รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 685 ความสัมพันธ์อันลึกล้ำที่ยาวนาน

บทที่ 685 ความสัมพันธ์อันลึกล้ำที่ยาวนาน
“ก่อนหน้าที่เธอยังไม่ปรากฏตัวออกมา ฉันเองก็ทราบแล้วว่าได้ถูกพวกคุณจ้องที่จะเล่นงานแล้ว”
“กลิ่นดอกซากุระของสำนักหมอผี ฉันไม่ใช่เพิ่งจะได้กลิ่นเป็นครั้งแรก”
“หลังจากที่ฉันส่งข้อความขณะที่อยู่หน้าประตู พวกคุณก็คงยังไม่เข้าใจทุกสิ่งอย่างว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้”
“จากนั้น คุณก็มาถึง เมื่อเดินเข้าประตูฉันก็ได้กลิ่นหอมของดอกซากุระ แน่นอนฉันก็เกิดความสงสัยขึ้นในตัวคุณ”
“ดังนั้นอย่าคิดว่าตนเองวางแผนได้อย่างแยบยล คุณเองอาจจะคิดว่าแผนการได้ทำสำเร็จแล้วแต่ที่จริงอาจจะเป็นการเริ่มต้นนำหายนะมาสู่ตัวคุณเอง”
“หรือว่าคุณไม่ได้สังเกตเห็นตอนที่คุณปรากฏตัวอยู่ข้างกายของหลู่เหม่ยเฉิน สีหน้าท่าทางของเธอไม่ได้แสดงออกถึงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย? เพราะว่าตอนที่ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องไปได้ส่งสัญญาณเตือนให้กับเธอไว้แล้ว เธอจึงเข้าใจสภาพการณ์อย่างถ่องแท้”
“ขณะที่ฉันได้สอบถามคุณถึงตำแหน่งที่อยู่ของแพทย์นั้น ลมก็ได้แอบมุดเข้าไปอยู่ใต้เตียงเป็นที่เรียบร้อย คุณคงไม่ทราบใช่ไหม? ”
“ที่คุณบอกว่าแพทย์อะไรคนนั้น มันไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ฉันกลับคิดว่า แพทย์ที่คุณพูดถึงนั้นควรจะมีตัวตนอยู่จริง และควรจะเป็นคนของสำนักหมอผี ถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็สามารถสังหารเพิ่มได้อีกหลายคนเลย”
“คาดไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักกลิ่นหอมดอกซากุระของสำนักหมอผีด้วย? ” โยวโจ่โจ่วเหอจื่อมีท่าทางที่ตกตะลึง: “กลิ่นหอมของดอกซากุระนั้นคนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถที่จะดมกลิ่นได้ ถ้าหากดมกลิ่นได้แล้วก็จะกลายเป็นศพ ก่อนหน้านี้คุณเคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อน? ”
“เหอะเหอะ ได้ยินมาว่าตระกูลโยวโจ่ถือเป็นสำนักหมอผีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสำนักหนึ่ง หรือว่าพวกคุณไม่เคยได้ยินคำเล่าลือที่เกี่ยวกับฉัน ฉินหลั่งหรอกเหรอ เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเสียจริง” ดวงตาของฉินหลั่งแสดงออกถึงความล้อเล่น
“ใช่สิ สำนักหมอผีปฏิบัติการอย่างลึกลับ อาจจะเป็นเพราะได้ปกปิดชื่อของฉันเอาไว้ทั้งภายในและภายนอก พวกคุณมันขี้ขลาดตาขาว มีตาหามีแววไม่”
“ฉันจะบอกว่า กลิ่นหอมดอกซากุระในร่างกายของพวกคุณนั้นมันได้แทรกซึมเข้าสู่เส้นเลือดของพวกคุณแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหนฉันก็สามารถได้กลิ่นหอมนั้นของพวกคุณ”
“และสำหรับพวกคุณที่เป็นพวกเดียวกันเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพลังยุทธ์ที่ลึกล้ำ ก็สามารถได้กลิ่นของพวกเดียวกันเองได้ แบบนี้ก็จะไม่เกิดการทำร้ายกันเอง สามารถพบเจอคนร่วมสำนักเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”
“คุณสามารถได้กลิ่น ก็น่าอัศจรรย์มากแล้ว เพราะว่าไม่มีใครสามารถได้กลิ่นนี้ได้” โยวโจ่โจ่ว เหอจื่อตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ลมที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกประหลาดใจ ที่จริง เมื่อก่อนอิงจิ่งหลิงก็เคยเป็นนักฆ่าของสำนักหมอผี แต่เมื่อเธอพบกับอิงจิ่งหลิงก็ไม่เคยได้กลิ่นของกลิ่นหอมนี้
แต่ฉินหลั่งเป็นผู้สังหารเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง ซึ่งผู้นั้นคือประมุขของสำนักหมอผี โยวโจ่โจ่วเหอจื่อที่เป็นลูกศิษย์ของสำนักหมอผีกลับไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งน่าประหลาดใจขึ้นไปอีก
มีเพียงอย่างเดียวที่สามารถอธิบายได้ นั่นก็คือสำนักหมอผีปกปิดข่าวสารทุกเรื่อง นำเรื่องการเสียชีวิตของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งแจ้งว่าเป็นถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา แบบนี้ก็จะไม่ทำให้เสียสูญเกียรติและชื่อเสียง เพียงแต่ความอาฆาตแค้นนั้น ไม่ทราบว่าจะอยู่ในจิตใจส่วนลึกของผู้ปกครองสำนักหมอผีท่านใด ซึ่งพวกเขาคงรอคอยโอกาสที่เหมาะสมเพื่อที่จะลงมือแก้แค้น
“ต่อไปคุณก็คงจะรู้ว่า ฉันกับสำนักหมอผีมีความสัมพันธ์อันลึกล้ำกันมาอย่างยาวนาน”
โยวโจ่โจ่วเหอจื่อแทบจะกระอักเลือด เพราะว่าเธอรู้สึกว่าคำพูดของฉินหลั่งแฝงความหมายอันลึกซึ้ง เหมือนกับว่าเขารู้จักและเข้าใจเรื่องราวของสำนักหมอผีของพวกเธออย่างลึกล้ำเลยทีเดียว
“หยุดพูดได้แล้ว ฉินหลั่ง ฉันยอมจำนน ตอนนี้ฉันถูกคุณควบคุมตัวแล้ว ถ้าคุณแน่จริงก็ฆ่าฉันได้เลยสิ”
“ไม่งั้นตระกูลโยวโจ่จะไม่ยอมหยุดการแก้แค้น ฉันจะไม่ยอมเห็นน้องชายของฉันตายเปล่าอย่างแน่นอน”
ใบหน้าที่งดงามแฝงไปด้วยความดุร้าย: “คุณฆ่าฉันสิ คุณกล้าหรือไม่ ถ้าแน่จริงก็ฆ่าฉันเลยสิ”
“เหอะเหอะ โยวโจ่โจ่วเหอจื่อ สิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่นั้น ฉันเข้าใจมันทั้งหมด คุณอยากจะตายอย่างรวดเร็วใช่ไหม คุณจึงมายั่วยุฉัน เร่งเร้าฉัน ก็เพียงแค่ต้องการความสะใจ”
“เป็นความคิดที่ดี แต่ว่าฉันจะไม่ยอมทำตามที่คุณต้องการ” ดวงตาฉินหลั่งแสดงท่าทีหยอกล้อ
“เพราะว่าคุณจะยังตายไม่ได้ คุณจะต้องพาฉันไปพบพ่อของคุณ”
“ฉันอยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพังคนเดียว พวกคุณมาหาฉันได้เลย ทำไมจะต้องไปจับตัวผู้หญิงที่อ่อนแออย่างหลู่เหม่ยเฉิน ฉันต้องการคำอธิบายจากพวกคุณ”
“ฉันคาดเดาเอาไว้แล้ว คุณต้องการจับฉันเป็นตัวประกันเพื่อไปข่มขู่พ่อของฉัน? เหอะเหอะ ฉันโยวโจ่โจ่วเหอจื่อกลายเป็นตัวล่อไปเสียแล้ว” โยวโจ่โจ่วเหอจื่อพูดเองหัวเราะเอง
ฉินหลั่งได้เอาเข็มเงินฝังเข้าไปที่บริเวณท้องของโยวโจ่โจ่วเหอจื่อ เพื่อช่วยห้ามเลือดให้เธอ
“อธิบายมาสิ คุณฆ่าน้องชายของฉัน แล้วยังมาให้พวกฉันอธิบายอะไรอีกล่ะ? ” โยวโจ่โจ่วเหอจื่อพูดเย้ยหยัน
“ใครบอกกับคุณว่าฉันเป็นคนฆ่าน้องชายของคุณ คุณไม่มีหลักฐานก็อย่ามาพูดใส่ความกันจะได้ไหม? หากฉันเป็นคนฆ่าฉันรับผิดแน่นอน ถ้าหากฉันไม่ได้เป็นคนฆ่า คุณคิดสิว่าคุณบุ่มบ่ามเกินไปเหรอเปล่า คุณโจ่วเหอจื่อ? ” ฉินหลั่งยิ้ม พร้อมกับทำท่าทางล้อเล่น
โยวโจ่โจ่วเหอจื่อโกรธจนกระอักเลือด เธอไม่เชื่ออย่างมาก เพราะว่าข่าวสารที่ได้รับเป็นชาวญี่ปุ่นส่งมาให้กับตระกูลโยวโจ่ จะผิดพลาดได้อย่างไรกัน
หลู่เหม่ยเฉินก็ตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าโยวโจ่ชาวกางไม่ได้ถูกฉินหลั่งฆ่าตาย เธอเข้าใจดีว่าฉินหลั่งไม่ได้สนใจที่จะไปปฏิเสธอะไร น่าจะต้องเกิดปัญหาอะไรขึ้นอย่างแน่นอน
“ไปกันเถอะ พาฉันไปพบกับพวกของคุณ”
ฉินหลั่งจับมือโยวโจ่โจ่วเหอจื่อ: “เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะให้คำตอบแก่คุณเอง ให้น้องชายของคุณนอนตายตาหลับเสียที”
เมื่อครู่ขณะที่เดินอยู่บนระเบียงฉินหลั่งได้ส่งข้อความ ทางเมิ่งฮุ่ยเสียนนั้นได้สอบปากคำเป็นที่กระจ่างชัดแล้ว
เวลาพลบค่ำ ณ หมู่ตึกเสินฮู่แห่งเมืองเย็นจีน
ที่แห่งนี้เป็นที่วางศพของโยวโจ่ชาวกาง เพื่อให้การตายจากไปของโยวโจ่นั้นดูมีเกียรติเหมาะสม หลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการชันสูตรศพเป็นที่เรียบร้อย คนของตระกูลโยวโจ่ก็ได้นำร่างศพของโยวโจ่ชาวกางมาวางไว้ที่หมู่ตึกเสินฮู่แห่งเมืองเย็นจีน
สถานที่แห่งนี้คือที่พักของชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจีน พื้นที่บริเวณกว้างขวาง สภาพแวดล้อมสวยงามยิ่งนัก จึงได้ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งบุกเบิกก่อสร้างเป็นหอประกอบพิธีฌาปนกิจชั่วคราว
หลังจากที่ศพของโยวโจ่ชาวกางมาถึงที่นี่ สำนักหมอผีก็ได้ทำพิธีเซ่นไหว้ไว้อาลัย คนของตระกูลโยวโจ่ก็ได้พักอยู่ในที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ครั้งนี้โยวโจ่ลู่เหย่มาจีนด้วยความรีบร้อน ไม่เพียงแค่พาลูกสาวและลูกชายคนโตมา ยังพาซามูไรฝีมือดีชาวญี่ปุ่นมาด้วยจำนวนห้าสิบคน ซึ่งทุกคนล้วนมีฝีมือที่เก่งกาจ เตรียมพร้อมสาบานที่จะไม่ยอมหยุดแก้แค้นอย่างเด็ดขาด
ใกล้เวลาหกโมงครึ่ง รถเบนซ์สีดำจำนวนหลายคันขับเข้ามาในหมู่ตึกเสินฮู่ แล้วจอดที่ด้านหน้าของหอประกอบพิธีฌาปนกิจศพของโยวโจ่ชาวกาง
ประตูรถเปิดขึ้น ชายร่างกำยำแข็งแกร่งเจ็ดแปดคนก้าวลงมาจากรถ แล้วกระจายแยกตัวไปอยู่ตรงสี่มุมของรถ พร้อมท่าทางปกป้องอารักขาทุกเมื่อ
จากนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถ
ผู้หญิงคนนี้ อายุยี่สิบกว่าปี สวมชุดสีดำ ปิดปกคลุมรูปร่างของตนได้อย่างประณีต ผสมผสานทั้งความเคร่งขรึมและความเซ็กซี่อย่างลงตัว
ผู้หญิงคนนี้ได้มัดรวบผมขึ้น เปิดให้เห็นช่วงลำคอที่ขาวใสและสร้อยคอเพชรที่งดงามระยิบระยับ ไหล่ผายตั้งตรง ดูสวยงามยิ่งนัก
ผู้หญิงคนนี้ก็คือธิดาแห่งตระกูลเสี้ยงนามว่าเสี้ยงย่าเยว่ที่เคยมีปากเสียงทะเลาะกันกับฉินหลั่ง
เสี้ยงย่าเยว่มีท่าทางเศร้าหมอง ที่จริงเธอเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเสี้ยงย่าเยว่กับโยวโจ่ชาวกางสนิทสนมเสมือนเป็นพี่น้องร่วมชาติ อีกทั้งยังมีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอกันอยู่ด้วย
เธอถือดอกไม้หนึ่งช่อ เดินเข้าไปในหอประกอบพิธีฌาปนกิจ จากนั้นวางไว้ด้านหน้าของโยวโจ่ชาวกางแล้วก็คำนับอย่างเคารพสามครั้ง
หอประกอบพิธีฌาปนกิจใหญ่มาก แต่ว่าคนที่มาร่วมไว้อาลัยจำนวนไม่มาก ประมาณหกโมงกว่า คนก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ชาวญี่ปุ่นหลายสิบคนก็เฝ้าศพอยู่บริเวณด้านข้าง บรรยากาศเงียบเหงาวังเวง
เสี้ยงย่าเยว่ หลังจากที่เซ่นไหว้แล้ว ก็เดินเข้าไปหาชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองว่า: “คุณอันซี ขอแสดงความเสียใจด้วย”
เธอคำนับเล็กน้อย โน้มตัวไปข้างหน้า ความขาวใสละเอียดอ่อนปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย เห็นถึงหน้าอกที่ขาวใสผุดผ่อง สำหรับผู้ชายนั้นอายุประมาณสามสิบกว่าปี รูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายแข็งแกร่งประดุจดั่งกำแพงหิน ใบหน้าคมเข้ม

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset