ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 99 : ถูกฟ้าผ่าจู่โจม

สายฟ้าผ่าลงมาในพริบตา และเซี่ยงเส้าหยุนไม่ทันได้เตรียมตัว โชคดีที่แร้งสายฟ้าได้อยู่เหนือเซี่ยงเส้าหยุนเมื่อฟ้าผ่าลงมาพอดี

เปรี้ยง

สายฟ้าที่ไร้ปราณีฟาดใส่แร้งสายฟ้าที่กำลังเติบโตเป็นปีศาจชั้นสูง เปลี่ยนแร้งเป็นก้อนโลหิตสาดใส่เซี่ยงเส้าหยุน โลหิต โลหิตซึ่งแฝงไปด้วยพลังสายฟ้า ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกเจ็บปวด และชา

การะดูกสายฟ้าในร่างกายได้เริ่มเติบโตขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะพยายามกลืนกินพลังสายฟ้าทั้งหมดเข้าไป ด้วยการปรากฏตัวของพลังทำลายล้าง เซี่ยงเส้าหยุนมองไปที่ราวกับมันเป็นเหยื่อมากกว่าหายนะเสียอีก

ความกระหายอันบริสุทธิ์ผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ เป็นความกระหายพลังงานสายฟ้า ด้วยการตายของแร้งสายฟ้า สัตว์อสูรชั้นต่ำ และกลางที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างหวาดกลัว และไม่กล้าโจมตีเด็กหนุ่ม เปิดโอกาสให้เขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เขาหยิบไม้อัสนีบาตออกมา และเอาผ้าพันโดยรอบ ก่อนจะชูขึ้นฟ้า และตะโกน “อัสนีบาต จงมาหาข้า!”

การกระทำราวกับจะฆ่าตัวตาย

ในตอนแรก เซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะแสดงท่าทางบ้าระห่ำเช่นนี้ โดย แผนในตอนแรกคือ เข้าไปใกล้บริเวณนั้น และวางไม้อัสนีบาตลงเพื่อดึงดูดฟ้าผ่า โดยที่เขานั่งอยู่ข้างเคียง การดูดซับส่วนที่เหลือของพลังสายฟ้าที่รั่วไหลออกจากไม้หลังจากถูกฟ้าผ่า

แต่ในเมื่อมาอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว เขากลับรู้สึกว่าจะสามารถรับเอาพลังสายฟ้าทั้งหมดได้อย่างแน่นอน ความกระหายของกระดูกสายฟ้าทำให้เด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความโลภ

เปรี้ยง!

ทันใดนั้นสายฟ้าสายหนึ่งได้พุ่งไปทั่วทั้งท้องฟ้า และราวกับมันสัมผัสได้ถึงไม้อัสนีบาต จึงผ่าลงมาที่ต้นไม้ที่เซี่ยงเส้าหยุนอยู่

“บ้าฉิบ!” เซี่ยงเส้าหยุนสามารถมองเห็นวิถีของฟ้าผ่าได้อย่างชัดเจน พลังทำลายล้างจากฟ้าผ่าเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชายังต้องทุกข์ทรมาน

ความกลัวกัดกินไปทั้งหัวใจ แต่เขาก็ยังคงยืนขึ้นขณะถือไม้อัสนีบาตในมือ มันอาจสายไปเสียแล้วที่จะถอย

ตู้ม!

สายฟ้าผ่าลงมาที่ไม้อัสนีบาต และทำให้เซี่ยงเส้าหยุนตกจากต้นไม้ ขณะเดียวกัน ต้นไม้ได้ถูกโค่นลง ชั้นพลังงานสายฟ้าปกคลุมไปทั้งสายฟ้าทำให้ประสาทสัมผัสของเด็กหนุ่มด้านชา ซึ่งทำให้เขาทรมานไม่น้อย ด้วยใช้แขนทั้งสองโอบล้อมไม้สายฟาเอาไว้ พลังงานสายฟ้าแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้เด็กหนุ่มตัวไหม้เกรียม

พลังงานสายฟ้านั้นทรงพลังมาก และด้วยพลังของมันเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้คนตายได้ เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกราวกับกำลังจะตาย มันเป็นความรู้สึกที่กระดูกสายฟ้าเริ่มกลืนกินพลังงานสายฟ้าอย่างกระหาย

พรึ่บ! พรึ่บ!

ทันใดนั้น พลังงานสายฟ้าทั้งหมดในร่างกายได้ถูกดูดเข้าไปในกระดูกสายฟ้า กระดูกสายฟ้าดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังลี้ลับ ทำให้มันสามารถกลืนกินพลังงานเหล่านั้นได้ในชั่วพริบตา ความเจ็บปวดของเซี่ยงเส้าหยุนเริ่มลดลง

แต่ถึงกระนั้น เขาร่างกายยังคงชา และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ที่แย่ไปกว่านั้นคือแขนของเขายังคงโอบล้อมไม้อัสนีบาตเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถปล่อยมันไปได้แม้ว่าจะต้องการก็ตาม ทำให้รู้สึกเหมือนไม้อัสนีบาตกำลังติดอยู่ตรงนั้น

“บ้าฉิบ! นี่เราต้องฝืนตัวเองขนาดนี้เลยรึ! กระดูกสายฟ้า อย่าทำล้มเหลวนะ!” เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกสิ้นหวัง

มีสายฟ้าอีกสายฟาดลงมาที่ไม้อัสนีบาต ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนต้องทนทุกข์ทรมานอย่างช่วยไม่ได้ แต่โชคดี ด้วยรู้สึกดีกว่าครั้งแรก และด้วยวิชาราชันพิชิตสวรรค์ เก้าดวงดาง และทะเลจักรวาลดวงดาวได้ถูกเปิดใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดทำให้รอดชีวิตจากฟ้าผ่าได้

เราต่างรู้ว่าไม้อัสนีบาตรนั้นมีคุณสมบัติที่คล้าบกับแม่เหล็กดึงดูดฟ้าผ่า หากกระดูกสายฟ้าทำให้เขาล้มเหลวในตอนนี้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอคอยเบื้องหน้า  ในที่สุดสายฟ้าที่เอาแต่ใจก็ฟาดลงมา ทำให้เขาถูกโอบล้อมไปด้วยสายฟ้า ตอนนั้นเอง นอกเหนือจากกระดูกสายฟ้า เก้าดวงดาว และทะเลจักรวาลดวงดาวภายในได้เริ่มดูดซับพลังสายฟ้าอย่างหนักหน่วง

พลังสายฟ้าทำให้ร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนกระตุกเป็นครั้งคราว มีควันลอยขึ้นจากเส้นผม และร่างกายดูราวกับได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะกลืนพลังงานจากสายฟ้าทั้งสองเสร็จแล้ว ได้มีฟ้าผ่าพุ่งตรงมาที่เขาอีกสองสามสาย

เช่นเดียวกันนั้น ราชาแร้งสายฟ้าได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายในการเติบโตแล้ว มันส่งเสียงร้อง ขณะกระพือปีกซ้ำไปซ้ำมา และพุ่งเข้าหาสายฟ้าที่ก่อตัวขึ้น แก่นปีศาจของมันเปลี่ยนรูปร่าง ดังนั้น มันไม่มีข้อผิดพลาดใด ตราบเท่าที่สามารถผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ มันจะได้กลายเป็นราชาปีศาจที่แท้จริง แต่ในขณะที่มันกำลังไปถึงสายฟ้า มันกลับเปลี่ยนวิถีทันที ด้วยไม้อัสนีบาตดึงดูดสายฟ้าเอาไว้ เมื่อปราศจากสายฟ้า ราชาแร้งสายฟ้าก็รู้สึกเศร้าหมองยิ่ง

“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก! จะก้มหัวให้ข้า หรือตาย!” ราชาสายฟ้าเยาว์วัยกล่าวขณะแทงหอกไปที่แร้งสายฟ้า

ด้วยการแทงหนึ่งครั้ง สายฟ้าในรูปหอกปรากฏขึ้นในอากาศ และพุ่งราวกับสายฝนสู่พื้นดินเบื้องล่าง หอกสายฟ้าเหล่านั้นมีพลังทำลายล้างมหาศาล แต่โชคดี ด้วยสายฟ้าโดยธรรมชาติที่อยู่รอบกายของราชาแร้งสายฟ้านั้นแข็งแกร่งกว่า ดังนั้น ราชาสายฟ้าเยาว์วัยจึงไม่กล้าเข้าใกล้มัน มิเช่นนั้น ราชาแร้งสายฟ้าคงถูกกำราบไปแล้ว

ราชแร้งสายฟ้าเปลี่ยนวิถีบินตรงไปท่ามกลางฟ้าผ่า ร่างกายของมันบาดเจ็บร้ายแรง แม้เป็นเช่นนั้นก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าแร้งตัวอื่น ดังนั้น มันจึงรอดชีวิตไปได้แม้จะบาดเจ็บสาหัส

ต้องขอบคุณราชาแร้งสายฟ้าที่รับเอาสายฟ้าส่วนใหญ่ไป ความกดดันของเซี่ยงเส้าหยุนลดลงอย่างมาก กระดูกสายฟ้ายังคงกลืนกินพลังงานสายฟ้าอย่างตะกละตะกลาม เก้าดวงดาวเองก็ได้ดูดซับพลังงานจำนวนมากเข้าไปเช่นกัน ทำให้เกิดเป็นพลังสายฟ้าขนาดใหญ่ภายในร่างกาย

ปัจจุบันเด็กหนุ่มมีกระแสไฟฟ้าทั่วร่างกาย ทำให้ดูเหมือนผู้สร้างสายฟ้า เขานอนลงกับพื้น ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากเป็นคนทั่วไปคงจะตายไปแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนกลับสามารถรอดชีวิตมาได้ ดังนั้น หากเขาถูกฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง คงจะทำให้ตายไปจริง ๆ อนิจจา ช่างโชคร้ายนักที่มีสายฟ้าอีกลูกหนึ่งก่อตัวบนท้องฟ้า

“อ๊าก! เจ้านกหน้าโง่! นี่จะเป็นโชคชะตาที่ทุกข์ทรมานของเจ้า ไม่ใช่ฟ้าผ่านั่น เวรเอ้ย!” ราชาสายฟ้าเยาว์วัยตะโกน ผู้ซึ่งถูกสายฟ้าลูกใหม่ฟาด เขารู้ว่าความทรมานของราชาแร้งสายฟ้านั้นสาหัสเพียงใด ด้วยการโจมตีของราชาเยาว์วัย

เพื่อให้บรรลุระดับราชาปีศาจ สัตว์ปีศาจทั้งหมดต้องทนทุกข์ทรมานจากฟ้าผ่าแห่งสวรรค์ และความความยากเข็บ พวกมันจะชำระล้างร่างกาย และสร้างแก่นอสูรขึ้น เพื่อให้กลายเป็นราชาปีศาจ การถูกฟ้าผ่านั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก และหากพวกมันไม่สามารถต้านทานได้ จะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่

ตลอดมา ราชาสายฟ้าเยาว์วัยได้สันนิษฐานว่าราชาแร้งสายฟ้าสามารถต้านทานต่อความทรมานของสายฟ้าได้ เขาจึงรอคอยให้ราชาสายฟ้าเติบโตได้สำเร็จเสียก่อน แล้วจึงค่อยกำราบมัน

สายฟ้าทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นเพียงสายฟ้าจากฝนฟ้าคะนอง สายฟ้าที่รุนแรงเพิ่งเริ่มขึ้นหลังจากนี้ ที่แย่ยิ่งกว่าสำหรับเขาคือนับตั้งแต่ได้ไปล่วงล้ำบริเวณใกล้เคียงกับแร้งฟ้าผ่าในช่วงเติบโต เด็กหนุ่มจึงกลายเป็นเป้าหมายของฟ้าผ่าไปเสียแล้ว

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สายฟ้าที่รุนแรงผสานกับสายฟ้าตามธรรมชาติทำให้เกิดเป็นสายฟ้าอันทรงพลังยิ่ง โชคร้ายของเซี่ยงเส้าหยุน แร้งจำนวนมากพุ่งมาที่เขา แบ่งปันสายฟ้าอันรุนแรงให้แก่เด็กหนุ่มเช่นกัน

“เวรเอ้ย!” เซี่ยงเส้าหยุนอุทานขึ้นด้วยความตกใจ

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset