รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 759 เอาชนะ 3 เซียนได้

บทที่ 759 เอาชนะ 3 เซียนได้
“โล่!”
เสียงของชายวัยชราดังแว่วขึ้นมา
พอสิ้นเสียง ท่ามกลางอากาศนั้น สายลมบ้าคลั่งมากมายเหมือนได้รับคำสั่ง มารวมตัวกันอยู่ตรงหน้าเหลยซี สุดท้ายกลายเป็นโล่คุ้มกันอากาศกึ่งโปร่งใสขึ้นมา
หมัดของฉินหลั่งชกไปบนโล่คุ้มกันอากาศ ทันใดนั้นทำให้โล่คุ้มกันแตกระเบิดออก อาศัยโอกาสนี้ เหลยซีก็ร่ายมนตร์ร่างกายเทพฟ้าผ่า ทันใดก็แปลงเป็นลำแสงสายฟ้าผ่าพุ่งออกไปไกลหลายสิบเมตร
“มาอีกลูกแล้วเหรอ?”
ฉินหลั่งกวาดสายตาไปยังหยูจืดที่เพิ่งร่ายมนตร์ไปเมื่อครู่ สายตามีแต่ความว่างเปล่า ไม่ว่าจะมาอีกเท่าไร เขาจะไปกลัวอะไรล่ะ?
“นี่คุณยังเรียกมันว่าวิชาเวทมนตร์เหรอ? มาดูของข้าดีกว่า!”
ฉินหลั่งยื่นมือเปล่าออกไปจับกลางอากาศ กระทืบเท้าแล้วตะโกนเสียงเบา ทันใดนั้นก็เกิดก้อนน้ำแข็งมากมายปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว แล้วกลายเป็นแท่งน้ำแข็งยาวประมาณครึ่งเมตร สีฟ้าทั้งแท่ง ราวกับแท่งน้ำแข็งที่แข็งดั่งเพชร
“ไป!”
แท่งน้ำแข็งวิ่งเร็วเหมือนลูกศรธนู นำพาเสียงแหลมที่โหยหวนทะลุผ่านอากาศไป พุ่งตรงไปยังหยูจืด แท่งน้ำแข็งยาวประมาณครึ่งเมตรนี้ หมุนวนด้วยความเร็วสูงอยู่กลางอากาศ เหมือนธนูที่ยิงด้วยแรงมหาศาล พลังอันกล้าแกร่งพอที่จะทะลวงเหล็กกล้าได้ โดยเฉพาะตรงส่วนปลายแหลมนั้น ราวกับว่าสามารถทำลายทุกอย่างได้
เผชิญหน้ากับหมัดนี้ หยูจืดสีหน้าเคร่งขรึม กระแทกไม้เท้าในมือลงบนพื้นอย่างแรง
“เฮ้ย!”
ไม้เท้าที่ทำจากไม้เกิดขยายใหญ่โตขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนเถาวัลย์ต้นไม้งอกขึ้นมา กลายร่างเป็นต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ต้นนี้เกิดขึ้นจากเถาวัลย์พันเกี่ยวมากมายประกอบขึ้น รากของมันแทบจะหยั่งลึกลงชั้นแผ่นน้ำแข็งใต้หุบเขา ชั่วพริบตาเดียว ตรงหน้าหยูจืดก็ปรากฏต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบขึ้นมา บนต้นไม้ยังเต็มไปด้วยผลไม้ลักษณะคล้ายผลทุเรียน
แท่งน้ำแข็งเมื่อชนกับต้นไม้ยักษ์แล้ว เกิดเป็นเศษไม้กระจัดกระจายทั่วทันที ราวกับเครื่องเจาะสว่างความเร็วสูงกำลังเจาะไม้อยู่ หลังจากที่เกิดเสียงจากหัวสว่านเจาะไม้แล้ว แท่งน้ำแข็งดูเหมือนจะฝังเข้าไปในเนื้อไม้ลึกประมาณ 2 เมตร จนไม่เห็นหางของมัน เกือบจะทะลุผ่านต้นไม้ แล้วจึงหยุดที่เจาะต่อไป
ทำให้หยูจืดตกใจเหงื่อแตกท่วมตัว
ต้นไม้ยักษ์ของเขาต้นนี้ ลักษณะภายนอกดูธรรมดามาก แต่แท้จริงแล้วเนื้อไม้แข็งแกร่งมาก ราวกับเหล็กกล้า สามารถปกป้องจากการปะทะของระเบิดได้
ฉินหลั่งออกหมัดนี้ เกือบจะทะลวงต้นไม้ทะลุไปได้ ก็แสดงว่า พลังมหาศาลของแท่งน้ำแข็งนั้น มีอานุภาพไม่ต่างกับกระสุนเจาะเกราะของหน่วยรบทหารในสมัยนี้เหรอ?
‘ก็ยังดี เขาเพียงแต่ปล่อยมาแท่งเดียวเท่านั้น’
หยูจืดปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“เป็นวิชาควบคุมต้นไม้ของสำนักห้าพิษ ไม่นึกเลยว่าหยูจืดสามารถที่จะฝึกถึงระดับนี้แล้ว!”
แล้วตอนนี้ เจ้าสำนักเสว่ซานหน้าถอดสีพูดขึ้นว่า “เขาร่ายวิชาอาคมเวทมนตร์เช่นนี้ออกมา ซึ่งมันได้หายสาบสูญไปนานแล้ว ต้นสนเขียวนี้ไม่เพียงแต่ใช้ป้องกันตัวได้ ภายใต้การไล่มนต์คาถาของหยูจืด มันสามารถกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้มาต่อสู้กับมนุษย์ได้ อีกทั้งสามารถเอาผลไม้บนต้นนั้น มาขว้างออกไปได้ พลังอานุภาพของมันสามารถเทียบเท่ากับกระสุนปืนใหญ่ได้เลย
แล้วมันก็จริงอย่างที่เซียนป๋านเสว่พูดไว้
ต้นสนเขียวยักษ์นั้นเคลื่อนไหวอย่างแรง ราวกับเป็นมนุษย์ยักษ์กำลังเขย่าร่างกาย ผลไม้แต่ละลูกที่ใหญ่เท่ากับหัวคน ถูกต้นสนเขียวขว้างออกมาเหมือนเครื่องขว้างหิน ขว้างไปยังตำแหน่งที่ฉินหลั่งยืนอยู่ หยูจืดกำลังจะตอบโต้แล้ว
ผลไม้ที่ถูกยิงด้วยความเร็วสูงมากนั้น วิ่งผ่านอากาศด้วยเสียงเสียดสี หากตกลงมา สามารถทำให้หลังคาบ้านเรือนพังพินาศเป็นหลุมได้เลย
“สมแล้วที่เป็นหยูจืด แม้กระทั่งเวทมนตร์ที่หายสาบสูญไปแล้วก็ยังสามารถนำมาใช้ได้อีก”
ทุกคนต่างก็ชื่นชม
แล้วทุกคนมองไปยังฉินหลั่ง ดูว่าเขาจะรับมืออย่างไร
ปรากฏว่าฉินหลั่งไม่ได้ให้ความสนใจกับผลไม้ที่ต้นสนเขียวยิงใส่เข้ามา ขณะที่พวกมันเข้าใกล้ฉินหลั่งประมาณ3ฟุต ก็ถูกปราณคุ้มกายที่ปกป้องร่างกายของฉินหลั่งสะท้อนออกไปกลายเป็นเศษผง ไม่สามารถเข้าใกล้ฉินหลั่งแม้แต่ก้าวเดียว
“สามารถที่จะต้านข้าได้ 1 ครั้ง ไม่รู้ว่าคุณจะสามารถต้านได้ถึงสิบครั้งหรือไม่?”
ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย ตะโกนเสียงเบา มือทั้งสองก็เริ่มร่ายมนตร์คาถา
“ขึ้นมา!”
มือทั้งสองของเขาดูราวกับดอกบัว เมื่อดีดนิ้ว1ครั้ง ดอกบัวก็ผลิใบหนึ่งใบ กลางอากาศก็ยังมีแท่งน้ำแข็งร่วมอยู่ด้วย สุดท้ายดีดพร้อมกันสิบนิ้ว ดอกบัวก็เบ่งบาน สักพักกลางอากาศก็เกิดแท่งน้ำแข็งสิบแท่งขึ้นมา จากนั้นเมื่อฉินหลั่งพนมมือทั้งสอง แท่งน้ำแข็งทั้งสิบก็ลากเป็นทางยาวกลายเป็นรอยหมอกควันสีขาว10 สาย แล้วยิงใส่รอบตัวของหยูจืด
“เขาร่ายเวทมนตร์คาถาได้เร็วอะไรอย่างนี้!”
ผู้วิเศษใหญ่สีหน้าเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
แท่งน้ำแข็งที่ฉินหลั่งปั้นขึ้นมาไม่ใช่เวทย์น้ำแข็งธรรมดา แต่ละแท่งนั้นสามารถที่จะเทียบเท่ากับกระสุนเจาะเกราะ สามารถยิงทะลุรถถังได้ เวทมนตร์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ฉินหลั่งสามารถเสกออกมาทีเดียวได้ถึงสิบแท่ง มันช่างน่ากลัวจริงๆ!
“นี่ก็คือพลังอำนาจของผู้แข็งแกร่งระดับเทพเหรอ?”
หยูจืดไม่ทันได้คิดมาก ร่ายมนตร์คาถาอย่างเต็มกำลัง รวบรวมพลังเวทมนตร์ทั้งหมด ปลุกเสกกำแพงดินขึ้นมาตรงหน้า แต่ว่ากำแพงดินที่อ่อนแอพวกนี้จะสกัดกั้นการโจมตีของแท่งน้ำแข็งได้อย่างไรกัน
1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น……..7 ชั้น !
แท่งน้ำแข็งเจาะทะลุกำแพงเจ็ดชั้น จากนั้นก็ทะลุต้นสนเขียว เข้าไปถึงตรงหน้าหยูจืด ถึงแม้ยังเหลือแค่ 3 แท่ง แต่ว่าแต่ละแท่งนั้นแฝงไปด้วยไอเย็นในตัวมันแทบจะทำให้หยูจืดเหงื่อแตกเต็มใบหน้าแล้ว
“ปั้ง!”
หยูจืดตีลังกาไปหนึ่งตลบ หลบพ้นแท่งน้ำแข็งไปได้สองแท่ง แต่ก็หลบไม่พ้นแท่งสุดท้ายอีกหนึ่งแท่ง จึงต้องอาศัยร่างกายเข้ารับ ทันใดนั้นป้ายจี้หยกวงกลมที่แขวนบนหน้าอกของเขาส่องแสงประกายสีเขียวขึ้นมา กลายเป็นรัศมีแสงกระจายปกคลุมทั่วร่างหยูจืดไว้ แท่งน้ำแข็งที่แข็งแกร่งนั้นเมื่อชนปะทะกับรัศมีลำแสงก็เกิดเสียงเสียดสีดังขึ้นในที่สุด ทำให้ทั้งสองสิ่งดับสลายไปพร้อมกัน
ส่วนหยูจืดสายตาแสดงความเจ็บปวดใจยิ่งนัก ป้ายจี้หยกวงกลมบนหน้าอกของเขา ก็ถูกระเบิดเป็นจุณในทันที
“ที่มันเป็นของเก่าแก่โบราณศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าอุตส่าห์ลำบากลำบนขุดมาจากส่วนลึกของหุบเขาเลยทีเดียว สามารถที่จะต้านแรงระเบิดจากปืนใหญ่ได้ รับมือได้เพียงแค่นี้เหรอ? ฉิงหนานจงคนนี้จะเก่งกล้าเกินไปแล้ว” หยูจืดในใจเกิดความสะท้านหวั่นไหว
แล้วตอนนี้ เหลยซีกำลังจะลั่นกลองรบอีกครั้ง ส่งเสียงร้องขึ้นแล้วบุกลุยเข้าไป
ฉินหลั่งก็ได้แต่แบ่งความสนใจส่วนหนึ่งออกมา เพื่อหยุดยั้งเหลยซีไว้ เขาอาศัยมือเพียงข้างเดียว ร่ายมนตร์คาถาต่างๆ แต่ราวกับเหมือนเป็นป้อมปืนใหญ่ ไล่ยิงหยูจืดกลับไปอย่างง่ายดาย
ผู้บำเพ็ญเซียนทั้งหลายตอนนี้ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยปกติแล้ว
ฉินหลั่งคนเดียวสู้กับสองคน ก็ยังมีแรงเหลือเฟือเพียงนี้เชียวเหรอ!
หมัดทุกหมัดที่ฉินหลั่งชกออกไปนั้น ล้วนสามารถที่จะทำให้เหลยซีกระเด็นออกไปเหมือนเตะลูกบอล ทำให้ตาแก่ที่หนวดเคราเต็มไปด้วยสายไฟแลบคนนี้แหกปากร้องดังลั่น หากไม่ใช่ร่างกายจิตเบญจฟ้าผ่าของเขาบรรลุถึงระดับต้นแล้ว เกรงว่าคงถูกหมัดของฉินหลั่งชกระเบิดไปแล้ว ส่วนมืออีกข้างของฉินหลั่งก็ร่ายมนตร์คาถาต่อไป แท่งน้ำแข็ง จรวด ดาบวายุเกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วนเหมือนไม่ต้องเสียเงินซื้อ ราวกับพรมปูพื้นปกคลุมตัวหยูจืดไว้
ต้นไม้สนสีเขียวที่อยู่ข้างหน้าของหยูจืดนั้น ถูกยิงจนเป็นรูพรุนไปหมด แทบจะถูกตัดขาดเป็นท่อนแล้ว
ส่วนหยูจืดใช้เวลาส่วนใหญ่ในการตั้งท่าป้องกันภัย ทำได้แค่ตอบโต้เป็นบางครั้งบางคราว ผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักห้าพิษท่านนี้ ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ด้านเวทมนตร์ที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดแห่งโลกบำเพ็ญเซียน ถูกฉินหลั่งใช้มือข้างเดียวก็จัดการได้แล้ว!
“คนเดียวสู้กับสองคน ยังสามารถชนะได้ เขาทำไมจึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้!”
กลุ่มพวกหูจงซิ่วก็เริ่มหวาดผวา
“เทพนิยายปัจจุบันสมแล้วที่เป็นเทพนิยายปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเหลยซีหรือว่าหยูจืด พวกเขาล้วนก็อยู่ในระดับที่ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าสู่ระดับเทพแล้วทั้งนั้น ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับฉินหนานจง แทบจะไม่มีโอกาสตอบโต้เลย ฉินหนานจงก็เหมือนเด็กน้อยที่กำลังเล่นหยอกล้อกับผู้ใหญ่ เขาไม่ได้จริงจังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว” ท่านนักพรตป๋ายซุยสีหน้าเคร่งขรึม พูดอย่างตรงไปตรงมา
“นี่ก็คือพลังอำนาจของผู้แข็งแกร่งระดับขั้นเทพหรือ? น่ากลัวมากจริงๆ”
ทุกคนต่างรู้สึกสะท้านใจมาก
“เพี๊ยะ!”
ทุกครั้งที่ถูกฉินหลั่งเตะออกไปนั้น เหลยซีก็เหมือนลูกบอลที่เรืองแสง กลิ้งไปมาอยู่บนพื้นจนไกลถึงสี่ห้าสิบเมตร เมื่อกระโดดขึ้นมาได้ ก็กระหืดกระหอบส่งเสียงด่าว่า “ซิงจ้างไอ้สมควรตาย ถ้าคุณยังไม่ลงมาอีก พวกเราต้องถูกไอ้หมอนี่ฆ่าตายแน่”
หยูจืดก็เหงื่อออกเติมหน้า
เขาเพิ่งจะเสกของมีพิษมากองหนึ่ง แต่ถูกฉินหลั่งใช้ดาบวายุหั่นเป็น 2 ท่อน หยูจืดตื่นตกใจแล้วพบว่า การไล่มนต์คาถาที่เขาถนัดนั้น ยังห่างไกลจากฉินหลั่งมากเลย เวทมนตร์ที่ฉินหลั่งร่ายยาวออกมานั้น แทบจะไม่ซ้ำกันเลย
ซิงจ้างยืนอยู่ด้านข้าง สีหน้ายิ่งมายิ่งหนักแน่น สุดท้ายต้องกระโดดเข้ามา
แม่ทัพในโลกบำเพ็ญเซียนผู้นี้ได้ชื่อว่าเทพสงคราม ต้องลงมือเองแล้วในที่สุด
“ชือล่า!”
ปีกนกที่ประกอบขึ้นด้วยลำแสงสีขาวได้คลี่ออกจากด้านหลังของซิงจ้าง ขนาดยาวประมาณ 5-6 เมตรได้ ขนแต่ละเส้นเหมือนกับขนนกจริงไม่ผิดเพี้ยน แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า
ยามเมื่อเขาสยายปีก สามารถที่จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า สูงถึง 10 กว่าเมตร ราวกับทูตสวรรค์ในเทพนิยายที่เล่าลือกันมา แล้วบินวนในระดับต่ำ สุดท้ายพุ่งไปหาฉินหลั่ง!
“ 3 คนเหรอ? เข้ามาพร้อมกันเลย!”
ฉินหลั่งหัวเราะเสียงดัง นัยน์ตาส่องแสงประกาย เสื้อชุดยาวพลิ้วไหวตามลม พลังต่อสู้ฮึกเหิมขึ้นมาราวกับจะพุ่งสู่ท้องฟ้า
เขาคนเดียวสู้กับ 3 คน คนเดียวสู้กับเซียนสามท่านแห่งโลกผู่ซิว!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset