ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 266 มือเบื้องหลังมหาเคราะห์ จอมปีศาจอินทรีทอง

บทที่ 266 มือเบื้องหลังมหาเคราะห์ จอมปีศาจอินทรีทอง

การบำเพ็ญเพียรไร้ซึ่งกาลเวลา

แม้วังสวรรค์จะเปิดศึกกับวังปีศาจ แต่โลกเขย่าพิภพยังคงอยู่ในความสงบมาโดยตลอด เวลาร้อยปีผ่านไปในพริบตา

ในที่สุดวิญญาณของหานเจวี๋ยก็ได้รับโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ภายใต้การช่วยเหลือของมหามรรควัฏจักรอนธการ เขาทะลวงถึงจักรพรรดิเซียนสองวัฏ พลังเวทเพิ่มขึ้นฉับพลัน

ที่สามารถฝึกฝนได้เร็วเช่นนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับการประกอบชิ้นส่วนมหามรรคในก่อนหน้า ทำให้ตบะของเขายกระดับจนอยู่ห่างจากการทะลวงไม่มาก

แม้จะไม่มาก แต่ก็ใช้เวลาหนึ่งร้อยกว่าปีกว่าจะทะลวงสำเร็จ

หลังจากบรรลุจักรพรรดิเซียนสองวัฏแล้ว หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบท้าประลองจักรพรรดิสวรรค์

น่าเสียดาย ยืนหยัดได้เพียงสามวิเท่านั้น

จักรพรรดิสวรรค์แข็งแกร่งเกินไปแล้ว

หานเจวี๋ยจำต้องทำแบบจำลองการทดสอบกับเจียงอี้ เพื่อฝึกฝนประสบการณ์การต่อสู้ของเขา

เจียงอี้อ่อนแอเกินไป ทำให้หานเจวี๋ยต้องออมมือให้ทุกครั้ง

เมื่อต่อสู้กับพุทธะพิชิตชัยที่กำลังบาดเจ็บอยู่ กลับรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

หานเจวี๋ยอยากรู้มากว่าพุทธะพิชิตชัยในภาพที่สมบูรณ์จะแข็งแกร่งเพียงใด

แน่นอนว่าเพียงแค่คิด เขาก็ไม่อยากจะพบกับพุทธะพิชิตชัยจริงๆ

อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่อาจพบได้

หลังจากการจำลองแบบทดสอบจบลง หานเจวี๋ยปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างมาก เขาเริ่มสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจ หลี่เสวียนเอ้า และถือโอกาสตรวจสอบจดหมายไปด้วย

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลัง]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านได้รับดวงชะตาที่ยิ่งใหญ่จากเผ่ามาร ตบะเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[ยอดแม่ทัพเทพสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนเผ่าปีศาจ] x23

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x321002

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านได้รับมรรคผลอดีตชาติ วิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลง]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านพบเจอกับผู้ทรงพลัง ได้รับการชี้แนะจากผู้ทรงพลัง รู้แจ้งยอดพลังวิเศษ]

[ตี้ไท่ไป๋สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพปีศาจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จอมพลเสินเผิงสหายของท่านหนีออกจากวัฏสงสาร รวบรวมดวงชะตาจักรพรรดิเซียนอีกครั้ง]

……

ช่างดุเดือดเสียจริง

หานเจวี๋ยไม่เข้าใจอยู่บ้าง เหตุใดจักรพรรดิสวรรค์ถึงเปิดศึกกับวังปีศาจก่อนที่ช่วงมหาเคราะห์มาถึง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถูกลดทอนพลัง แล้วจะมีประโยชน์อันใดกัน

ช้าก่อน

หรือคิดจะลดทอนพลังด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้ไม่ถูกมรรคาสวรรค์จับจ้อง?

ยิ่งคิดหานเจวี๋ยก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้

แต่นี่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา อย่างไรเสียเขาคุ้มกันอยู่ในโลกเขย่าพิภพก็พอแล้ว

มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตไม่เกี่ยวข้องกับเขา!

ขณะเดียวกัน

วังสวรรค์ อุทยานหลวง

จักรพรรดิสวรรค์กับหลี่เต้าคงกำลังร่ำสุราอยู่ในศาลา

“อ้อ? ศิษย์น้องของเจ้าถูกหนังสือเล่มหนึ่งสาปแช่งหรือ” จักรพรรดิสวรรค์ถามด้วยความประหลาดใจ

หลี่เต้าคงพยักหน้ากล่าว “ฝ่าบาททรงทราบตบะของศิษย์น้องข้าดี ผู้ที่สามารถสาปแช่งเขาได้จะต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน ข้าเป็นกังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะคิดควบคุมมหาเคราะห์”

จักรพรรดิสวรรค์หรี่พระเนตรลงแล้วกล่าวว่า “ไม่ขอปิดบังเจ้า วังสวรรค์ของเราก็มีเทพเซียนถูกหนังสือเล่มหนึ่งสาปแช่งเช่นกัน เราและสี่ยอดมหาจักรพรรดิต่างคำนวณมือสังหารที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้ ไม่เพียงแค่วังสวรรค์ สำนักพุทธเองก็ถูกหนังสือเล่มหนึ่งสาปแช่งเช่นกัน พุทธาเทพฟ้าพิโรธและเสียงหลงฝัวก็ถูกสาปแช่งจนตายตกไปตามกัน”

ได้ยินเช่นนี้หลี่เต้าคงขมวดคิ้วแน่น

มีกลุ่มอิทธิพลถูกสาปแช่งมากมายเพียงนี้เชียวหรือ

เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย

จักรพรรดิสวรรค์ตรัสด้วยเสียงเรียบเรื่อย “มักจะมีคนอยากควบคุมมหาเคราะห์ คิดจะเดินบนเส้นทางเดียวกันกับบรรพชนมารในปีนั้น”

หลี่เต้าคงทอดถอนใจกล่าว “ปีนั้นมังกร หงส์และกิเลนเจริญรุ่งเรืองเพียงใด บรรพชนมารลอบยุแหย่ให้แตกแยกกัน ทำให้ทั้งสามเผ่าต่อสู้กันจนตาย ก่อให้เกิดมหาเคราะห์ ตอนนั้นบรรพชนมารเกือบจะทำสำเร็จแล้ว น่าเสียดายที่พบเจอกับบรรพชนเต๋าที่เก่งกาจ”

พูดถึงบรรพชนเต๋า น้ำเสียงของหลี่เต้าคงเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส

บรรพชนในสามนิกายสำนักเต๋าล้วนเป็นศิษย์สืบทอดของบรรพชนเต๋า!

หลี่เต้าคงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยว่า “มหาเคราะห์ในครั้งนี้ พวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนไม่อยากเข้าร่วม แต่วังสวรรค์เป็นมรรคาสวรรค์ดั้งเดิมที่บรรพชนเต๋าประคับประคองขึ้นมา หากวังสวรรค์มีภัยพวกเราก็ไม่อาจนิ่งดูดาย”

จักรพรรดิสวรรค์แย้มยิ้ม กล่าวว่า “เราขอบใจพวกเจ้าล่วงหน้า วังสวรรค์ต้องการเพียงผ่านเคราะห์ไปได้อย่างปลอดภัย การแสดงธรรมครั้งนี้มีเทพเซียนที่เจ้าพอใจหรือไม่”

หลี่เต้าคงกล่าว “พรสวรรค์ของหลงจวินและมู่หรงฉี่ไม่เลว มีคุณสมบัติในการย่างเข้าสู่ระดับเทพ โดยเฉพาะมู่หรงฉี่”

“มู่หรงฉี่คือจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจินกลับชาติมาเกิด”

“อ้อ? เป็นเขา ข้าเคยได้ยินมาก่อน กล่าวกันว่ามีคุณสมบัติสูงศักดิ์อย่างยิ่ง ฝ่าบาทช่างมีวิธีการที่ดีจริงๆ คาดไม่ถึงจะฟื้นคืนชีพเขาได้”

“นั่นก็ไม่ใช่ฝีมือของเรา”

จักรพรรดิสวรรค์แย้มพระสรวลอย่างลึกลับ

หลี่เต้าคงยิ่งอยากรู้มากกว่าเดิม ขณะที่กำลังจะสอบถาม ตี้ไท่ไป๋พลันปรากฏกายขึ้น

“ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้ว วังปีศาจส่งจักรพรรดิเซียนไปทลายโลกมนุษย์ ที่จับจ้องเป็นอันดับแรกคือโลกเขย่าพิภพที่ผงาดขึ้นเร็วที่สุด” ตี้ไท่ไป๋กล่าวน้ำเสียงทุ้มลึก

หานเจวี๋ยเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่จักรพรรดิสวรรค์ทรงให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่อาจให้เกิดเรื่องได้

จักรพรรดิสวรรค์ถามอย่างไม่แยแสว่า “จักรพรรดิเซียนท่านใดกัน”

“บุตรแห่งพญาอินทรี จอมปีศาจอินทรีทอง”

“จักรพรรดิเซียนสองวัฏ ไม่เป็นไร ให้เขาไป”

“หา?”

“ไม่ต้องสนใจเขา ออกไปเถิด”

จักรพรรดิสวรรค์โบกแขนเสื้อกล่าว ไม่ปล่อยให้สงสัยสิ่งใดอีก

แม้ตี้ไท่ไป๋จะงุนงง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมามาก เขาคารวะให้หลี่เต้าคงแล้วหายไปจากที่เดิม

หลี่เต้าคงเอ่ยถามอย่างหยอกล้อว่า “หรือฝ่าบาททรงสอดแทรกจักรพรรดิเซียนไว้ในโลกมนุษย์ด้วย?”

จักรพรรดิสวรรค์แย้มพระสรวลแต่ไม่ตรัสสิ่งใดออกมา

……

ใต้ต้นฝูซัง หานเจวี๋ยเพิ่งจะแสดงธรรมต่อฝูงชนเสร็จสิ้น

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าตบะของลี่เหยาบรรลุระดับเซียนแท้ไท่อี่ระยะสมบูรณ์แล้ว จึงอดกล่าวออกมาไม่ได้ว่า “พวกเจ้าต้องเรียนรู้จากลี่เหยาให้มากๆ นางใกล้จะทะลวงระดับเซียนลึกล้ำแล้ว”

เมื่อวาจานี้เอ่ยออกมา ฝูงชนก็หน้าเปลี่ยนสี

หลงเฮ่าขมวดคิ้ว เขายังอยู่ห่างจากระดับเซียนลึกล้ำระยะหนึ่ง

ตั้งแต่ลี่เหยามาที่นี่ เขารู้สึกกดดันในการฝึกบำเพ็ญ

โอรสจักรพรรดิสวรรค์ไม่สู้บุตรแห่งฟ้าดิน หากเรื่องนี้เล่าลือไปถึงวังสวรรค์ นั่นไม่เท่ากับว่าเป็นเรื่องตลกหรือ

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นท่าทีของหลงเฮ่า เขาก็งุนงงเช่นกัน

พรสวรรค์ของหลงเฮ่ากลับสู้ลี่เหยาไม่ได้

เป็นเพราะลี่เหยาแข็งแกร่งเกินไป หรือเป็นเพราะหลงเฮ่าอ่อนเกิน?

หรือว่าเป็นเพราะหลงเฮ่ามีวิญญาณคู่

แม้จะกลายเป็นจักรพรรดิเซียนแล้ว หานเจวี๋ยก็จับวิญญาณของหลงเฮ่าไม่ได้ เฮ่าเทียนช่างซ่อนได้ลึกจริงๆ

“พี่ลี่เหยาเก่งเกินไปแล้ว!” ถูหลิงเอ๋อร์มองลี่เหยาด้วยความเลื่อมใส

ปกติลี่เหยาเป็นคนไม่ค่อยพูด อีกทั้งยังเป็นผู้หญิง ในสายตาของถูหลิงเอ๋อร์นางมีบุคลิกที่งดงามของผู้ทรงพลัง

ฝูงชนพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา

สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นตัวสั่นงันงก มันรู้สึกเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

หากมันไม่ได้จากไป ตอนนี้จะแข็งแกร่งสักเพียงใดกัน

หลังจากหยางเทียนตงตาย ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในสำนักซ่อนเร้นก็ตกอยู่ที่สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น

ในตอนนั้นเอง

ต้นฝูซังพลันสั่นไหวอย่างรุนแรง

อีกาทองสองตัวขนตั้งชัน และแหงนหน้ามองท้องนภาทันที

ผู้คนทั้งหมดแหงนหน้ามองขึ้นไป เพียงพริบตาก็ขนลุกซู่

ดวงตายักษ์น่ากลัวคู่หนึ่งปราฏขึ้นบนท้องฟ้าสีคราม กำลังจับจ้องโลกมนุษย์ทั้งใบ

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เขารีบตรวจสอบผู้แข็งแกร่งบริเวณรอบๆ โลกเขย่าพิภพทันที

[จอมปีศาจอินทรีทอง: จักรพรรดิเซียนสองวัฏ จอมปีศาจของวังปีศาจ]

จักรพรรดิเซียนสองวัฏ!

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ในที่สุดความสงบสุขก็ถูกทำลายลง

เขาก็เป็นจักรพรรดิเซียนสองวัฏ จะต้องเอาชนะจอมปีศาจอินทรีทองได้อย่างแน่นอน

เพียงแต่หานเจวี๋ยกังวลว่าโลกเขย่าพิภพจะถูกจักรพรรดิปีศาจจับจ้องหรือไม่

อย่างไรเสียรัชทายาทเทียนเจ๋อบุตรจักรพรรดิปีศาจก็ตายบนห้วงอากาศว่างเปล่าเหนือโลกเขย่าพิภพ

หานเจวี๋ยหายไปจากที่เดิมในทันที มายังห้วงอากาศว่างเปล่าเหนือโลกเขย่าพิภพ

พญานกอินทรีปีกทองที่สยายปีกไร้ขอบเขตตัวหนึ่งลอยอยู่กลางห้วงอากาศว่างเปล่า ปีกทั้งสองกางขยาย สามารถห่อหุ้มโลกเขย่าพิภพไว้ได้ทั้งใบ ใหญ่โตอย่างถึงที่สุด

กลิ่นอายจักรพรรดิเซียนปกคลุมห้วงอากาศว่างเปล่า!

สายตาของจอมปีศาจอินทรีทองตกอยู่บนร่างเล็กจ้อยของหานเจวี๋ย เอ่ยว่า “เจ้าคือเทพในโลกมนุษย์หรือ”

ตบะเซียนลึกล้ำไท่อี่ อ่อนแอเสียจริง!

หานเจวี๋ยพยักหน้า

จอมปีศาจอินทรีทองแค่นเสียงกล่าว “บอกข้ามา เจ้าได้ต้นฝูซังมาจากที่ใด”

ดวงตาของเขาเผยแววละโมบ

ต้นฝูซังคือต้นไม้เทพ หายสาบสูญไปแล้ว แต่กลับมาพบที่นี่!

หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ดวงชะตาของโลกเขย่าพิภพเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน?

หานเจวี๋ยแสร้งทำเป็นหวาดกลัว เอ่ยว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร”

“ข้าย่อม…” จอมปีศาจอินทรีทองเผยรอยยิ้มบ้าคลั่งออกมา

กระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นบนมือขวาของหานเจวี๋ยทันที เป็นกระบี่พิพากษาอนธการ

เขายกกระบี่ขึ้นฟันทันที!

เปิดฉากใหญ่!

……………………………………….

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset