สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1033 สาวใช้ตัวแสบ 937

ตอนที่ 1033 สาวใช้ตัวแสบ 937
โม่เสี่ยวจุนเห็นเซี่ยชีหรั่นทำเช่นนี้ ก็เลยคิดว่าน่าจะน่าจะเป็นการซื้อของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง หน้าแดงก็เลยไม่ได้ยืนกรานที่จะดู
เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าโม่เสี่ยวจุนไม่ได้ยืนกรานจะดูต่อ จึงรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอรู้อยู่ในอกว่าถ้าโม่เสี่ยวจุนรู้ว่าเธอจะไปหลินเจียงจะต้องไม่ยอมให้เธอไปแน่ๆ เขาเป็นพี่ชายของเธอ ปกป้องดูแลเธอตลอดมา จะยอมปล่อยให้น้องสาวไปอยู่ต่างเมืองตามลำพังได้อย่างไร
“พี่ ต่อไปพี่ต้องดูแลพี่สะใภ้ให้ดีๆ เธอก็ไม่ง่ายเช่นกัน” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะพูดยังไง ทำได้แค่บอกให้โม่เสี่ยวจุนดีกับไห่ฉิงฉิงให้มากๆ เธอดูออกว่าไห่ฉิงฉิงรักโม่เสี่ยวจุนมาก การปล่อยแบบนั้นทำให้ไห่ฉิงฉิงปล่อยวางมากพอแล้ว
“รู้แล้ว ฉันจะพยายามชดเชยให้เธอ จะดีกับเธอทั้งชีวิต” โม่เสี่ยวจุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้พูดว่ารัก เขาไม่สามารถเอาหัวใจของเขากลับมาได้ ไห่ฉิงฉิงเป็นแม่ของลูกเขา มันเป็นความผิดของเขาอยู่แล้วที่ให้ความรักกับเธอไม่ได้ โม่เสี่ยวจุนจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีตลอดไป
เซี่ยชีหรั่นมองโม่เสี่ยวจุน ไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนจะพูดก็เหมือนมีเรื่องราวมากมายที่พูดไม่หมด แต่ตอนนี้คนมาอยู่ต่อหน้าแล้วกลับไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไร
“พี่ พี่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ” เซี่ยชีหรั่นพยายามให้ตัวเองพูดให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ฟังไม่ออกว่ามีอะไรผิดปกติ
โม่เสี่ยวจุนลูบหัวเซี่ยชีหรั่น “เด็กโง่ ฉันจะไม่ดูแลตัวเองได้อย่างไร ฉันยังต้องดูแลคุณกับฉิงฉิงด้วยนะ”
นึกถึงคำพูดที่อบอุ่นของเซี่ยชีหรั่น ใบหน้าหล่อเหลาของโม่เสี่ยวจุนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองพูดคุยกันไม่นาน เซี่ยชีหรั่นก็ผลักโม่เสี่ยวจุนกลับไป
“พี่ พี่รีบกลับไปเถอะ พี่สะใภ้ยังรอพี่ที่บ้านนะ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มและพูดติดตลก “ฉันไม่อยากให้พี่สะใภ้พูดว่าฉันยึดพี่ไว้คนเดียว”
เซี่ยชีหรั่นให้โม่เสี่ยวจุนกลับไปเร็วๆ เพราะโม่เสี่ยวจุนทำให้งานของเธอล่าช้า เธอต้องจัดการให้เสร็จโดยเร็ว
“ทำไมให้ฉันรีบกลับไป ชีหรั่นหรือว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า” โม่เสี่ยวจุนแค่ถามๆไป คิดไม่ถึงว่าจะถามชี้จุดพอดี เซี่ยชีหรั่นแกล้งก้มหน้า ไม่มองโม่เสี่ยวจุน เธอกังวลเล็กน้อย แต่สีหน้าก็สงบดี
“จะมีเรื่องอะไรได้ แค่กลัวว่าพี่สะใภ้จะรอพี่ไม่ไหวแล้วก็โกรธพี่” เซี่ยชีหรั่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “รีบไปเถอะ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกนี่”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มและผลักโม่เสี่ยวจุนไปที่ตู้วางรองเท้า เธออยากให้โม่เสี่ยวจุนอยู่ต่อ แต่ไม่มีเวลาในขณะนี้ เมื่อเรื่องพวกนี้เรียบร้อยแล้วเธอจะกลับมาเยี่ยมพวกเขา
โม่เสี่ยวจุนมองรอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่น ดูไม่ออกว่ามันมีอะไรผิดปกติ เขาคิดว่าน่าจะคิดมากไปเอง ดูแล้วชีหรั่นน่าจะคิดได้แล้วจริงๆ
“โอเค โอเค เด็กโง่พรุ่งนี้ฉันค่อยมาดูเธอใหม่” โม่เสี่ยวจุนใส่รองเท้าไปด้วยพูดไปด้วย ในเมื่อเธอให้เขากลับไป เขาก็กลับไปก่อน ดูเหมือนเซี่ยชีหรั่นจะมีธุระของตัวเองที่ต้องทำ ให้พื้นที่ส่วนเธอกับเธอบ้างก็ดี
โม่เสี่ยวจุนไม่รู้ว่าจะได้เจอเซี่ยชีหรั่นอีกหลายเดือน
มองดูโม่เสี่ยวจุนกลับไป เซี่ยชีหรั่นในตาเต็มไปด้วยน้ำตา
โม่เสี่ยวจุนหันกลับมาเห็นเซี่ยชีหรั่น เขากล่าวด้วยความสงสัยว่า “เด็กโง่ร้องไห้ทำไม คุณเป็นคนบอกให้ฉันไปเองไม่ใช่หรือ”
เซี่ยชีหรั่นกลัวว่าโม่เสี่ยวจุนจะคิดมาก จึงหาข้อแก้ตัวว่า “เวลานั้นผ่านไปเร็วเกิน คนก็แก่ลงแล้ว”
โม่เสี่ยวจุนก็ถอนหายใจ เขาโบกมือและกล่าวว่า “เช่นนั้นฉันกลับแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาดูคุณ”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กน้อยแล้วโบกมือ ขอโทษนะพี่ ไม่ใช่ฉันไม่บอกพี่ ถ้าฉันบอกพี่ ฉันคิดว่าด้วยนิสัยของพี่จะต้องไม่ให้ฉันไปแน่นอน การจากไปของฉันเป็นผลดีต่อทุกคน เช่นนั้นก็ให้ฉันทำให้ทุกคนสมหวังแล้วกัน
หลังจากโม่เสี่ยวจุนกลับไป เซี่ยชีหรั่นก็โทรหาเจ้าของบ้าน
“ฮัลโหล สวัสดี คุณคือคุณสวีเห้าเซิงใช่ไหม” เซี่ยชีหรั่นคิดว่าถามให้แน่ใจก่อนดีกว่า ไม่งั้นถ้าเผลอทำพลาดจะเดือดร้อนแน่
สวีเห้าเซิงกำลังเล่นเกมอยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่ดูก่อน
คิดไม่ถึงว่าเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงของเด็กผู้หญิง เขาคิดอยู่นานแต่ก็เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ใช่ ฉันคือสวีเห้าเซิง คุณกำลังหาใคร” สวีเห้าเซิงวางงานในมือลงแล้วถาม
“สวัสดีคุณสวีฉันเห็นในอินเทอร์เน็ตว่าคุณมีบ้านให้เช่า ฉันสนใจอยากจะเช่า ไม่ทราบว่าจะได้ไหม”
เซี่ยชีหรั่นมีความกังวลเล็กน้อย อีกฝ่ายเหมือนจะเป็นเด็กหนุ่ม ถ้าเธอไปจะมีอันตรายไหม ในเมื่อโทรไปแล้วเซี่ยชีหรั่นจึงได้ฝืนถามสถานการณ์ไปก่อน
เธอคาดหวังว่าคนชื่อสวีเห้าเซิงจะบอกเธอว่าต้องขอโทษด้วย ไม่เช่าแล้ว แต่เซี่ยชีหรั่นก็ต้องผิดหวัง
“ได้ คุณจะมาเมื่อไหร่” สวีเห้าเซิงไม่ได้คิดอะไรมาก เขาอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ เพื่อนของเขาล้อเขาว่าน่าจะปล่อยเช่านะ แต่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนค่าเช่านี้ ต่อมาอยู่คนเดียวก็รู้สึกเบื่อสวีเห้าเซิงจึงตัดสินใจให้เช่า แต่เมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายก็คิดลังเล คิดว่าเขาโพสต์ไปตั้งนานไม่เห็นมีใครสนใจ ช่างเถอะ เธอเป็นผู้หญิงยังไม่กลัวเลย แล้วฉันจะกลัวอะไร
ทั้งสองรู้สึกคดในข้อ งอในกระดูกแต่ก็เริ่มทำธุรกรรมต่อกัน
“คุณสวี พรุ่งนี้ฉันเข้าไปดู คุณโอเคไหม คิดว่าน่าจะถึงตอนบ่ายๆหน่อย” เซี่ยชีหรั่นคำนวณเวลา
“ตกลง ถึงแล้วติดต่อกันอีกที” หลังจากสวีเห้าเซิงวางสายก็เล่นเกมของตัวเองต่อ
ความกังวลในใจของเซี่ยชีหรั่นก็ยังไม่หาย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้ ในใจเธอคิดเหมือนกันว่า ในเมื่อบ้านหลังใหญ่ของสวีเห้าเซิงถูกเช่าออกไปมีรายได้แล้วเขายังจะคิดทำร้ายคนอีกเหรอ เป็นไปไม่ได้ ชีวิตหนึ่งชีวิต พวกเขาก็ไม่ได้รู้จักกัน
คิดอยู่สักพักเซี่ยชีหรั่นคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปหาหลินหลิงดีกว่า ไม่รู้ว่าหลินหลิงยังอยู่ที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปหรือว่า คิดถึงบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป เซี่ยชีหรั่นกลัวว่าจะได้เจอเย่เชินหลิน เธอไม่รู้ว่าถ้าเย่เชินหลินเจอเธออีกครั้งจะทำร้ายลูกของเธอหรือเปล่า เซี่ยชีหรั่นไม่อยากเสี่ยง เธอไม่สามารถเดิมพันได้
“คุณไห่ ฉันคือชีหรั่น คุณมีเบอร์มือถือของหลินหลิงไหม ฉันมีธุระกับเธอนิดหน่อย” เซี่ยชีหรั่นโทรหาไห่ลี่หมิน เธอคิดว่าไห่ลี่หมินจะต้องมีวิธีติดต่อกับหลินหลิงได้
“ชีหรั่น คุณหาหลินหลิงเหรอ เธออยู่ตรงนี้ ฉันจะเอาโทรศัพท์ให้เธอนะ” ไห่ลี่หมินรับสายของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกแปลกใจมาก เพิ่งเจอเธอไม่นานมานี้ เธอก็โทรมา
หลินหลิงได้ยินไห่ลี่หมินพูด เธอก็ไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นหาเธอมีธุระอะไร แต่หลินหลิงก็พอจะเดาออกว่าเซี่ยชีหรั่นหาเธอน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเย่เชินหลินแน่นอน
“คุณหาฉันเหรอ” หลินหลิงถามด้วยเสียงเรียบ
เซี่ยชีหรั่นชินกับน้ำเสียงเช่นนี้ของเธอแล้ว ก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม ฉันมีธุระจะรบกวนคุณเล็กน้อย”
“เรื่องอะไร” หลินหลิงขมวดคิ้ว
“ฉันอยากจะฝากของให้คุณเย่หน่อย ช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่ง ฉันไม่ค่อยได้เจอเขา” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างฉลาด เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับความขัดแย้งของพวกเขา ช่วงนี้บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปหุ้นตกลงมาเยอะ ถ้าคนอื่นรู้เรื่องของเธอกับเย่เชินหลิน มันจะส่งผลไม่ดีต่อบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างระทมมองไปที่แก้วเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอด้วย เธอยังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ แม้จะจากเขาไปก็ยังช่วยเขาปกปิด
“เมื่อไหร่” หลินหลิงรู้ว่าช่วงนี้เย่เชินหลินยุ่งมาก เธอก็ไม่อยากจะไล่ตามเรื่องของพวกเขาอีก เห็นเย่เชินหลินมีความสุขก็พอแล้ว แม้ไห่ลี่หมินจะตัวติดตามเธอไป เธอจะมีเวลาไปคิดเรื่องอื่นได้อย่างไร
“ยิ่งเช้ายิ่งดี” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างเกรงใจ
“งั้นคุณให้ฉันตอนฉันไปเข้างานที่บริษัทพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน คุณอยู่ที่ไหน” หลินหลิงเป็นคนที่แข็ง ได้ยินเซี่ยชีหรั่นพูดว่ายิ่งเช้ายิ่งดี เธอคิดว่าตอนเช้าให้เธอก่อนเข้างานก็ไม่ได้เช้าที่สุดนะ
“ตกลง คุณอยู่ที่นั่น ฉันจะเอาไปให้คุณ”
ในเมื่อจะรบกวนหลินหลิงช่วยเอาของไปส่งแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ไม่อยากรบกวนเธอมากกว่านี้
“คุณอยู่ที่ไหน ฉันไปเอาที่คุณ” หลินหลิงพูดอย่างเด็ดขาด เธอไม่อยากรอ สู้เธอไปเอาเองจะดีกว่า ไม่เสียเวลาด้วย ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินเอาไปซ่อนไว้ หลินหลิงอยากเห็นห้องทองคำนั้นว่ามันอยู่ที่ไหน
“ขอบคุณมาก ฉันอยู่กับแม่ของฉัน” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยตอนพูด “วันนี้มาดูบ้านที่นี่” กลัวไห่ลี่หมินถามเขา ผู้หญิงเย็นชาไม่น่าจะถามมาก
หลินหลิงแปลกใจมาก แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก นอกจากเรื่องของเย่เชินหลิน เรื่องของคนอื่นเธอไม่อยากสนใจ
หลังจากจัดการเรื่องเงินของเย่เชินหลินเสร็จแล้ว เซี่ยชีหรั่นเริ่มวางแผนที่จะทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ
“สวัสดี ขอสอบถามว่าที่นี่ต้องการคนเพิ่มไหม”
หญิงสาวตั้งครรภ์คนหนึ่งยืนถามในร้านตัดผมแห่งหนึ่ง นี่คือสถานที่รับสมัครงานต้นทุนต่ำที่เธอถาม
“ต้องการ” ผู้หญิงที่มีเสน่ห์กล่าวเบา ๆ ผมสีแดง บนหน้าไม่รู้ว่าทาแป้งไปมากแค่ไหน
เธอมองท่าทางของเซี่ยชีหรั่น กล่าวอย่างแปลกๆ “ที่นี่ของพวกเราไม่ได้รับคนที่ไม่มีหนทางนะ คุณไปที่อื่นดีกว่า”
“อืม”
ผู้หญิงคนนี้คือเซี่ยชีหรั่น เธอใช้ชื่อหวูอ้ายแล้วมาที่หลินเจียง
เธอมองหาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่มีใครรับเธอ เธอยิ้มอย่างเศร้าใจ แต่ก็โทษคนอื่นไม่ได้ ใครให้เธอเป็นหญิงตั้งครรภ์หล่ะ คนอื่นเห็นก็ต้องไม่ยอมรับอยู่แล้ว
วันนี้พอแค่นี้ก่อน กลับไปทานข้าวก่อน
เซี่ยชีหรั่นลากร่างกายที่อ่อนล้าของตัวเองแล้วเดินไปยังที่พัก
เปิดประตูเข้าไปเห็นสวีเห้าเซิงอยู่ที่ห้องรับแขก
“คุณสวีคุณเอกเหรอ” เซี่ยชีหรั่นทักทายอย่างมีมารยาท เธอเพิ่งย้ายเข้ามายังมีความกลัวอยู่มาก ตอนกลางคืนก่อนนอนก็ล็อกประตูให้แน่น หลังจากนั้นก็เอาของอย่างอื่นมาไว้หลังประตู เธอมีความระมัดระวังหากมีเสียงอะไรเกิดขึ้น
สวีเห้าเซิงกำลังดูข่าวอยู่ ได้ยินเสียงประตูเปิดก็รู้ว่าเป็นเพื่อนบ้านใหม่ เขาก็พยักหน้าอย่างมีมารยาท
เซี่ยชีหรั่นหิวแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ตระกูลเย่ จะกินข้าวก็ต้องลงมือเอง เธอวางกระเป๋าลง ค่อยๆเดินไปที่ห้องครัว
เธอคิดว่าสวีเห้าเซิงก็น่าจะยังไม่ได้ทานข้าว ตอนทำกับข้าวเซี่ยชีหรั่นก็เลยทำเพิ่มสองอย่าง ข้าวก็หุงมากกว่าทานคนเดียว เธอไม่รู้ว่าสวีเห้าเซิงจะกินมากน้อยแค่ไหน
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปเซี่ยชีหรั่นถาม “คุณสวี คุณทานข้าวหรือยัง”
ภายใต้หลังคาเดียวกัน เซี่ยชีหรั่นแอบคิดว่าการช่วยเหลือกันเป็นเรื่องที่สมควร
สวีเห้าเซิงเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยชีหรั่น แปลกใจ หลายปีมานี้มีแค่แม่เท่านั้นที่จะถามเขาว่าทานข้าวหรือยัง เขาปกปิดอารมณ์ในดวงตา
เซี่ยชีหรั่นคิดว่าการนิ่งนั้นหมายถึงยังไม่ได้ทาน เธอจึงกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉันว่าคุณยังไม่ได้ทานใช่ไหม กับข้าวของคุณฉันก็ทำเสร็จแล้ว”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset