เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ในสภาพอันน่าสังเวช เขาตกลงจากหลังของเสี่ยวไป๋ และกระแทกเข้ากับพื้นเบื้องล่างอย่างแรงจนเกือบหมดสติไป ความเจ็บปวดท้วมท้นไปทั่วร่างกาย
หากไม่ตอบสนองให้เร็วพอ และส่งการโจมตีลงไปเพื่อชะลอความเร็ว เขาอาจจะต้องตายเพราะตกลงมา ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายที่แข็งแกร่งและเกราะพลังงานก็มีส่วนช่วยรับแรงกระแทกเช่นกัน
ในขณะที่ลุกขึ้นยืน สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือซากของอสรพิษจระเข้ทองคําตัวใหญ่ แม้แต่ราชาปีศาจเอง ทั้งหมดถูกสังหารด้วยคลื่นเสียง
ภาพตรงหน้าทําให้เซี่ยงเส้าหยุนตกตะลึง คลื่นเสียงที่สามารถสังหารราชาปีศาจได้ในคราเดียว เป็นคลื่นเสียงที่น่าหวาดหวั่นเพียงใดกัน? ด้วยความเป็นหนอนหนังสือ เขาจึงทราบได้ในทันทีว่าความลับของที่แห่งนี้น่ากลัวเพียงใด
“จักรพรรดิปีศาจหรือ? หรือมีบางสิ่งที่แข็งแกร่งกัน?” เซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิด
ด้วยเพราะคลื่นเสียงได้ดึงเสี่ยวไปไป จึงกล่าวได้ว่า เจ้าของคลื่นเสียงเกี่ยวข้องกับเสี่ยวไปแน่นอน นี่เป็นการเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญของเจ้าเสือน้อย
เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ และพบหลุมขนาดใหญ่ซึ่งเผยออร่าสีทองอันชั่วร้ายไม่ไกล เสี่ยวไปถูกลากเข้าไปด้านใน เขาต้องการเข้าไปใกล้หลุมนั้น แต่ด้วยออร่าสีทองได้ทิ้งบาดแผลฉกรรจ์มากมายบนผิวหนังของเด็กหนุ่มในทันที
“ออร่าสีทองอันร้ายกาจนี่ บางที่อาจเกิดจากการรวมตัวของโลหะพิเศษที่นี่?” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบากับตนเอง ขณะมองดูออร่าสีทองด้วยสายตาอันเฉียบคม
พลังแต่ละประเภทมีรูปแบบที่ต่างกัน โดยแต่ละรูปแบบจะมีความสามารถเฉพาะตัว หากมีการดูดซับออร่าทองคําและฝึกฝน มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่การโจมตีจะรุนแรงมากขึ้น
แม้ว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะมีสายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิดภายใน เขาไม่เคยคิดจะดูดซับพลังงานที่ต่างกันเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง โชคไม่ดี เขากําลังเผชิญกับความยากลําบาก ออร่าสีทองอันชั่วร่ายสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาได้ด้วยซ้ํา ซึ่งตนเองมีระดับต่ํากว่านั้นมาก
ในไม่ช้า เซี่ยงเส้าหยุนปรับอารมณ์ของตนเอง และมองไปที่ซากของอสรพิษจระเข้ทองคําแทน เขาชักกระบีราชันผ่าเมฆาออก เตรียมเก็บเกี่ยวแก่นปีศาจจากซากศพเหล่านั้นแทน
นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่ อาจกล่าวได้ว่าเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ของหลายคนเลยทีเดียว ซากของสัตว์ร้ายทั้งหมดก็มีมูลค่ามหาศาล แต่เซียงเส้าหยุนไม่ได้ต้องการเก็บพวกมันมาด้วย หลังจากนั้น ทะเลจักรวาลดวงดาวของเขาก็มีพื้นที่กักเก็บกว่าสิบตารางเมตร
อสรพิษจระเข้ทองคํามีกะโหลกที่แข็ง แต่กระนั้นเซี่ยงเส้าหุนสามารถฟันมันจนขาดได้ในคราเดียว โดยอาศัยพลังงานสายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิดส่งเข้าไปในกระบี่ ก่อนที่จะฟันลงไป
ไม่ช้า แก่นอสูรก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า แก่นปีศาจดูราวกับลูกปัดทรงกลมเปล่งประกายสีทอง และถูกห่อหุ้มด้วยออร่าปีศาจอันหนาทึบ ด้วยไม่อาจใช้แก่นนี้ได้โดยตรง จะต้องใช้สมุนไพรบางชนิดมาปรับแต่งก่อน จึงจะสามารถใช้มันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้
แท้จริงแล้ว แก่นปีศาจเป็นส่วนประกอบอันยอดเยี่ยมที่เหล่าผู้กลั่นยาหลายคนต้องการครอบครอง เซี่ยงเส้าหยุนได้เห็นกระบวนการกลั่นยาหลายอย่างด้วยตนเอง ดังนั้น เขาจึงเก็บแก่นนั้นไว้ในทะเลจักรวาลดวงดาวของเขา หลังจากค้นหายาระดับราชา จากนั้นเขาปรับแต่งแก่นปีศาจก่อนที่จะกลืนมัน หลังจากนั้นเขาได้เปิดกะโหลกของอสรพิษจระเข้ทองคําอีกราวสิบสองตัว และได้เก็บแก่นปีศาจอีกเจ็ดชิ้น เห็นได้ชัดว่าพวกที่มีแก่นปีศาจเป็นตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบเขาแห่งนี้
ขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนกําลังเก็บเกี่ยวแก่นปีศาจชิ้นที่เก้า ด้วยสังเกตเห็นบางสิ่ง เขาพบว่าแก่นปีศาจเหล่านี้ยังมีร่องรอยจืดจางของพลังงานทองคําอันร้ายกาจ ซึ่งบริสุทธิ์กว่าตอนที่เขากินเนื้ออสรพิษจระเข้ทองคํา
“ดูเหมือนจะมีบางเหตุผลที่พวกมันที่นี่แข็งแกร่งกว่าจุดอื่น” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบา ขณะที่จดจ่ออยู่กับการเก็บเกี่ยวแก่นอสูร เขาสัมผัสได้ถึงการต่อสู้อันรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ไกล เห็นได้ชัดว่ายอดฝีมือของฝั่งมนุษย์จะมาถึงแล้ว
“ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะใหญ่โตจนแม้แต่ยอดฝีมือของมนุษย์ยังถูกดึงดูดให้มาที่นี่ เราควรทําเช่นไรดี?” เซียงเส้าหยุนรู้สึกหนักใจ เขาไม่อยากให้เสี่ยวไปออกมาที่นี่ และลากเขาเข้าไปในหลุมอีกคน แต่เขาก็คิดเช่นกันว่าสิ่งนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้ อย่างไรเสียก็ต้องพึ่งพาตนเอง
ขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนคิดหาวิธีแก้ปัญหา สายตาเขาก็จ้องไปที่ต้นไม้ทองคํา บนต้นไม้มีผลไม้รูปร่างคล้ายอสรพิษห้าผล ดูตื่นตา และมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ
“ผลอสรพิษทองคํานี้!” ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนเป็นประ
กาย
นี่คือยาวิญญาณระดับสูง ที่มีพลังอันไร้ขอบเขตอยู่ภายในยาวิญญาณระดับสูงมีค่ากว่ายาสมุนไพรแต่ก็ตําว่ายาราชา เซียงเส้าหยุนพุ่งไปด้านหน้า และดึงผลไม้ทั้งหมดที่เห็น เขาสามารถบรรลุระดับแปรสภาพได้ในทันทีที่กลิ่นผลไม้เพียงผลเดียวเข้าไป แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ดีนัก เขาต้องหลบซ่อนตัวก่อนในตอน
เช่นเดียวกับที่เด็กหนุ่มพยายามตัดสินใจว่าจะหลบซ่อนที่ใด เขาพบว่าออร่าสีทองอันดุร้ายภายในหลุมนั้นได้จางลง เมื่อมันจางจนหมดสิ้น ทําให้ออร่าทองคําโดยรอบบริเวณจางลงอย่างมาก เสียงคํารามอันโกรธเกรี้ยวดังออกมา
“โฮก! โฮก!”
เสียงคํารามเต็มไปด้วยออร่าอันยิ่งใหญ่ ขณะที่ก้องกันวาลหลายคราในหลุมนั่น มันต่างจากเสียงคํารามในตอนแรก ดูเหมือนจะไม่น่ากลัวกว่าก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ ยอดฝีมือของมนุษย์ได้มาถึงเหนือหุบเหวเช่นกัน ที่นี่พวกเขาไม่ถูกราชาอสรพิษจระเข้ทองคําก่อกวนอีก ด้วยพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเกรงกลัวสิ่งที่อยู่ภายใน
ด้วยกลุ่มของผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชา พวกเขาล้วนลังเลที่จะเข้าไปในหลุมลึก ทันใดนั้นเอง พวกเขาได้สังเกตเห็นเซี่ยงเส้าหยุน และกล่าว “ข้างล่างมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่”
“รีบปกปิดออร่า และมองลงไปเบื้องล่างเถิด” อีกผู้หนึ่งกล่าว
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาได้มองไปยังตําแหน่งของเซี่ยงเส้าหยุน เด็กหนุ่มสัมผัสได้นานแล้วว่าพวกเขามองเห็นตน สมองของเด็กหนุ่มสั่งการอย่างรวดเร็ว พยายามคิดหาวิธีเพื่อหาวิธีปกปิดผิวหนัง
เมื่อเหล่าฝึกยุทธ์ระดับราชามาถึง เซี่ยงเส้าหยุนเพียงกอดศีรษะขณะตะโกนซ้ําไปซ้ํามา “อย่าสังหารข้า! โปรดอย่าสังหารข้า!”
“เจ้าหนู เจ้ามาจากสถาบันไหนกัน? แล้วมาทําอะไรที่นี่?” โม่ฉาเก้อถาม
“เจ้าคือราชาอสรพิษจระเข้ทองคําแปลงกายมางั้นหรือ? เจ้าคงไม่คิดว่าจะนําข้าไปเป็นมนุษย์สัตว์เลี้ยงของพวกเจ้า ใช่ไหม? ไม่ ไม่ ไม่ โปนดปล่อยข้าไปเถอะ!” เซี่ยงเส้าหยุนกรีดร้อง สีหน้าเผยความตื่นตกใจ
เล่นเป็นผู้โง่เขลา!
นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการขจัดความสงสัยที่เหล่าผู้มาใหม่มีต่อเด็กหนุ่ม เขาไม่สามารถคิดหาวิธีแก้ตัวที่ดีที่จะอธิบายว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว ส่วนลึกของหุบเขาแม่น้ําทองคําซึ่งได้รับการคุ้มครองจากอสรพิษจระเข้ทองคําจํานวนมาก และมีราชาในหมู่พวกมันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดวจะมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
“ราชาปีศาจหรือ? มนุษย์สัตว์เลี้ยง? เจ้าเป็นศิษย์ที่ถูกเหล่าสัตว์ร้ายลักพาตัวมางั้นหรือ?” อีกผู้หนึ่งกล่าวถาม
คนผู้นี้มีระดับยุทธ์สูงกว่าโม่ฉาเก้อ เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่องนภาขั้นเจ็ด เป็นช่วงท้ายของระดับล่องนา และยังเป็นผู้อาวุโสของพลับพลาขอบนภา มีนามว่า “เหอหลัว” ส่วนพวกที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาล้วนเป็นศิษย์น้องจากพลับพลาขอบนภาทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นดูคุ้นเคยกับเซียงเส้าหยุนเป็นพิเศษ
คนผู้นั้นมีอายุราวสามสิบปี เป็นผู้มีอายุน้อยที่สุด เขาเปล่งออร่าสีม่วงออก ยืนหลังตรงอย่างสมบูรณ์แบบ ดูราวกับสายฟ้าที่ไม่มีผู้ใดสามารถมองได้โดยตรง