หันเจี๋ยเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน หากเขาห้ามหลี่ฉิงไอ้และไม่ปล่อยให้เธอได้ใจ น้องชายเขาคงไม่ต้องนอนอยู่ในห้องดับจิตเย็นยะเยือกอย่างนี้
เขาเองก็มีส่วนทำให้หันซิวเช่อต้องตาย ไม่ว่าเขาจะโกรธน้องชายขนาดไหน เขาก็เป็นคนที่เลี้ยงอีกฝ่ายมาเหมือนพ่อคนหนึ่ง ตอนนี้น้องชายของเขาจากโลกนี้ไปตลอดกาลแล้ว เขาจึงรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นความผิดของหลี่ฉิงไอ้!
ดังนั้นต่อให้เขาต้องตามหาจนสุดขอบโลก เขาก็จะลากตัวผู้หญิงคนนั้นมาฉีกเป็นชิ้นๆ!
…
‘ข่าวล่าสุดเรื่องการเสียชีวิตของหันซิวเช่อ…’
‘ตระกูลหันจัดงานแถลงข่าวอีกครั้งหลังผ่านไปเพียงวันเดียว…’
‘ยี่สิบสี่ชั่วโมงของการจากไปของลูกชายสุดที่รัก เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลหันกันแน่’
ทันใดนั้นข่าวทุกสำนักพากันรายงานเรื่องของตระกูลหัน พวกเขาล้วนสงสัยถึงเรื่องราวเบื้องหลังการเสียชีวิตของหันซิวเช่อ แต่ทุกอย่างที่ได้ยินก่อนงานแถลงข่าวเป็นเพียงแค่ข่าวลือและข้อสันนิษฐานเท่านั้น
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกัยถังหนิงและคนอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามครั้งนี้แฟนๆ ของถังหนิงตื่นตัวเต็มที่ ขณะที่ออกมาแก้ข่าวให้เธอบนหน้าเว็บไซต์ใหญ่ทุกที่ และขอไม่ให้คนทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง
เวลาบ่ายสองวันนั้น คุณพ่อหันกับหันเจี๋ยปรากฏตัวอย่างเคร่งขรึมต่อหน้านักข่าว คุณพ่อหันไม่ได้แผ่รังสีน่าเกรงขามหรือหยิ่งทะนงผิดกับเมื่อวันก่อน กลับดูชราและอ่อนล้า ในขณะที่หันเจี๋ยที่ตามมาด้านหลังตาบวมแดง เห็นได้ชัดว่าเขาทรมานเหลือเกินกับการเสียชีวิตของหันซิวเช่อ
ครั้งนี้คุณพ่อหันไม่ได้แสร้งทำหรือเล่นแง่แต่อย่างใด ทำเพียงก้าวขึ้นมาบนเวทีและโค้งให้อย่างจริงใจ ก่อนเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าลูกชายผมตกลงมาบาดเจ็บเมื่อเช้าตรู่วันนี้ หลังจากพยายามยื้อชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล สุดท้ายหมอก็ยืนยันกับผมว่าเขาจากผมและโลกใบนี้ไปแล้ว
“ผมอยากจะขอให้ทุกคนเลิกคาดเดากันไปมั่วๆ เรื่องทั้งหมดไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับถังหนิงหรือซูอวี๋ทั้งนั้นครับ ผมหวังว่าสื่อจะเลิกลากคนที่ไม่ได้ผิดมาเกี่ยวข้องและเสนอข่าวผิดๆ ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นประธานหันช่วยชี้แจงว่าลูกชายของคุณตกลงมาจากตึกได้ยังไงได้ไหมคะ” บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจว่าคุณพ่อหันเพิ่งผ่านความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกชายไป นักข่าวจึงตั้งคำถามที่ถนอมน้ำใจขึ้นมาก
“เรื่องที่ลูกชายของผมตกลงมา เป็นฝีมือของภรรยาคนปัจจุบันของผมครับ หลี่ฉิงไอ้ เธอโกรธที่หันซิวเช่อแฉเธอในงานแถลงข่าวครั้งที่แล้ว เธอเลยจ้างคนไปผลักลูกชายของผมตกลงมาจนตาย ทางตำรวจได้ตามสืบเรื่องนี้แล้วครับ รอให้พวกเขาแจ้งคำตัดสินสุดท้ายอยู่
“น่าเสียดายที่หลี่ฉิงไอ้หนีไปแล้ว ผมหวังว่าทุกคนจะช่วยบอกต่อคำพูดของผมผ่านงานแถลงข่าวนี้ ถ้าใครมีข้อมูลเกี่ยวกับหลี่ฉิงไอ้และยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ผมจะให้รางวัลเป็นเงินสดหนึ่งล้านหยวนครับ”
ผู้สื่อข่าวต่างอึ้งเมื่อได้ยินคำว่าหนึ่งล้านหยวน…
ดูท่าแล้วตระกูลหันคงจะเกลียดหลี่ฉิงไอ้จริง ถึงได้ยอมจ่ายเงินก้อนโตขนาดนี้เพื่อพยายามตามล่าศัตรู
“ฟังดูเหมือนว่าประธานหันกำลังบอกว่าหลี่ฉิงไอ้ทำร้ายลูกชายตัวเองเลย ถ้าอย่างนั้นเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนก็เป็นฝีมือของผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอครับ”
เมื่อคุณพ่อหันได้ยินคำถามนั้น เขานิ่งคิดอยู่นาน เมื่อนึกถึงร่างเย็นเยียบของหันซิวเช่อ น้ำตาของเขาก็เอ่อคลอหน่วย
“ผมยอมรับว่าหลี่ฉิงไอ้กับผมรวมหัวกันใส่ร้ายซูอวี๋เมื่อยี่สิบปีก่อนครับ”
“พระเจ้าช่วย นี่เป็นการยอมรับจากปากตัวเองเลยใช่ไหม”
“อย่างนั้นซูอวี๋ก็ไม่ได้มีความผิดอะไรน่ะสิ!”
“เขายอมรับเรื่องนี้เพราะลูกชายของเขาจากไปแล้วเหรอ”
“ตอนนี้ลูกชายของเขาเสียไปแล้ว เขาเลยรู้สึกตัวสินะ”
…
นักข่าวหลายคนด้านล่างเวทีเริ่มมองหน้าและกระซิบกัน แต่มันไม่ได้ทำให้คุณพ่อหันเป็นกังวล เขาต้องการทุ่มเทให้กับการตามล่าตัวหลี่ฉิงไอ้เพื่อแก้แค้นให้หันซิวเช่อ
“ยี่สิบปีที่แล้ว ผมกลับมาบ้านและเจอซูอวี๋อยู่บนเตียงกับผู้ชายสองคน แต่ทั้งหมดเป็นการจัดฉากของ
หลี่ฉิงไอ้ครับ ตอนนั้นซูอวี๋พยายามอธิบายกับผมอย่างหนัก แต่ผมเลือกที่จะใส่ร้ายภรรยาด้วยความหน้ามืดตามัว แม้ว่าผมจะรู้ว่าเธอไม่ได้ผิดก็ตาม สุดท้ายผมเลยเลือกตกลงปลงใจกับหลี่ฉิงไอ้ที่ทั้งสาวและสวยกว่า แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะทำให้ลูกชายของผมต้องตายในอีกยี่สิบปีต่อมา
“ผมคิดว่าถ้าผมไม่ฝืนความจริงแล้วก้าวออกมาขอโทษซูอวี๋ ซิวเช่ออาจไม่ต้องจากผมไป ยังไงโชคชะตาก็เป็นผลมาจากการเสียสละครั้งใหญ่
“ผมเลยอยากให้ทุกคนจำหลี่ฉิงไอ้ไว้และช่วยตามหาตัวเธอให้ผม ผมคงไม่ขออะไรไปมากกว่านี้ แค่ต้องการทวงความเป็นธรรมให้กับลูกชายของผมเท่านั้น!”
เมื่อวานคุณพ่อหันพังหน้าจอที่โรงแรมซะเละ นักข่าวจึงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้เมื่อเห็นเขาโค้งให้สามครั้งต่อหน้าพวกเขา
คนบางคนก็เป็นอย่างนั้น พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในเวลาเพียงแค่วันเดียว!
หลังจากคุณพ่อหันลงจากเวทีไป หันเจี๋ยเดินขึ้นมาแทน เขาเอาแต่เงียบในตอนแรก หลังจากที่สงบลงได้ หันเจี๋ยหันไปทางสื่อก่อนแค่นยิ้มขมขื่น “ตลกดีนะครับ เมื่อวานนี้เรายังมาที่นี่เพื่อปฏิเสธเรื่องที่เราทำไว้เมื่อยี่สิบปีก่อนอยู่เลย แต่ตอนนี้เรากลับไม่มีทางเลือกนอกจากมายืนตรงนี้เพื่อตบหน้าตัวเอง
“ซิวเช่อตายแล้วครับ! …
“ตอนที่ผมได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก โลกทั้งโลกของผมก็พังทลาย ผมเลี้ยงเขามากับมือเลยไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ยังไง ผมรักเงินทองและอำนาจ ความจริงแล้วผมรู้จักต่อสู้เพื่ออำนาจมาตั้งแต่ยังเด็ก อย่างการที่ผมหักหลังแม่ตัวเองเมื่อยี่สิบปีก่อน
“แต่ซิวเช่อจากไปแล้ว มาถึงจุดนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าชีวิตของน้องชายผมแล้ว…
“เงินทอง อำนาจ ผมไม่ต้องการมันแล้วครับ ผมแค่ต้องการน้องชายกลับคืนมา ดังนั้น หลี่ฉิงไอ้ ผมจะต้องหาคุณให้เจอให้ได้
“ต่อให้คุณจะซ่อนตัวอยู่สุดขอบโลกก็ตาม!
“แล้วผมก็ขอโทษด้วยนะครับ แม่
“ผมขอโทษถังหนิงด้วยครับ คนที่ซิวเช่ออยากจะขอโทษก่อนที่เขาจะตาย ผมขอโทษที่ทำร้ายพวกคุณทั้งสองคนครั้งแล้วครั้งเล่า ขอโทษที่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ ผมขอโทษจากใจจริงครับ!”
…
หลังจากได้ดูงานแถลงข่าว ซูอวี๋และถังหนิงก็เชื่อว่าพ่อลูกจะต้องทุกข์ทรมานกับการสูญเสียหันซิวเช่อไป
“ตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะไร้หัวใจซะอีก” ซูอวี๋ว่าขึ้นอย่างเย็นชา
“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาตัวหลี่ฉิงไอ้นะคะ” ถังหนิงเอ่ยเตือนซูอวี๋ “คุณน้าซูคะ ปล่อยให้เวลาเจือจางเรื่องบาดหมางระหว่างพวกคุณสองคนเถอะค่ะ เราต้องตามหาหลี่ฉิงไอ้ให้เร็วที่สุด”
“ฉันละเกลียดที่สองคนนั้นไม่ได้เป็นคนที่ตายแทนจริงๆ!”