รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 860 ผู้กล้า

“แกไม่ใช่คู่ต่อกรของฉัน”
ย่าจื่อกล่าว
เขากล้าหาญชาญชัย ราวกับเขาไร้เทียมทาน ก่อนจะเหลือบมองไป
“แกร่างกายแข็งแรง ชนะร่างอรหันต์ของว่างหมิงมาได้ พลังจิตของแกน่าอัศจรรย์ จนอยู่เหนือพลังจิตมังกรของจางยู่หลงได้ อิทธิฤทธิ์ของแกค้างฟ้า สามารถใช้ไฟบรรลัยกัลป์ทำลายตระกูลจื่อได้ วิชาต่างๆนานาของแก เป็นอันดับหนึ่งของโลกเทพเท็จในรอบห้าสิบ ถึงร้อยปีเลยก็ว่าได้ แต่เสียดาย……”
ทุกๆย่างก้าวของย่าจื่อ จะเกิดเป็นหมอกควันใต้เท้า จนสุดท้าย ก็มีเมฆหมอกรอบๆตัว ราวกับเซียนจุติลงมา เขาพูดพลาง ก็แสดงสีหน้าเศร้าโศก
“เสียดายอะไร?”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือกะพริบตาพลางถาม
“เสียดายย่าจื่อ เป็นเซียนไปแล้ว”
เทียนเสว่ก้มหน้าแล้วกล่าว
ตูม!
ที่แท้ ที่เห็นย่าจื่อเดินบนอากาศนั้น ไม่ได้พึ่งเวทมนตร์ แต่ใช้อากาศ
ทั้งร่างกายเขา เหมือนรวมกับฟ้าดินเป็นหนึ่ง ไม่แยกจากกัน ท้องฟ้าในรัศมีสิบลี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ง่ายไปหมด สามารถทำให้ฟ้าผ่าลงมา พายุโหมกระหน่ำ ทำลายอากาศให้พังยับเยินยังได้
เซียนดิน!
ทุกๆสายตา จับจ้องไปที่ย่าจื่อ
ทั้งโลกเทพเท็จ เซียนดินมีเพียงหลักร้อย สถานะสูงศักดิ์ มองลงมาดูโลก! หนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่ก็กินไปเกินครึ่ง และนี่เป็นการสะสมมากว่าร้อยปี ไม่ใช่ก็รุ่นเดียวก็จะสามารถทำได้ แม้พวกเขาทั้งหมดจะเป็นผู้กล้า แต่การที่จะเป็นเซียนได้ ทุกรุ่นจะมีไม่เกินสิบคนเท่านั้น!
และเซียนดินที่อายุน้อยที่สุด ก็สี่สิบปีไปแล้ว ปัจจุบันย่าจื่ออายุเพียงสามสิบต้นๆ ก็เป็นเซียนดิน พรสวรรค์น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเป็นสมัยก่อนหรือตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีคนแบบนี้เกิดขึ้น!
“ไม่แปลกที่ในสำนักไท่กู่ของแกมั่นคง ที่แท้ย่าจื่อเป็นเซียนแล้วนี่เอง”
ผู้กล้าของสำนักพวกเขา ถูกฉินหลั่งฆ่าตายหมด ย่าจื่อเป็นเซียน นี่หมายถึงจากรุ่นนี้ไปอีกหลายรุ่น เรื่องของย่าจื่อ ก็จะยังอยู่ไปอีกเป็นร้อยๆปี
‘สามร้อยปีที่แล้ว นักพรตฝูจูกำเนิดขึ้นมา สำนักชื่อเสินเป็นใหญ่ในยุค ร้อยปีที่แล้ว มีซู่โส่วเซียนมาอีก สำนักชื่อเสินยิ่งรุ่งเรืองขึ้นไปอีก จนแทบจะดันสำนักไท่กู่ของฉันลงจากอันดับหนึ่ง แต่เมื่อมีย่าจื่ออยู่ ยังไงอนาคตก็ต้องเป็นสำนักไท่กู่’
นางฟ้ายู่ป่อดูแคลนในใจ
แต่ผู้คนในสำนัก ต่างมึนงงไปหมดแล้ว
ช่วงการฝึกฝน ก็เป็นที่หนึ่งมาตลอด และเป็นที่หนึ่งเรื่อยมา ย่าจื่ออายุสามสิบกว่าปี ก็ได้เป็นเซียนดิน นี่ก็ตะลึงมากพอแล้ว นั่นหมายถึงในรุ่นของเขา ขึ้นแท่นเป็นอันดับอย่างมั่นคงแน่นอน
“ถ้ารู้ว่าย่าจื่อเป็นเซียนตั้งแต่แรก แล้วฉันจะมาแข่งอันดับหนึ่งอะไรนี่อีกทำไม? คนธรรมดาจะสู้เซียนดินได้เหรอ!”
คนจำนวนไม่น้อยยิ้มแหยๆพลางส่ายหัวกัน
ระยะฝึกปราณกับระยะพรสวรรค์ ต่างกันลิบลับ นอกจากฉินหลั่งที่วิปริต ไม่เคยพูดว่าเซียนดินแพ้ให้กับคนธรรมดา
สายตาของทุกคน มองไปที่ฉินหลั่งอย่างสะใจ เผชิญหน้ากับเซียนดินองค์นี้ นอกจากขอร้องอ้อนวอนแล้ว จะต่อต้าน ก็แค่ทำอะไรเกินตัวก็เท่านั้น
แม้แต่ยินยิน ยังมองด้วยความเห็นใจ
‘ฉินหนานจง แกคิดว่าแกไร้เทียมทาน พรสวรรค์น่าอัศจรรย์ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ฝีมือของย่าจื่อ เป็นสิ่งที่แกรู้หรอ? ’
แต่เสี้ยวเสี้ยว ตกใจจนมึน นั่นมันเซียนดินเลยนะ!
“ตั้งแต่ฉันฝึกฝนมา สามสิบห้าปี ไม่เคยเห็นใครที่เป็นศัตรูได้เลย ในรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็มีแค่ชื่อเล่ที่เก่งกาจพอจะอยู่ในสายตาฉันอยู่บ้าง ในสายตาฉัน มีเพียงผู้อาวุโสที่ไร้เทียมทานเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเท่านั้น”
เสียงของย่าจื่อ ราวกับดังลงมาจากฟ้า
“สามร้อยปีก่อน เจ้าสำนักชื่อเล่โมโหมังกร เอาตันชี่ ร้อยปีก่อน นักพรตจื่อทงดาบเดียวผ่าแม่น้ำ บีบจนมังกรยอมก้มหัวให้ สิ่งที่ผู้อาวุโสทำเหมือนกำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าฉัน และวันนี้ ฉันก็จะทำอย่างผู้อาวุโสเหล่านั้น!”
ย่าจื่อพูดพลาง ก็มองไปที่แม่น้ำมังกร ไม่ได้มองหาฉินหลั่งเลยแม้แต่น้อย
เซียนดินกับคนธรรมดา ต่างกันมากเหลือเกิน!
ฉินหลั่งไม่พูดอะไรรอให้เขาพูดจบ แล้วจึงกล่าว
“แกพูดจบแล้วยัง? พูดจบแล้วก็มาตายซะดีๆ ฉันรีบ”
ทุกคนตะลึง!
แม้แต่ย่าจื่อก็ค่อยๆหันไป มองฉินหลั่ง ทุกคนใช้สายตามองคนบ้ามองเขา เผชิญหน้ากับเซียนดิน แล้วยังกล้าท้าทายอีก นี่มันไม่เพียงแค่อวดดี? แต่กำลังรนหาที่ตาย!
“เหอะๆ แกเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ พวกเขาเรียกแกฉินหนานจง ชื่อนี้ฉันจำได้ล่ะ”
ย่าจื่อยิ้มเล็กๆ ค่อยๆพยักหน้า ราวกับกำลังจำชื่อฉินหลั่ง เป็นเกียรติต่อฉินหลั่งอย่างหาที่สุดไม่ได้
“น่ารำคาญ”
ฉินหลั่งเดิน แล้วปล่อยหมัดไป
พลังจิตที่เดือดพล่านเหมือนทะเล ไหลเวียนอยู่ในตัวของฉินหลั่ง กลายเป็นมังกรน้ำเกรี้ยวกราดที่ยาวกว่าสิบฟุต อยู่บนท้องฟ้า แล้วโจมตีไปที่ย่าจื่อ
ย่าจื่อผลักออกไปเบาๆ ในอากาศเต็มไปด้วยเมฆหมอก เป็นเชือก มัดมังกรน้ำเกรี้ยวกราดนั่นเอาไว้ เป็นชั้นๆ สุดท้ายก็สลายไป หลังจากที่เขาทำลายการโจมตีแล้ว ก่อนจะสะบัดไปหาฉินหลั่ง
“แกยังไม่เป็นเซียน ไม่มีทางรู้ถึงพลังของเซียนดินได้ ว่าน่ากลัวขนาดไหน!”
ตูม!
ฟ้าดิน ราวกับเป็นใจให้กับการโจมตีของย่าจื่อ หยวนชี่อันทรงพลัง กลายเป็นน้ำขึ้นลงไปมา เต็มไปหมด ทุกๆคนที่อยู่ในสำนัก เห็นเหตุการณ์นี้ หน้าถอดสี ตัวสั่นกับพลังของเซียนดิน
ฉินหลั่งไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ หมัดสลายไปต่อหน้าต่อตา
“เซียนดิน? เซียนดินที่ฉันฆ่าในชาตินี้ ไม่ใช่แค่สิบคนหรอกนะ”
“อวดดีนักนะ!”
ย่าจื่อขมวดคิ้ว พลังเริ่มไหลเวียนอย่างจริงจัง เมฆหมอกมากมาย กลายเป็นกองทัพสวรรค์ ในมือถือเมฆที่เป็นดาบยาว ชุดเกราะเป็นประกาย ลงมาจากฟ้า พลางพุ่งไปที่ฉินหลั่ง
“เป็น‘ทหารสวรรค์’ของสำนักไท่กู่ เล่าลือกันว่าวิชานี้ มีเพียงเซียนดินเท่านั้นที่ใช้ได้ ผู้บำเพ็ญพรตทั่วไป เพียงแค่ไหลเวียนพลัง สิ่งที่สะสมมาก็จะถูกดูดออกไปจนหมด”
มีคนส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ
ทหารสวรรค์แต่ละองค์ ฝีมือของแต่ละคนเทียบได้กับแดนสุขาวดี มีมากกว่าร้อยนาย ทหารสวรรค์เป็นผู้นำ กลายเป็นมังกรเก้าตัว มาจากทั้งสี่ทิศแปดด้าน ทหารสวรรค์เหล่านี้ พลังถึงขั้นแดนเทพขั้นยอด แค่ทหารสวรรค์อย่างเดียว ก็จัดการศัตรูได้เป็นหมื่น!
“ทำลาย!”
ฉินหลั่งหน้านิ่งสงบ ขึ้นไปบนฟ้า กระบี่ด้ามหนึ่ง ออกมาจากอากาศ มีทั้งสิ้นเก้าด้าม เป็นกระบี่ลอยฟ้าของผู้เฒ่าจิ่วเจี้ยน เมื่อพลังกระบี่ลงมา ฟันเหล่าทหารสวรรค์ที่อยู่รอบๆเขา กลายเป็นเมฆหมอกไป
“ที่แท้วิชาที่แกถนัด คือวิชาค่ายกลกระบี่นี่สินะ? พลังแข็งแกร่งจริง ไม่แปลกที่จะมั่นใจ”
ย่าจื่อพยักหน้า อย่างเสียดาย
“เสียดาย แกไม่น่าเป็นศัตรูกับฉันเลย”
เกร๊ง!
บนมือของย่าจื่อมีกำไลคู่หนึ่ง ใช้อากาศขยายมันออก เป็นชิงช้าสวรรค์ในอากาศ ชิงช้าคู่นี้เป็นเมฆหมอก ลอยอยู่ในอากาศ มีเสียงฟิ้วๆดังออกมา กระทบกับอากาศ เป็นลำแสงยาว พลังสะเทือนน้ำสะเทือนบก!
“เป็นเครื่องรางใหญ่ของสำนักไท่กู่ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง ไม่คาดคิดว่าย่าจื่อจะเอามาด้วย”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือม่านตาหดลง
คนอื่นๆหน้าขาวซีด เดิมทีเครื่องรางระดับสูงเป็นเครื่องรางพลังมหาศาล เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์หินยักษ์คู่นี้ เป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงทั้งคู่ พลังของมันเทียบกับสิ่งที่กำลังจะเป็นสมบัติวิเศษแล้ว ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย! แม้แต่เซียนดิน ก็ต้านทานการโจมตีของหินยักษ์เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ไม่ไหว
เก้ากระบี่ลอยฟ้าในมือของฉินหลั่ง ตอนนั้นกำลังจะเป็นเครื่องราง ตอนนี้ถึงแม้ฉินหลั่งได้ดูแล เลื่อนขั้นเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ก็เป็นแค่ระดับต่ำเท่านั้น จะเทียบกับหินยักษ์เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรกัน
“ฟิ่วๆ”
ทันใดนั้นหินยักษ์เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ได้ใหญ่ขึ้นสิบฟุต ราวกับรถหุ้มเกราะ เสียงดังลงมาจากฟ้า พุ่งชนไปที่ฉินหลั่ง เกิดเป็นเสียงตูมตูมขึ้น เหมือนกับฟ้าผ่า
ยินยินถอนหายใจ ก้มหน้าลง
แม้ฉินหลั่งจะน่าทึ่งไร้เทียมทาน สุดท้ายก็ต้องพ่ายให้กับย่าจื่อ มีเพียงเลือดผู้กล้า จึงจะเป็นเซียนได้
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือก็เสียดาย คนอื่นๆส่ายหัวและดูแคลน ไม่มองไปทางฉินหลั่ง เป็นพยานในการตายของผู้กล้าคนหนึ่ง กับการเกิดของผู้กล้าอีกคนหนึ่ง
มีเพียงเสี้ยวเสี้ยวที่ร้อนรนสุดๆ มองด้วยความกังวล
ฉินหลั่งมองไปที่เก้ากระบี่ลอยฟ้า ด้วยสายตาอ่อนโยน ราวกับกำลังปลอบโยนคนรักก็มิปราณ “เครื่องราง ผู้ที่ใช้อยู่ ไม่ใช่เจ้าของเครื่องราง เสี้ยวเสี้ยว เพื่อรับคุณเป็นศิษย์ จะถ่ายทอดวิชากระบี่แรกให้!”
ฉินหลั่งพลางพูด มือทั้งสองทำท่าจะปล่อยพลัง ดีดนิ้วโป้งเบาๆ
“ระยะพรสวรรค์ปี่เซียะ ฝูหลง ซิวหลอ”
“หงซิ่ว ป๋ายหลี สวนอู่”
“เหยาหวง ชิงส่อ จื่อเซียว!”
ฉินหลั่งดีดไปเก้าครั้ง กระบี่ลอยฟ้าล่องมา กลายเป็นสาย ราวกับแสงสีทอง ความคมนั้นหาที่เปรียบไม่ได้ คมถึงขั้นผ่าเหล็กและทองได้เลยทีเดียว!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset