หลังจากที่รู้ความจริงว่าทะเลโกลาหลกำลังจะโดนทำลาย จางลู่ก็หนักใจและเงียบไป
แม่ทัพของทะเลโกลาหลรวมถึงทุกคนในสำนักคังเฉียงไม่เข้าใจว่าทำไม จางลู่ถึงได้เงียบไปแบบนี้
แต่แม้ว่าจะสับสนแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะถามจางลู่
ในทะเลบรรพกาล….
จางลู่ได้ส่งข้อมูลที่รู้มาให้จางหยูรวมถึงสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้
เมื่อได้รับข้อความจากจางลู่ จางหยูก็คิ้วขมวด
ตามที่จางลู่วิเคราะห์มา ทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง เขตต้นกำเนิดอาจจะหายไปซึ่งทำให้ทะเลโกลาหลโดนทำลายไปโดยสมบูรณ์ ซื่อเซียวและคนอื่นๆไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา
ไม่นานจางหยูก็ได้เรียกตัว ซื่อเซียว, เย่าหยาง, หว่านเก่อ, อู่หมิงและเรนไนเข้าพบ
หลังจากที่ทั้งห้ามาถึงจางหยูก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ข้ามีคำถาม ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะบอกความจริง
ซื่อเซียวและคนอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า ซื่อเซียวได้พูดขึ้นมา สหายคังเฉียงว่ามาได้เลย
ข้าสงสัยว่าทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง ใช่หรือไม่ จางหยูพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทั้งห้าคนก็สีหน้าเปลี่ยนไปราวกับความจริงที่ปกปิดไว้มาหลายปีกลับโดนเปิดเผยออกมา สีหน้าของพวกเขาดูผิดปกติอย่างมาก
ซื่อเซียวลังเลไปสักพัก แทนที่จะตอบคำถามจางหยู เขากลับถามออกมาแทน ทำไมสหายถึงได้ถามเช่นนี้ ?
จางหยูไม่คิดจะอ้อมค้อมกับซื่อเซียวและพูดขึ้น เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้า
เหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันเงียบไป
ความเงียบบอกถึงคำตอบแล้ว
มันยากรึไงที่จะตอบคำถามนี้ ? แม้ว่า จางหยูจะตัดสินคำตอบได้แล้วแต่เขาก็ยังไม่พอใจกับท่าทีของจักรพรรดิเหล่านี้ อย่าบอกข้านะว่าในฐานะจักรพรรดิทะเลโกลาหลแล้ว พวกเจ้าไม่รู้สถานการณ์ของทะเลโกลาหล
ซื่อเซียวอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองกลับไป
นี่คือเรื่องใหญ่ ความจริงนั้นโหดร้ายและน่าสลด ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้
พวกเขาหนีความจริงมาหลายปีไม่คิดจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงแต่จางหยูกับเผยความจริงที่โหดร้ายนี้ออกมาต่อหน้าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้อีกครั้ง
ทะเลโกลาหล… อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น มันกำลังทำลายตัวเองจริงๆ
คำตอบนี้ยืนยันการคาดการณ์ของจางหยู
ในเวลาเดียวกันมันก็พิสูจน์ว่าจักรพรรดิทะเลโกลาหลอาจจะรู้ความจริงเรื่องนี้อยู่แล้ว
ทำไม ? จางหยูใจหล่นวูบ แต่เขาก็ยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาอยู่ดี ข้าอยากรู้เหตุผล
เรนไนพูดขึ้นมา อันที่จริงก่อนที่ก้อนแก่นครั้งแรกจะปราฏขึ้น ในอดีตของทะเลโกลาหลนั้นไม่มีกุยหลิงอยู่ มันไม่ได้มีจักรพรรดิกุยหลิง
จางหยูมองไปที่เรนไน ชัดแล้วว่าเรนไนนั้นคือคนที่เก่าแก่ที่สุดในทะเลโกลาหล เขารู้ความลับมากมายที่คนอื่นไม่รู้
ในอดีตนั้นแม้ว่าไม่มีจักรพรรดิในทะเลโกลาหลแต่ก็มีจ้าวโกลาหลนับไม่ถ้วน ตอนนั้นจำนวนจ้าวโกลาหลมากกว่าตอนนี้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า แม่ทัพนั้นมีจำนวนมาก แม้แต่แม่ทัพสูงสุดก็ยังมีมากเช่นกัน
อยู่ๆวันหนึ่งทะเลโกลาหลก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เขตต้นกำเนิดที่เชื่อมต่อกับทะเลโกลาหลกลับมีรอยร้าว ขนาดของเขตต้นกำเนิดเริ่มหดตัวลง กุยหลิงเริ่มปรากฏตัวไปทั่วทะเลโกลาหล ตอนแรกไม่มีใครสนใจกุยหลิงเพราะพวกมันไม่อาจจะทำให้กองกำลังใดสนใจได้
แต่เพราะจำนวนกุยหลิงที่เพิ่มขึ้นและการตายของจ้าวโกลาหลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกกองกำลังจึงหันมาสนใจมันและเริ่มส่งคนเข้าไปจัดการแต่ก็ไม่มีใครคิดเลยว่าคนที่ถูกส่งไปนั้นกลับต้องตายและบาดเจ็บ มีไม่กี่คนที่รอดมาได้ พวกเขาไม่มีทางที่จะจัดการกุยหลิงได้ ตราบใดที่พบกับกุยหลิง พวกคนที่อ่อนแอนั้นก็ไม่อาจจะหนีออกมาได้ แม้ว่าจะเป็นแม่ทัพสูงสุดแต่หากประมาทก็อาจจะโดนกลืนกินจิตไป มันคือยุคมืดของเรา จ้าวโกลาหลทั้งหมดราวกับลูกแกะที่รอโดนฆ่า ไม่ว่ากุยหลิงจะผ่านไปที่ไหนก็ต้องเกิดการล้มตาย แม้แต่กองกำลังที่แกร่งที่สุดก็ยังไม่อาจจะเอาชนะกุยหลิงได้เพราะพวกมันต้านทานการโจมตีกายภาพ, พลังงานและอื่นๆได้ มันต้านทานความเสียหายทุกอย่าง ไม่ว่าจ้าวโกลาหลจะแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ต่างอะไรจากมดสำหรับมัน
แค่ไม่กี่ร้อยล้านยุค ทะเลแข็งแกร่งก็กลายเป็นนรก จ้าวโกลาหลกว่า 9 ใน 10 โดนกำจัด จนกระทั่งจำนวนจ้าวโกลาหลลดลงถึงระดับหนึ่งและกระจายตัวในที่ต่างๆในทะเลโกลาหล ผู้ย้อนกลับที่ก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้นั้นลดลง จำนวนจ้าวโกลาหลและผู้ย้อนกลับนั้นมีพอๆกัน
ตอนนั้นจ้าวโกลาหลทั้งหมดต่างก็พากันสลดและกลัว พวกเขากลัวว่าจะโดนกุยหลิงหมายหัว พวกเขากลัวว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป จ้าวโกลาหลทุกคนอยู่ด้วยความกลัวและซ่อนตัวในโกลาหลที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา มันไม่มีใครกล้าเข้ามาในทะเลโกลาหล ทั้งทะเลโกลาหลได้กลายเป็นสวนหลังบ้านของพวกกุยหลิง…
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครจำได้ มันนานซะจนจ้าวโกลาหลที่รอดมาได้ในยุครุ่งโรจน์ได้ตายไปเกือบหมด นานซะจนจ้าวสโกลาหลโดนกดขี่ถึงขีดสุด ตอนที่พวกเขาเกือบจะสิ้นหวังก็มีปรากฏการณ์ก้อนแก่นครั้งแรกขึ้น
ตอนนั้นกลุ่มแม่ทัพที่ไม่คิดจะร้องขอความเมตตาจากโชคชะตาได้ก้าวออกไปเพื่อสู้กับกุยหลิง
พวกเขารับรู้ได้ถึงก้อนแก่นและพยายามหาทางจัดการกับกุยหลิงในเขตต้นกำเนิดเพราะเขตต้นกำเนิดนั้นเป็นต้นกำเนิดของทะเลโกลาหล มันเป็นที่ที่พิเศษที่สุดในทะเลโกลาหล มีแค่การเข้าไปในเขตต้นกำเนิดที่จะหาทางจัดการกับกุยหลิงหได้ ตอนแรกพวกเขายังลังเลแต่เขตต้นกำเนิดกลับเริ่มพังทลาย พวกเขาจึงต้องตัดสินใจ
กลุ่มแม่ทัพได้เสี่ยงชีวิตตัวเองเข้ามาในทะเลโกลาหลก่อนจะเดินทางเข้าไปในเขตต้นกำเนิด ตอนนั้นกุยหลิงมีจำนวนมาก ดังนั้นแม่ทัพส่วนมากจึงโดนกุยหลิงหมายหัวทันทีที่เข้ามาในทะเลโกลาหล ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปในเขตต้นกำเนิด พวกเขาต่างก็พากันตาย เหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้าไปในเขตต้นกำเนิดได้
เรนไนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ เขาไม่อาจจะลืมยุคมืดแบบนั้นได้ เขาไม่อาจจะลืมความสิ้นหวังและความกลัวในตอนนั้นได้
ตอนนั้นซื่อเซียวก็ได้พูดขึ้น เหล่าแม่ทัพที่รอดเมื่อเข้าไปในเขตต้นกำเนิดแล้วก็พากันตามหากันอย่างบ้าคลั่ง เขตต้นกำเนิดคือความหวังเดียวของพวกเขา หากพวกเขาไม่อาจจะหาทางจัดการกับกุยหลิงในเขตต้นกำเนิดได้ งั้นพวกเขาก็ต้องตายกันทั้งหมด
หลังจากนั้นก็มีคนโชคดีพบลูกปัดจักรพรรดิทั้ง 9 ลูก ลูกปัดจักรพรรดิมีพลังลึกลับ พลังที่เหนือกว่าพลังใดๆ ทุกคนพากันตื่นเต้นขึ้นมาเพราะพวกเขารู้สึกว่าพลังของลูกปัดพวกนี้อาจจะใช้สู้กับกุยหลิงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะดูดซับมัน…
มันเพราะพลังในลูกปัดที่แกร่งเกินไป มีแค่แม่ทัพที่ทนพลังของมันได้ แม่ทัพที่อ่อนแอที่ดูดซับพลังมันเข้าไปล้วนแต่ต้องตาย
จนกระทั่งลูกปัดได้ตกไปอยู่ในมือแม่ทัพขั้นสูงทั้งเก้าคน ทั้งเก้าคือคนที่โชคดี หลังจากที่ดูดซับลูกปัดไป พวกเขาก็ได้ก้าวขึ้นไปขอบเขตจักรพรรดิ พวกเขามีพลังที่เหนือกว่าจ้าวโกลาหล พลังนี้รู้จักกันในชื่อพลังจิต พลังที่เรียกว่าพลังจักรพรรดิ
ข้า, เย่าหยาง, หว่านเก่อ และอู่หมิงต่างก็เป็น 1 ใน 9 คนที่โชคดี
หลังจากนั้นเรา จักรพรรดิทั้งเก้าก็ได้พึ่งพลังจิตในการไล่ล่าและฆ่ากุยหลิง เราได้เปิดเขตขึ้นและสร้างระเบียบขึ้นมาในทะเลโกลาหล ตอนนั้นทะเลโกลาหลได้เข้าสู่ยุคใหม่ มันคือยุคของจักรพรรดิที่เราอยู่ในตอนนี้รึบอกได้ว่ามันคือยุคจักรพรรดิมนุษย์ เพราะตอนนั้นมีแค่จักรพรรดิมนุษย์ที่ปกครองทะเลโกลาหล เผ่าสวรรค์เพิ่งจะกำเนิดขึ้นมา เรายังไม่ได้ใส่ใจพวกนั้น
จนกระทั่ง…ตอนที่เรากำจัดกุยหลิงส่วนมากและคิดจะกำจัดกุยหลิงที่เหลือให้หายไปจากทะเลโกลาหล สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวกลับปรากฏตัวขึ้นมา ตัวตนที่คล้ายกับกุยหลิงแต่แกร่งกว่ากุยหลิงหลายเท่า !
ในการต่อสู้นั้นเรา 5 คนตายไปและบาดเจ็บ 4 คนเหลือแค่ข้า, เย่าหยาง, หว่านเก่อ และอู่หมิงที่รอดมาได้ ยุคของจักรพรรดิมนุษย์ที่ปกครองทะเลโกลาหลจึงได้สิ้นสุดลงไป