สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1005 สาวใช้ตัวแสบ 909

ตอนที่ 1005 สาวใช้ตัวแสบ 909
ตามฝีเท้าเย่เชินหลินมาถึงห้องรับแขกตระกูลเย่ อีกฝั่งของประตู แพทย์สองสามคนกำลังช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้เย่เฮ่าหรันอยู่
ก่อนงานเลี้ยง เย่เชินหลินเรียกแพทย์มาที่บ้าน และนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดมาด้วย เขาคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้ทั้งหมด
สายตาแต่ละคนมองเข้าไปด้านใน รอคอยข่าวสารอย่างทรมาน
เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็หยิบขึ้นมาดู โทรมาจากหลี่เหอไท้ที่อยู่ข้ามทวีป
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเขาอยู่ต่างประเทศเป็นอย่างไรกันบ้าง เซี่ยชีหรั่นขยับฝีเท้า เดินออกไปอย่างเงียบๆ
“พี่เหอไท้ พวกพี่สบายดีไหม” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างกังวล เธอพูดอย่างระมัดระวังอย่างมาก
“สบายดีมาก ชีหรั่นแล้วเธอล่ะ ช่วงนี้สบายดีไหม” หลี่เหอไท้ถามอย่างสุภาพบุรุษ น้ำเสียงเขาอ่อนโยนเช่นเคย
“พี่เหอไท้ ฉันก็โอเค แต่ตอนนี้ทางตระกูลเย่ไม่ค่อยดีเลย” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความกังวล เธอเห็นว่าหลี่เหอไท้เป็นคนที่เธอระบายความในใจตลอด รู้จักหลี่เหอไท้จนถึงตอนนี้ เขาเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ไม่เคยล้ำเส้นเลยสักนิด หลี่เหอไท้แม้จะชอบเซี่ยชีหรั่นแต่ก็พูดอย่างมีชั้นเชิง เขาแค่บอกเซี่ยชีหรั่นว่าจะหาผู้หญิงที่อ่อนโยนเหมือนเธอ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ” หลี่เหอไท้ถามอย่างเป็นห่วง ได้ยินคำพูดน่ากังวลของเซี่ยชีหรั่น เขาก็รู้สึกว่าอารมณ์เธอไม่ดีอย่างมาก แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของคนอื่นแล้ว ถึงเธอจะมีลูกแล้ว หลี่เหอไท้ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเธอ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เธอก็คือน้องสาวของเขาไม่มีวันเปลี่ยนอยู่เสมอ
“พ่อฉัน คือประธานเย่เป็นลมไปแล้ว วันนี้เสี่ยวห้านกับจิ่วจิ่วหมั้นกัน ไม่รู้ทำไมเขาถึงเป็นลมไป” เซี่ยชีหรั่นพูดพลางส่ายศีรษะ เดิมทีเธอเจอเย่เฮ่าหรันสองครั้งก็รู้สึกมีบางอย่างแปลกๆ แต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก
หลี่เหอไท้พอได้ยินข่าวนี้เขาก็อึ้ง ตอนนี้ทำไมทุกคนถึงได้ป่วย โดยเฉพาะอาการป่วยของหลี่หมิงจุ้นที่แย่ลงอย่างฉับพลัน คนร้ายนั้นก็ยังไม่ถูกจับ หลี่เหอไท้ขมวดคิ้ว รอหลี่หมิงจุ้นดีขึ้นก่อน เขาจะกลับประเทศไปตามหาวายร้ายที่น่ารังเกียจคนนี้ ตอนนี้เขาไม่ได้มีเวลามากพอไปใส่ใจเรื่องนี้ ทำได้แค่ระวังเท่านั้น
“ชีหรั่นไม่ต้องกังวลนะ ไม่เป็นอะไรหรอก” หลี่เหอไท้ปลอบเซี่ยชีหรั่น ประโยคนี้ไม่รู้ว่ากำลังปลอบเธอหรือปลอบตัวเอง ตอนนี้หลี่หมิงจุ้นยังกลับประเทศไม่ได้
“พี่เหอไท้ พ่อเป็นไงบ้าง” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยปากถาม เธอตื่นตระหนกจริงๆ จนลืมถามสถานการณ์ของพ่อ
“อาการป่วยของพ่อเธอเริ่มคงที่แล้ว แต่ฉันแนะนำว่าให้เข้ารับการรักษาที่นี่ เราจะให้ร่างกายเขาฟื้นตัวช้าๆ และอาการป่วยเขาก็จะดีขึ้น” นี่คือสิ่งที่แพทย์สวมแว่นโตมีหนวดเคราพูด เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้และมีชื่อเสียงระดับสากล
พวกเขายังกลับประเทศไม่ได้ จ้าวเหวินอิงและเขาอยากให้หลี่หมิงจุ้นอาการป่วยดีขึ้นก่อนแล้วค่อยกลับไป
“พ่อไม่เป็นอะไร ชีหรั่น เพื่อบรรเทาอาการป่วยของพ่อ เรายังกลับไม่ได้ตอนนี้ เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ” หลี่เหอไท้พูดอย่างเป็นห่วง หลังจากพวกเขาไปแล้ว ชีหรั่นก็อยู่ประเทศจีนเพียงลำพัง พูดถึงคนในครอบครัว จงหวีฉวนคือคนที่สนิทกับเธอมากที่สุด แต่หลี่เหอไท้ส่ายศีรษะหลุดยิ้มขึ้นมา ถ้าเขาไม่ใส่ร้ายชีหรั่นก็คงจะดี
“พี่เหอไท้ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี” ชีหรั่นยิ้มพูด เธอดีใจจริงๆ ที่มีพี่ชายแบบหลี่เหอไท้
เย่เฮ่าหรันยืนมองสองคนคุยโทรศัพท์กันอยู่ไม่ไกล เสียงอ่อนโยนของหลี่เหอไท้ทำให้เขาอิจฉา หรือว่าเขาดูแลชีหรั่นไม่ดีเหรอ? เขาสัญญาต่อหน้าหลี่เหอไท้ว่าจะดูแลชีหรั่นให้ดี เขายังเห็นร่องรอยเหรอ? ไร้ความปรานีเกินไปแล้ว
เย่เชินหลินเดินไปหยิบโทรศัพท์เซี่ยชีหรั่น พูดอย่างน่ากลัว “ตอนนี้ชีหรั่นมีธุระ ค่อยคุยกัน” ตอนแรกเย่เชินหลินที่อยากวางสายนึกถึงเซี่ยชีหรั่นที่คุยกับหลี่เหอไท้ เธอคงอยากคุยกับจ้าวเหวินอิงสักสองประโยค
“แม่ล่ะ? ” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่น ยัยตัวเล็กจะขอบคุณฉันอย่างไร?
เซี่ยชีหรั่นมองโทรศัพท์ที่โดนเอาไปอย่างว่างเปล่า ในมือว่างเปล่า ประโยคนี้ของเย่เชินหลินทำให้หัวใจเธอเต็มไปด้วยความสุข
เมื่อหลี่เหอไท้ได้ยินเสียงเย่เชินหลินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากนัก เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “เย่เชินหลิน นายต้องจำสัญญาที่นายให้ไว้นะ ฉันจะเอาโทรศัพท์ให้แม่เดี๋ยวนี้”
หลี่เหอไท้เป็นคนใจดีมาโดยตลอด เคร่งขรึมแบบนี้เป็นครั้งแรก
เย่เชินหลินเอาโทรศัพท์ให้เซี่ยชีหรั่น ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่
อาการป่วยของเย่เฮ่าหรันยังไม่ได้รายงานชั่วคราว นักข่าวเหล่านั้นก็ถูกไล่ไปแล้ว โชคดีที่พวกเขาไปแล้ว ถ้ายังไม่ได้ไปแล้วเห็นฉากที่เย่เฮ่าหรันเป็นลม นี่จะเป็นข่าวเด่น พวกเขาจะไม่ดีใจเหรอ? มี
ถึงแม้ว่าจะไม่มีนักข่าวเผยแพร่เหตุการณ์นี้ เหตุการณ์ของเย่เฮ่าหรันก็ยังมีคนรู้เยอะมาก เช่นจงหวีฉวน
จงหวีฉวนที่จะรู้ข่าวนี้ก็ต้องขอบคุณที่ตัวเองมีลูกสาวที่แสนดี
จงหยุนซางรีบวิ่งกลับบ้าน จงหวีฉวนบอกเธอว่าถ้าไม่มีธุระก็ไป จงหยุนซางโกรธและขังตัวเองไว้ในห้อง เพราะในใจกังวลอย่างมาก ลืมปิดประตู
เยว่มู่หลานเห็นสีหน้าลูกสาวไม่ดีก็เดินตามจงหยุนซางไป
“ลี่หมิน ฉันหยุนซางนะ อาการคุณลุงเย่เป็นไงบ้าง? ” ประโยคนี้เข้าหูเยว่มู่หลานโดยไม่พลาดสักคำ เธอชะงักที่จะผลักประตูเข้าไป เยว่มู่หลานเป็นห่วงจงหยุนซาง เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ด้วยประโยคนี้เธอรู้ว่าหยุนซางไม่เป็นอะไร คนที่เป็นคือเย่เฮ่าหรัน เย่เฮ่าหรันและจงหวีฉวนต่อสู้กันเพื่อตำแหน่งมาโดยตลอด ในปีที่ผ่านมานี้ก็แอบสู้กันอยู่ตลอด
“ยังไม่ฟื้นเหรอ? ลี่หมิน ถ้าคุณลุงเย่ฟื้นแล้วโทรหาฉันด้วยนะ” คำพูดของจงหยุนซางทำให้เยว่มู่หลานตกใจอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับเย่เฮ่าหรันกันแน่? นี่เป็นข่าวที่ดี
เธอเดินไปข้างล่าง ปากมีแต่ยิ้ม ถ้าเย่เฮ่าหรันป่วยและสู้กับจงหวีฉวนไม่ได้ เขาก็จะไม่มีข้ออ้างในการไปเจอเซี่ยชีหรั่นแล้ว คิดถึงตรงนี้เยว่มู่หลานจะไม่ดีใจได้เหรอ? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอจะตื่นมาพร้อมรอยยิ้ม เจริญก็จะเจริญไปด้วยกัน ตกต่ำก็จะตกต่ำไปด้วยกัน เธอเข้าใจเหตุผลนี้ ถ้าจงหวีฉวนได้รับตำแหน่งนั้นเธอก็จะลอยขึ้นสูงตาม สถานะก็จะไม่เหมือนเดิม
“หยุนซางไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ” จงหวีฉวนชอบจงหยุนซางมาตลอด เขาเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง และเขาก็ดีใจมากที่คำถามเขาคุ้มค่า
เยว่มู่หลานแค่ยิ้มไม่ได้ตอบคำถามจงหวีฉวน
จงหวีฉวนมองเยว่มู่หลานอย่างสงสัย อะไรที่ทำให้เธอมีความสุขได้? จงหวีฉวนมองขึ้นไปข้างบน ทั้งๆ ที่หยุนซางเข้าไปอย่างโกรธเกรี้ยว เธอเป็นห่วงลูกสาวผู้เป็นที่รักของตัวเองอยู่เสมอ
“ฉันจะบอกหนึ่งข่าวดีกับคุณ” เยว่มู่หลานพูดอย่างลึกลับ
“จะมีข่าวดีอะไรกัน” จงหวีฉวนพูดขึ้นมาทันที เขาคาดหวังว่าเยว่มู่หลานจะพูดสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นข่าวดีได้
“คุณไม่เชื่อเหรอ? เย่เฮ่าหรันป่วยแล้วล่ะ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย” เยว่มู่หลานพูดจบก็ยิ้มอย่างภูมิใจขึ้นมา
“จริงเหรอ? ” จงหวีฉวนมองเยว่มู่หลานอย่างไม่อยากจะเชื่อ อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมไม่ไหวแล้ว
“หยุนซางพูด”
“หยุนซางจะพูดกับคุณได้ไง” จงหวีฉวนไม่ได้สงสัยความสัมพันธ์ของจงหยุนซางและเยว่มู่หลาน แต่เขามั่นใจมากๆ ว่าจงหยุนซางคัดค้านการต่อสู้ของเขากับเย่เฮ่าหรันมาโดยตลอด ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเย่เฮ่าหรันเธอจะไม่บอกพวกเขาหรอก
เยว่มู่หลานจ้องเขม็งจงหวีฉวนแล้วพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “หยุนซางโทรศัพท์ ฉันได้ยินน่ะ”
จงหวีฉวนลุกขึ้นยืนทันที เขาดีใจเดินวนตลอดเวลา ถ้าเย่เฮ่าหรันป่วยก็จะไม่สามารถยืนหยัดการเลือกตั้งได้ใช่ไหม? จงหวีฉวนยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข
“เย่เชินหลินล่ะ? ” จงหวีฉวนหันศีรษะไปอย่างไม่พอใจ เขานึกถึงเย่เชินหลินหมาป่าตัวโตนี้ที่ยากจะจัดการ แค่มันยอมที่จะช่วยเย่เฮ่าหรัน ถึงเย่เฮ่าหรันจะป่วยก็คงไม่ได้รับผลกระทบ
“ฉันได้ยินสองประโยคนี้ก็ลงมาเลย” เยว่มู่หลานตอบดังที่กล่าว
“เป็นข่าวดีจริงๆ แต่เย่เชินหลินมันแข็งแกร่งเกินไปนอกจากว่าจะโหดร้ายพอ ถ้าอยากจัดการมันต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าไม่ระวังก็จะล้มเหลว ฉันต้องคิดวิธีให้ดี” จงหวีฉวนคิดว่าเย่เชินหลินมันทำให้เขาทั้งเกลียดทั้งรักจริงๆ เกลียดที่มันขวางทางเขา รักที่มันเป็นตัวช่วยที่ดี คนอย่างมันจะยอมเป็นทาสคนอื่นได้อย่างไร แม้ว่าจะใช้ไม่ได้กับมันทั้งหมด ตราบใดที่เย่เชินหลินไม่ต่อต้านเขา จงหวีฉวนก็โล่งใจอย่างมาก
จงหวีฉวนหายไปจากสายตาเยว่มู่หลาน เขาต้องรีบ เวลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ตอนนี้เย่เฮ่าหรันเป็นลมยังไม่ฟื้น แพทย์เตือนอย่างจริงจังว่าไม่ควรให้เย่เฮ่าหรันได้รับการกระตุ้นใดๆ
เย่เชินหลินขังตัวเองไว้ในห้องทำงาน เสียใจ หงุดหงิด เขาไม่รู้ว่าครั้งนี้ตัวเองทำถูกหรือไม่ เหยนชิงเหยียนอยากหมั้น เย่เฮ่าหรันและฝู้เฟิ่งหยีก็อยากเห็นลูกชายหมั้น เขาเติมเต็มความปรารถนาของทุกคน แต่ราคาของความปรารถนานี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองรับมันได้ไหม
เมื่อเย่เฮ่าหรันฟื้นขึ้นมาเย่เชินหลินไม่ได้ไปหาเย่เฮ่าหรัน เขาไม่กล้าไปเยี่ยม เขาไม่แน่ใจว่าเย่เฮ่าหรันจะโทษเขาไหมว่าเอาแต่ใจตัวเอง เย่เฮ่าหรันไม่เคยไว้หน้าเขาอยู่แล้ว จู่ๆ เย่เชินหลินก็กลัวเห็นสีหน้าตำหนิของเขา
เซี่ยชีหรั่นเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ก็ยังไปเยี่ยมเย่เฮ่าหรันอยู่หลายครั้ง เธอรู้ว่าเย่เชินหลินจริงๆ แล้วอยากรู้อาการของเย่เฮ่าหรัน ทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นกลับมาก็จะพูดอาการของเย่เฮ่าหรันให้เย่เชินหลินฟังทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
อาการป่วยของเย่เฮ่าหรันดีขึ้นทำให้เย่เชินหลินยิ้ม ความเย็นชาลดลงเล็กน้อย ถ้าได้ยินว่าเย่เฮ่าหรันสีหน้าไม่ดี เย่เชินหลินจะทำท่าเหมือนคนอื่นติดหนี้เขาเป็นสิบล้านแล้วไม่คืน การแสดงออกเย็นชาบนใบหน้าสามารถทำให้คนหนาวตายได้ แสยะยิ้มที่ไม่มีใครเข้าไปได้
จิ่วจิ่ววิ่งไปหน้าเตียงเย่เฮ่าหรัน เธอนอนบนเตียงอย่างสับสนทำอะไรไม่ถูก พูดขึ้นอย่างฟูมฟาย “พ่อ ถ้ารู้ตั้งนานแล้วเราจะจัดให้ช้ากว่านี้” เธอแค่คิดว่าเพราะงานหมั้นตัวเองเป็นตัวกระตุ้นเย่เฮ่าหรัน จริงๆ แล้วไม่ว่าจะวัยไหนก็เชื่อเรื่องโชคลาง ว่าการป่วยของเย่เฮ่าหรันเป็นเพราะงานหมั้นของพวกเขาจริงๆ บางคนบนโลกก็เป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่
“จิ่วจิ่ว ไม่ต้องร้องไห้ การป่วยของฉันมันไม่ได้เกี่ยวกับพวกเธอ ได้เห็นพวกเธออยู่ด้วยกันมันคือความปรารถนาของฉัน ฉันยังเป็นห่วงเลยว่าจะไม่ได้เห็นพวกเธออยู่ด้วยกัน แบบนี้ฉันจะเสียใจมาก โชคดีที่ฉันได้เห็นแล้ว!” เย่เฮ่าหรันพูดจากก้นบึ้งหัวใจ ได้เห็นเหยนชิงเหยียนแต่งงาน เขาก็มีความสุขมากจนหัวใจวาย ดีที่เย่เฮ่าหรันรู้อาการเขา เขาควบคุมเอาไว้ได้และไม่ตาย!
ครั้งนั้นที่เซี่ยชีหรั่นถามว่าเย่เฮ่าหรันเป็นอะไรเขาถึงได้รู้ตัวว่าสุขภาพย่ำแย่ เขาไปตรวจอย่างลับๆ แพทย์บอกว่าเขาเป็นโรคหัวใจร้ายแรง ตอนแรกเย่เฮ่าหรันโกรธมาก ต่อมาคิดว่าเย่เชินหลินและฝู้เฟิ่งหยีไม่บอกเขา แค่ให้เขาใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข! เย่เฮ่าหรันจึงตัดสินใจแกล้งไม่รู้เรื่องนี้!

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset