ตอนที่ 161 เปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี
หลังจากมู่หลงเหยียนปรากฎตัว เธอก็ตะโกนออกมาทันที “ ปึก ” ในเวลาเดียวกันก็ออกแรง ดึงโซ่ดำที่ผูกติดกับวิญญาณของผมให้ขาดออกในทันที
เมื่อยายแก่เห็นแบบนั้น เธอก็ตกตะลึง เผยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
จากนั้นเธอก็เริ่มพูดติดอ่าง “ แก แก…… ”
ผลลัพธ์เธอยังพูดไม่จบ มู่หลงเหยียนก็พูด ฮึ ออกมาอย่างเย็นชา
ทันใดนั้น พายุอันหนาวเย็นลูกใหญ่ ก็ได้ก่อตัวขึ้น
และมันยังเข้าไปโอบล้อมยายแก่เอาไว้ตรงกลาง ระหว่างนั้นฝุ่นที่อยู่รอบๆ ก็ได้ซัดสาดเข้าไปหายายแก่ทันที
แม้ยายแก่คนนั้นจะร้ายกาจ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมู่หลงเหยียน ผมกลับเกรงว่าเธอจะอ่อนกว่านิดหน่อย
เมื่อยายแก่สัมผัสได้ถึงพลังหยินที่ทรงพลัง ร่างกายของเธอก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหว เธอถอยไปข้างหลังหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว
แต่ภายใต้สายลมที่โหมกระหน่ำ ซึ่งมันยังหลอมรวมเข้ากับพลังที่มหาศาล
ดังนั้นถึงยายแก่ถอยไปหลายก้าว แต่แรงกระแทกของคลื่นพลังยังหลั่งไหลเข้ามา
ตอนที่คลื่นพลังโจมตีโดนร่างของยายแก่ ยายแก่คนนั้นก็เหมือนกับถูกรถบรรทุกคันใหญ่ชน
“ ปัง ” ร่างของเธอกระเด็นออกไปทันที และท้ายที่สุดก็กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง แต่ไม่หยุดเพียงเท่านั้นเธอยังกลิ้งต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเธอก็ยังไอ “ แค่กแค่กแค่ก ” ออกมา
ไม้เท้าที่อยู่ในมือของเธอ ได้กระเด็นออกไปไกลมาก
แต่ยายแก่คนนั้นยังมีผ้าสีดำคลุมเอาไว้ ผมจึงไม่สามารถเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเธอได้
ในเวลานี้มู่หลงเหยียนไม่ได้สนใจเธอ แต่หันมาพูดกับผมว่า “ เจ้าห่วย นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ! ”
ตอนนี้สติของผมค่อยๆฟื้นคืนมาแล้ว ความรู้สึกที่ฟ้าดินกลับหัวก็ค่อยๆหายไป
ภาพตรงหน้าก็เริ่มชัดเจนขึ้น ผมจึงมองเห็นมู่หลงเหยียนที่กำลังใส่ชุดย้อนยุค ทันใดนั้นหัวใจของผมก็เต้นแรงทันที ตอนนี้ผมไม่สนใจอีกต่อไปว่าเธอจะเรียกผมว่าอะไร
ผมยิ้มและพยักหน้าให้เธอรัวๆ “ ไม่เป็นไร ขอบ ขอบใจที่เธอรีบมานะ ! ”
เมื่อมู่หลงเหยียนเห็นผมยิ้ม เธอจึงกลอกตาทันที “ นายยังยิ้มได้อีก ถ้าฉันมาช้าแค่นิดเดียว นายก็ตายไปแล้วนะ ! ”
ผมหัวเราะ “ แฮะแฮะ ” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ
หลังจากนั้นมู่หลงเหยียนก็หันไปมองหยางเฉ่ว พี่เฟิง และคนอื่นๆ เมื่อเธอเห็นว่าพวกเขากำลังหลับตาอยู่ เธอก็หันมาพูดกับผมอีกครั้ง “ นี่เป็นวิธีที่นายคิดงั้นเหรอ ”
ผมเห็นมู่หลงเหยียนพูดและมองทุกคนที่กำลังปิดตาอยู่ ผมจึงตอบรับ “ อืม ” ตามสัญชาตญาณ ในเวลาเดียวกันก็กดเสียงลงต่ำ “ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอ เรื่องที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมด ต้องเก็บเป็นความลับ ! ”
ผมพูดเบามาก มีเพียงผมสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
ผลลัพธ์เมื่อมู่หลงเหยียนได้ยิน เธอกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย “ ใช่ ความจำของผู้ชายห่วยๆแบบนายก็ถือว่าไม่เลวนะ…… ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผมก็กลอกตาใส่เธอทันที
ยัยมู่หลงเหยียน ทุกครั้งที่เธอออกมาต้องพูดสองคำนี้ทุกที ถ้าไม่ได้พูดเธอคงรู้สึกแย่ซินะ
เมื่อมู่หลงเหยียนเห็นผมกลอกตา เธอก็หัวเราะ “ คิคิ ” ทันที “ ต่อไปถ้าเจออันตรายอีกไม่ต้องทำแบบนี้แล้วนะ จากพลังของพวกเขาในตอนนี้ ยังมองไม่เห็นฉันหรอก…… ”
เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็ตกใจมาก
มู่หลงเหยียนมีความสามารถแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วทำไมเธอไม่รีบบอกละ
แต่ไม่รอให้ผมได้พูดออกมาอีกครั้ง ยายแก่ที่กลิ้งอยู่บนพื้นก็กลับมายืนอีกครั้งแล้ว
เธอยังอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำ ในปากพ่นคำว่า “ สมควรตาย สมควรตาย ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังโกรธมาก
และตอนนี้ผมยังสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าบนร่างกายของเธอมีกลิ่นไอที่น่ากลัวไหลออกมา
หลังจากเธอลุกขึ้นยืน ยายแก่คนนั้นก็หันมามองพวกเราอีกครั้ง ทันใดนั้นเธอก็พูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง “ แกเป็นใคร ทำไมต้องเข้ามาสอดเรื่องของฉันด้วย ! ”
เห็นได้ชัดเจน ว่าบทสนทนานี้กำลังพูดถึงมู่หลงเหยียน
แต่มู่หลงเหยียนเหลือบมองยายแก่แวบหนึ่ง จากนั้นก็เค้นเสียง ฮึ ออกมา “ แกยังมีเงาหัวจะรู้อีกเหรอว่าฉันเป็นใคร ! ต่อไปจงจำเอาไว้ อย่าให้ฉันเจอแกอีก ”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็โบกมือ
“ ตูม ” ทันใดนั้นพลังหยินที่รุนแรงก็พรั่งพรูออกไปทันที
แต่ยายแก่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกลับกรีดร้อง “ ปัง ” ร่างของเธอระเบิดในทันที ทันใดนั้นร่างของเธอก็กลายเป็นหมอกสีดำ……
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็อ้าปากค้าง
มู่หลงเหยียนยังไงก็คือมู่หลงเหยียน การกระทำนี้ พลังแบบนี้ มันแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่
ขณะที่พวกเราต่อสู้กับยายแก่อย่างไร้หนทางเอาชนะ แต่ในเวลานี้เธอกลับถูกการโบกมือของมู่หลงเหยียนจัดการ นี่มันจบลงง่ายดายเกินไปแล้ว
พลังของเธอ ช่างยากที่จะจินตนาการได้จริงๆ ตอนนี้พลังของมู่หลงเหยียนอยู่ในระดับไหนกันแน่
แน่นอน ถ้าพูดย้อนกลับไป
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดอายุครบ 300 ปีของมู่หลงเหยียนแล้ว หรือพูดอีกอย่างคือ มู่หลงเหยียนได้ฝึกฝนบำเพ็ญเพียรมากว่า 300 ปีแล้ว
เป็นธรรมดาที่พลัง 300 ปี จะยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้
ขณะที่ร่างของยายแก่หายไป แรงกดดันที่อยู่รอบๆก็หายไป ตอนนี้แรงกดดันที่อยู่ในตำบล ก็เริ่มหายไปทีละนิด
สายลมอันเยือกเย็นที่ออกมาจากร่างกายมู่หลงเหยียน ก็เริ่มลดลง พวกมันเริ่มไม่เย็นเข้ากระดูกเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ผมเห็นรอบๆกลับมาสงบอีกครั้ง ความรู้สึกที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ปรากฎขึ้น
แม้มู่หลงเหยียนจะปากคอเราะร้าย แต่ผีเมียตนนี้ก็ไม่เลวเลยจริงๆ เธอพึ่งพาได้สุดๆ
ผมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็พูดกับมู่หลงเหยียนด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ “ ขอบ ขอบใจเธอมากนะ ! ”
“ ขอบใจฉันทำไม ” จู่ๆมู่หลงเหยียนก็ยิ้มกว้าง เธอถามกลับทันที
“ ถ้าไม่ได้เธอช่วยไว้ คืนนี้พวกเราคงตายกลายเป็นผีเฝ้าที่นี่ไปแล้ว ! ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อึดอัดและขมขื่น
มู่หลงเหยียนพยักหน้าให้เล็กน้อย “ ก็จริง งั้นนายก็จำเอาไว้ให้ดี ว่านายติดหนี้ชีวิตฉันไว้กี่ครั้งแล้ว ต่อไป จะได้คืนให้ฉัน ! ”
“ คืน จะคืนยังไง ”
“ วันหน้าค่อยว่ากัน ! ตอนนี้ที่นี่ปลอดภัยแล้ว ฉันก็ควรไปแล้ว ”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็ประสานมือ เตรียมจะคลายเครื่องหมายออก
แต่ก่อนที่เธอจะท่องคาถา จู่ๆมู่หลงเหยียนก็หันมาพูดกับผมว่า “ เออใช่เจ้าห่วย ในเมื่อเพื่อนนายมองไม่เห็นฉัน งั้นก็ห้ามเอาเรื่องของฉันไปเล่าให้พวกเขาฟัง ทำแบบนี้พวกเขาจะได้ปลอดภัยหน่อย…… ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ไม่รอให้ผมตอบกลับ มู่หลงเหยียนก็ประสานมือ และพูดคำว่า “ คลาย ! ” ออกมาทันที
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ผมก็รู้สึกว่าเครื่องหมายหยินหยางที่อยู่บนข้อมือเริ่มร้อนขึ้นมานิดหน่อย
จากนั้น มู่หลงเหยียนที่อยู่ตรงหน้าของผมก็เป็นเหมือนกับสายลม ที่ลอยหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เพียงแค่กระพริบตาร่างของเธอก็กลายเป็นหมอกขาว และหายไปต่อหน้าต่อตา
และในเวลานี้สัญญาลักษณ์หยินหยางที่ข้อมือของผม ก็กลับมาเป็นไฝดำสองเม็ด ส่วนรอบๆตัวผมก็เริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง
ผมสูดหายใจเข้าออกสองสามครั้ง สงบสติอารมณ์สักพัก จากนั้นก็หมุนตัวเดินตรงไปที่พี่เฟิง หยางเฉ่ว และคนอื่นๆที่ยืนอยู่
“ โอเคแล้ว ยายแก่นั้นถูกจัดการแล้ว พวกนายลืมตาได้ ! ”
เสียงของผมเพิ่งเงียบลง ทันใดนั้นทุกคนก็ลืมตาขึ้น
พวกเขาเพิ่งลืมตา ก็หันไปมองรอบๆทันที
เมื่อเห็นยายแก่หายไปจริงๆ และรอบๆกลับมาสงบอีกครั้ง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ขณะนั้นพวกเขากลับเผยสีหน้าที่สงสัยออกมา พี่เฟิงเป็นคนแรกที่พูดกับผม “ เจ้าเด็กน้อย เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อกี้นายกำลังคุยกับใคร แล้วนายใช้วิธีอะไรจัดการกับยายแก่กันแน่ ”
ขณะที่พี่เฟิงพูด หยางเฉ่วก็เบิกตากว้าง จ้องผมด้วยความสงสัย ในใจของเธอน่าจะกำลังคิดแบบนี้อยู่
ส่วนทางด้านเสี่ยวม่านกับวูน่ากลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ในเวลานี้เมื่อเห็นยายแก่หายไป กำจัดตัวอันตรายได้แล้ว ก็ตื่นเต้นดีใจ เข้าไปกอดกันทันที
เมื่อผมได้ยินคำพูดนี้ กลับเงียบไปพักหนึ่ง
เพราะเรื่องของมู่หลงเหยียน ผมจะกล้าเปิดเผยได้ยังไง
แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ แม้พวกเขาจะมองไม่เห็น แต่ก็ได้ยินที่พวกเราคุยกันอยู่บ้าง
ผมคิดจะปิดเป็นความลับทั้งหมด มันก็คงเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าไม่พูดออกไปเลย มันก็คงดูไม่ดี
หลังจากคิดเรื่องนี้มาพักหนึ่ง ผมก็ตั้งสติ และพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ เทพคุ้มครองบ้าน…… ”