หยาเหยานางยามนี้ที่ร่างของนางอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเผิงอวิ๋นตัวนางที่ในเวลานี้คำถามที่อยู่ภายในใจวันนี้นางเลือกที่จะเอ่ยไป หากแต่อย่างไรเผิงอวิ๋นก็ยังคงไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดกับนางได้
“เกอเกอ…. บางทีท่านกับข้า” หยาเหยานางเอ่ย แต่ก่อนที่นางจะเอ่ยประโยคถัดไป ก็มีเสียงบ่าวคนหนึ่งยืนเอ่ยประโยคด้วยน้ำเสียงที่ตระหนกอย่างยิ่ง
“คุณชายเผิง…. คุณหนูอิ๋งเหอนางไม่เป็นอะไรมิทราบดินทุรนทุราย บ่าวมิรู้จะจัดการเช่นไรดี อาการของนางน่าเป็นห่วงมาก ร้องหาแต่ท่าน”
ในตอนนั้นเองที่เผิงอวิ๋นชงักเขาชงักลง คล้ายมิได้ฟังคำที่หยาเหยานางจะเอ่ยต่อไปนี้ หยาเหยานางเพียงดันร่างของเผิงอวิ๋นให้ออกไปห่างกายนาง
“เชิญ” หยาเหยานางยิ้ม
“เหยาเหยา”
“ไปสิ…. นางต้องการท่าน ท่านรีบไปนางเถิด”
“เหยาหเยารอพี่เจ้าไม่นาน พี่จะกลับมาหาเจ้า” จากนั้นเผิงอวิ๋นก็ได้วิ่งออกไปจากเรือนโดยทันที
จะว่าไป…. เหตุนั้นก็ดูสมควรดีแล้วใช่หรือไม่ ชีวิตของคนก็สมควรสำคัญแล้วใช่หรือไม่? หากวันนี้อิ๋งเหอนางจะเป็นจะตายจริงๆ หยาเหยาในยามนี้เจ็บปวด ที่นางเจ็บปวดอยู่เพราะสิ่งใดกัน ในหนึ่งก็คล้ายจะมีใจที่เบาหวิวอยู่นั้น คล้ายกับไม่มี ไม่มี…..
ในตอนนั้นเองหยาหเยานางตัดสินใจเดินตามเผิงอวิ๋นไปที่เรือนรับรองที่อิ๋งเหอนางรักษาตัวอยู่นั้นเอง
ในตอนนั้นที่นางไปถึง เป็นตอนที่อิ๋งเหอนางนอนใบหน้าซีดผาด น้ำเสียงแหบแห้งที่เอ่ยกับเผิงอวิ๋น ในยามนั้นที่อิ๋งเหอกุมมือเผิงอวิ๋นไว้ ถ้อยคำที่อิ๋งเหอนางเอ่ยออกมานั้นแต่ละถ้อยคำล้วนออกมาจากใจหาได้โป้ปดแม้นแต่น้อย
หยาเหยานางที่ยื่นอยู่ด้านนอกที่ตรงประตูเรือนรับรองนั้น หยาเหยานางเก็นทุกสิ่งและได้ยินทุกประโยค
“เผิงอวิ๋นเกอเกอ อิ๋งเหอรักท่าน อิ๋งเหอมิเคยมีใจต่อชายใด อิ๋งเหอแต่แรกที่พบท่านก็ปักใจลงไปแล้ว ชั่วชีวิตนี้ของอิ๋งเหอมิอาจรักผู้ใดได้อีก แม้นวันนี้ท่านจะแต่งกับพี่สาว อิ๋งเหอ….. อิ๋งเหอ ยินดีเป็นรองพี่สาว เพียงได้เคียงคู่ท่าน ชั่วชีวิตของอิ๋งเหอที่ปรารถนามีเพียงเท่านี้ แม้นอายุสั้นไปสิบปีอิ๋งเหอก็ยอมแลก” อิ๋งเหอนางเอ่ยทั้งน้ำตา
ในตอนนั้นหยาเหยานางเห็นเพียงด้านหลังของเผิงอวิ๋นก็เพียงเท่านั้น…. ในห้วงนั้นหยาเหยานางหรือก็รอฟังคำที่เผิงอวิ๋นจะเอ่ยตอบอิ๋งเหอไป จะตอบรับก็ชั่งจะตอบปฏิเสธก็ตาม เพียงแค่ตอบไปทำให้ทุกอย่างชัดเจน หากไปต่อก็จะเริ่มเดินเสียแต่วันนี้ หากจะจบสิ้นวาสนานางกับเผิงอวิ่นจะไปต่อหรือจบสิ้นก็ขอเพียงให้ชัดเจน มิใช่ต้องยิ้มทั้งน้ำตาเช่นนี้
และแล้วสิ่งที่นางรอคอยก็ได้ออกมาจากปากของเผิงอวิ๋น
“อิ๋งเหอ กับเจ้าพี่คิดเป็นเพียงน้องสาวก็เท่านั้น” เผิงอวิ๋นเอ่ยออกไป
“เกอเกอ….. หากวันนี้อิ๋งเหอสิ้นไปท่านเสียใจหรือไม่?”
“อย่าเอ่ยเช่นนั้น”
“เกอเกอ อิ๋งเหอรักท่าน อิ๋งเหอขอให้ท่านทบทวน ชั่วเวลาครึ่งปีที่ท่านพักอยู่ที่บ้านของอิ๋งเหอ ท่านมิมีความรู้สึกใดต่ออิ๋งเหอแน่หรือ อิ๋งเหอรู้สึกไปเพียงผู้เดียวจริงหรือ?” อิ๋งเหอนางเอ่ยทั้งน้ำตา
“มีสิ เจ้าเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ เจ้าดูแลพี่เป็นอย่างดี ทั้งบิดาของเจ้าก็ช่วยชีวิตพี่ไว้ก็หนหนึ่งถือเป็นพระคุณที่มิอาจลืมได้ชั่วชีวิต” เผิงอวิ๋นเอ่ย
“หากเป็นเช่นนั้น…..” อิ๋งเหอนางเอ่ยพร้อมกับยื่นกระดาษขาวที่พับอยู่ดูท่าภายในคงเป็นจดหมาย
“ท่านพ่อฝากสิ่งนี้มาให้ท่าน….”
เผิงอวิ๋นรับไว้และเปิดอ่าน….
ระหว่างนั้นอิ๋งเหอนางก็ได้เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้น
“ความจริงข้ามิได้หนีออกมาเพราะนึกสนุกมาตามหาท่านเพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้ว อิ๋งเหอเมื่อทราบว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินสิบปี อิ๋งเหอ อย่างไรก็ต้องมาบอกความในใจต่อท่าน มิได้คาดว่าไว้เมื่อมาถึงกลับพบว่าท่านมีคู่หมั้นคู่หมายที่กำลังจะแต่งงานกัน อิ๋งเหอมิได้หวังสูงไปแทนที่พี่สาว อิ๋งเหอเพียงหวังให้สักเศษเสี้ยวในใจของท่าน ให้ท่านเว้นไว้ให้อิ๋งเหอบ้าง”
ในเวลานั้นที่เผิงอวิ่นอ่านประโยคในจดหมาย ล้วนเป็นถ้อยคำที่เขียนด้วยลายมือของบิดาของอิ๋งเหอไม่ผิดแน่ สิ่งที่เขาขอคือให้รับดูแลอิ๋งเหอได้หรือไม่ถ้อยในจดหมายนั้นล้วนเป็นคำขอร้องโดยทั้งสิ้น
“อิ๋งเหอ…..ข้า” เผิงอว็นมีท่าทีลำบากใจ
และในตอนนั้นเองที่สาวใช้นางหนึ่งที่ออกไปเมื่อครู่ที่ถืออย่างน้ำร้อนมาเพื่อชำระมือและเท้าของอิ๋งเหอ ตามคำสั่งของหมอที่ได่สั่งไว้ ก็เดินกลับเข้ามาและระหว่างทางที่เดินกลับเข้ามานั้นเอง
เมื่อนางเดินมาพบว่าหยาหยานางยืนอยู่ที่ด้านหน้าของประตู ด้วยความตกใจนางร้องลั่น สองมือนางคล้ายไม่มีแรงอ่างน้ำร้อนนั้นก็ไดกระเด็นหลุดร่วงลงไปที่พื้นกระเด็น น้ำร้อนที่อยู่ในอ่างนั้นก็เด็นไปทั่วโดยส่วนหนึ่งก้นกระเด็นไปโดนเท้าของหยาเหยา
“คุณหนู บ่าวสมควรตายๆ ๆ” บ่าวรับใช้นางนั้นทั้งที่มือบวมแดง ก็เอ่ยพร้อมกับเอามือตบไปที่ใบหน้าของตนเอง
และในตอนนั้นเองที่เผิงอวิ๋นหันมาพบเหตุการณ์นั้นเขา ราวกลับใจของเขาตกไปที่พื้น หยาเหยานางได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดนางอยู่ที่นี้ อยู่ที่นี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ในตอนนั้นที่เผิงอวิ๋นที่กำลังจะลุกขึ้นเดินไปหาหยาเหยาด้วยใจที่เป็นห่วง อิ๋งเหอมือนางที่เกาะกุมเผิงอวิ๋นไว้นางกลับรั้งไว้มิยอมปล่อย เผิงอวิ๋นจะหันไปสะบัดมือของอิ่งเหอออกหากแต่ว่าเมื่อเขาหันกลับไปมอง กลับพบว่าอิ๋งเหอนางกำลังอาเจียนออกมาเป็นเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก
ในเวลานั้นเขาก็กลับนางลงกลับไปที่เตียง ดวงตาเขาเบิกกว้างตกใจอย่างยิ่ง
จากนั้นเขาได้หันกลับมามองมาที่หยาเหยา ดวงตาเขาดูเป็นกังวลทำสิ่งใดไม่ถูก
“เจ้าไปตามหมอมา โดยเร็วที่สุด” หยาเหยานางเอ่ย แม้นในยามนี้เท้าของนางจะรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยนางก็ยังกัดฟันฝืนทน ใบหน้าที่ไม่เจ็บไม่ปวดนั้น
และในตอนนั้นเองที่ชิงชิง ชิงชิงนางมาพบเหตุการณ์นั้นเขา ตอนนั้นหยาเหยาเป็นนางเองที่ได้บอกให้ชิงชิงไปที่ห้องเย็บปักไปเลือกผ้ามาให้นางสักพับ ในหนึ่งก็หมายให้ชิงชิงหลบออกไป หากแต่เมื่อชิงชิงกลับมาที่เรือนไม่พบ จึงเดินออกมาตามหา หยาเหยา
“คุณหนู” ชิงชิงนางร้องเรียก
“ชิงชิง พาเหยาเหยากลับที่ของเหยาเหยา” หยาเหยานางเอ่ยออกมา
“เหยาเหยา เจ้าเจ็บมากหรือไม่” เผิงอวิ่นทั้งที่มือยังคงจับมือของวิ๋นเหอหรืออ๋งเหอที่รั้งตัวเขาไว้เอ่ยขึ้น
หยาเหยานางก้มหน้าสูดลมหายใจ
“ไม่….” นางเอ่ยก่อนที่จะหมุนกายเดินกลับไปโดยที่มีชิงชิงประกอง
ในเวลานั้นในตอนที่เท้าของนางค่อยๆ ก้าวเดิน ลงน้ำหนักลงไปที่เท้าของนางแต่ละก้าวนั้นเจ็บปวดยิ่ง หากแต่นางก้ยังคงฝืนทนเดินด้วยท่าทีที่ปกติที่สุด จนลับสายตาที่คนจากภายในเรือนรับรองจะมองเห็น หยาหเยาที่นางอดทนอยู่นาน
ในที่สุดนางถึงกลับทิ้งกายลงกับพื้น…. ในตอนนั้นอยู่ๆ น้ำตาของนางก็พรั่งพรูออกมา
“คุณหนูท่านร้องไห้ทำไมเจ้าค่ะ คุณหนู” ชิงชิงนางเอ่ยขึ้น
“เจ็บ” หยาเหยานางเอ่ยขึ้น ใบหน้าของนางแสดงถึงความเจ็บปวดที่ชัดเจน
ผู้ใดควรค่าให้เห็นน้ำตา ผู้ใดควรค่าให้เสียน้ำตาให้ ข้อนี้นางล้วนเข้าใจดี เจ็บเเล้วอย่างไร ผู้นั้นเอาชีวิตมาวางไว้เเล้ว ดูท่าเจ็บนี้ของนางคงยากจะเทียบค่าเอาได้