รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 732 งานเลี้ยงสานสัมพันธ์มิตรภาพ

บทที่ 732 งานเลี้ยงสานสัมพันธ์มิตรภาพ
จากนั้น ชายวัยกลางคนก็เซ็นชื่อของตนเองเอาไว้ว่า เว่ยสงเฟย
“นำไปส่งให้เขา และบอกกับพวกที่สร้างปัญหาให้กับนายว่า ข้าไม่มีความสุขกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้”
“ให้เขาเข้าใจ และจะต้องรีบหยุดการกลั่นแกล้งนายลง แล้วแสดงความขอโทษต่อนาย เรื่องนี้ก็นับว่าจบสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้”
“มิเช่นนั้น ผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ”
เว่ยสงเฟยมีจิตใจที่ฮึกเหิมอย่างมาก แล้วนำอักษรที่เขาเขียนขึ้นมอบให้กับสวีฉู่เย็นด้วยความมั่นใจ: “พอได้แล้ว ทำตามนี้แล้วกัน”
สวีฉู่เย็นคิดไม่ถึงว่าจะจัดการเรื่องได้ราบรื่นขนาดนี้ ดีใจเป็นอย่างมาก จึงรีบพูดขึ้นว่า: “ขอบคุณคุณเว่ยมาก ข้าน้อยขอขอบคุณอย่างที่สุด”
ตัวอักษรของเว่ยเฟยสงก็ไม่ได้สวยงามอะไร แต่เพียงดูมีพลังอำนาจ สวีฉู่เย็นเหมือนกับว่ากำลังถือของล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้น โดยถือกระดาษตัวอักษรนั้นไว้ในมือ จิตใจดูมีความสุข สองมือประคองเอาไว้ แล้วก็จากไปอย่างเคารพ
ทางด้านนี้ ฉินหลั่งกำลังรับสายพูดคุยโทรศัพท์ เสียงอันไพเราะของจงยู่ก็ดังขึ้น: “วันนี้คฤหาสน์ฝู่ตงจะมีงานเลี้ยงสานสัมพันธ์มิตรภาพลูกค้า โดยจะมีขึ้นที่คฤหาสน์ NO.7 ตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้าอยู่ คุณรีบมาเข้าร่วมงานนะ”
“พวกเราได้จัดเตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว” จงยู่พูดขึ้น ดูเหมือนว่าคงจะคิดถึงฉินหลั่งแล้ว
“ตกลง คุณรอหน่อยนะ ฉันอีกไม่นานก็ถึง” เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง ฉินหลั่งก็ตะโกนเรียกฉิวซียี่ที่รออยู่ด้านนอก
“พลขับ รีบไปขับรถของฉันมาเร็ว! ”
ช่วงเช้าสิบเอ็ดโมงครึ่ง ฉินหลั่งก็มาถึงที่คฤหาสน์ NO.7
ผู้ที่เดินทางมาด้วยกันนอกจากฉิวซียี่แล้ว ยังมีลมด้วย ฉิวซียี่รออยู่ด้านนอก ส่วนฉินหลั่งก็พาลมเข้ามาด้านในโรงแรม
สถานที่แห่งนี้คือโรงแรมโบราณที่มีเอกลักษณ์ บริเวณลานกว้างหรูหรา ฉินหลั่งเดินผ่านระเบียง มาถึงที่ประตูแดงขนาดใหญ่ ด้านในเป็นร้านจำหน่ายสินค้า มีลักษณะเป็นลานกว้างที่ตกแต่งแบบโบราณขนาดใหญ่ ภายในมีผู้คนจำนวนมาก
คฤหาสน์ฝู่ตงได้เปิดทำการจำหน่ายมาแล้วช่วงระยะหนึ่ง และเกือบที่จะขายบ้านได้หมดทุกหลังแล้ว โดยแขกที่มางานเลี้ยงขอบคุณครั้งนี้มีทั้งเพื่อนผู้ที่ซื้อคฤหาสน์ในราคาสูง และยังมีเพื่อนนักธุรกิจประเภทต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจงยู่เป็นพิธีกรของงาน
ในช่วงนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีการเริ่มต้นก่อสร้างและปรับปรุงใหม่ขึ้นอีก ดังนั้นจงยู่จึงต้องสานมิตรภาพความสัมพันธ์กับลูกค้าเอาไว้ เพื่อต่อไปจะได้มีการประกอบธุรกิจและทำประโยชน์ร่วมกันทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต
ลานจัดงานแห่งนี้รับรองคนได้จำนวนมาก ซึ่งผู้ร่วมงานประมาณสามร้อยกว่าคน บรรยากาศของงานอลังการณ์ใหญ่โต
เวลานี้จงยู่ยืนอยู่ด้านนอกเพื่อต้อนรับทักทายแขกที่มาร่วมงาน วันนี้จงยู่สวมใส่ชุดทำงานที่สุภาพ มัดรวบผมขึ้น ใบหน้าขาวผุดผ่อง ใส่ตุ้มหูหยกที่หนักอึ้ง ด้านล่างสวมใส่กางเกงขายาวสีขาวที่แสดงสัดส่วนรูปร่างที่น่าหลงใหล
โดยลักษณะท่าทางของเธอนั้นได้ยกระดับให้ดูดีมีสง่า ยิ่งสวยงดงามขึ้นอีก
แขกผู้ร่วมงานยังมากันไม่ครบ ทุกคนก็พลางพูดคุยกันอยู่ด้านหน้า พลางรองานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น
ฉินหลั่งกวาดสายตามองไปทั่วห้องโถง เหมือนว่าไม่มีคนที่ตนเองรู้จักมากนัก จงจิ่วเจินทำไมถึงยังไม่มาอีก นี่เป็นบริษัทของหลานสาวของเขาเอง อย่างน้อยจงเส่นซานก็ควรจะมาร่วมงานสิ
“คุณ! กรุณาหยุดก่อน! ” ฉินหลั่งที่อยู่ด้านนอกกำลังจะเดินเข้าสู่ด้านใน ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงแหลมดังขึ้นซึ่งตะโกนเรียกมาทางเขา
“ทำไมเหรอ? ” ฉินหลั่งได้ยินเสียง จึงหยุดเดิน และมองไปที่หญิงสาวที่อยู่ด้านตรงข้าม
เป็นผู้หญิงที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน อายุประมาณยี่สิบกว่าปี อยู่ในชุดทำงานสุภาพ หน้าตาดี แต่แฝงด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือเธอจะรู้สึกว่าฉินหลั่งแต่งกายในชุดที่ไม่สุภาพเรียบร้อย
“ใครเชิญคุณมาร่วมในงานนี้เหรอ ขอถามหน่อยว่าคุณมีบัตรเชิญของงานหรือไม่? ” หญิงสาวสอบถามด้วยสายตาที่เย็นชา น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่เชื่อมั่นในตัวของฉินหลั่ง
“พวกคุณ เข้ามาผิดงานแล้วเหรอเปล่า? พวกคุณรู้ไหมว่าด้านในกำลังจัดงานเลี้ยงอะไรอยู่? ”
หญิงสาวผู้นี้มองว่าฉินหลั่งเป็นพวกที่ชอบจงใจผูกมิตรกับคนในสังคมชั้นสูง
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้นฉันจะเรียกยามมาขับไล่พวกคุณออกไป จับพวกคุณโยนออกไป! ”
ตอนนี้บริษัทฝู่ตงมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก แขกผู้ที่มาร่วมงานต่างแต่งกายในชุดหรูหรางดงาม สีสันสดใส ดังนั้นฉินหลั่งกับลมเหมือนว่าจะแต่งกายในชุดลำลองที่ไม่ค่อยเหมาะสม
ส่วนจงยู่เองก็ยังไม่ได้พบเจอกับฉินหลั่ง ดังนั้นจึงไม่ได้เข้ามาหยุดสถานการณ์
“คุณมีชื่อว่าอะไร ทำไมฉันจึงไม่เคยพบเห็นคุณมาก่อน? ” ฉินหลั่งถามอย่างสุภาพ ด้วยสีหน้าท่าทางที่สงบ
“ฉันคือเลขานุการท่านประธานของคฤหาสน์NO.7 ชื่อว่าหลี่เหวิน ท่านประธานของพวกเราให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงต้อนรับในครั้งนี้มาก สั่งให้ฉันมาจัดการดูแลแขกผู้มีเกียรติ ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานเป็นอันขาด”
ขณะที่พูด หลี่เหวินเหล่มองฉินหลั่ง: “ที่นี่ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถที่จะเข้าไปได้ หากคุณรู้ตัวตนของตนเองก็รีบออกไปเถอะ”
ฉินหลั่งไม่ได้พูดอะไร แต่ก็มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเฉยเมย ถามว่า: “ประธานบริษัทของพวกคุณคือใคร? บอกชื่อของเขาให้ฉันทราบหน่อยได้ไหม? ”
ก่อนหน้านี้ฉินหลั่งก็เคยได้ยินถึงคฤหาสน์NO.7 แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ แต่ตอนนี้เขามีมิตรภาพความสัมพันธ์มากมาย ดังนั้นบุคคลระดับประธานบริษัทเขาก็พออาจจะรู้จักบ้าง
“เหอะเหอะ ประธานบริษัท? คุณถามถึงประธานบริษัทของพวกเรา? คุณไม่รู้สึกว่ามันน่าขันหรอกเหรอ? ” หลี่เหวินมองไปที่ฉินหลั่งอย่างเยาะเย้ย ในใจคิดว่าคนผู้นี้คงจะแกล้งโง่ ท่านประธานจะรู้จักคุณอย่างงั้นเหรอ? มันคงจะแปลกมาก
“ทำไมกัน? ถามไม่ได้เหรอ? ” ลมโมโหแล้ว ยืนฟังอยู่ตั้งนานจึงสอบถามขึ้นด้วยความโกรธ ทำท่าทางเบะปากใส่ ส่วนฉินหลั่งยังคงสุขุม แล้วทำมือบอกสัญญาณให้ลมหยุด
ฉินหลั่งชำเลืองมองไปที่ป้ายประกาศของโรงแรมแห่งหนึ่งในคฤหาสน์ จึงพบว่า บนป้ายนั้นมีคำว่าสวีฉู่เย็นอยู่ และยังมีรูปถ่ายใบหน้ายิ้มแย้มของสวีฉู่เย็นอีกด้วย
ฉินหลั่งเข้าใจได้ทันที คิดว่าทุกอย่างล้วนเป็นความบังเอิญ มาถึงถิ่นของสวีฉู่เย็นแล้ว สวีฉู่เย็นคือผู้มีอิทธิพลแห่งวงการบันเทิง คิดไม่ถึงว่าจะก้าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอาหารด้วยแล้ว
หลี่เหวินขณะนี้เริ่มมีอาการโมโหแล้ว: “พวกคุณทำไมยังไม่ไปอีก จะให้ฉันเรียกยามมาใช่ไหม? คุณนี่ก็จริง ๆ เลย ยังจะมาถามชื่อของประธานบริษัท นี่มันไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ รู้ไหมว่าประธานบริษัทของพวกเราคือใคร? ”
“คุณลองมองดูสิ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ซื้อมาจากแผงลอยทั่วไป แบบเสื้อผ้าก็ล้าสมัยดูไม่ได้ และที่น่าขันก็คือ ยังจะมาปลอมแปลงว่าเป็นแขกผู้มีเกียรติวีไอพี ฉันยอมแพ้ต่อพวกคุณจริง ๆ”
การที่เป็นผู้จัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ หลี่เหวินรับผิดชอบแจกจ่ายบัตรเชิญเข้าร่วมงานให้กับลูกค้าและแขกทุกคน ดังนั้นทราบดีว่าไม่มีฉินหลั่งและลมในรายชื่อแขกผู้เข้าร่วมงาน
พนักงานที่ฝ่ายต้อนรับที่อยู่ด้านข้างของหลี่เหวินต่างก็หัวเราะเบา ๆ สายตาเต็มไปด้วยความเหยียดยามและน่าขบขัน คิดว่าฉินหลั่งและลมถูกหลี่เหวินจับผิดได้ จากการที่คิดจะลักลอบเข้าไปแอบกินแอบดื่มภายในงาน
งานเลี้ยงหรูหราแบบนี้ ไม่ใช่การฉลองงานแต่งงานในชนบท ที่จะให้คุณเข้าไปร่วมงานได้อย่างง่ายดายที่ไหนกัน? ต่างเข้มงวดกวดขันในการเข้างานและมีที่นั่งเป็นของตนเอง
เสื้อผ้าการแต่งกายของฉินหลั่งและลมก็เป็นตัวบอกทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความอีก
ฉินหลั่งตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า: “ได้ยินว่า ประธานบริษัทของพวกคุณลงมือหาเรื่องหยูนชิงชิงไม่ใช่เหรอ? สวีฉู่เย็น? ”
“อะไรกัน? ”
“หยูนชิงชิง? ” หลี่เหวินเบิกตาโพลง: “คุณยังรู้จักชื่อของท่านประธานด้วยเหรอ? ”
หลี่เหวินตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับท่าทางสีหน้าของฉินหลั่ง ที่สงบเงียบ ขณะที่พูดถึงชื่อของหยูนชิงชิงและสวีฉู่เย็น เหมือนกับว่าไม่มีความเลื่อมใสอะไรเลยแม้แต่น้อย
“หืม! ” หลี่เหวินยิ้มอย่างเย็นชา: “ฉันเข้าใจแล้ว คุณมาเพื่อก่อกวนงานเลี้ยง ฉันก็รู้จักหยูนชิงชิงเช่นกัน คนที่เลวทรามอย่างนั้น คิดว่าตนเองเป็นดาราแล้วจะยิ่งใหญ่เหนือประดา ทำไมเหรอ เธอสั่งให้คุณมาจัดการระบายอารมณ์ให้กับเธอใช่ไหม? คุณแน่แค่ไหนเชียว? ”
หลี่เหวินพูดด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม: “เมื่อคืนพวกเราจัดการรุมทำร้ายเธอหนึ่งรอบ คิดไม่ถึงว่าวันนี้คุณก็มาหาถึงที่เลย คุณก็เช่นกัน ที่มานี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแขก ก็อาจจะถูกขับไล่โยนคุณออกไปจากงานได้”
ฉินหลั่งได้ยินแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว ถามว่า: “งั้นคุณบอกฉันหน่อยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้คุณได้เป็นผู้ร่วมลงมือกระทำด้วยหรือไม่? ”
ฉินหลั่งเห็นฝ่ายตรงข้ามมีท่าทีที่หยิ่งผยอง จึงอยากที่จะเข้าไปจัดการสั่งสอนหลี่เหวินโดยพลัน เขาเพียงต้องการทราบว่า ฝ่ายตรงข้ามตกลงได้มีการรังแกทำร้ายหยูนชิงชิงหรือไม่อย่างไร เพราะว่า หยูนชิงชิงกับจงยู่มีมิตรภาพความสัมพันธ์ระดับพี่น้อง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้ามาจัดการกับเรื่องนี้ หากว่าหลี่เหวินร่วมมือด้วย ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไม่ปล่อยฝ่ายตรงข้ามไปอย่างแน่นอน
วันนี้ช่วงเช้าหยูนชิงชิงถูกลอบทำร้าย ฉินหลั่งก็เพิ่งได้รับทราบข่าวขณะที่อยู่บนรถ
“หึหึ คุณเก่งกาจเหลือเกิน คุณเป็นใครกัน หรือว่าคุณไม่รู้สึกว่าตนเองน่าขบขันงั้นเหรอ? คนแบบคุณนี้มันช่างน่าตลกสิ้นดี นึกว่าตนเองเป็นที่หนึ่งในปฐพี ได้ยินชื่อของสวีฉู่เย็นแล้วยังกล้าที่จะกำเริบเสิบสาน? ยังจะมาถามอีกว่าฉันเข้าร่วมด้วยหรือไม่? คุณคิดจะทำอะไร? ฉันหวี่เหวินเกรงกลัวคุณอย่างนั้นเหรอ? ”
หลี่เหวินหัวเราะอย่างเย็นชา ชำเลืองมองไปที่ฉินหลั่ง ไม่ทราบว่าฉินหลั่งตกลงเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน ถึงฝีปากกล้าดีขนาดนี้ ขนาดหยูนชิงชิงที่ว่าเก่งกาจ มีแฟนคลับนับไม่ถ้วน ก็ยังถูกประธานสวีเล่นงานสั่งสอนอยู่ดี
“ฉันบอกความจริงให้คุณทราบว่า ฉันชกต่อยหยูนชิงชิงอย่างแรง ฉันเน้นชกไปที่ใบหน้าของเธอ ฉันยังถีบเธอสามทีด้วย ถีบอย่างรุนแรง ตอนนั้นเธอยังร้องครวญครางอีกด้วย”
“นางฟ้าตัวน้อยที่ไหนกัน ก็เป็นแค่หญิงบริการคนหนึ่งเท่านั้น ยังกล้าที่จะมาลองดีโอ้อวดขึ้นหน้าขึ้นตาใส่ ประธานสวีทนกับพฤติกรรมของหยูนชิงชิงมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ลงมือจัดการเท่านั้น ตอนนี้คุณก็รับทราบแล้ว อย่ามาทำอวดดี ประธานสวีมีวิธีจัดการก็แล้วกัน”
“ฉันบอกคุณอย่างชัดเจนนะว่า เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ รอดู หลังจากที่จบงานเลี้ยงนี้แล้ว ประธานสวียังคงมีแผนการที่จะจัดการกับหยูนชิงชิงอีกแน่นอน”
“ทำไมเหรอ คุณจะออกหน้าแทนนางฟ้าตัวน้อยหรือยังไง เตือนคุณไว้ก่อน เลิกคิดเสียเถอะ”
“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ยังจะมายุ่งวุ่นวายเรื่องของประธานสวี? คุณคิดว่าคุณมีความสามารถที่จะทำมันได้เหรอ? ”
ในระหว่างที่พูด หลี่เหวินก็กวักมือ เรียกให้ยามหลายคนเข้ามาจัดการฉินหลั่ง
ทุกคนหัวเราะกันเป็นแถว แล้วมองไปที่ฉินหลั่งอย่างเยาะเย้ย และดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างนั้น
โธ่! คนแบบฉินหลั่งที่คิดว่าตนเองแน่ ไม่เคยได้ประสบพบเจอโลกภายนอกมีอยู่มากมายไปหมด อำนาจบารมีของประธานสวีไม่ใช่คนอย่างฉินหลั่งจะเทียบเคียงได้ ตอนนี้ถูกทุกคนดูถูกเยาะเย้ยมันก็สมน้ำหน้าแล้ว
บอดี้การ์ดของประธานสวีผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี คนรูปร่างเล็กอย่างฉินหลั่งนับประสาอะไร ถ้าหากฉินหลั่งยังคงไม่สามารถสำนึกผิดได้ ก็คงจะต้องเป็นแบบหยูนชิงชิง ถูกทำร้ายโจมตี
สายตาของฉินหลั่งเย็นชาขึ้นโดยพลัน เย็นชาอย่างไม่คาดคิด ราวกับน้ำแข็งเย็นยะเยือกในฤดูหนาว
“ไอหยา คุณโมโหแล้ว? ฮ่าฮ่าฮ่า ท่าทางโกรธของคุณน่ารักจัง ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลี่เหวินไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย กลับหัวเราะเยาะเสียงดัง ราวกับว่าเห็นฉากที่น่าตลกขบขันเป็นที่สุด
“ฉันอย่างน้อยก็เป็นถึงเลขานุการของคฤหาสน์NO.7 บรรยากาศและแขกทุกคนที่อยู่ที่นี่คุณคงเห็นและทราบดีอยู่แล้ว คุณยังกล้าจะมาข่มขู่ฉัน? ฮ่าฮ่าฮ่า” หลี่เหวินรู้สึกว่าฉินหลั่งผู้นี้แสดงได้เกินความคาดหมายของตนเองไปแล้ว จากเดิมที่เธอโกรธก็กลายเป็นหัวเราะ น่าหัวเราะอย่างหนัก
ฉินหลั่งพูดกับลมว่า: “ลม คุณไม่ใช่ว่านำบัตรเชิญร่วมงานมาแล้วหรอกเหรอ? นำมันออกมา”
ลมเดินก้าวไปข้างหน้า แล้วมองดูในกระเป๋าของตัวเอง ทันใดนั้นก็ได้ใช้มือตบเข้าไปที่บ้องหูสองข้าง ตบเข้าไปอย่างแรงที่หน้าของหลี่เหวิน
“เปรี๊ยะเปรี๊ยะ! ” รุนแรงมาก และเสียงก็ดังมากด้วย
รุนแรงมากจนทำให้หลี่เหวินลอยกระเด็น ใบหน้าที่สวยงามมีรอยฝ่ามือที่ตบลงไป มองดูแล้วน่าหวาดกลัว และที่ปาก ก็มีฟันหลุดตกออกมา
“เปรี๊ยะเปรี๊ยะเปรี๊ยะ……” ลมตบไปอีกหลายครั้ง ช่วงนี้ลมฝึกฝนอยู่ที่ยาวเย่วกงทำให้มีพลังยุทธ์ที่ก้าวหน้าขึ้นมาก บวกกับยาวเย่วกงแม้ว่าจะมีผู้หญิงมาก แต่ว่าบรรยากาศภายในยาวเย่วกงค่อนข้างจะแข็งแกร่งองอาจกล้าหาญ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สามารถยืนหยัดยืนยงอยู่ได้นับพันปี?
หลังจากที่เธอตบหลี่เหวินไปหลายฉาด จากนั้นพนักงานที่คอยดูแลอยู่ด้านข้างและพวกยามทั้งหมดก็ถูกตบกระเด็นเช่นกัน ใบหน้าของแต่ละคนเริ่มบวมแดงขึ้น มุมปากมีเลือดไหล สภาพท่าทางไม่สวยงามเอาเสียเลย
การตบรวดเร็วมาก ใครก็ไม่สามารถรองรับการจู่โจมของลมได้ รวดเร็วราวกับลมพัดผ่าน ก็ถูกตบเข้าจนล้มลงแล้ว
หลี่เหวินค่อย ๆ คลานลุกขึ้นมา ตะโกนพูดว่า: “แกกล้าดียังไงถึงตบฉัน? แกคิดว่าจะเป็นใคร? ! ”
ฉินหลั่งยิ้มอย่างเย็นชา และพูดกลับลมว่า: “จัดการต่อ เธอยังเห็นบัตรเชิญร่วมงานไม่ชัดเจน จัดการต่อไป! ”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset