ซูจิ่นซีไม่ทันรอให้เยี่ยโยวเหยาเอ่ยปาก ระบบถอนพิษก็ส่งเสียงเตือนขึ้นอีกครั้งทันที ซูจิ่นซีรีบมองลงไปที่ก้นเหว
เห็นเพียงหมอกบางๆ ท่ามกลางหมู่เมฆ ก๊าซพิษกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นมา
ก๊าซพิษและหมอกควันผสมรวมเข้าด้วยกัน หากไม่ใช่เพราะระบบถอนพิษของซูจิ่นซีตรวจพบ คงไม่มีผู้ใดแยกแยะได้ว่าเป็นก๊าซพิษ
“เยี่ยโยวเหยา มีก๊าซพิษ”
เมื่อได้ยินเสียงเตือนของซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยาจึงออกแรงโอบเอวซูจิ่นซีเล็กน้อย ทว่าทั้งสองไม่มีผู้ใดถอยกลับ
ซูจิ่นซีเคยรับมือกับก๊าซพิษตอนที่อยู่ในหุบเขาร้อยบุปผามาก่อน แม้ก๊าซพิษในที่แห่งนี้จะมีขนาดใหญ่และมีปริมาณมากกว่าที่หุบเขาร้อยบุปผา ทว่าหลักในการสร้างก๊าซพิษไม่แตกต่างกันนัก และไม่ได้ใช้ยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรง
ซูจิ่นซีนำสมุนไพรที่ระบบถอนพิษได้เตรียมไว้ให้แล้วมอบให้เยี่ยโยวเหยาทานหนึ่งเม็ด และนางเองก็ทานหนึ่งเม็ด จากนั้นซูจิ่นซีก็นำขวดที่มีรูปร่างประหลาดมากขวดหนึ่งออกมาจากระบบถอนพิษ ขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนเข้าใกล้ก๊าซพิษ ซูจิ่นซีก็พ่นน้ำยาที่อยู่ด้านในขวดใส่ตนเองและเยี่ยโยวเหยา
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขาเคลื่อนผ่านก๊าซพิษมาแล้ว ก๊าซพิษนั้นเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบน ส่วนพวกเขาเคลื่อนที่ลงด้านล่าง เพียงผ่านก๊าซพิษไปได้ ด่านนี้ก็นับว่าผ่านแล้ว
เวลานี้ พวกเขาเหาะจากยอดหน้าผาลงมาไกลมากแล้ว เยี่ยโยวเหยาต้องอาศัยพลังจากหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา
ซูจิ่นซีเงยหน้ามองเยี่ยโยวเหยา เยี่ยโยวเหยาก็ก้มหน้ามองซูจิ่นซีเช่นกัน ขณะที่ดวงตาทั้งสองคู่สบกัน ภายในใจของซูจิ่นซีพลันสั่นไหวขึ้นมา ขณะเดียวกัน ซูจิ่นซีก็จับภาพดวงตาที่เปล่งประกายอย่างแปลกประหลาดคู่นั้นของเยี่ยโยวเหยาได้
ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ แก้มของซูจิ่นซีก็ร้อนผ่าวและแดงก่ำ
“ซูจิ่นซี เจ้าทำได้ดีมาก! ” เยี่ยโยวเหยาพูดชมเชย
ซูจิ่นซีกัดริมฝีปากแน่น ไม่ได้พูดอันใด
“พวกเราไปกันต่อ! ” เยี่ยโยวเหยาบอกซูจิ่นซีว่า พวกเขาต้องเหาะลงไปที่ก้นเหวต่อ ซูจิ่นซีจึงเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ และเอื้อมมือไปกอดเอวของเยี่ยโยวเหยาอย่างแน่นหนา
พวกเขายังคงเหาะลงไปด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างทาง พวกเขาไม่พบอุปสรรคใดๆ อีก
เยี่ยโยวเหยากำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้ก้นเหว ทันใดนั้น ระบบถอนพิษก็ตรวจพบว่าที่ก้นเหวมีสารพิษปริมาณมาก
ในนั้นยังมีหนูจำนวนมากซึ่งซูจิ่นซีกลัวที่สุด
สำหรับหนู แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีกลัวถึงระดับที่เรียกได้ว่าสยองสุดขีด
เมื่อนึกถึงหนูตัวนุ่มๆ หัวแหลมๆ และหางยาวๆ ซูจิ่นซีก็อดเอื้อมมือไปจับเสื้อของเยี่ยโยวเหยาไม่ได้
“ข้างล่างคือสิ่งใด? ” เยี่ยโยวเหยาพบว่าซูจิ่นซีมีท่าทีแปลกๆ จึงเอ่ยถามขึ้น
“เป็น… ”
ซูจิ่นซียังไม่ทันได้พูดออกมา แววตาของเยี่ยโยวเหยาก็เปล่งประกายในทันที เขาโอบเอวซูจิ่นซีพาถอยไปข้างหน้าผา ขณะเดียวกันก็ใช้พลังตวัดกระบี่ออกไป
“ว้าย… ”
ซูจิ่นซีอดร้องตะโกนออกมาไม่ได้ นางมุดศีรษะเข้าไปในอ้อมแขนของเยี่ยโยวเหยา มือก็กำเสื้อของเยี่ยโยวเหยาไว้แน่น แม้แต่เล็บก็หยิกไปบนผิวหนังของเยี่ยโยวเหยา
น่ากลัวเกินไปแล้ว เป็นหนูบิน…
ซูจิ่นซีกลัวจนตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยโยวเหยา
นางไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน สิ่งที่นางกลัวที่สุดคือหนู แต่ซูจิ่นซีไม่คาดคิดเลยว่า หนูจะมีปีกยาวเพิ่มขึ้นมาอีก
“ซูจิ่นซี ใช้ยาพิษ… ”
หนูบินพ่นเมือกพิษออกมาเป็นระยะ และกระพือปีกโจมตีเยี่ยโยวเหยากับซูจิ่นซีอย่างต่อเนื่อง
แม้เยี่ยโยวเหยาจะสามารถสังหารหนูบินได้ ทว่าเขาไม่รู้วิชาพิษ ทั้งยังไม่แน่ใจว่า สิ่งที่หนูบินพ่นออกมานั้นมีพิษหรือไม่
ซูจิ่นซีในตอนนี้ ไม่สามารถใส่ใจสิ่งเหล่านี้ได้
ตอนที่เห็นหนูบิน ทุกอย่างที่ปรากฏขึ้นในสมองของซูจิ่นซีคือ ดวงตากลมๆ ของหนูบินและหัวแหลมๆ ทั้งยังมีขนนุ่มๆ บนตัวของมันอีก
สมองของซูจิ่นซีลืมแล้วซึ่งหน้าที่ นางไม่สนใจเสียงเตือนของระบบถอนพิษ
“เยี่ยโยวเหยา… ”
ในเวลานี้ เยี่ยโยวเหยาเป็นฟางเส้นสุดท้ายของนาง แม้แต่มือของนางก็ย้ายไปอยู่ที่คอของเยี่ยโยวเหยา และกอดคอของเขาแน่น
มาจนถึงขั้นนี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เยี่ยโยวเหยาจะมองไม่ออกว่า ซูจิ่นซีกลัวหนูบินมากทีเดียว
แววตาของเยี่ยโยวเหยาปรากฏความเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง และไม่บีบบังคับซูจิ่นซีอีก เขาตวัดกระบี่รับมือกับหนูบินเพียงผู้เดียว
แม้หนูบินตัวนั้นจะร้ายกาจ ทว่าโชคดีที่มันมีเพียงตัวเดียว ใช้เวลาไม่ถึงกาน้ำชาเดือด เยี่ยโยวเหยาก็สามารถจัดการมันได้เรียบร้อย
“ซูจิ่นซี ไม่เป็นอันใดแล้ว! ” เยี่ยโยวเหยาพูด
ซูจิ่นซีไม่ได้ยินอันใดทั้งนั้น นางยังกอดเยี่ยโยวเหยาแน่น เนื้อตัวยังคงสั่นเทา
“ไม่เป็นอันใดแล้ว” เยี่ยโยวเหยาพูดอีกครั้ง ทว่าซูจิ่นซียังไม่มีการตอบสนอง
เยี่ยโยวเหยาจึงไม่เรียกนางอีก ทำเพียงประคองนางให้เคลื่อนลงไปด้านล่างต่อ
ขณะที่ใกล้จะถึงพื้น เยี่ยโยวเหยาก็ขมวดคิ้วแน่น
คาดไม่ถึงว่าบนพื้นจะเต็มไปด้วยหนู เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาตอบโต้จากความหวาดกลัวของซูจิ่นซีตอนที่เห็นหนูบินก่อนหน้านี้ เยี่ยโยวเหยาจึงกอดซูจิ่นซีและเคลื่อนที่กลับขึ้นไปด้านบนทันที
ก่อนหน้านี้ ระหว่างทางที่พวกเขาลงมา เยี่ยโยวเหยาจำได้ว่าเห็นกิ่งไม้ยื่นออกมาจำนวนมาก
เยี่ยโยวเหยาหากิ่งไม้ที่แข็งแรงกิ่งหนึ่งเพื่อหยุดพัก
เดิมทีเยี่ยโยวเหยาต้องการดันซูจิ่นซีออก ทว่ามือที่เคลื่อนไปยังไหล่ของซูจิ่นซีกลับหยุดชะงักลง เขาตบไปบนหลังของซูจิ่นซีอย่างแผ่วเบาแทน “จิ่นซี? ”
ตัวของซูจิ่นซียังคงสั่นเทา และไม่มีการตอบสนอง “จิ่นซี ไม่เป็นอันใดแล้ว! ” เยี่ยโยวเหยาพูด
ซูจิ่นซีจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
เยี่ยโยวเหยาเห็นใบหน้าของซูจิ่นซีที่ตกใจกลัวจนขาวซีดในวินาทีนั้น ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาก็เผยให้เห็นถึงความรักใคร่เอ็นดู
“ไม่เป็นอันใดแล้ว หนูบินตัวนั้นข้าจัดการไปแล้ว”
“เยี่ยโยวเหยา! ” ซูจิ่นซีกอดคอเยี่ยโยวเหยาไว้แน่น “ด้านล่าง… ด้านล่างมีหนูจำนวนมาก ท่าน… อย่าทิ้งหม่อมฉัน… ”
เยี่ยโยวเหยาหยุดชะงักแล้วพูดว่า “ข้าไม่ทิ้งเจ้า! ”
ซูจิ่นซีไม่ได้พูดอันใด ทว่าแววตากลับเต็มไปด้วยความกลัวและความตื่นตระหนก เยี่ยโยวเหยายังพบว่าขาของซูจิ่นซีสั่นเล็กน้อย
“มอบยาที่ใช้รับมือพวกมันให้ข้า”
ซูจิ่นซีนำยาห่อหนึ่งออกมาจากระบบถอนพิษ และมอบมันให้เยี่ยโยวเหยา
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะลงไปจัดการพวกมัน จากนั้นค่อยมารับเจ้า”
“เยี่ยโยวเหยา ท่านอย่าทิ้งหม่อมฉันไป”
ซูจิ่นซีไม่รู้ว่า หนูที่อยู่ด้านล่างมีสภาพเช่นไร นางนึกว่าทั้งหมดจะเหมือนอย่างตัวเมื่อครู่ที่มีปีกยาว และสามารถบินได้
หากพวกมันเกิดหลุดรอดบินขึ้นมา นางไม่ตายหรอกหรือ?
ซูจิ่นซีกอดคอเยี่ยโยวเหยาไว้แน่น ให้ตายก็ไม่ยอมปล่อย ดวงตาแสดงความอ้อนวอนเล็กน้อย “เยี่ยโยวเหยา หม่อมฉันขอร้องท่าน อย่าทิ้งหม่อมฉันไป”
แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีไม่รู้เลยว่า ท่าทางของนางในตอนนี้มีเสน่ห์มากเพียงใด ระยะห่างและพฤติกรรมของพวกเขาแสดงถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษมาก
“ตกลง ข้าจะไม่ไปจากเจ้า”
ขณะที่พูด เยี่ยโยวเหยาก็ดึงมือขวาของซูจิ่นซีออกมาและปิดอาคมกำไลปี่อั้น จากนั้นก็จัดแจงเสื้อคลุมของซูจิ่นซีใหม่อีกครั้ง พลางห่อซูจิ่นซีไว้อย่างแน่นหนา
“อีกสักครู่ หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ไม่ต้องดู จำไว้ ข้าอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ”
ซูจิ่นซีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่า แท้จริงแล้วในตอนนี้ ระยะห่างระหว่างหัวใจของพวกเขา ใกล้กันมากเพียงใด
นี่คือสิ่งที่ซูจิ่นซีต้องการให้เป็นมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ?
ซูจิ่นซีมักครุ่นคิดอยู่เสมอว่า นางมองเยี่ยโยวเหยาไม่ออก นางคิดอยู่เสมอว่า ชีวิตของเยี่ยโยวเหยาปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกหนาทึบ ทว่าในเวลานี้ หัวใจของเยี่ยโยวเหยาและหัวใจของนางกลับใกล้ชิดแนบแน่นเข้าด้วยกัน แต่ซูจิ่นซีกลับไม่รู้สึกถึงอารมณ์นั้น