังไง
“ล้มละลาย?ฮ่าๆๆ!คุณจะทำให้Baipin Mediaผมล้มละลายงั้นเหรอ?”ต่งเต๋อเผยคิดว่าตนฟังผิดไป เขามองพ่อหนุ่มเสิร์ฟน้ำคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อผ้าซอมซ่อ
จากนั้นต่งเต๋อเผยก็ดีใจขึ้นมาทันที จนลืมที่จะเอาพวกใบชาที่อยู่บนหน้าออก ยิ้มเยาะออกมา:“คำพูดที่แม้แต่ประธานหลู่ของแกไม่กล้าพูด แต่แกกลับกล้าพูด แกบ้าไปแล้วเหรอ?แต่ไม่เป็นไร ฉันทนได้ ยังไงเดี๋ยวกรรมก็ตามสนอง”
“ฮ่าๆๆๆ ฉันแม่งทนไม่ไหวแล้วว่ะ แกมันก็แค่เด็กรับใช้กระจอกๆ กล้าอวดดีถึงเพียงนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินช่วงนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน”
“พูดง่ายๆ อย่าว่าแต่5นาทีเลย ต่อให้ฉันให้เวลาแก5หรือ10ปี ก็อย่าคิดเลยว่าจะทำลายBaipin Mediaของฉันได้”
“อย่าว่าแต่แกเลย ต่อให้รวมบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินเข้าไปด้วยก็เหมือนกัน แกก็แค่พวกบ้าบิ่น ฉันเป็นคนมีการศึกษา มีความสามารถ มันคนละระดับกับแก คนอย่างแกน่ะมีคนเก็บกวาดเยอะแยะ”
ต่งเต๋อเผยอยู่ในยุทธภพมาหลายปี อาศัยความหน้าด้านไร้ยางอาย และการพูดยุยงสร้างปัญหา เขาจึงไม่ยุ่งกับพวกที่ใช้กำลังในการต่อสู้ และยังไงก็สู้ไม่ได้ แต่เขามีวิธีจัดการคนที่ใช้กำลังกับเขา ได้อย่างโหดเหี้ยมและไร้ร่องรอย
ทว่าฉินหลั่งพูดอย่างเย็นชา โดยไม่สนใจเขาสักนิด:“เหลืออีก3นาที……”
“ฮ่าๆ เสแสร้งจนลืมตัว พ่อหนุ่ม แกอยากได้ความดีความชอบฉันเข้าใจ แต่ต้องดูอีกฝ่ายด้วย อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากได้ความชอบจากประธาน มันไม่มีปัญหาหรอก เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่แกต้องรู้ด้วยว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน เข้าใจไหม?ฉันไม่ใช่คนที่แกจะมายุ่งด้วย ถ้าแกยุ่ง ครอบครัวแกคงต้องจัดห้องตั้งศพให้แกแล้วล่ะ ดูสิมันไม่คุ้มเลย?”
ต่งเต๋อเผยฉีกหน้ากากออกแล้ว เปลี่ยนเป็นตัวละครตัวร้าย สิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่ในยุทธภพต้องรู้จักปรับตัว ในเมื่อฉินหลั่งเป็นพวกทำอะไรโง่ๆ งั้นก็ต้องพูดด้วยภาษาที่เขารู้เรื่อง เชื่อว่าฉินหลั่งแยกแยะได้

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset