เชียนหลานกุมมือโม่จื่อเฉินไว้แน่น ที่แท้พวกเขาก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันมากมายเหลือเกิน
เธอไม่อาจคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอไม่ย้ายห้องพักมา บางทีพวกเขาอาจจะคลาดกันไปตลอดกาลก็เป็นได้…
คืนนั้นเชียนหลานร้องไห้อยู่นาน กว่าเธอจะผล็อยหลับไปดวงอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้าเสียแล้ว
โม่จื่อเฉินช่วยเธอเตรียมน้ำไว้ล้างหน้าเหมือนอย่างเคย แต่ไม่นานก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นด้านนอกห้อง เขามองออกไปและเห็นคนตระกูลเชียนมาขอเยี่ยมเชียนหลานที่โรงพยาบาล
เท่าที่เขาจำได้ ตระกูลนี้โปรดปรานคนมีฐานะเป็นพิเศษ และคอยบงการลูกสาวอย่างกับปลิงดูดเลือด
มันเห็นได้ชัดเจนช่วงก่อนหน้านี้เมื่อครั้งที่คุณพ่อเชียนยังเป็นนายกเทศมนตรี ทว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีอะไรให้โอ้อวดตัวเองถึงได้ต้องยอมแพ้
โม่จื่อเฉินไม่รู้ว่าทุกคนเปลี่ยนไปหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือคุณนายเชียนได้เปลี่ยนไปแล้ว
หลังจากป่วยหนัก คุณนายเชียนก็ตาสว่างกับหลายสิ่ง และตอนนี้โม่จื่อเฉินก็เห็นเพียงแค่คุณนายเชียน
เมื่อคุณนายเชียนเห็นโม่จื่อเฉินดูแลเชียนหลานก็เบาใจลงมากทันที เธอลากเขาไปด้านหนึ่งก่อนเอ่ย “จื่อเฉิน เมื่อก่อนฉันเป็นฝ่ายที่ทำผิดกับเธอ ยกโทษให้ฉันด้วยนะ”
“คุณน้าครับ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกครับ”
“ใช่สิ มันเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยละ” คุณนายเชียนพลันเริ่มร้องไห้ออกมา “หลังจากเธอแต่งงานกับเชียนหลาน ไม่ต้องมาติดต่อกับคนในตระกูลเชียนอีก ไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องไปเป็นทหารเหมือนกัน”
โม่จื่อเฉินไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
“เธอคงไม่รู้เรื่องนี้ แต่ตระกูลเชียนพังพินาศไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ทั้งตระกูลอพยพหนีไปเพราะเรากลัวโดนฟ้องล้มละลาย แต่เพราะว่าเราไม่มีเงินแล้ว สุดท้ายสวีฉุนเฮ่าเลยหย่ากับเชียนฮุ่ยและทิ้งเธอไป หลังจากนั้นพ่อของเชียนหลานก็ติดการพนันและเริ่มฝันว่าจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง
“เขายังไม่มาหาเธอเพราะเธอยังไม่ได้แต่งงานและเขาไม่ต้องการเสียเธอไป
“ฟังฉันนะ อย่าให้พ่อเชียนหลานหาเธอเจอเด็ดขาด
“เชียนหลานหนีไปเป็นทหารเพราะเธอต้องการเป็นอิสระจากครอบครัว
“ฉันหวังว่าเธอจะไม่ได้เจอพ่อตัวเองอีก
“โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องเสื่อมเสียที่ใครสักคนจะมีพ่อเป็นผีพนัน”
หลังได้ยินเช่นนี้ โม่จื่อเฉินไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงส่งกระดาษทิชชู่ส่งให้คุณนายเชียน
ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีที่ผ่านไป ตระกูลเชียนจะตกระกำลำบากมาไม่น้อย
“แล้วอาการป่วยของคุณ…”
เธอแค่นยิ้มออกมาเมื่อพูดถึงอาการป่วยของเธอ “โรคของฉันมันรักษาไม่ได้ ฉันไม่อยากเสียเงินกับมันอีกแล้วละ ได้รู้ว่าเชียนหลานมีคนรักที่ดีก็สบายใจแล้ว ต่อให้ฉันต้องหลับไปตลอดกาลฉันก็ไม่เสียใจ
“ฉันแค่เกลียดตัวเองที่เมื่อก่อนขัดขวางไม่ให้พวกเธอคบกันเท่านั้นแหละ!
“ไม่กี่ปีมานี้เชียนหลานลำบากมามากนะ
“จื่อเฉิน อย่าโทษเธอกับเราเลยนะ…”
เขาส่ายหน้าขณะมองดวงตาคลอของคุณนายเชียน “ทุกอย่างเป็นเรื่องในอดีตครับ ผมจะคบกับเชียนหลานต่อไป จะปกป้องและดูแลเธอ ไม่ต้องห่วงนะครับคุณป้า”
“พูดอย่างนี้ฉันก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้วละ วันนี้ฉันมาดูเชียนหลานเฉยๆ โรงพยาบาลแอบโทรหาฉัน ฉันเลยมาที่นี่โดยไม่ได้บอกให้ใครรู้”
แม้ว่าเชียนหลานจะขอไม่ให้บอกคนในครอบครัวให้รู้ถึงอาการบาดเจ็บของเธอ โรงพยาบาลก็ยังมีหน้าที่ต้องทำ
“ตอนนี้เห็นเธออยู่กับเชียนหลานที่นี่ ฉันก็หมดห่วงแล้วงั้นฉันไปก่อนนะ”
พูดจบ คุณนายเชียนลุกขึ้นเตรียมจะจากไป หากแต่โม่จื่อเฉินกลับรั้งเธอไว้
“คุณจะไม่รอให้เธอตื่นเหรอครับ”
“ต่อให้เธอตื่นขึ้นมาแล้วเจอฉัน ฉันก็คงเป็นแค่ภาระของเธอเท่านั้นแหละ ช่างมันเถอะ” คุณนายเชียนส่ายหน้าและเดินออกนอกประตูไป
ที่แท้ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายหลังจากที่ตระกูลเชียนอพยพหนีกันไป เชียนฮุ่ยหย่า คุณพ่อเชียนติดการพนัน และคุณนายเชียนก็ป่วยหนัก ในขณะที่พวกเขาต่างฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเชียนหลาน เพราะเธอมีความสามารถและกลับไปคืนดีกับโม่จื่อเฉินแล้ว
บางทีมันอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ตระกูลเชียนหวังไว้ และยังเป็นเหตุผลที่คุณนายเชียนมาที่นี่ด้วย
โม่จื่อเฉินมองเชียนหลาน ผู้หญิงที่ถูกบงการตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนจะรู้สึกโกรธจัด ถึงอย่างไรไม่ใช่แม่ทุกคนในโลกที่เหมือนกับถังหนิงซึ่งทั้งเข้าใจและให้เกียรติลูกๆ ตัวเอง
ไม่นานเชียนหลานก็ตื่นขึ้นมา โม่จื่อเฉินเติมน้ำในอ่างไว้ล้างหน้าให้ก่อนบอกกับเธอ “แม่ของคุณแวะมาเยี่ยมครับ”
“เธออยู่ไหนคะ”
“เธอไปแล้วครับ” เขาตอบ “เธอห้ามพวกเราไม่ให้ติดต่อกับตระกูลเชียน แม้แต่พี่สาวหรือพ่อของคุณเองก็ตาม”
เชียนหลานหลุดขำออกมาและไม่ได้ตอบอะไร
“เราเลือกเกิดไม่ได้จริงๆ นี่ครับ ไม่ว่าพวกเขาจะดีหรือเลว ผมก็ต้องยอมรับพวกเขา”
หลังได้ยินคำพูดจากเขา เธอหัวเราะออกมา “คำพูดของคุณไม่ได้ปลอบฉันได้เลยค่ะ”
“ที่ผมพยายามจะบอกก็คือต่อไปนี้คุณควรจะปล่อยให้ผมจัดการเรื่องพวกนี้ครับ ทำไมคุณถึงให้ผมจัดการไม่ได้ล่ะ คุณพยายามเลี่ยงมันเมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้คุณก็จะทำปิดบังมันอีกแล้วเหรอครับ”
เชียนหลานส่ายหน้า เมื่อคิดเช่นนี้เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาเต็มที
“ฉันแค่กลัวว่าคุณจะเจ็บปวดน่ะค่ะ”
“แค่คุณไม่ทำร้ายผมก็ไม่มีใครทำให้ผมเจ็บได้หรอกครับ” เขาว่าขณะจับบ่าเธอไว้ “คุณขยับตัวได้หรือยังครับ”
เธอขยับตัวเล็กน้อยและพบว่าไม่ได้เจ็บแผลมากอย่างที่คิดจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง
โม่จื่อเฉินช่วยประคองเธอขึ้นมา…
“เอ่อ…ฉันอยากไปห้องน้ำค่ะ”
“เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปเอง” โม่จื่อเฉินเสนอตัว เมื่อเธอนิ่งเขาก็ถามขึ้น “เราคบกันแล้ว คุณยังอายอยู่เหรอครับ”
เชียนหลานไม่ตอบแต่ใบหน้ากลับขึ้นสีแดงระเรื่อ
เขาไม่รอคำตอบพลางอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและพาเธอไปห้องน้ำ
“ภาพลักษณ์ของฉันป่นปี้หมดแล้ว” เชียนหลานบ่น “ฉันอยากจะดูดีต่อหน้าคุณนี่คะ”
“คุณไม่เคยดูดีต่อหน้าผมอยู่แล้ว พูดถึงภาพลักษณ์อะไรของคุณกันครับ” เขาช่วยเธอถอดกางเกง “ต่อไปนี้อย่าไปรับกระสุนแทนคนอื่นโดยไม่คิดอีกนะครับ คุณเองก็เป็นคนที่มีครอบครัวเหมือนกัน”
“ฉัน…มีครอบครัวแล้วเหรอ”
“ครับ คุณมีผมไง” เขาตอบเสียงหนักแน่น
“หันไปสิคะ ฉันเข้าห้องน้ำกับคุณที่นี่ไม่ได้นะ” เชียนหลานบอกอย่างเขินอาย
โม่จื่อเฉินพยักหน้าก่อนหันหลังออกไป หลังจากออกมาห้องน้ำ เขารอจนกว่าเธอจะเรียกเขาก่อนจะเข้าไปอีกครั้ง
“หลังจากคุณฟื้นตัวจากการผ่าตัดนี้ อย่าให้ใครมารักษาอีกนะครับ ผมรู้จักคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ผมขอให้เขามารักษาคุณที่นี่ได้”
เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ
“แล้วแต่คุณเลยค่ะ” เธอเพียงต้องการมีความสุขกับการมีเขาอยู่ข้างๆ จึงปล่อยให้เขาตัดสินใจ
“งั้นก็เอาตามนี้นะครับ!”
“จื่อเฉิน…” เชียนหลานเรียกเสียงแผ่วเบา
“หือ”
“ฉันฝันไปหรือเปล่าคะ มันรู้สึกเหลือเชื่อเลยละค่ะ เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณยังเย็นชาอย่างกับน้ำแข็ง แต่ตอนนี้คุณกลับอบอุ่นเหมือนกองไฟ ตัวตนที่แท้จริงของคุณคืออะไรกันแน่คะ”