รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 674 ดับเพลิง

บทที่ 674 ดับเพลิง
ประธานลู่อยู่ที่ชั้นเจ็ด ไม่รู้ทำไมตอนนี้ยังไม่ลงมาเลย ตอนนั้นฉันเห็นเธอกำลังตากลม……”
พูดยังไม่ทันจบ ฉินหลั่งก็พุ่งเข้าไปในทะเลเพลิงราวกับลมพายุ ตัวอาคารในตอนนี้ เต็มไปด้วยควันดำ ดังนั้นชั่วพริบตาที่ฉินหลั่งวิ่งเข้าไป เขาก็ได้หายไปจากสายตาของผู้คนทันที
“ท่านประธานเสียสติไปแล้วเหรอ? ไฟแรงแบบนี้ ข้างบนเต็มไปด้วยโครงสร้างไม้ มีสีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แค่เปลวไปพุ่งออกมาโดน ก็จะกลายเป็นกองกระดูกสีดำในทันที”
“คนหนุ่มสาวบุ่มบ่ามจนเกินไป ต่อให้มีของสำคัญอยู่ข้างใน ก็ไม่ควรที่จะพุ่งเข้าไปแบบนี้”
เห็นมีคนวิ่งสวนกระแสเข้าไปในทะเลเพลิง คนที่วิ่งออกมาแต่ละคนล้วนตื่นตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
พวกเขาที่หนีรอดออกมาได้ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดกลัวกลับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่ และรู้ว่าความกดดันและอาการหายใจไม่ออกที่เปลวเพลิงนำมาให้นั้นเป็นยังไง
ตอนที่พึ่งเกิดเปลวเพลิง พวกเขาก็เกือบจะตายอยู่ข้างในแล้ว ตอนที่เปลวไฟกำลังแรงกล้า ฉินหลั่งบุกเข้าไปแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
ตอนนี้ในสายตาของผู้คนที่อยู่ตรงนั้น เห็นว่าฉินหลั่งได้เสียสติไปแล้ว เอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่น
“ฉินหลั่ง ข้างบนยังมี……”
“รีบดับเพลิงเร็ว รีบดับเพลิงเร็ว ประธานหลู่ยังอยู่ข้างใน”
“เรียกรถดับเพลิง เรียกรถดับเพลิง”
หยูฉิงคิดจะรั้งฉินหลั่งเอาไว้แต่ก็ไม่ทันการแล้ว ทำได้เพียงร้องเรียกและกระทืบเท้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็จัดการให้ผู้คนช่วยคน และยังเรียกรถดับเพลิงเข้ามา
ฉินหลั่งที่เข้าไปในอาคารรู้ว่าตัวเองจะได้รับอันตราย แต่เขาที่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลู่เหม่ยเฉิน เดิมทีก็สนใจอะไรมากไม่ได้
ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้หลู่เหม่ยเฉินตายในทะเลเพลิงได้
ฉินหลั่งฉีกผ้าออกมาจากเสื้อ จากนั้นก็ชุบน้ำนิดหน่อย แล้วน้ำมาห่อปิดจมูกและปาก
ในทะเลเพลิง มีคนมากมายไม่ได้ถูกไฟคลอกตาย แต่เป็นสลบล้มลงในกลุ่มควันและไอความร้อน
“ตูม—-”
ฉินหลั่งพึ่งวิ่งขึ้นไปบนบันได ถังสีที่ติดไฟถังหนึ่งก็ได้ไหลลงมา พร้อมกับไอความร้อนและแสงสีแดงที่แยงตา
ฉินหลังงอตัวเบี่ยงหลบ และหลบหลีกเปลวไฟที่พุ่งมาจากทุกทิศทางอย่างหวุดหวิด
สีที่มีความร้อนหยดลงบนหลังของฉินหลั่งสองสามหยด ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าผิวหนังของเขาได้ถูกลวก
แต่ทว่าฉินหลั่งไม่ได้สนใจ เขาเคลื่อนขึ้นไปข้างบนต่อไปอย่างคล่องแคล่ว
ถึงไม้ในอาคารจะเต็มไปด้วยเปลวไฟ แต่เพราะท้องฟ้ามืดครึ้ม บวกกับควันดำที่ปกคลุม ดังนั้นจึงทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นของฉินหลั่งไม่ค่อยชัดนัก
มีบางที่ที่แม้แต่ยื่นมือออกไปมองยังไม่เห็นยิ้วมือ
แต่เขาก็ยังพุ่งขึ้นไปข้างบนทีละชั้นทีละชั้น และยังตะโกนร้องเรียกชื่อของผู้หญิงอยู่ไม่หยุด เพื่อที่จะได้ไม่คลาดกันโดยไม่ทันระวัง
แต่ทว่าฉินหลั่งมาถึงชั้นเจ็ด ตะโกนเรียกหลู่เหม่ยเฉินตายอยู่หลายสิบครั้ง แต่ก็ยังคงไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ เลย
เขาทุบตู้ดับเพลิงของชั้นนั้น และถือเอาถังดับเพลิงขึ้นมาสองถัง แล้วพ่นไปยังเปลวไฟข้างหน้า
หลังจากที่ดับเปลวไฟไปหลายกอง ทัศนวิสัยในการมองเห็นของฉินหลั่งชัดเจนขึ้นมาเล็กน้อย การรับการได้ยินของหูก็ดีขึ้นมาบ้าง
“อืม—-”
เขาจับความเคลื่อนไหวทางด้านตะวันออกของห้องได้ในทันที ดังนั้นจึงถือถังดับเพลิงถังหนึ่งพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“ตูม—-”
ฉินหลั่งมาถึงทางด้านตะวันออกของห้องอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ใช้ถังดับเพลิงดับเปลวไปที่ขอบประตูแล้ว เขาก็ถีบประตูไม้ที่ถูกเผาจนไหม้ออก
กลุ่มไอความร้อนพุ่งออกมา กระดาษวาดรูปติดไฟบางส่วนหมุนเข้าหาฉินหลั่ง
ฉินหลั่งขยับฝีเท้าหลบหลีก และยังพ่นดับจุดกำเนิดไฟอีกสองสามแห่ง
“เหม่ยเฉิน เหม่ยเฉิน!”
ในกลุ่มควันโขมง ฉินหลั่งตะโกนเรียกติดต่อกัน
“ค่อก ๆ ……”
มีเสียงอ่อนแรงดังขึ้นที่มุมห้อง
“ฉัน……ฉันอยู่ตรงนี้……”
ฉินหลั่งดีใจขึ้นมา เขาทิ้งถังดับเพลิงที่ใช้หมดแล้วไป หลังจากนั้นก็พุ่งไปยังที่มาของเสียง
เขาเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดไฟฉายที่อยู่ในโทรศัพท์ขึ้น ทัศนวิสัยในการมองเห็นก็ชัดเจนขึ้นมา
หลู่เหม่ยเฉินล้มอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง เท้าของเธอเคล็ด นั่งร้านทับอยู่บนร่างของเธอ ใบหน้าที่งดงามเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หายใจอ่อนแรง
มือซ้ายของเธอถูกตะปูขูดจนเป็นแผล เลือดสด ๆ กำลังนอนอยู่อย่างสบายใจ
ฉินหลั่งพุ่งเข้าไปหาและร้องเรียกเบา ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก “ “เหม่ยเฉิน เหม่ยเฉิน!”
เขาใช้แรงพลิกเอานั่งร้านออกไป ใช้เข็มเงินหยุดเลือด ตามด้วยฉีกเอาผ้าจากเสื้ออีกครั้ง มือที่เทถ้วยชาเปียกชุ่ม
จากนั้นก็ห่อปิดปากและจมูกให้กับหลู่เหม่ยเฉิน
รับรู้ถึงความอบอุ่นจากตัวของชายหนุ่ม หลู่เหม่ยเฉินใช้กำลังลืมตาขึ้น ใบหน้าที่งดงามปรากฏแววดีอกดีใจขึ้นมาแวบหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปเป็นเยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อน
“คุณมาทำไม? รนหาที่ตายหรือไง?”
เธอไอค่อกแค่กอยู่สองสามครั้ง “ไฟแรงขนาดนี้ ถึงตายได้นะ คุณรีบหนีไป เท้าฉันพลิก ขยับไม่ได้”
ในฐานะผู้บริหารจัดการบริษัท เธอได้เข้าร่วมฝึกซ้อมดับเพลิงของบริษัทอยู่หลายครั้ง ดังนั้นถึงได้รู้ว่าการจะหนีออกไปจากเปลวไฟที่แรงกล้าแบบนี้นั้น ยากเย็นมากเพียงใด
จากฝีมือของฉินหลั่งแล้ว ไม่มีปัญหาที่จะเอาตัวเองรอด แต่ถ้าหากเอาตัวถ่วงอย่างเธอไปด้วย ก็ไม่เหมือนกันแล้ว
หลู่เหม่ยเฉินไม่ต้องการให้ฉินหลั่งเสี่ยงอันตรายเพราะเธออีก
“หุบปาก!”
ฉินหลั่งตำหนิอย่างไม่เกรงใจ “ตายไม่ตายที่คุณพูดล้วนไม่นับ นับเฉพาะที่ผมพูด”
“ยืนอยู่เฉย ๆ อย่าขยับ!”
ฉินหลั่งถอดถุงน่องของหลู่เหม่ยเฉินออก ในทะเลเพลิง ถ้าหากถุงน่องติดไฟ ขาทั้งสองข้างก็จะถูกทำลายอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็แบกหญิงสาวขึ้นบนหลังของเขา แล้วยังใช้ถุงน่องที่ถอดออกมามัดเธอไว้ จากนั้นก็ฉีกขาดกระดานไม้แผ่นหนึ่งแล้วเดินออกไป
สัมผัสถึงลมหายใจที่คุ้นเคย และยังมีไหล่ที่หนาแน่นนั่น คนที่ทิฐิและเชื่อมั่นในตนเองมาโดยตลอดอย่างหลู่เหม่ยเฉินมีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่เชื่อฟัง
ผู้ชายคนนี้เคยถูกตัวเองทำร้ายอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังสามารถค้ำฟ้าให้เธอไว้ได้เสมอในยามที่เธอต้องการ
ทั้งยังเต็มอกเต็มใจ
หลู่เหม่ยเฉินพลันรู้สึกว่าตัวเองติดค้างฉินหลั่งมากเกินไป มากจนไม่อาจชดใช้ได้ภายในชาตินี้
ถ้าหากวันนี้สามารถมีชีวิตรอดไปได้ เธอจะต้องชดใช้ฉินหลั่งให้ได้อย่างแน่นอน
หลู่เหม่ยเฉินแอบตัดสินใจ
“ตูม—-”
ในตอนนั้นเอง เสียงแสบแก้วหูที่เกิดจากการระเบิดตั้งขึ้น เพดานของทางเดินพลันถล่มลงมา
แผ่นไฟกระดานที่ติดไฟพุ่งมาทางฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินอย่างรวดเร็ว
จ้องมองลูกไฟที่แยงตา หลู่เหม่ยเฉินไม่ได้หวาดกลัวและไม่ได้หลบหลีก ในทางกลับกันเธอขยับร่างกายเพื่อปกป้องศีรษะให้กับฉินหลั่ง
เธอดูเหมือนว่าจะต้องรับการโจมตีนี้แทนฉินหลั่งอยู่แน่แล้ว
“ตูม—-”
แต่ทว่ายังไม่รอให้เธอหลับตาเพื่อแบกรับ ฉินหลั่งได้เลี่ยงกระบองออกไปเป็นที่เรียบร้อย กระแทกเพดานตกออกไป
หลังจากนั้นฝีเท้าก็ขยับ หลบสายไฟที่ตามมา แต่ทว่าใบหน้าได้ถูกฝุ่นขี้เถ้าดำตกโดน ทำให้ดวงตาของเขามองเห็นไม่ชัด
หลู่เหม่ยเฉินยื่นมือเช็ดใบหน้าให้กับฉินหลั่ง
“ไม่เป็นไร คุณมอบอยู่ดี ๆ”
ฉินหลั่งกล่าวเบา ๆ จากนั้นจึงโบกไม้กระดาน ใช้ความทรงจำเพื่อคลำหาบันได
บนเส้นทางได้ถูกของจิปาฐะที่ถูกไปไหม้ขวางทางเอาไว้ ราวจับก็ถูกไฟเผาจนร้อนและเปลี่ยนรูป แต่ฉินหลั่งไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาแบกหญิงสาวลงไปข้างล่างอย่างสุดกำลัง
เขาไม่ใส่ใจแผลไฟไหม้ เพียงแค่อึดใจเดียวก็มาถึงชั้นสี่ เตรียมที่จะพุ่งไปยังชั้นสาม กลับพบว่าบันไดได้ถูกปิดตายไปแล้ว
ถังน้ำมันสิบกว่าถังหลอมละลายอยู่บนทาง เปลวไฟหวือหวาแยงตา อย่าว่าแต่บุกออกไปเลย แม้แต่เข้าใกล้ยังไม่ได้
“ตูม—-”
หลังจากที่ฉินหลั่งถอยหลังไปสองสามเมตร ห้องห้องหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ พลันระเบิดขึ้นมา
เสียงดังกระหึ่ม ประตูหน้าต่างสั่นสะเทือน เศษสิ่งของบินว่อน เปลวไฟก้อนใหญ่พุ่งออกมา
ฉินหลั่งแบกหลู่เหม่ยเฉินเวี่ยงหลบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังคงถูกของจิปาฐะจู่โจม ร่างกายเจ็บปวดไม่หยุด
ภายในใจฉินหลั่งตกใจ “ในห้องนี้คืออะไร? ระเบิดเรากับลูกระเบิดแหน่ะ”
“แย่แล้ว ชั้นสามเมื่อก่อนเป็นห้องแสดงไวน์”
หลู่เหม่ยเฉินตกตะลึงก่อน จากนั้นใบหน้าที่งดงามก็นั้นเปลี่ยนไป
“ห้องเมื่อกี้เป็นเพียงแค่ห้องสินค้าตัวอย่าง ห้องตรงข้ามยังมีไวน์เก็บอยู่เป็นสิบกว่าลัง”
เธอกล่าวเสริม “และยังมีวัตถุดิบหลักพวกของเหลวอยู่ไม่น้อย……”
ได้ยินดังนั้นฉินหลั่งหายใจเข้าเฮือกใหญ่ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองห้องเก็บของที่อยู่ห่างไกลออกไป
ในกลุ่มควัน ทัศนวิสัยในการมองเข็นนั้นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่ฉินหลั่งก็สามารถค้นพบ ประตูนิรภัยของห้องเก็บของกำลังถูกเปลวไฟเผาไหม้เสียงแตกดังเปาะแปะ
อันตราย!
“ตูม—-”
ฉินหลั่งเปลือกตากระตุก ไม่พูดพร่ำทำเพลงรับพุ่งเข้าไปในห้องตัวอย่างสินค้าทันที
เขาไม่ได้ใส่ใจไวน์ที่กำลังติดไฟและกระจก เขาก้าวเท้ายาว ๆ เดินไปทางกำแพงกระจกที่แตกร้าวอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน เขาก็ยื่นมือตรวจสอบดู และฉีกถุงน่องที่มัดหลู่เหม่ยเฉินไว้ออก
โครม!
เสียงดังสนั่น กำแพงกระจกแตกกระจายไปทั่วทุกสารทิศ ฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินตกลงมาจากที่สูง
บนพื้นดิน พวกหยูชิงเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า จิตใต้สำนึกสั่งให้เอามือปิดปากโดยไม่รู้ตัว “เฮ้ย—-”
เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังใช้ปืนฉีดน้ำดับไฟต่างอ้าปากค้าง ทุกคนล้วนคิดไม่ถึงว่าฉินหลังจะกระโดดลงมาแบบนี้
ตกลงมาจากชั้นสี่แบบนี้ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset