รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 726 คุณชายหยางตอบด้วย

บทที่ 726 คุณชายหยางตอบด้วย
“ตอนนี้ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเมื่อฉันต้องการยื่นขอสิทธิบัตรให้เร็วที่สุด คุณล้วนคอยถ่วงเวลาอยู่ตลอด” หลู่เหม่ยเฉินพยายามควบคุมตัวเอง เธอยิ้มหัวเราะเยาะตัวเอง: “ที่จริงแล้วคุณได้รู้อยู่แล้วว่าหยางจ้างกั๋วจะต้องชิงจดทะเบียนก่อน ดังนั้นจึงจงใจยอมให้เขา ทำให้เขาได้ใจจนลืมตัว”
“สุดท้ายทางหยางจ้างกั๋วสั่งให้คนปิดโรงงานของพวกเรา เกรงว่าคงมีแค่นายที่ยิ้มเยาะอยู่ในใจ เพราะว่าแบบนี้แล้วผงขาวนั่นก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราเลยแม้แต่น้อย”
“คุณยังปลีกเวลาวิ่งไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อแจ้งให้ทราบถึงอันตรายจากผงขาวเฟยเยว่ ที่คุณพูดเป็นความจริงทั้งหมด ปัญหาของผลิตภัณฑ์นั้นมีอยู่จริง เพียงแต่ว่าตัวคุณเองก็รู้ดี ภายในเวลานั้นเป็นไปได้ที่จะมีคนเชื่อ ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นเพราะคุณริษยาและเคียดแค้น ถึงได้ใส่ร้ายป้ายสี”
“แบบนี้แล้ว ต่อให้ผงขาวเฟยเยว่เกิดเรื่อง ก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีใครจะมาตำหนิคุณได้ อีกทั้งยังจะให้การชื่นชมคุณเป็นวงกว้าง”
หลู่เหม่ยเฉินพยายามที่จะไม่เอ่ยถึงผงขาวโย่วฉิน เพราะเธอกลัวว่าถ้าพูดแบบนั้นแล้วจะทำให้สะเทือนหัวใจตัวเอง ทำให้ควบคุมความรู้สึกไม่ได้
“กระดานนี้ของคุณ พวกเราล้วนเป็นหมากบนกระดาน ไม่เพียงหยูฉิง หยางจ้างกั๋วและหล่วนฝู แม้แต่สำนักงานคณะกรรมการยาและพวกส้งฉางเว่ยก็กลายเป็นหมากตัวหนึ่งของคุณด้วย สวรรค์ ฉินหลั่ง คุณทำให้ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ” หลู่เหม่ยเฉินแจะปาก
ถ้าไม่ใช่เพราะผ่านมาด้วยตัวเอง หลู่เหม่ยเฉินยังไงก็คิดไม่ถึง คนคนหนึ่งที่มีอายุยี่สิบกว่าเท่า ๆ กันกับเธอจะสามารถมีแผนการแบบนี้ได้ และฉินหลั่งก็ไม่ได้เอ่ยอะไร บนใบหน้าของเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
“ฉินหลั่ง ฉันควรจะดีใจกับการเติบโตของคุณ หรือว่าหวาดกลัวกับการดำรงอยู่ของคุณ?”
“คุณ……ไม่ค่อยเหมือนกันกับที่ใจฉันคิด……” ในสายตาของหลู่เหม่ยเฉินมีความงุนงงที่ปัดไม่ออกปรากฏอยู่ ความรู้สึกของเธอในตอนนี้สับสนยิ่งนัก
หลู่เหม่ยเฉินในเวลานี้ พลังทั้งหมดได้ถูกดูดออกไปจนหมดแล้ว รู้สึกว่าตนเองได้เหนื่อยล้ามากจริง ๆ
ฉินหลั่งยิ้ม คราวนี้ท่าทางของเขาค่อนข้างจริงจังจริงใจ: “ขอโทษด้วย ผมไม่ควรจะปิดบังเรื่องทุกอย่างกับคุณ”
“คุณไม่ปิดบังฉัน ฉันรู้ว่าจะต้องมีเรื่องยุ่งยากมากมาย ทำให้หยางจ้างกั๋วที่คอยจับตาดูพวกเราอยู่สามารถจับพิรุธได้ง่าย อาจจะทำให้แผนการที่ใกล้จะสำเร็จแล้วล้มเหลวได้”
หลู่เหม่ยเฉินยิ้มอย่างเจ็บปวด ตามทฤษฎีแล้วการกระทำของฉินหลั่งทั้งถูกต้องและมีสติที่สุด แต่บนความรู้สึกแล้ว เธอไม่อาจแบกรับการเปลี่ยนแปลงที่ไร้จิตใจนี้ได้
ฉินหลั่งเงียบ เขาไม่ได้ตอบอะไร ถ้าหากกลับไปอีกครั้ง เขายังคงเลือกที่จะปิดบังทุกอย่างกับหลู่เหม่ยเฉิน
ทันใดนั้นหลู่เหม่ยเฉินก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา: “หลงเย้น ที่จริงแล้วเป็นเด็กผู้หญิงแบบไหนกันแน่ เหมือนกับว่าคุณได้ยกทักษะในการเอาชีวิตรอดให้เธอดูแล คุณเชื่อใจหล่อนมากกว่าเชื่อฉันเป็นร้อยเท่า และเชื่อ เมื่อลองเทียบกันแล้ว ก็ค่อนข้างจะน่าสงสาร”
สุดท้ายแล้วหลู่เหม่ยเฉินก็ควบคุมความรู้สึกน้อยใจของตัวเองไว้ไม่ได้ เธอหยิบเอายาขี้ผึ้งออกมาจากอ้อมแขน มือที่เธอถือไว้บีบแน่น ผงขาวโย่วฉิน ชื่อที่ธรรมดา แต่ทว่ากลับทำให้รู้สึกว่ามีเรื่องราวของความรักความรู้สึกอะไรนั่นอยู่ในนั้นด้วย
“คุณคิดมากไปแล้ว!” ฉินหลั่งลุกขึ้นมาจากเก้าอี้: “ตัวหลงเย้นเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผมจะให้เธอทำอะไร ตั้งแต่ต้นจนจบพวกคุณล้วนไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ เธอไม่รู้ความสำคัญของตัวเธอเอง เพียงแค่ทำตามที่ผมสั่ง แค่นั้นเอง”
“และหลงเย้น ก็ไม่เคยถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ผมสั่งให้เธอไปทำเลยสักครั้ง เธอเพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอ เรื่องอื่นเธอไม่เคยถามเลย”
“ผงขาวโย่วฉิน หลงเย้นเป็นคนตั้ง และผมก็คล้อยตามกับความคิดของเธอ เพราะรอจนกว่าผมจะทราบ ตัวเธอเองได้ยืนขอสิทธิบัตรไปเรียบร้อยแล้ว” เมื่อได้ยินคำอธิบายเหล่านี้ของฉินหลั่ง ในใจของหลู่เหม่ยเฉินรู้สึกว่าตัวเองได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ทว่าเธอยังคงยิ้มอย่างขมขื่น
“เรื่องดี ๆ ทั้งหมดคุณล้วนยกให้หลงเย้นเป็นคนจัดการ มอบเรื่องที่ต้องถูกคนด่าว่าเรื่องที่ทำให้คนเสียใจให้ฉันไปทำ ฉันมันโง่ไปใช่ไหมล่ะ”
นิสัยของเธอและหลงเย้นไม่เหมือนกัน ทำไม่ได้ที่จะเชื่อฟังฉันหลั่งทุกอย่าง เชื่อฟังหมดทุกอย่างจริง ๆ แบบที่ไม่เหลือช่องว่างให้กับความคิดของตัวเอง และความเป็นจริงหลู่เหม่ยเฉินทำไม่ได้
สำหรับที่เธอยินยอมที่จะทำตามที่ฉินหลั่งสั่งการ ยินยอมที่จะเป็นรองในบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินนั้น ตามหลักแล้วยังคงไม่เหมือนกันกับหลงเย้น เพราะว่าฉินหลั่งไม่ได้เป็นคนควบคุมดูแล คนที่ควบคุมดูแลยังคงเป็นหลู่เหม่ยเฉิน
ในที่สุดฉินหลั่งก็พยักหน้าเบา ๆ : “ขอโทษด้วย เรื่องนี่ไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ ทำให้คุณต้องเป็นกังวลแล้ว”
หลังจากที่หลู่เหม่ยเฉินได้ฟังดังนั้นแล้ว เธอก็ได้ถูกละลายไปโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมทุกอย่างล้วนได้สลายหายไปจนหมดสิ้นอย่างแปลกประหลาด: “ไม่ จะโทษคุณไม่ได้ คุณไม่ผิด”
หลู่เหม่ยเฉินกัดฟัน บนใบหน้างดงามนั้นมีความโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก: “ท้องตลาดก็เป็นเหมือนสนามรบ การตอบโต้กลับของคุณเป็นเรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้นที่คุณต้องเผชิญด้วยคือตระกูลที่เหนือชั้นตระกูลหนึ่ง ความเหลื่อมล้ำของพลังอำนาจนั้นมากจนน่ากลัว”
“พวกเขาต้องการจะกำจัดคุณ คุณไม่ตอบโต้กลับอย่างหนัก พวกเขาก็จะลงมือกับคุณหนักกว่าเดิม โหดเหี้ยมกว่าเดิม”
“เพียงแต่ว่า ฉันไม่อาจที่จะนำคุณในตอนนี้และคุณที่อยู่ในใจของฉันรวมเข้าด้วยกันได้จริง ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ฉันยังไม่อาจที่จะยอมรับมันได้จริง ๆ ” หลู่เหม่ยเฉินกล่าว พลางลุกขึ้นมา แล้วเดินออกไปจากโรงหมอ เธอได้เดินหายไปในแสงไฟที่สลัว ๆ
แผ่นหลังของเธอนั้นช่างดูโดดเดี่ยวและหดหู่ยิ่งนัก แต่ฉินหลั่งก็ไม่ได้รั้งหลู่เหม่ยเฉินเอาไว้
เขารู้ดี เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เพียงเหนี่ยวรั้งเอาไว้ก็จะสามารถแก้ไขได้ ยิ่งกว่านั้นจะต้องให้ตัวหลู่เหม่ยเฉินแก้ไขสภาพจิตใจของเธอด้วยตัวเธอเอง
ฉินหลั่งนั่งอยู่อย่างเงียบ ๆ เขาดื่มชาในแก้วจนหมด จากนั้นก็เริ่มลงมือทำงาน
หลังจากที่ฉินหลั่งเดินออกไปได้สองสามเมตร ก็เห็นเหว่ยฝ่าเทียนกำลังเดินเข้ามา และกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ: “หมอฉิน พวกเราควรจะทำยังไงต่อไปครับ?”
เขายกย่องและเลื่อมใสฉินหลั่งมาก กระดานหมากรุกที่เดิมทีถูกรุกจนเกือบจะพ่ายแพ้ กลับถูกฉินหลั่งพลิกเกม และพลิกได้อย่างงดงามเลยทีเดียว
เหว่ยฝ่าเทียนในตอนนี้ทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการทำงานมาก ล้วนเป็นความคาดหวังต่อตัวของตัวเอง เป็นความคาดหวังต่ออนาคตต่อบริษัท ภายในใจเต็มไปด้วยความฮึกเหิม
ที่ดีที่สุดคือพวกเดรัจฉานนั่นถูกฉินหลั่งจัดการแบบเอาให้ตายไปเลย แบบนั้นเหว่ยฝ่าเทียนถึงจะดีใจ คนอื่นทำยาออกมา แกก็อิจฉา ฉันจะให้พวกแกอิจฉาจนตายไปเลย
“แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่น แล้วก็ไม่ต้องไปโจมตีตระกูลหยางแล้ว”
สายตาของฉินหลั่งนิ่งสงบดั่งสายน้ำ: “ตีปากบ่อจนเปิดแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนโยนหินลงไป”
เหว่ยฝ่าเทียนชะงักงัน จากนั้นเขาก็พลันคิดได้ทันที: “เข้าใจแล้ว ประธานฉิน ผมเข้าใจแล้วครับ”
เช้าวันต่อมา หยางจ้างกั๋วไม่ได้ไปขี่ม้าที่สนามแข่งม้าอีก แต่เขาได้ไปจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาคารตระกูลหยาง สำหรับเขาแล้ว เวลานี้เป็นเวลาแห่งความยากลำบาก เขาจะต้องยืดหลังให้ตรง จะให้คนต่ำด้วยพวกนั้นดูถูกไม่ได้
ถ้าตัวเองประหม่า ข้างล่างทั้งหมดก็จะประหม่าไปด้วย จะให้เป็นแบบนั้นไปไม่ได้
รถค่อย ๆ ขับมาถึงอาคารตระกูลหยาง นักข่าวนับรอยที่เฝ้ารออยู่ตรงนั้นก็แตกกันเข้ามาราวกับผึ้ง แล้วล้อมรอบหยางจ้างกั๋วเอาไว้ที่ด้านข้างและตั้งคำถามอย่างดุเดือด: “คุณชายหยาง ได้ยินว่าหล่วนฝูขันทีใหญ่ของตระกูลหยางถูกตำรวจควบคุมตัว นี่เป็นการที่คุณกำลังตัดแขนของตัวเองอยู่หรือไม่? ทำไมถึงได้เสียสละบุคคลที่สำคัญขนาดนี้?”
“จุดเริ่มต้อนของปัญหาทุกอย่าง คือเพราะตอนที่ยังไม่เกิดเรื่อง คุณได้ลดขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพผงขาวเฟยเยว่ของสำนักงานคณะกรรมการยาลงเพื่อทำให้มันง่ายขึ้นใช่หรือไม่?”
“คุณยังคงยืนยันว่าผงขาวเฟยเยว่เป็นพวกคุณที่ซื้อเองทำเอง และไม่ได้มาจากโรงงานอื่นใช่ไหม?”
“คุณชายหยาง จะบอกหน่อยได้หรือไม่ ว่าหยูฉิงของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินตายยังไง ระยะนี้บนโลกออนไลน์ต่างก็ร่ำลือไปทั่ว ล้วนบอกว่าเป็นคุณที่สั่งให้หม่าเจิ้นลงมือ คุณจะชี้แจงหน่อยไหม?”
“คุณจะขอโทษต่อสาธารณชนหรือไม่?”
“คุณจะรับตำแหน่งประธานผู้บริหารของบริษัทตระกูลหยางต่อไปในอนาคตหรือไม่? หรือจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือไม่?”
“ได้ยินมาว่าคุณชายหยางชอบสิ่งของจำพวกอุปกรณ์เพิ่มอารมณ์ทางเพศ ใช่หรือไม่?” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านักข่าวพวกนี้มาจากไหน กลุ่มคนมากมายถามคำถามเป็นกอง พูดจาเร็ว ๆ รัว ๆ ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด คำพูดทั้งในทั้งนอกล้วนเป็นการยิ้มเยาะเหยียดหยามหยางจ้างกั๋ว
“ผมไม่มีอะไรจะพูด ผมไม่มีอะไรที่จะบอกได้ เรื่องทุกอย่างถือเอาการรายงานจากตำรวจเป็นหลัก”
“ทุกคนอย่าได้สร้างข่าวลือ มิเช่นนั้นตระกูลหยางจะฟ้องพวกคุณใจข้อหาหมิ่นประมาท” หยางจ้างกั๋วหน้าซีด เขาผลักนักข่าวออก พลางเดินไปทางห้องโถงอย่างรวดเร็ว
พนักงานรักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนขวางกั้นหนักข่าวที่วิ่งกรูข้าเอาไว้ และหลังจากที่หยางจ้างกั๋วได้มาถึงที่ห้องทำงานของตัวเองแล้ว เขากวาดตามองรีโมตคอนโทรลแวบหนึ่ง จากนั้นก็มีเสียงของตกกระทบพื้นอย่างรุนแรงดังขึ้น เขาเขวี้ยงรีโมตคอนโทรลลงกับพื้นอย่างรุนแรง
ลูกน้องสองสามคนสั่นสะท้านไปทั้งใจ ตกใจจนได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยเสียงใด ๆ เลย
“นักข่าวพวกนี้ถูกใครบงการกันแน่ รู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่บริษัท? ยังกล้าไร้มารยาทกับฉันแบบนี้?”
“ฉันจะต้องฆ่าพวกมันอย่างแน่นอน ฉันจะต้องฆ่าพวกมัน! ใช้ให้พวกมันพูดจามั่วซั่ว! ใช้ให้พวกมันพูดจาเหลวไหล!”
หยางจ้างกั๋วเปิดตู้ที่อยู่ติดกับกำแพงออก แล้วหยิบเอากล่องสีดำออกมา จากนั้นก็ขันชิ้นส่วนอย่างรวดเร็ว ไม่นานชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ถูกประกอบเป็นปืนไรเฟิลอย่างรวดเร็วแล้วถือไว้ในมือ
เขาเปิดหน้าต่างออก แล้วนำเอาปืนไรเฟิลวางไวบนคานหน้าต่าง ศูนย์เล็งกล้องถูกหันไปทางพวกนักข่าวที่กำลังรออยู่
“คุณชายหยาง ไม่ได้นะครับ”
ในตอนนี้เอง ชายชุดดำที่อยู่ด้านข้างวิ่งออกมาข้างหน้า เขาใช้มือกดปืนไรเฟิลของหยางจ้างกั๋วเอาไว้พลางกล่าว: “คุณชายหยาง ตอนนี้เวลานี้ พวกเราจะต้องใจเย็น ๆ ไม่เช่นนั้นละก็จะเป็นการหาเรื่องมาได้ง่าย ๆ คิดให้ดี ๆ นะครับ ขอให้คุณคิดให้ดี ๆ ……”
“ผมกล้ามั่นใจ ตอนนี้จะต้องมีคนที่กำลังจับตามองพวกเราอยู่แน่ อดทนได้ถึงจะเป็นลูกผู้ชาย”
“ปังปังปัง!” หยางจ้างกั๋วยิงปืนขึ้นสู่ท้องฟ้าสามนัดติดต่อกัน ระบายความโกรธที่มีอยู่ในใจของเขาออกมาอย่างหนัก ๆ
“สารเลว สุดท้ายยังไงฉันก็จะต้องเอาพวกแกให้ตาย ให้พวกแกได้ชดใช้!” บนใบหน้าของหยางจ้างกั๋วเต็มไปด้วยความโมโห มองดูแล้วท่าทางสง่างามของเมื่อก่อนไม่เหลืออยู่เลย แต่ว่าคำพูดของชายชุดดำคนนี้ดูเหมือนจะมีผลต่อหยางจ้างกั๋วอยู่บ้าง ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าป่านนี้คงถูกหยางจ้างกั๋วเตะตีลังกาไปแล้ว
ชายชุดดำเป็นคนสนิทของเขา เป็นทั้งลูกน้อง เป็นทั้งที่ปรึกษา มีชื่อว่าเส้เลี่ยวซา เขายังพอจะไว้หน้าอยู่บ้าง
ในตอนนั้นที่ตัวเองก่อตั้งโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น เส้เลี่ยวซาก็ค่อนข้างจะไม่เห็นด้วย คิดว่ามันเร็วเกินไป ควรที่จะวางแผนให้ละเอียดอีกหน่อย หยางจ้างกั๋วไม่ฟัง ตอนนี้ดูแล้ว เส้เลี่ยวซาพูดถูก
“เอาล่ะ คุณเส้เลี่ยวซา คุณไปเรียกผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นให้ไสหัวเข้ามาประชุม” หยางจ้างกั๋วระบายอารมณ์เสร็จแล้ว เขาก็โยนปืนให้กับเส้เลี่ยวซา แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะและยกกาแฟขึ้นมาดื่ม
ลูกนั่งพากันจัดการกับกระบอกปืน จากนั้นค่อยเปิดประตูเรียกผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นเข้ามา
ไม่นาน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตระกูลหยางก็ปรากฏตัวด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด: “คุณชายหยาง สามสิบนาทีที่แล้วทางราชการได้ส่งหนังสือราชการมา ตอนบ่ายจะมีคณะกรรมการตรวจสอบเข้าประจำตำแหน่งที่โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นและบริษัทของตระกูลหยาง”
“จำนวนของคณะกรรมการตรวจสอบค่อนข้างเยอะ สูงถึงห้าสิบถึงหกสิบคน ประกอบไปด้วย ฝ่ายการแพทย์ ฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรม ฝ่ายตำรวจและฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตำแหน่งค่อนข้างสูงมาก
“ที่ตามมากับคณะกรรมการตรวจสอบด้วย ยังมีเภสัชกรหลายสิบคน พวกเขาจะทำการตรวจสอบทุกด้านของยาตัวอื่นของบริษัทตระกูลหยางด้วย”
“ยังมี ผงขาวเฟยเยว่ที่โรงงานผลิตยาเยว่ทำการผลิต นอกจากที่ได้ใช้ไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ ล้วนถูกตีกลับมาหมดแล้ว”
“มีลูกค้าทั้งหมดสามสิบร้านที่ร้องขอให้เราคืนเงิน รวมทั้งชดเชยค่าเสียหายเป็นเงินก้อนโต”
“รวมทั้งยาตัวอื่นที่โรงงานผลิตยาในเครือบริษัทตระกูลหยางผลิต ตอนนี้ฝ่ายผู้รับของส่วนใหญ่ต่างร้องขอคืนสินค้า ต่อให้ไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ หรือว่าได้เซ็นสัญญาไปแล้ว ก็ยังคงคืนสินค้ากลับมา”“สถานการณ์พัฒนามาจนถึงขั้นนี้ เวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง สำนักงานคณะกรรมการยาได้รับการร้องเรียนจากหกสิบสามราย ร้องเรียนว่าพบผลข้างเคียงในระดับที่แตกต่างกันจากผลิตภัณฑ์ยาของบริษัทตระกูลหยาง”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset