สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน – ตอนที่ 219 แผนธนูดอกเดียวได้นกอินทรีสามตัว

ใบหน้าของฮั่วซืออวี่ อนุปี้ และซูอวี้ ปรากฏท่าทีตกใจเล็กน้อย

ซูอวี้รีบวิ่งออกไป ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หยิบคบเพลิงมาหนึ่งอัน ฮั่วซืออวี่รับคบเพลิงไปและเดินนำทางเข้าไปก่อน

ซูอวี้ให้ซูจิ่นซีและอนุปี้เดินอยู่ตรงกลาง ส่วนตนเองเดินอยู่ด้านหน้าคอยป้องกัน

เส้นทางลับทั้งแคบและมืด ยิ่งเดินเข้าไปข้างใน ซูจิ่นซียิ่งได้ยินเสียงประหลาดบางอย่างชัดเจนขึ้น สุดท้ายก็เดินมาถึงห้องลับห้องหนึ่ง พวกเขาเข้าใกล้เสียงนั้นมากขึ้นแล้ว

ซูจิ่นซีค้นหาไปตามเสียง จนไปหยุดที่ตะกร้าใบหนึ่งซึ่งวางอยู่ด้านหน้า

ระบบถอนพิษเริ่มแสดงความผิดปกติ มันส่งสัญญาณให้ทราบว่ากำลังเข้าใกล้พิษ

“พระชายา กระหม่อมจัดการเอง! ”

ฮั่วซืออวี่เห็นซูจิ่นซีกำลังจะเปิดตะกร้าใบนั้น จึงแทรกตัวไปอยู่ด้านหน้าซูจิ่นซี

“ระวัง ข้างในมีงูพิษ”

งูพิษ?

ทุกคนต่างตกใจ

จวนสกุลซูเชี่ยวชาญทางการแพทย์ การนำงูมาใช้ทำยาสมุนไพรก็มีอยู่ไม่น้อย ทว่าเหตุใดถึงมีงูพิษ?

ซูจิ่นซีพูดพลางโปรยผงยาสีขาวบางส่วนลงไปบนตะกร้า เมื่อฮั่วซืออวี่เปิดตะกร้า ก็พบว่าข้างในมีงูพิษอยู่หลายตัวจริงๆ

อนุปี้ตกใจไม่น้อย ทว่ากลับแสดงอาการสงบนิ่ง

ซูจิ่นซีตั้งใจสังเกตปฏิกิริยาของอนุปี้เป็นพิเศษ นางเห็นอนุปี้เป็นเช่นนั้น ในใจยิ่งรู้สึกชื่นชมมากขึ้น

“เหตุใดที่นี่จึงมีงูพิษจำนวนมาก? หรือว่าอนุซุนจะเกี่ยวข้องกับเหตุวางยาพิษในค่ายทหารครั้งนี้จริงๆ ? ” ซูอวี้พูดสิ่งที่ทุกคนต่างคาดเดาอยู่ในใจออกมา

“มีโอกาสแปดเก้าส่วนที่จะเป็นนาง ทว่ายังไม่สามารถตัดผู้สมรู้ร่วมคิดที่เหลือของนางออกไปได้”

ซูจิ่นซีไม่เคยลืม เหล่าทูตซ้ายชุดดำที่สวมหน้ากากก่อนหน้านี้

คนผู้นั้นร่างกายสูงใหญ่กำยำ ไม่เหมือนสตรีที่ปลอมเป็นชาย ดังนั้นอนุซุนกับทูตซ้ายชุดดำจึงเป็นคนสองคน

“เช่นนั้น ก่อนที่อนุซุนจะหลบหนี นางไม่ทันได้นำงูพิษเหล่านี้ไปด้วย จึงทิ้งพวกมันเอาไว้ ”

ฮั่วซืออวี่คาดเดาไม่ผิด ซูจิ่นซีจึงไม่ได้คัดค้าน

“เป็นกระหม่อมที่แหวกหญ้าให้งูตื่นเอง” ฮั่วซืออวี่ยังคงตำหนิตนเองเหมือนเดิม

ซูจิ่นซีไม่ได้พูดอันใด

อนุปี้กลับพูดว่า “แม่ทัพฮั่วอย่าได้ตำหนิตนเองมากเกินไป โชคดีที่ครั้งนี้ท่านแม่ทัพเฉลียวฉลาด ตรวจพบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังมีความเกี่ยวพันกับจวนสกุลซู จึงสามารถเปิดหน้ากากของอนุซุนได้ มิฉะนั้นหากอนุซุนยังแฝงตัวอยู่ในจวนสกุลซู อาจเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร! ”

อย่างน้อยในสถานการณ์ปัจจุบัน พวกนางยังพอมีเวลาให้ควบคุมสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นอนุซุนเพียงผู้เดียว อาจทำร้ายจวนสกุลซูทั้งหมด

ภายในห้องลับ นอกจากงูพิษที่เก็บอยู่ในตะกร้าแล้ว ยังมีชั้นวางยาและลิ้นชักมากมาย ซูจิ่นซีใช้ระบบถอนพิษตรวจสอบครั้งหนึ่ง พบว่าก่อนหน้านั้นยาพิษถูกวางไว้ข้างใน ทว่าตอนนี้ยาพิษข้างในถูกอนุซุนนำออกไปด้วยตอนที่นางหลบหนีไป

“ออกไปก่อนเถิด! ” ซูจิ่นซีกล่าว

แม้ที่นี่จะมียาพิษไม่มาก ทว่าก็เคยเป็นที่เก็บยาพิษจำนวนมากมาก่อน หากอยู่ในที่แบบนี้นานเกินไป ก็ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

“พระชายา ในเวลานี้ควรทำเช่นไร พระชายาโปรดชี้แนะ” ฮั่วซืออวี่ถามซูจิ่นซี

“หลังจากที่ท่านกลับไป ให้รายงานต่อไท่จื่อตามความจริง! ”

“พระชายา? ”

ฮั่วซืออวี่ไม่เข้าใจอย่างมาก หากรายงานไท่จื่อในตอนนี้ เช่นนั้นจวนสกุลซูก็จะตกอยู่ในอันตราย

ตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ พระองค์ต้องไม่ปล่อยจวนสกุลซูไว้แน่นอน ไม่ว่าอย่างไร เพื่อจัดการกับจวนโยวอ๋อง พระองค์ต้องเริ่มจัดการกับจวนสกุลซูก่อน

“ไม่มีปัญหา! ” ซูจิ่นซีกล่าว “เรื่องนี้ช้าเร็วก็ต้องเปิดเผยต่อทุกคน เร็วไปก้าวหนึ่งยิ่งควบคุมง่ายกว่าช้าไปก้าวหนึ่ง หากช้าเกินไป กระทั่งคนของเยี่ยเซินหรือฮ่องเต้ตรวจพบอันใดเข้า เช่นนั้นจวนสกุลซูไม่เพียงต้องรับโทษติดร่างแหไปด้วย เดาว่าอาจถูกเพิ่มโทษ ฐานปกปิดความผิดของตนเอง”

ฮั่วซืออวี่คิดอย่างรอบคอบ รู้สึกว่าสิ่งที่ซูจิ่นซีพูดมามีเหตุผล ทว่าเขายังกังวลกับจวนสกุลซู กังวลว่าซูจิ่นซีจะถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“จวนสกุลซูทางนี้ พระชายาได้วางแผนอันใดไว้หรือไม่? ”

ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นราวกับมีแผนการอยู่ในใจ

“อนุปี้ อวี้เอ๋อร์ คืนวันนี้พวกเจ้าปล่อยข่าวออกไปว่า ใบสั่งยาถอนพิษในค่ายทหารก่อนหน้านี้ อนุซุนเป็นผู้มอบให้ นอกจากนั้นอนุซุนยังได้มอบรายชื่อสมาชิกจำนวนมากของสำนักห้าพิษแห่งเมืองไหวเจียงที่แฝงตัวอยู่ในแคว้นจงหนิง รวมทั้งทูตซ้ายสำนักห้าพิษและผู้คุมกฎซิ่งที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ทว่าในวันนี้อนุซุนถูกคนของสำนักห้าพิษจับตัวไป จวนสกุลซูและจวนโยวอ๋องต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นยุทธภพหรือราชสำนัก หากมีผู้ใดสามารถช่วยอนุซุนออกมาจากเงื้อมมือของสำนักห้าพิษได้ ข้ากับท่านอ๋องจะตอบแทนอย่างงาม”

เมื่ออนุปี้ ซูอวี้ และฮั่วซืออวี่ได้ฟังแล้ว ดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นมาในทันใด

“แผนการนี้ของพระชายายอดเยี่ยมยิ่งนัก นี่เป็นแผนหินก้อนเดียวได้นกสองตัว ทั้งยังได้อธิบายว่าใบสั่งยาถอนพิษที่ใช้ก่อนหน้านี้ อนุซุนเป็นผู้มอบให้ ฝ่าบาทและชาวบ้านทั่วไปไม่อาจอาศัยความผิดของอนุซุนมาจัดการจวนสกุลซูและโยวอ๋องได้ นอกจากนั้น ไม่ว่าครั้งนี้อนุซุนจะหลบหนีไปและร่วมมือกับสายลับที่เหลือของสำนักห้าพิษได้หรือไม่นั้น ล้วนไม่มีความสำคัญอันใด บางทีพวกเราไม่จำเป็นต้องส่งคนไปตามจับอนุซุนให้เสียแรง อนุซุนก็คงถูกคนของสำนักห้าพิษที่เหลือคิดบัญชีเป็นแน่”

ฮั่วซืออวี่มองซูจิ่นซีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมเลื่อมใส อีกทั้งในเบื้องลึกของจิตใจยังพยายามแอบซ่อนความรู้สึกลึกซึ้ง

ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่พูดอันใด

อนุปี้พูดด้วยท่าทางสุขุม “ นี่มันมากกว่าอุบายหินก้อนเดียวได้นกสองตัว หากใช้ได้ผลดีก็จะเป็นแผนธนูดอกเดียวได้นกอินทรีสามตัว ในข่าวที่แพร่ออกไป อธิบายว่าอนุซุนได้เปิดเผยสถานะของทูตซ้ายและผู้คุมกฎซิ่งแห่งสำนักห้าพิษแก่พระชายา เมื่อก่อนผู้คุมกฎซิ่งก็คือซูเมิ่งเหยา ตอนนี้นางถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวงแล้ว เช่นนั้นก็เหลือทูตซ้ายแห่งสำนักห้าพิษเพียงผู้เดียว หากทูตซ้ายได้ฟังข่าวนี้แล้ว เขาจะต้องมาหาพระชายาเพื่อฆ่าปิดปาก ถึงเวลานั้นพวกเราก็เหวี่ยงแหจับปลา เตรียมยอดฝีมือแอบซุ่มโจมตีไว้ล่วงหน้า บางทียังอาจจับตัวทูตซ้ายชุดดำแห่งสำนักห้าพิษได้อีก”

อนุปี้ไม่ทราบว่าซูจิ่นซีเคยพบทูตซ้ายชุดดำมาก่อน ทั้งยังไม่ทราบว่าเหตุใดซูจิ่นซีจึงเอ่ยถึงเพียงผู้คุมกฎซิ่งและทูตซ้ายแห่งสำนักห้าพิษเท่านั้น แต่นางรู้สึกว่าแผนการนี้ใช้ได้ดีเยี่ยมจริงๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ที่อนุปี้พูดอธิบาย ซูจิ่นซีได้เตรียมการเรื่องที่ต้องทำต่อจากนี้ไว้แล้ว คาดไม่ถึงว่าอนุปี้ผู้เป็นสตรีที่มีจิตใจดีงาม มีคุณธรรมสูงส่ง กลับมองได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าผู้อื่นยิ่งนัก

ในใจซูจิ่นซียิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น ตอนนั้นที่นางเลือกอนุปี้เป็นผู้สืบทอดอำนาจในจวนสกุลซู นางเลือกไม่ผิดจริงๆ

หลังจากฟังการวิเคราะห์ของอนุปี้ ฮั่วซืออวี่กับซูอวี้ต่างขมวดคิ้ว

“พี่จิ่นซี เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านอาจเป็นอันตรายได้ใช่หรือไม่? พวกเราลองหาวิธีอื่นเถิด! ”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ พระชายา! วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังมีอีกหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้” ฮั่วซืออวี่รู้สึกทึ่งกับแผนการของซูจิ่นซี ทว่ายังอดกังวลใจไม่ได้

“วางใจได้ มีท่านอ๋องอยู่ ข้าไม่มีทางเป็นอันใด”

นางไม่คิดจะจัดการเพียงลำพัง หากไม่ใช้งานสามีที่ร้ายกาจอย่างเยี่ยโยวเหยา แล้วให้นางไปจัดการเองผู้เดียว จะไม่เป็นการรนหาที่หรอกหรือ?

เมื่อได้ยินชื่อของเยี่ยโยวเหยา ซูอวี้และอนุปี้ก็วางใจไปมาก

“มีท่านอ๋องอยู่ พระชายาไม่มีทางเกิดเรื่องอันใดแน่นอน” ฮั่วซืออวี่แม้ปากจะยิ้ม ทว่าอารมณ์ภายใต้แววตากลับเศร้าเสียใจเล็กน้อย

ความจริงในเวลานั้นเยี่ยโยวเหยาไม่ได้ไปที่วิหารวิญญาณ เมื่อกลับมาถึงจวน เขาใช้ข้ออ้างออกไปทำธุระที่วิหารวิญญาณปิดบังซูจิ่นซีเพื่อไปพบคนสำคัญผู้หนึ่ง คนผู้นี้ไม่อาจให้ซูจิ่นซีล่วงรู้ได้

เขาไปพบผู้ใด?

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี “ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด” ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ” แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา “พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…” ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ” ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset