ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 117 : ยอมแพ้เถอะ สาวน้อย

อ่านโดจิน doujinza.com


หากนี่เป็นการประลองบนผืนดินปกติ เซี่ยงเส้าหยุนคงจะมีวิธีมากมายหลบหลีกจากการโจมตีนั่น แต่ตอนนี้อยู่บนไม้กระดาน เขาจึงหมดหนทาง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพ่ายแพ้ เช่นเดียวกันกับดาบของฟางฉิงเอ๋อที่กำลังจะฟันเขา ด้วยพลังงานสายฟ้าจากร่างกายแปรสภาพเป็นเกราะคุ้มกันร่างกาย

เคร้ง!

ดาบของฟางฉิงเอ๋อฟันไปที่เกราะคุ้มกันด้านหลังเซี่ยงเส้าหยุน ทำให้เขากระเด็น เท้าของเขาดูเหมือนจะติดกับไม้กระดาน และด้วยไม้กระดานยังอยู่ใต้เท้าในขณะที่เขาลอยเคว้ง ในที่สุดก็ลงบนผืนน้ำโดยมีไม้กระดานอยู่ใต้ร่างกาย มันแกว่งไปมาโดยแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกลงไปในแม่น้ำ

ซู่ม!

เซี่ยงเส้าหยุนยังคงบาดเจ็บ แต่ทว่า แม้จะถ่มเลือดออกจากปากหลังจากลงสู่ผืนน้ำ ด้วยเพราะเขาสร้างกำแพงได้ช้าเกินไปจึงได้รับบาดเจ็บ เขาเพียงโทษตนเองที่มั่นใจเกินไป สำหรับวิธีที่เขาสร้างรูปร่างพลังงานซึ่งควรเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพขึ้นไปเท่านั้นจึงจะทำได้ เริ่มจากช่วงเวลาที่กลับจากเทือกเขาร้อยสัตว์อสูร

เซี่ยงเส้าหยุนได้บรรลุขั้นเจ็ดโดยมีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพ แม้พลังจะเทียบเท่ากับระดับแปรสภาพ แต่การป้องกันนั้นอ่อนแอมาก ดังนั้น เขาจึงคิดหาวิธีเพื่อที่จะใช้พลังงานเหล่านั้น

แม้จะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวทั่วไป ด้วยได้รับพรจากสายฟ้าสีม่วงโดยกำเนิด และดาวดวงแรกยังเต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้า ร่างกายก็ยังแข็งแรงกว่าคนทั่วไปหลังจากที่ผลัดผิว ทำให้เขาเปรียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพในทุกด้าน

เพื่อสร้างรูปร่างด้วยพลังงาน เขาจะต้องกระตุ้นพพลังงานสายฟ้าภายในร่างกาย และสร้างเสียงสะท้อนระหว่างพลังงานสายฟ้า และจุดฝังเข็มทั้งสามร้อยหกสิบห้าจุด ควบคุมพลังงานให้ห่อหุ้มทั้งร่างกาย ด้วยเหตุนี้ การสร้างเกราะคุ้มกันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะกล่าว แต่ยากมากที่จะทำ

ในที่สุด เซี่ยงเส้าหยุนก็ทำได้ หลังจากใช้เวลาทั้งเดือนในการพยายามโดยไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ หากไม่ใช่เพื่อเกียรติยศของตำหนักยุทธ์แล้วล่ะก็ เขาคงจะไม่เปิดเผยในวันนี้

“ระดับแปรสภาพ! เซี่ยงเส้าหยุนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพ! เหตุใดจึงเติบโตได้เร็วเพียงนี้? ผ่านไปเพียงครึ่งปีเท่านั้น ตอนแรกเขายังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐานขั้นสามอยู่เลยนี่!” ศิษย์ผู้หนึ่งร้องเสียงดัง

“นี่มันบ้ามาก! เพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งปี เขากลับบรรลุไปถึงสองระดับเชียวหรือ? นี่คือความสามารถของผู้มีห้าดวงดาวสถิตงั้นรึ? ข้ากลับรู้สึกว่าเขามีถึงหกดวงดาวสถิตเสียอีก”

“ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ทำให้ตำหนักยุทธ์ภูมิใจ บางทีอาจจะพลิกสถานการณ์ให้เราได้จริง”

“อย่าตื่นเต้นจนเกินไป คู่ต่อสู้ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เราเองก็ยังไม่ทราบว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ”

“ระดับแปรสภาพงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้! เหตุใดเขาจึงมีออร่าของผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวขั้นเจ็ดเล่า? หรือเขาจะเป็นอัจฉริยะที่เหนือกว่า และยังสามารถเข้าใจในการเผยตัว และสร้างม่านพลังคุ้มกันได้ด้วยระดับดวงดาวงั้นหรือ?” ลั่วหลินกล่าวคำเบาด้วยความตื่นตระหนก ช่างเป็นเรื่องยากจะเชื่อ เขาพบว่าไม่สามารถมั่นใจได้ว่าระดับยุทธ์ของเด็กหนุ่มผู้เป็นอย่างไรได้อีก

แม้แต่ทันกวงหัว และเจี้ยฉือเองต่างก็สับสน บนแม่น้ำ ดวงตาของฟางฉิงเอ๋อเผยความตกใจอย่างมาก ขณะที่พุ่งตัวบนผิวน้ำเข้าหาเซี่ยงเส้าหยุน นางรู้สึกตื่นเต้นมากหลังจากได้พบกับคู่ต่อสู้ที่สามารถประมือกันได้อย่างสูสี

“ช่างเป็นเด็กสาวที่น่าสนใจ ข้าจะทำให้เจ้าเป็นคนรับใช้ของข้า” เซี่ยงเส้าหยุนเผยความตั้งในในการต่อสู้ เมื่อสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของฟางฉิงเอ๋อ ออร่าสีม่วงห่อหุ้มไปรอบกาย และภาพมังกรสีม่วง และพยัคฆ์ได้ปรากฏขึ้น ขณะที่การเผยตัวแห่งราชาเผยออก

“ยอมแพ้เถอะ สาวน้อย” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกน ตอนนั้นเอง เขาก้าวไปด้านหน้า บดขยี้ไม้กระดานใต้เท้า เขาเหยียบผิวน้ำ และพุ่งตัวเข้าหาฟางฉิงเอ๋อ

หลังจากบรรลุระดับแปรสภาพ ผู้คนจะสามารถใช้วิชาแส้ง ที่ถูกเรียกว่าวิชาแสงเพราะเป็นวิธีกระตุ้นพลังงานผ่านจุดฝังเข็มทั้งสามร้อยหกสิบห้าจุด กระตุ้นพลังงานของตนเองเพื่อให้แสงอยู่ในรูปคล้ายเมฆ โดยไม่ทิ้งรอยเท้า แม้จะเหยียบบนหิมะก็ตาม

ด้วยความสามารถดังกล่าว เราจะสามารถลอยขึ้นเล็กน้อย และกระโดดได้สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความต่างระหว่างผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพกับระดับที่ต่ำกว่า  ในระดับนี้ อาจถือได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเซี่ยงเส้าหยุนได้สัมผัสกับความแข็งแกร่ง และตัดสินใจที่จะหยุดสร้างปัญหา การเผยตัวแห่งราชากดทับฟางฉิงเอ๋อราวกับพายุหมุนที่บ้าคลั่ง

ฟางฉิงเอ๋อสัมผัสได้โดยพลังว่าเซี่ยงเส้าหยุนได้กลายสภาพไปเป็นราชา ความสง่างามที่เผยออกทำให้นางอยากจะคำนับต่อหน้าทันที โชคดีที่นางเป็นหนึ่งในผู้ที่มากด้วยจิตตานุภาพ นางจึงปลดปล่อยการเผยตัวของตนเอง และแทบจะไม่อาจระงับความต้องการที่จะโค้งคำนับ จากนั้นนางก็ตะโกนขณะที่มีพลังงานกระเพื่อมออกจากร่างกาย และนางฟันดาบออก ปลดปล่อยการโจมตีพิเศษที่สุดเท่าที่นางเคยใช้

ท้องฟ้าสยาย!          อ่านโดจิน doujinza.com

ทันใดนั้น ราวกับมีดาบนับสิบปรากฏขึ้น ทั้งหมดพุ่งไปด้านหน้า ดาบอันแพรวพราวที่ดูราวกับจะทำลายทุกสิ่งในอากาศ และทำให้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง

พลังที่ปะทุออกมาจากตัวเด็กสาว ทำให้เหล่าศิษย์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความสามารถในการโจมตีครั้งนี้ และดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พวกเขาต่างสงสัยว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะสามารถรอดไปได้เช่นไร

ดาบหมาป่าทองคำ!

เมื่อการโจมตีทั้งสองปะทะกัน เซี่ยงเส้าหยุนไม่ถอย เขารวบรวมพลังทั้งหมด และยกดาบหมาป่าทองคำขึ้น ขณะเผชิญหน้ากับการโจมตีของฟางฉิงเอ๋อ พลังงานที่ยิงออกจากดาบกลายสภาพเป็นหมาป่าทองคำ ออร่าชั่วร้ายแพร่กระจาย เมื่อหมาป่าชนเข้ากับการโจมตีของฟางฉิงเอ๋อ

นี่คือราชาหมาป่าผู้เกรียงไกร และทรงพลัง ด้วยความแข็งแกร่งอันบริสุทธิ์ได้บดขยี้พลังดาบที่มันพบ ในตอนนั้นฟางฮิงเอ๋อไม่อาจต้านทานต่อการเผยตัวแห่งราชาได้ และถูกส่งให้ถอยไป นางกระอักเลือดลงไปในแม่น้ำ ก่อนที่ร่างกายจะจมลงในที่สุด

ชั่วขณะที่นางเริ่มจม ร่างหนึ่งโผมาโอบรอบเอวเรียว และหยุดไม่ให้นางจมลงไปในน้ำ ฟางฉิงเอ๋อมองขึ้นไปด้านบน และเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มสองตา เมื่อได้มองเข้าไปในดวงตานั่นซึ่งน่าหลงใหลราวกับทางช้างเผือก นางตกตะลึงไปชั่วขณะ

“เจ้ามีกลิ่นที่ดี หากเจ้าตกลงไปในน้ำคงได้กลายเป็นอาหารตาของเจ้าพวกบ้านั่นแน่ ข้าไม่อนุญาตหรอกนะ” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว หลังจากสูดลมหายใจลึก

เขายอมรับว่าฟางฉิงเอ๋อมีรูปร่าง และหน้าตาที่ดี นางงดงามเทียบเท่ากับกงฉินหยินในแบบของนางเอง เหล่าศิษย์บนเรือทั้งสองต่างตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะฟางฉิงเอ๋อเช่นนี้มาก่อน

พวกเขาต่างไม่คาดคิดว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะช่วยนางในตอนที่กำลังจะจมน้ำราวกับเจ้าชายทรงเสน่ห์ สายตาทั้งสองที่ยืนอยู่ริมน้ำโดยมีแขนของเซี่ยงเส้าหยุนโอบรอบเอวของนาง ช่างดูเหมือนกับภาพวาดที่งดงาม หลังจากตกตะลึงไปชั่วครู่ เด็กหนุ่มจากสถาบันประตูธงต่างตะโกน

“จะปล่อยศิษย์พี่ฟาง หรือจะให้ข้าสังหารเจ้า!”

“เจ้าเด็กนี่สมควรตาย! มันกล้าแตะต้องศิษย์พี่ฟางเชียวรึ? นางเป็นเทพีของเราเชียวนะ!”

“บ้าฉิบ! ศิษย์พี่ฟางพ่ายแพ้งั้นหรือ? ไม่ มันต้องไม่ใช่ความจริง!”

“จะปล่อยศิษย์พี่ฟาง หรือจะให้ข้าต้องสู้กับเจ้า!”

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset