รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 727 เจตนาฆ่าที่รุนแรง

บทที่ 727 เจตนาฆ่าที่รุนแรง
“คนทั้งสามสิบสามคนทานยาแก้หวัดแล้วเกิดอาการท้องเสีย สิบสองคนทานยาลดไข้แล้วมึนศีรษะ และอีกสิบสามคนทานยาลดความดันโลหิตแล้วก็อาเจียนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ชัดเจนว่ามีคนอาศัยช่วงจังหวะที่ผงขาวกำลังเกิดเรื่องวุ่นวาย ฉกฉวยโอกาสทำการอันไม่เป็นผลดีกับพวกเรา เพื่อมุ่งจู่โจมจัดการพวกเราทั้งหมดให้สิ้นซาก”
“นอกจากนี้ สำนักงานใหญ่ทางการแพทย์และยาของจีนได้ประกาศคำสั่งให้ โรงพยาบาลและร้านยาทุกแห่งหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การแพทย์และยา รวมถึงเครื่องมือการแพทย์ของบริษัทของตระกูลหยางทุกประเภทเป็นการชั่วคราว”
หยางจ้างกั๋วเพิ่งจะชงกาแฟเสร็จ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนก็ได้นำรายงานสถานการณ์ล่าสุดมาส่งมอบให้ กล่าวได้ว่าไม่มีข่าวสารอะไรที่เป็นเรื่องที่ดีเลย
มันช่างผีซ้ำด้ำพลอย และช่างน่าเวทนาเสียจริง
นี่คือสถานการณ์เลวร้ายที่คับขันมากที่สุดในช่วงห้าปีที่ผ่านมาของตระกูลหยาง หยางจ้างกั๋วรับทราบและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ตระกูลของเขาใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่ตอนนี้ถูกฉินหลั่งตอบโต้กลับบ้าง ศัตรูคู่แค้นของตระกูลหยางต่างก็ตื่นตัวขึ้น อาศัยช่วงจังหวะนี้ตอบโต้ตระกูลหยางกลับทั้งหมดด้วยเช่นกัน
“ไอ้สารเลว สร้างเรื่องสร้างปัญหามาให้จริง ๆ ตอนนี้ถูกรุมล้อมโจมตีในทุกด้าน สับสนอลหม่านไปหมดแล้ว” หยางจ้างกั๋วกัดฟันโมโหมาก เขายกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม พอดื่มไปหลายคำก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า: “ให้ความร่วมมือทุกอย่างกับทุกฝ่าย ห้ามขัดแย้งและก่อปัญหากับฝ่ายรัฐบาล เขาต้องการอะไรก็จัดการไปให้เรียบร้อยทั้งหมด”
หยางจ้างกั๋วค่อย ๆ ใจเย็นลง: “แน่นอนว่า จะต้องมีทนายคอยติดตามอยู่ด้วยตลอด พวกเรายินยอมรับการตรวจสอบอย่างเต็มใจ แต่ห้ามให้ผู้ใดมาข่มเหงรังแกอย่างเด็ดขาด”
“นอกจากนี้ หากใครจะขอคืนสินค้าก็สามารถคืนได้ เตรียมเงินสดไว้ให้พร้อม”
เขากล่าวอย่างเฉยเมยว่า: “ไม่กี่พันล้าน ตระกูลหยางยังไงก็สามารถแบกรับภาระได้อยู่แล้ว”
ผู้หญิงวัยกลางคนพยักหน้าตอบรับ: “รับทราบเข้าใจแล้ว”
หยางจ้างกั๋วโบกมือให้กลุ่มพวกผู้บริหารระดับสูงออกไป จากนั้นก็เปิดกล้องวงจรปิด เพื่อดูนักข่าวที่อยู่ด้านล่างของตึก
นักข่าวยังคงไม่ได้แยกย้ายกันไปไหน รอดักพบคนอยู่ที่หน้าประตู ผู้บริหารระดับสูง ลูกค้า ยาม พนักงานทำความสะอาด เมื่อดักรอใครได้ก็สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
มีผู้คนจำนวนมากดักรออยู่เช่นนี้ ทำให้อาคารตระกูลหยางกลายเป็นจุดสนใจในที่สุด เรื่องราวอันสับสนวุ่นวายก็ค่อย ๆ ถูกขุดคุ้ยขึ้นทีละน้อย
เมื่อคิดถึงคำถามของนักข่าวเหล่านั้น หยางจ้างกั๋วก็ชี้ไปทางเส้เลี่ยวซาแล้วพูดว่า: “เส้เลี่ยวซา ไปจับไอ้คนตัวการมากเรื่องออกมา แล้วสั่งสอนพวกเขาสักหน่อย ให้พวกเขารู้ว่า เรื่องราวที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยาง ไม่ใช่จะมาซ้ำเติมกันอยู่อย่างนี้”
หากไม่ได้เชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว ความโมโหของหยางจ้างกั๋วคงยากที่จะลดลงไปได้
“ช่วงสถานการณ์คับขันแบบนี้ ทุกสายตาต่างก็จับจ้องมองมา อย่าได้เกิดเรื่องอะไรเพิ่มขึ้นอีก”
ขณะนี้ หยางสิ้นเค่อได้เปิดประตูแล้วเดินเข้ามา และโบกมือให้เส้เลี่ยวซาและคนอื่น ๆ ออกไป: “พวกเราสมควรที่จะจัดการเรื่องด่วนของเราให้จบเรียบร้อยเสียก่อน……”
“ลุงสิ้น! ”
เมื่อเห็นหยางสิ้นเค่อปรากฎตัวขึ้น หยางจ้างกั๋วรีบลุกขึ้นยืนต้อนรับ: “หล่วนฝูเป็นอย่างไรบ้าง? ”
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้กระพริบตาส่งสัญญาณให้กับเส้เลี่ยวซา เพื่อบอกให้เขาจัดการเรื่องตามที่ตนเองได้สั่งเอาไว้ต่อไป
เส้เลี่ยวซาก็พาลูกน้องออกไปอย่างรวดเร็ว
“ยังไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่ชัด แต่จากความซื่อสัตย์ของเขาที่มีต่อนาย เขาคงจะแบกรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอาไว้เองอย่างแน่นอน”
หยางสิ้นเค่อเดินไปยังหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน: “อย่างน้อยก็ไม่ทำให้นายต้องลำบากใจ ไม่เสียแรงที่เมื่อวานได้แสดงละครตบตาเอาไว้”
หยางจ้างกั๋วยังคงสงบนิ่ง ไม่ได้พูดอะไรต่อจากหยางสิ้นเค่อ แต่ดวงตาแสดงออกถึงความละอายใจที่มีต่อหล่วนฝู
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องและพูดขึ้นว่า: “อยู่ดี ๆ คุณส้งก็เข้ามายุ่งวุ่นวายทำไมกัน? ”
“ไม่มีคำสั่งลงนามของเขา ก็สามารถจัดการเรื่องได้ง่ายดายขึ้นอีกมากโข”
แม้ว่าเรื่องราวจะวุ่นวายใหญ่โตแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่มีการลงนามของส้งฉางเว่ย ก็แค่ชดเชยเงินเพียงแปดร้อยล้านพันล้าน แล้วก็ประกันตัวหล่วนฝูออกมารักษาอาการป่วยนอกเรือนจำ ซึ่งมีโอกาสช่องว่างในการจัดการเรื่องให้สิ้นสุดได้อีกมากมายเลยทีเดียว
ตอนนี้หยางจ้างกั๋วไม่ต้องพูดถึงการจัดการเรื่องให้เรียบร้อยหรอก เพียงแค่หล่วนฝูตอนนี้ก็ยังไม่สามารถพบเจอได้
“สองเป้าหมาย”
หยางสิ้นเค่อไม้ได้ใช้ลักษณะท่าทางการพูดที่ก้าวร้าวเฉกเช่นกับเมื่อวาน เขามองดูรถราที่วิ่งขวักไขว่ไปมาทางช่องหน้าต่างแล้วพูดว่า: “ข้อแรก เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยสาธารณะ หลายพันคนเกิดเรื่องในเวลาเดียวกัน และยังมีอีกกว่าห้าพันคนที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ทางรัฐบาลจะต้องสอบถามเรื่องดังกล่าวนี้เป็นแน่”
“ข้อที่สอง ในปีที่ผ่านมานี้ทั้งห้าตระกูลเป็นจุดสนใจต่อสาธารณชนอย่างมาก ซึ่งตอนนี้หลานชายก่อเรื่องไม่ดีมากมายจนถูกประชาชนก่นด่าไปทั่ว คุณส้งออกคำสั่งเพื่อเข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบเองก็เพราะต้องการแจ้งเตือนสติให้กับพวกเรา”
“ข้อสาม ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ สำนักงานคณะกรรมการยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังจดจ้องมาที่ผงขาวระดับหกดาวแล้ว”
“หลังจากที่หล่วนฝูได้แสดงสรรพคุณอันยอดเยี่ยมของผงขาวในตอนแถลงการประชุมนักข่าวนั้น ฉันคิดว่าหน่วยงานพิเศษของสำนักงานคณะกรรมการยาก็เริ่มให้ความสนใจกับยาชนิดนี้ขึ้นแล้ว”
“แน่นอนว่า หน่วยงานพิเศษไม่ได้ต้องการที่จะอาศัยผงขาวระดับหกดาวไปจำหน่ายเพื่อหาเงิน พวกเขาคิดต้องการที่จะดัดแปลงสรรพคุณของยาเพื่อนำไปใช้ในทางการตำรวจและทางการทหาร”
“ท่านคงจะทราบดีว่า ตำรวจ พนักงานดับเพลิง ทหาร ในแต่ละปีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนเท่าไหร่? ”
เขากล่าวเตือนไปอีกคำหนึ่งว่า: “ถ้าหากพวกเขานำผงขาวระดับหกดาวพกติดตัวไว้ สามารถลดจำนวนผู้ที่พิการบาดเจ็บและลดจำนวนผู้ที่เสียชีวิตลงได้อีกเป็นจำนวนเท่าไหร่กัน? ”
หยางจ้างกั๋วค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้น: “เรื่องนี้ฉันเข้าใจดี ฉันก็เคยประเมินตลาดของพวกเขา……”
แต่น่าเสียดาย ที่ติดกับดักของฉินหลั่งเข้า ไม่เพียงแค่แผนการใหญ่ถูกทำลายลง แถมยังสูญเสียกำลังลูกน้องไปอีกด้วย
“แต่เป็นเพราะว่าผงขาวเพิ่งผลิตสินค้าออกมา อีกทั้งยังมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้นหน่วยงานพิเศษของสำนักงานคณะกรรมการยาจึงยังไม่ได้มีโอกาสยื่นมือเข้าช่วยเหลือ”
หยางสิ้นเค่อยังคงวางมาดต่อไปและมองลงไปที่นักข่าวที่อยู่หน้าประตูไม่ยอมจากไป: “พวกเขาอยู่อย่างสงบเพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงและข้อพิพาทต่าง ๆ สิ้นสุดลง ขณะเดียวกันก็ยังรอดูผลตอบรับที่จะเกิดขึ้นของผู้ใช้ผงขาว”
“น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้รับคำชื่นชมจากการใช้ผงขาวเลย แต่กลับกลายเป็นว่าผู้ใช้ผงขาวกว่าพันคนเกิดอาการแพ้ยาขึ้น”
เขาหันศีรษะกลับไปมองที่หยางจ้างกั๋ว สายตาแฝงด้วยความตำหนิ รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำที่ประมาทเลินเล่อของผู้สืบทอดของตระกูลหยาง
หยางจ้างกั๋วถอนหายใจอย่างยาว: “คุณลุง ขอโทษด้วย เรื่องนี้ฉันจัดการได้ไม่ดี เป็นความผิดของฉัน ต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”
ได้ยินหยางจ้างกั๋วกล่าวคำขอโทษยอมรับผิดด้วยท่าทางที่จริงใจ หยางสิ้นเค่อก็หยุดมองด้วยสายตาที่ตำหนิ น้ำเสียงการพูดก็กลับคืนเป็นปกติ: “เกิดเรื่องขึ้นกับหลายพันคน จะส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนกได้โดยง่าย และยังมีส่วนเกี่ยวพันกับตระกูลหยาง หน่วยงานพิเศษที่ให้ความสนใจติดตามดูความเคลื่อนไหวของพวกเราอยู่ตลอดนั้นก็คงจะต้องสอบถามความเป็นมาของเรื่องที่เกิดขึ้น”
“แน่นอน นอกจากจะควบคุมรักษาสภาพจิตใจความเชื่อมั่นของประชาชนและแจ้งเตือนตระกูล หยางแล้ว หน่วยงานพิเศษก็ยังให้ความสนใจผงขาวระดับหกดาวอยู่อย่างไม่ยอมตายใจ”
“พวกเขาหวังว่าจะอาศัยกรณีพิพาทที่เกิดขึ้นนี้สืบเสาะหาข้อเท็จจริงว่า ผงขาวระดับหกดาว เป็นผงขาวที่ฉินหลั่งได้ปรุงแต่งขึ้นใช่หรือไม่! ”
เขาได้เอ่ยถึงจุดประสงค์เชิงลึกของหน่วยงานพิเศษของสำนักงานคณะกรรมการยา
หยางจ้างกั๋วตกใจ: “ท่านหมายความว่า หน่วยงานพิเศษเริ่มให้ความสนใจในตัวฉินหลั่งแล้วงั้นเหรอ? ”
“ถ้าหากฉินหลั่งเป็นผู้ที่คิดค้นผลิตผงขาวระดับหกดาวขึ้นจริง ๆ ก็ถือเป็นคนที่เก่งกาจมีความสามารถที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก……” หยางสิ้นเค่อหมุนตัวกลับไปพูดกับหยางจ้างกั๋ว: “ถ้าหากเป็นนายแล้วจะให้ความสนใจในตัวเขาไหมล่ะ? ”
หยางจ้างกั๋วไม่เอ่ยปากพูด แต่ก็ยอมรับว่า หากคนที่มีความสามารถเช่นนี้มาพึ่งพาอาศัยตน เขาก็คงจะดูแลฉินหลั่งเป็นอย่างดีดั่งสิ่งล้ำค่า
“สืบเสาะหาข้อเท็จจริง รวบรวมบุคคลที่มีความสามารถ นี่คือเหตุผลที่หน่วยงานพิเศษเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งเป็นความประสงค์อันแท้จริงของการลงนามอนุมัติของคุณส้ง”
หยางสิ้นเค่อดวงตาร้อนผ่าว: “เกรงว่าฉินหลั่งจะประสบความสำเร็จและโด่งดังแล้ว”
หยางจ้างกั๋วทำปากขมุบขมิบไปมา เกิดเจตนาคิดจะฆ่าขึ้นมาแวบหนึ่งในจิตใจ
เขาไม่ยินยอมที่จะให้ฉินหลั่งก้าวเติบโตถึงระดับนี้ไปได้
“ฉินหลั่งคือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา หากเขาได้รับการปกป้องถือหางจากหน่วยงานพิเศษแล้ว พวกเราก็คงจะมีชีวิตอยู่กันยากขึ้นทีเดียว”
หยางสิ้นเค่อเดินเข้ามา ตบไปที่บ่าของหยางจ้างกั๋วแล้วพูดว่า: “โดยเฉพาะนาย เขาจะมุ่งเล่นงานนายแน่ เพื่อสถานการณ์ส่วนรวม นายควรที่จะหาโอกาสไปก้มหัวแสดงความอ่อนข้อต่อเขา”
“ต่อให้ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ พวกนายก็ไม่ควรที่จะเป็นศัตรูกัน”
เขาพูดเสริมอย่างมีความหมายอันลึกซึ้งว่า: “ผู้บริหารจัดการแห่งตระกูลหยาง ไม่เพียงแต่จะมีวิสัยทัศน์และมองการณ์ไกลแล้ว ยังต้องปรับตัวเข้าให้ได้กับทุกสถานการณ์ด้วย”
“ฉันได้รับความเสียหายมากมายขนาดนี้ แม้แต่หล่วนฝูก็ถูกจับกุมขัง ฉันยังจะต้องยอมประนีประนอมต่อฉินหลั่งอีกเหรอ? ”
น้ำเสียงของหยางจ้างกั๋วเย็นชาจนน่ากลัว: “ฉันไม่ใช่ฉิวกงเฉิงแห่งแก๊งแถ่จ่าง ฉันไม่มีวันที่จะยอมก้มหัวให้กับฉินหลั่ง”
“เขาเคยดูหมิ่นทำให้ฉันเสียหน้า ฉันจำได้ไม่ลืม จะลืมไปได้อย่างไรกัน? ”
หยางสิ้นเค่อขมวดคิ้วเล็กน้อย: “จ้างจ้าง แบบนี้แสดงว่านายจะดื้อรั้นยืนหยัดความคิดของตนไปจนถึงที่สุด”
“ฉินหลั่งยังไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้าร่วมในหน่วยงานพิเศษไม่ใช่เหรอ? ” สายตาของหยางจ้างกั๋วแฝงไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง: “ในช่วงเวลานี้ ฉันจะต้องสั่งสอนฉินหลั่งให้ได้ก่อนที่เขาจะถูกเรียกตัวเข้าร่วมในหน่วยงานพิเศษ! ”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset