รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 662 โชคดีส้มหล่น

บทที่ 662 โชคดีส้มหล่น
“หยูฉิง คุณคิดอย่างไร?”
หยางจ้างกั๋วถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คุณวางใจเถอะ ข่าวคราวเรื่องนี้ ฉันจะตอบแทนคุณด้วยค่าตอบแทนก้อนโต จนคุณใช้ไม่หมดในช่วงชีวิตที่เหลือของคุณ”
หยูฉิงยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านประธานหยางคะ ท่านจะถามความเห็นของฉัน งั้นฉันก็ไม่เกรงใจที่จะพูด มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะทนต่อไปได้อีกแล้ว ท่านหยางก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ริษยา แต่เรื่องนี้หากปล่อยให้ผ่านไป ฉันว่าคนในโลกนี้ก็คงต้องดูถูกท่านแน่นอน”
สีหน้าของหยางจ้างกั๋ว เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ แต่ว่าก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ฟังความเห็นของหยูฉิงต่อไป
“หากยาเทพนี้เกิดขึ้นแล้ว ก่อนอื่นไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินทอง คาดว่าท่านก็คงจะนึกออกนะ หม่าเล่วก็ยังเข้าใจเรื่องนี้เลย ถึงเวลานั้น ฉินหลั่งก็จะกลายเป็นคนโด่งดังในทุกหน่วยงาน ไม่มีใครที่อยากจะเป็นศัตรูกับเขา สิ่งที่เขาครอบครองอยู่ไม่ใช่พวกถ้วยชามรามไห แต่เป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่ก้าวล้ำที่สุดในโลกปัจจุบัน!”
“อีกทั้งยังกลายเป็นเป้าหมายที่หน่วยงานภายในประเทศจะต้องเข้าไปคุ้มครอง รสชาติที่ดังเป็นพลุแตกเช่นนี้ ไม่ทราบว่าคุณชายหยางเคยลิ้มลองบ้างมั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะ ต่อให้คุณชายหยางเคยลิ้มรสถึงความหรูหรามั่งคั่งทุกรูปแบบ ปลงต่อสิ่งจอมปลอมทั้งหลายในโลกแล้วก็ตาม แต่ว่าท่านจะทนดูฉินหลั่งก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด แล้วไม่มีความรู้สึกอะไรเลยหรือคะ? ท่านคงรู้ดีว่าแรงกดดันของศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้มันมีมากมายขนาดไหน? ต่อให้เขาไม่ขยับตัว เขายืนอยู่ตรงไหน ท่านก็ยังรู้สึกรับรู้ได้ไม่ใช่หรือคะ?”
“สำหรับผลประโยชน์ทางด้านการค้านั้น ท่านและฉันก็อยู่ในวงการธุรกิจมาหลายปี ท่านยังคงเป็นเจ้าพ่อวงการนี้อยู่ ไม่ต้องให้ฉันพูดมาก ความจริงท่านก็รู้ดีหมดทุกอย่างแล้วค่ะ” หยูฉิงพูดจบสีหน้าพอเปลี่ยนเป็นสงบนิ่งเฉย
หยางจ้างกั๋ว วางแก้วเหล้าลงถอนหายใจเฮือก แน่นอนที่หยูฉิงพูดมาเขาก็เข้าใจหมด เพียงแต่เขายังตัดสินใจเด็ดขาดไม่ได้ ยังไม่มีแผนการที่สมบูรณ์แบบ เพราะฉินหลั่งคนนี้ทำให้ปวดหัวมาก จะใช้วิธีเปิดเผย? หรือจะใช้วิธีด้านมืดดี? ถึงจะใช้วิธีไหนก็ตาม จะต้องไม่ให้ฉินหลั่งมีโอกาสตอบโต้กลับได้ ไม่เช่นนั้นเรื่องฉิบหายจะมาถึงตัวหยางจ้างกั๋ว แน่นอนฝีมือของฉินหลั่งเขาเข้าใจชัดเจนดี
มันเป็นความจริง คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงจะมีความพร้อมทุกด้าน จะต้องไม่ประมาท ไม่เช่นนั้นนอกจากจะเสียเปรียบแล้วก็จะเสียใจภายหลัง ต้องรู้ว่าการตอบโต้ของฉินหลั่งมักจะเป็นลักษณะแบบทำลายล้าง ไม่เคยคำนึงถึงหลักการหรือกฎกติกาใดๆ
พูดไปแล้วก็คือหยางจ้างกั๋วปอดแหกมากกว่า หยูฉิงเพียงแค่พูดถึงความร้ายแรง เพื่อกระตุ้นให้เขาจะต้องรีบลงมือให้หนักหน่วง หยุดครุ่นคิดไปสักพัก หยางจ้างกั๋ว ในใจคงจะตัดสินใจได้แล้ว เขาเริ่มเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นใบหน้ายิ้มแย้มแล้วพูดว่า “หยูฉิง คุณพูดถูกต้องทุกอย่าง แต่ว่าฉันหยางจ้างกั๋ว ไม่ใช่คนใจแคบ ฉินหลั่งเขาจะแดงหรือดำก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจเพื่อผลประโยชน์แล้วสามารถฆ่าภรรยาได้ จึงไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับฉินหลั่งเลย”
“ฉะนั้น คุณอย่าคิดว่าฉันจะมุ่งกำจัดฉินหลั่ง ฮาฮาฮา หยูฉิง ฉันพูดอย่างนี้คุณอย่าคิดว่าฉันกลัวฉินหลั่งนั่นนะ พวกเราควรจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้นแหละ”
“เมื่อกี้พูดว่าคุณเป็นพนักงานคนสำคัญของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน ถ้าเช่นนั้นฉันขอถามคุณว่า คุณสำคัญถึงขั้นไหนกัน ฉันไม่เคยถามคุณเลยเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของฉันเอง”
หยางจ้างกั๋วหรี่ตายิ้มให้ สีหน้าแววตาส่งแสงประกายวาว แต่ซ่อนเร้นด้วยความโหดเหี้ยม
“ฮาฮา.. ท่านประธานหยางถามได้ดีค่ะ พนักงานคนสำคัญก็คือนอกจากฉัน ไม่มีใครสามารถเดินเข้าออกในห้องเวลาที่หลู่เหม่ยเฉินทำงาน แต่ว่าฉันสามารถทำได้ ฉันไม่ใช่ผู้บริหาร ฉันไม่ใช่ผู้รับผิดชอบในแผนกไหน แต่ว่าหลู่เหม่ยเฉินจะเดินทางไปไหนฉันเป็นคนที่จองตั๋วเครื่องบินให้ ยิ่งกว่านั้น หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในบ้านเธอ ฉันจะเป็นคนที่รู้ก่อนเสมอ พูดตรงๆก็คือพวกเราไม่เพียงแต่เป็นเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น ยังนับว่าเป็นเพื่อนกันด้วย”
“หยูฉิง คุณแน่มาก” หยางจ้างกั๋วแววตาแสดงออกถึงความชื่นชม แสดงว่าชอบพอวิธีการทรยศเจ้านายอย่างเปิดเผยของหยูฉิง
“งั้นก็ดีแล้ว หลู่เหม่ยเฉินเป็นประธานบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน เธอต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสูตรลับยาแน่นอน ฉินหลั่งกับเธอก็มีความสนิทสนมกันดี ยังไงก็ไม่ระแวงผู้ร่วมลงทุนที่สนิทเช่นนี้ ดังนั้น สูตรลับปรุงยา จะต้องอยู่ในมือของหลู่เหม่ยเฉินแน่นอน”
หยางจ้างกั๋ววิเคราะห์ได้อย่างละเอียด จากนั้นก็แอบมองไปยังหยูฉิงก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
“คุณเป็นคนสนิทที่สุดของหลู่เหม่ยเฉิน เธอจะระแวงคุณน้อยมาก ถ้าคุณไม่สามารถเอาสูตรลับปรุงยาออกมาได้ คิดว่าคงไม่มีใครที่จะทำได้อีกแล้ว”
“แล้วทำไมไม่ไปเอาที่ฉินหลั่งโดยตรงเลยคะ?” ตอนนี้หยูฉิงก็พูดแทรกขึ้นมา
“ไม่ได้ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ฝีมือการต่อสู้ของเขาไม่ใช่คนทั่วไปจะเอาชนะได้ นี่เป็นคนที่มีพลังต่อสู้ที่ผิดปกติ พวกเราทำงานต้องเริ่มลงมือจากจุดที่อ่อนแอที่สุดก่อน ตอนนี้จุดที่บอบบางที่สุดก็คือ ในข้างกายของหลู่เหม่ยเฉินมีคุณหยูฉิงอยู่ข้างกาย” หยางจ้างกั๋วพูดแบบตรงไปตรงมาถึงความคิดของตัวเอง
“หยูฉิง ฉันรู้ว่าที่บ้านคุณกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินทอง ฉันจะตอบแทนคุณอย่างงาม ทำให้คุณพอใจเต็มร้อยเลย เอาอย่างนี้….เพื่อแสดงความจริงใจของฉัน ฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีคุณก่อน ห้าสิบล้าน นี่เป็นเพียงแค่เล็กน้อย”
“ฉันรับรอง หลังเสร็จงานแล้วฉันจะให้คุณอีก ห้าร้อยล้าน!” หยางจ้างกั๋วแววตาส่งแสงประกาย ชูห้านิ้วขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าของหยูฉิง
หยูฉิงแววตาส่องประกาย ยิ้มอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ท่านประธานหยางให้เกียรติฉันมากเกินไปแล้วค่ะ”
“เพียงแต่ว่าห้าสิบล้าน ดูจะน้อยไปหน่อย ดูเหมือนเป็นการให้เพื่อไล่ขอทานไปหรือเปล่าคะ?” หยูฉิงท่าทีแสดงความเหยียดหยาม “ฉันอยู่ในบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินอย่างน้อยปีหนึ่งก็มีรายได้ถึงสิบล้าน ท่านให้ฉันห้าสิบล้าน จากนั้นก็ไม่ทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ ท่านประธานหยางสมแล้วที่เป็นประธานหยาง ดีดลูกคิดได้เสียงดังดี เพียงแต่ว่าฉันก็ไม่ใช่คนโง่”
“ฉันทำเช่นนี้ เท่ากับเอาศักดิ์ศรีความบริสุทธิ์ของฉันเข้าแลก ท่านประธานหยางอย่าให้ราคาต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้น ฉันก็จะเปลี่ยนไปคุยกับเจ้าอื่นแทนนะคะ”
พูดจบก็หันหลังกลับ หยูฉิงเดินออกไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ช้าก่อน ช้าก่อน หยูฉิง เรามาปรึกษากันได้นะ เรื่องราคาไม่ใช่ว่าคุยกันไม่ได้ เอาอย่างนี้ คุณหยุดก่อน!” หยางจ้างกั๋วตัดสินใจเด็ดขาดที่จะหยุดหยูฉิง “ฉันให้คุณเงินสดสองร้อยล้าน หลังงานสำเร็จจะให้เพิ่มอีกห้าร้อยล้าน คุณวางใจได้ ฉันไม่โกหกคุณเด็ดขาด”
หยางจ้างกั๋วพูดจบ แล้วตบไหล่หยูฉินเบาๆ จากนั้นก็โทรศัพท์ออกไป ผ่านไป 3 นาที ก็มีคนเอาการ์ดดำใบหนึ่งมาให้ หยางจ้างกั๋วก็ยื่นให้หยูฉิงโดยตรง
สีหน้าหยูฉิงก็ค่อยเป็นมิตรขึ้น หยิบการ์ดดำเก็บใส่กระเป๋าอย่างไม่เกรงใจ
“คุณชายหยาง ท่านคิดอยากจะให้ทำอะไร ฉันก็ไปทำตามให้ค่ะ”
“ดีมาก เด็ดเดี่ยวมาก!” หยางจ้างกั๋วสีหน้าบ่งบอกความดีใจ
“เงินสองร้อยล้านนี้ คุณก็เอามาใช้จ่ายในการดำเนินการ ฉันอยากได้สูตรลับปรุงยา คุณไปเอาส่วนผสมของยาผงหยุนเซียน จดบันทึกให้มาหมด จากนั้นก็เอามาให้ฉัน แล้วเรามายื่นหมูยื่นแมวกัน”
“ไม่ ขอเพียงให้คุณบอกมาว่าคุณได้ของแล้ว ฉันก็จะโอนเงินไปให้คุณทันที” คราวนี้หยางจ้างกั๋ว แสดงออกถึงความเชื่อใจหยูฉิงอย่างมากที่สุด
“อ๋อ หรือคะ? ท่านประธานหยาง ท่านไม่กลัวว่าฉันจะเชิดเงินแล้วหนีหรือคะ? แล้วท่านจะเป็นเหมือนตักน้ำด้วยชะลอม ไม่ได้อะไรเลยนะคะ?”
หยูฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยักคิ้วขึ้นถามอย่างไม่มีการถ่อมตัว
“ไม่แน่นอน เราไม่สามารถทำเป็นสัญญาขึ้นมา ไม่เช่นนั้นฉันก็จะเชิญคณะทีมกฎหมายมาเป็นพยานอย่างเป็นทางการ คำพูดของฉันก็ถือเป็นสัญญาได้ นี่คือการแลกเปลี่ยนข้อตกลงของผู้มีสัจจะ คุณรู้ฉันรู้ ทั้งสองต่างไม่ผิดสัญญา ทำงานด้วยจิตใจบริสุทธิ์ก็เพียงพอแล้ว” หยางจ้างกั๋วกล่าว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset