ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 267 จิตสังหารของจักรพรรดิปีศาจ ไฟโกรธหนึ่งร้อยล้านปี

บทที่ 267 จิตสังหารของจักรพรรดิปีศาจ ไฟโกรธหนึ่งร้อยล้านปี

หนึ่งกระบี่เทียมฟ้า!

ปราณกระบี่ระเบิด!

แสงกระบี่พุ่งกระจายจากล่างขึ้นบน ปกคลุมร่างขนาดใหญ่ไร้ขอบเขตของจอมปีศาจอินทรีทองไว้

แทบจะในทันใดนั้น ขนสีทองของจอมปีศาจอินทรีทองลุกชันขึ้นทั่วทั้งร่าง ด้วยอยากจะต้านทานไว้

เกิดเสียงดังตู้ม!

จอมปีศาจอินทรีทองถูกฟันขาดออกเป็นสองส่วนทันที เลือดสาดกระเซ็นบนห้วงอากาศว่างเปล่า ขนทั่วทั้งร่างถูกปราณกระบี่เผาไหม้จนสูญสิ้น หยาดโลหิตร่วงลงบนโลกเขย่าพิภพ พิรุณโลหิตตกลงทั่วใต้หล้าราวกับฟ้ารั่ว

ขณะที่พิรุณโลหิตใกล้จะร่วงลงพื้นนั้นเอง พลังลึกลับบางอย่างก็สกัดมันไว้กลางอากาศ

นั่นก็คือหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตขับไล่โลหิตเหล่านี้ออกไปจนหมดสิ้น

โลหิตของจักรพรรดิเซียน หากกระจายลงสู่โลกมนุษย์แล้วเวไนยสัตว์ล้วนต้องตกตาย

จิตดั้งเดิมของจอมปีศาจอินทรีทองอาศัยโอกาสนี้กระโจนไปด้านหลัง มองหานเจวี๋ยด้วยความหวาดผวา

จักรพรรดิเซียน!

คาดไม่ถึงว่าเจ้าสุนัขนี่คิดจะแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ!

จอมปีศาจอินทรีทองพิโรธเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ประกอบร่างเป็นมนุษย์ขึ้นอย่างรวดเร็ว พญาปีศาจหัวอินทรีที่สวมเกราะทองปรากฏกายออกมา เขายกทวนขึ้นสูงด้วยลักษณะพลังอันน่าหวาดกลัว

หานเจวี๋ยตามร่างเขามาติดๆ เงาเทพเก้าสายปรากฏตัวขึ้นรอบๆ

เงาเทพมหาวิวัฒน์!

หานเจวี๋ยและเงาเทพเก้าสายสำแดงวิชาหนึ่งกระบี่เทียมฟ้าออกมาพร้อมๆ กัน

ปราณกระบี่อันน่าหวาดกลัวสังหารเข้ามา ทำให้จอมปีศาจอินทรีทองหลบหลีกด้วยความตกใจ

เขาเพิ่งปรากฏกายก็เห็นหานเจวี๋ยปรากฏอยู่ตรงหน้า

หานเจวี๋ยตวัดกระบี่อีกครั้ง

ครั้งนี้ จอมปีศาจอินทรีทองไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกสังหารในทันที

ร่างและวิญญาณถูกทำลาย!

จอมปีศาจอินทรีทองตายแล้ว แต่ไม่ได้ตายอย่างสมบูรณ์

[จอมปีศาจอินทรีทองเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

เขาสัมผัสกลิ่นอายของจอมปีศาจอินทรีทองไม่ได้แล้ว

หานเจวี๋ยสังเกตดูบริเวณรอบๆ อย่างระมัดระวังโดยใช้ระบบตรวจสอบ

หลังจากแน่ใจแล้วว่าจอมปีศาจอินทรีทองไม่อยู่แล้ว เขาถึงกลับไปใต้ต้นฝูซังอีกครั้ง

การต่อสู้ในรอบนี้ใช้เวลาเร็วมาก ตั้งแต่หานเจวี๋ยจากไปและกลับมาใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงครึ่งนาที

ผู้คนสำนักซ่อนเร้นพากันมองไปทางหานเจวี๋ย ท่าทางอยากจะพูดอะไรออกมาแต่ไม่พูด

หานเจวี๋ยเรียกดูความสัมพันธ์ พบว่ารูปประจำตัวของจอมปีศาจอินทรีทองยังคงอยู่

เจ้าหมอนี่ยังไม่ตาย

ดูท่าเจ้าหมอนี่จะแยกวิญญาณไว้ที่บ้านเกิด เพราะอย่างนั้นจึงไม่ได้ตายอย่างสมบูรณ์

ปฏิกิริยาแรกของหานเจวี๋ยคือคิดจะสาปแช่งจอมปีศาจอินทรีทองให้ตาย

ไม่ได้

สาปแช่งคนไปมากมายเช่นนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนค้นพบเรื่องการสาปแช่ง

หานเจวี๋ยจำเป็นต้องระแวดระวัง

รอให้ผ่านไปสักระยะก่อน!

หานเจวี๋ยหายใจเข้าลึกๆ กล่าวว่า “เมื่อครู่มีศัตรูแข็งแกร่งมาโจมตีโลกเขย่าพิภพ โชคดีที่จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าเกือบถูกฝ่ายตรงข้ามสังหาร พวกเจ้าตั้งใจฝึกบำเพ็ญให้ดี ข้าไม่อาจปกป้องพวกเจ้าไปได้ตลอด”

คนเหล่านั้นต่างมองหน้าสบตากัน

ไก่คุกรัตติกาลพูดอย่างอดไม่ได้ “นายท่าน ท่านคิดว่าพวกเราโง่หรือ”

จัดการรวดเร็วเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เกือบถูกสังหาร แต่กลับเป็นหานเจวี๋ยต่างหากที่สังหารฝ่ายตรงข้ามอย่างทรงพลัง

สองพันกว่าปีแล้ว ผลการต่อสู้ของหานเจวี๋ยล้วนสังหารภายในเสี้ยววินาที บดขยี้สังหารศัตรู!

หานเจวี๋ยถลึงตาใส่ไก่คุกรัตติกาลคราหนึ่ง ไก่คุกรัตติกาลตกใจจนคอหด

หลงเฮ่าถามด้วยความตื่นเต้นว่า “อาจารย์ ตบะของอีกฝ่ายอยู่ในระดับใดกัน”

หานเจวี๋ยลังเลครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “จักรพรรดิเซียน”

หากศัตรูอ่อนแอเกินไป บรรดาศิษย์จะไม่มีแรงกดดัน

จักรพรรดิเซียน!

สวินฉางอัน ลี่เหยา เจ้าใหญ่ เจ้ารองและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเบิกตากว้าง

คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าจักรพรรดิเซียนแข็งแกร่งเพียงใด จึงได้แต่สงสัย

“คนผู้นั้นไม่ตาย ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะย้อนกลับมาสังหาร หากข้าสู้ไม่ได้ข้าก็จะหนี” หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจริงจัง

ผู้คนพากันพยักหน้า แต่สีหน้าตื่นเต้นยิ่งนัก

‘หนี? ท่านเคยหนีตั้งแต่เมื่อไรกัน!’

ตอนนี้สมองของผู้คนในสำนักซ่อนเร้นต่างก็คิดเรื่องจักรพรรดิเซียนอยู่

ที่แท้แล้วหานเจวี๋ยแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของพวกเขา ใจก็พลันกระตุก

แย่แล้ว ข้าแสดงออกว่าแข็งแกร่งเกินไปแล้ว

หานเจวี๋ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ที่จริงมีเรื่องหนึ่งที่ควรบอกพวกเจ้า”

กลุ่มคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย

“มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ละครั้งมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตล้วนล้างชำระปวงสวรรค์หมื่นโลกาใหม่ ดุจดังวันสิ้นโลก สรรพชีวิตส่วนมากจะตาย…”

หานเจวี๋ยพูดเรื่องมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตขึ้นมา แต่เขาไม่ได้มีคำพูดใดที่เกินจริงเลย

มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตก็น่ากลัวเพียงนี้!

ตายเก้ารอดหนึ่ง!

หานเจวี๋ยพูดเรื่องมหาเคราะห์ที่ตนเองรู้ออกมา เพียงกล่าวว่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่เหล่านั้นแตกดับอย่างไร ผู้คนฟังจนใจสั่นสะท้าน

มหาเคราะห์อันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ก็กำลังจะมาถึงหรือ

โจวหมิงเยวี่ยเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “อาจารย์ โลกมนุษย์ของพวกเราจะถูกพัวพันไปด้วยหรือ”

หานเจวี๋ยพยักหน้า

กลุ่มคนตื่นตระหนกมากยิ่งกว่าเดิม พวกเขาพลันคิดได้ทันทีว่าเหตุใดผู้ทรงพลังอย่างหานเจวี๋ยถึงหลบอยู่ในโลกมนุษย์มาโดยตลอด

ที่แท้ก็เพราะมหาเคราะห์ปรากฏ!

“ต่อให้จะอยู่ห่างจากการช่วงชิงก็ไม่อาจหลบพ้นมหาเคราะห์ได้หรือ” ลี่เหยาเอ่ยถาม

สีหน้าของนางกังวลเป็นอย่างมาก

เมื่อผู้บำเพ็ญที่สงบเสงี่ยมเช่นนางได้ยินเรื่องมหาเคราะห์ก็ตกใจจนเกือบปัสสาวะราด

หานเจวี๋ยส่ายหน้า

“แย่แล้ว ข้ายังไม่แข็งแกร่งเลย!”

“ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดอาจารย์ถึงเอาแต่ปิดด่านฝึกฝนอยู่ตลอด ต้องช่วงชิงเวลาให้มั่นจริงๆ”

“เซียนทองไท่อี่ล้วนกลายเป็นเถ้าธุลีได้ พวกเราต้องตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“ต่อไปนี้ข้าจะไม่ออกไปฝึกประสบการณ์อีกแล้ว!”

“พวกเรามาแข่งกันเถอะ ดูว่าใครจะทะลวงได้เร็วกว่า!”

อารมณ์ของทุกคนถูกจุดประกาย หานเจวี๋ยที่เห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ

[ความเกลียดชังที่จักรพรรดิปีศาจมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]

อักขระแถวหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าของหานเจวี๋ย เขามองดูจนนิ่งอึ้ง

……

วังปีศาจ ภายในตำหนักของจักรพรรดิปีศาจ

จักรพรรดิปีศาจนั่งอยู่บนบัลลังก์ เขาจ้องมองจอมปีศาจอินทรีทองที่คุกเข่าอยู่ในท้องพระโรงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“จักรพรรดิเซียนหรือ คิดไม่ถึงว่าวังสวรรค์จะเก็บซ่อนจักรพรรดิเซียนที่ไม่รู้จักไว้ด้วย มิน่าเล่าเทียนเจ๋อถึงตายในโลกเขย่าพิภพ” จักรพรรดิปีศาจพูดพึมพำกับตนเอง

จอมปีศาจอินทรีทองกัดฟันกรอดๆ กล่าวว่า “เจ้าหมอนั่นไร้ยางอาย ไม่ทันตั้งตัวก็เปิดศึกเสียแล้ว!”

จักรพรรดิปีศาจไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่จ้องมองจอมปีศาจอินทรีทองด้วยแววตาเยือกเย็น ทำเอาเขาตกใจจนต้องก้มหน้าลงในทันที

“เหตุใดพญาอินทรีถึงได้มีบุตรที่ไม่เอาไหนเช่นเจ้า เจ้าก็ประมาทเกินไปแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถสังหารเจ้าได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็แสดงว่าพลังแท้จริงของเขาเหนือกว่าเจ้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังใช้พลังทั้งหมดออกไปทันทีอีก เจ้าต้องดูเขาเป็นตัวอย่าง มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องตายไม่ช้าก็เร็ว”

จักรพรรดิปีศาจกล่าวอย่างเรียบเฉย สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

จอมปีศาจอินทรีทองเองก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารนั้น คิดว่าจักรพรรดิปีศาจอยากสังหารหานเจวี๋ย

หารู้ไม่แม้แต่เขา จักรพรรดิปีศาจก็อยากสังหารด้วย!

จักรพรรดิปีศาจหัวเราะเยือกเย็นก่อนกล่าวว่า “ดียิ่งนัก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็ถ่ายทอดคำสั่งไปยังจอมปีศาจคุกรัตติกาล ให้เขาไปทำลายโลกเขย่าพิภพ และสังหารเจ้าเด็กนั่นเสีย!”

จอมปีศาจอินทรีทองเงยหน้าขึ้นมาในทันที กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ขอบคุณฝ่าบาท! มีจอมปีศาจคุกรัตติกาลลงมือ เจ้าหมอนั่นต้องตายอย่างแน่นอน!”

จักรพรรดิปีศาจโบกมืออย่างหมดความอดทน บอกให้จอมปีศาจอินทรีทองรีบถอยออกไป

……

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่น

ระดับความเกลียดชังของจักรพรรดิปีศาจเพิ่มขึ้นแล้ว แปดถึงเก้าในสิบส่วนจะต้องเป็นจอมปีศาจอินทรีทองที่ร้องเรียนแน่

ครั้งนี้ก็ยุ่งยากแล้ว

ต่อไปจะต้องมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาไม่หยุดแน่นอน

สาปแช่งจักรพรรดิปีศาจเลยดีหรือไม่

เช่นนี้มันจะไม่โจ่งแจ้งไปหรือ

เมื่อครุ่นคิดดูอีกที ในมุมมองของจักรพรรดิปีศาจ ความเกลียดชังของเขามีมากมายเหลือเกิน

แล้วจะมานึกถึงหานเจวี๋ยได้อย่างไร

เพื่อความปลอดภัย หานเจวี๋ยยังตัดสินใจที่จะรอไปก่อน

ฝึกบำเพ็ญอีกหลายปีแล้วค่อยสาปแช่ง

หานเจวี๋ยหลับตาลง

เวลาเจ็ดปีผ่านไปในพริบตา

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และตกอยู่ความลังเล

ครั้งนี้จะสาปแช่งอย่างไรดี เล่นกับสภาพจิตใจ? หรือจะทุ่มเทด้วยพลังทั้งหมด

เมื่อนึกถึงความเกลียดชังระดับหกดาวของจักรพรรดิปีศาจ ในใจของหานเจวี๋ยก็หวาดผวา-7ho,k

ลองทุ่มสักระลอก!

“จักรพรรดิปีศาจหรือ ข้าจะนำอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปีมาสู้ให้รู้ดำรู้แดงกับเจ้า ดูสิว่าเจ้าจะรับไฟโกรธหนึ่งร้อยล้านปีได้หรือไม่”

หานเจวี๋ยแอบโหดเหี้ยม

หลังจากทะลวงจักรพรรดิเซียนสองวัฏแล้ว อายุขัยของเขาก็ทะยานไปถึงเจ็ดสิบกว่าล้านล้านปี

เสียอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปีมันจะเป็นอะไรไป

หานเจวี๋ยเริ่มสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจแห่งวังปีศาจด้วยพลังทั้งหมดทันที

……………………………………….

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset