สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1044 สาวใช้ตัวแสบ 948

ตอนที่ 1044 สาวใช้ตัวแสบ 948
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว เธอเจ็บปวดกับสิ่งที่เรียกว่ารักจากครอบครัวอย่างที่สุดแล้ว ความเจ็บปวดแบบนั้นมีเพียงเจอกับตัวเองเท่านั้นถึงจะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกแบบนั้น
“เสี่ยวอ้าย คุณเป็นอะไร?” สวีเห้าเซิงเห็นเซี่ยชีหรั่นส่ายหัว รู้สึกแปลกใจจึงถามขึ้น
“ได้ยินว่าจงหวีฉวนประธานหอการค้าล้มป่วย เห็นว่าอาการหนักจนลงข่าวอย่างใหญ่โต” สวีเห้าเซิงยิ้มพูด
เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันทำให้ตกใจอย่างมาก เหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ เธอไม่เชื่อว่าจงหวีฉวนจะป่วยจริงๆ
“พี่สวีพูดเรื่องจริงหรือ? จงหวีฉวนประธานหอการค้า?” เซี่ยชีหรั่นถามออกมาทีละคำ กลัวว่าจะสั่งผิดไป แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
สวีเห้าเซิงสังเกตดูอาการของเซี่ยชีหรั่น ในใจคิด หรือว่าจงหวีฉวนกับเสี่ยวอ้ายมีความสัมพันธ์อะไรกัน? แต่เสี่ยวอ้ายไม่ได้ชื่อเซี่ยชีหรั่น? พวกเขาจะมีความสัมพันธ์เป็นอะไรกัน? หรือว่าจะเป็นความสัมพันธ์กันแบบนั้น? สวีเห้าเซิงไม่เชื่อ
“อืม” สวีเห้าเซิงพยักหัว ท่าทีจริงจัง
เซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนโซฟา มองดูทีวีอย่างไม่กะพริบตา ตอนที่คำว่าจงหวีฉวนปรากฏ เธอยังคิดในใจอย่างเข้าข้างตัวเอง ว่าคนคนอาจจะมีชื่อเรียกซ้ำกัน ประธานหอการค้าปรากฏขึ้นเซี่ยชีหรั่นยังจินตนาการขึ้นเอง แต่เมื่อรูปภาพของจงหวีฉวนปรากฏขึ้นความกล้าหาญทั้งหมดของเธอที่มีก็หายสิ้นไปหมด จงหวีฉวนล้มป่วยจริงๆ
นักข่าวพูดบรรยายถึงสิ่งที่จงหวีฉวนปรารถนาในตอนนี้ เขาอยากเจอลูกสาวของตัวเอง เป็นสิ่งเดียวที่เขาคาดหวังในตอนนี้
เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เซี่ยชีหรั่นกอดหมอนไว้ไม่พูดไม่จา
“เสี่ยวอ้าย คุณเป็นอะไร?” สวีเห้าเซิงสังเกตการท่าทีของเซี่ยชีหรั่นอยู่ตลอด เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ก็รีบเดินไปดึงเซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนโซฟา “บนพื้นเย็น อย่านั่งบนพื้น ไม่ดีต่อเด็กในท้อง”
เสียงของสวีเห้าเซิงทำให้เซี่ยชีหรั่นกลับมามีสติ เธอยังมีลูกที่ต้องดูแล
“พี่สวี คุณคิดว่านี่คือเรื่องจริงไหม?” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างขมขื่น เธอหวังอยากให้มีคนบอกกับเธอว่า นี่ไม่ใช่ความจริง จงหวีฉวนจะล้มป่วยได้ยังไง? เขาอยากเจอลูกสาวของเขา เป็นพี่หยุนซางหรือเปล่า? หรือเป็นเพียงหมากที่ต้องการควบคุมเย่เชินหลิน
“นี่ไม่ใช่ความจริง” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยเสียงเบา พูดเสร็จแล้วเธอเองก็ไม่อยากเชื่อ ข่าวประกาศออกมาแล้วยังจะเป็นเรื่องเท็จหรือ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าจงหวีฉวนไม่จำเป็นต้องป่วยเพื่อมาโกหกคน หรือว่าพี่หยุนซางไม่อยู่บ้าน? เธอจะไปที่ไหนได้?
เซี่ยชีหรั่นคิดได้เพียงว่าจงหวีฉวนสามารถป่วยเพื่อจงหยุนซางเท่านั้น
“นี่น่าจะเป็นเรื่องจริง สามารถให้นักข่าวสัมภาษณ์แล้วประกาศออกมา จงหวีฉวนคงไม่สร้างข่าวปลอมหรอก นี่ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา” สวีเห้าเซิงไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นความสัมพันธ์อะไรกับจงหวีฉวน แต่ยังไงเขาก็ยังคงพูดความจริง
“จริงๆหรือ? จริงๆหรือ?” เซี่ยชีหรั่นยืนขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ เธอลืมไปว่ากำลังคุยอยู่กับสวีเห้าเซิง ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นต้องการอยู่คนเดียว จงหวีฉวนเป็นพ่อของเธอ รู้ข่าวว่าเขาป่วย ในใจเซี่ยชีหรั่นจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยชีหรั่นหวังอยากที่จะมีพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว
สวีเห้าเซิงมองดูเซี่ยชีหรั่นเดินออกไป เขาอยากยื่นมือดึงเธอไว้ มือเพิ่งยืนออกไป เซี่ยชีหรั่นก็เดินออกไปไกลแล้ว ตาตอนนี้สวีเห้าเซิงรู้สึกเหมือนทั้งๆที่ระยะห่างของทั้งสองคนห่างกันเพียงคืบ แต่รู้สึกเหมือนห่างกันราวคนละฟากฟ้า เขาอยากดึงไว้ อยากให้เซี่ยชีหรั่นหันกลับมามอง แต่เซี่ยชีหรั่นก็ไปแล้ว ไม่ได้หันกลับมามอง และก็มองไม่เห็นสีหน้าความรู้สึกที่บอกไม่ถูกของสวีเห้าเซิง
สวีเห้าเซิงมองดูแผ่นหลังของเซี่ยชีหรั่น เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นอยู่ห่างไกลจากตัวเองยิ่งอยู่ก็ยิ่งไกล เขาก็คิดไม่ถึงว่าเซี่ยชีหรั่นจะจากไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาสวีเห้าเซิงเคยชินแล้วกับการที่มีเซี่ยชีหรั่นอยู่กับตัวเองในบ้านเดียวกัน เขาคิดไม่ถึงว่าเซี่ยชีหรั่นจะจากไป
เซี่ยชีหรั่นหลบเข้าไปอยู่ในห้องนอน เธอร้องไห้น้ำตานองหน้า เซี่ยชีหรั่นบอกตัวเองว่าไม่ให้ร้องไห้มาตลอด ไม่ต้องเป็นห่วง จงหวีฉวนโหดร้ายกับเธอขนาดนั้น ยังหลอกใช้เธอ เธอจะไปเป็นห่วงเขาทำไม
เซี่ยชีหรั่นโศกเศร้า ไม่ว่าเธอจะหาเหตุผลอย่างไร ยังไงเธอก็ยังเป็นห่วงจงหวีฉวนอย่างมาก
แล้วตอนนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นไม่มีอารมณ์รับโทรศัพท์ เธอมองดูผ้าปูเตียงอย่างเหม่อลอยอยู่ตลอด
สวีเห้าเซิงไม่วางใจเซี่ยชีหรั่นจึงได้ตามเธอมายังห้องนอน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เขาขมวดคิ้ว จงหวีฉวนกับเซี่ยชีหรั่นมีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันแน่? ถึงได้ทำให้เซี่ยชีหรั่นที่ได้ยินข่าวว่าเขาป่วย แล้วถึงกับต้องโศกเศร้าขนาดนี้
“ฮัลโหล คุณหาใคร?” สวีเห้าเซิง หยิบมือถือขึ้นมา ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ สวีเห้าเซิงมองดูเซี่ยชีหรั่น แล้วเขาก็รับโทรศัพท์
“ผมหาชีหรั่น ผมเป็นพ่อของเธอ รบกวนคุณเรียกเธอมารับสายหน่อย” จงหวีฉวนดูหลายรอบแล้วว่าโทรไม่ผิด เขาเชื่อว่าอาซานไม่โกหกเขาแน่ แบบนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ต้องเป็นคนที่เซี่ยชีหรั่นรู้จักที่หลินเจียง
แววตาของเขาครุ่นคิด พ่อ เซี่ยชีหรั่นไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอยังมีพ่ออยู่ เขาเองก็ไม่เคยถามกันเธอ
“เสี่ยวอ้าย พ่อของคุณโทรมา” สวีเห้าเซิงเอามือถือยื่นให้เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นรับมือถือมามองดูเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยนั้น เธอไม่พูดอะไรเลย เธออยากถามมากว่าเขาป่วยจริงไหม ถามว่าตอนนี้เขาสบายดีไหม เซี่ยชีหรั่นพูดไม่ออก คิดถึงสิ่งที่จงหวีฉวนเคยทำกับเธอแล้วในใจของเธอก็เจ็บปวดทรมานมาก
“ขออภัย คุณผู้ชาย ตอนนี้เธอไม่ว่างรับสาย” สวีเห้าเซิง คิดว่าในเมื่อเป็นพ่อของเสี่ยวอ้าย เขาจึงพูดจาอย่างสุภาพ
เมื่อกี้สวีเห้าเซิงเรียกเซี่ยชีหรั่นว่าเสี่ยวอ้าย เขาได้ยินแล้ว ถึงแม้ชื่อจะไม่เหมือนกัน แต่คำนั้นที่พูดว่าพ่อของเธอจะคุยด้วย จงหวีฉวนรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นก็อยู่ด้านข้าง และก็เป็นเสี่ยวอ้ายคนที่ผู้ชายที่รับสายคนนั้นเรียก
“ชีหรั่น เธอสบายดีไหม? ผมไม่ได้เจอเธอตั้งนาน ตอนนี้คิดถึงเธอมาก” จงหวีฉวนพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ฟังเสียงแล้วก็ดูโศกเศร้าเสียใจ
สวีเห้าเซิงมองดูเซี่ยชีหรั่น แล้วก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร
เซี่ยชีหรั่นหยิบมือถือไปจากในมือเขา เนิ่นนาน นานจนสวีเห้าเซิงคิดว่าเซี่ยชีหรั่นคงจะไม่ยอมพูดอะไร แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “คุณสบายดีไหม”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้เรียกเขาว่าพ่อ เพราะจงหวีฉวนได้ทำร้ายจิตใจเธอแตกสลายไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงเป็นห่วงเขา
ต่อให้เย่เชินหลินบอกกับเซี่ยชีหรั่นว่า เพราะจงหวีฉวนใส่ร้ายเย่เฮ่าหรัน เย่เฮ่าหรันถึงได้ตาย เซี่ยชีหรั่นโทษจงหวีฉวน ต่อให้ทำไม่ดีมากมายแค่ไหน เมื่อได้ยินว่าจงหวีฉวนป่วย ความถือโทษทุกอย่างที่เซี่ยชีหรั่นมีก็ทลายหายไปหมด เธอหวังเพียงอยากให้เขาสบายดี คิดถึงหลี่หมิงจุ้นที่อยู่ต่างประเทศ คิดถึงเย่เฮ่าหรันที่ตายไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นไม่อยากให้จงหวีฉวนเป็นอะไรไป
เพียงประโยคเดียวที่ว่าคุณสบายดีไหมก็ทำให้จงหวีฉวนดีใจเป็นอย่างยิ่งๆ เธอเป็นห่วงเขาจริงๆ ในใจจงหวีฉวนค่อนข้างหวั่นไหว คิดถึงคำพูดที่เย่เชินหลินพูดกับเขา จงหวีฉวนจึงทำใจแข็ง เขาจะแพ้ไม่ได้
“ชีหรั่น สิ่งเดียวตอนนี้ที่พ่อหวังก็คืออยากเจอลูก”
สิ่งเดียวที่วางคืออยากเจอเธอ? เซี่ยชีหรั่นไม่เชื่อ ต่อให้ไม่เชื่อ เธอก็ยังคิดหลอกตัวเองว่า จงหวีฉวนเห็นเธอคนนี้เป็นลูกสาวแล้ว
“พ่อ พ่อป่วยจริงๆหรือ?” ในที่สุดเซี่ยชีหรั่นก็พูดสองคำนี้ออกมา ความสัมพันธ์ทางสายเลือดแบบนี้จะสู้ความเกลียดแค้นได้อย่างไร?
“ชีหรั่น พ่อแค่อยากเห็นลูก” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเสียใจของจงหวีฉวน ทำให้ในใจของเซี่ยชีหรั่นเจ็บปวดขึ้นมาเป็นครั้งๆ ขอโทษพ่อ ฉันกลับตงเจียงไม่ได้ กลับไปดูแลพ่อไม่ได้
“พ่อ พ่อจะต้องหายดี มีพี่หยุนซางอยู่ข้างกายพ่อ เธอจะต้องดูแลพ่อได้เป็นอย่างดี” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างสะอึกสะอื้นแล้วก็ตัดวางสาย เธอไม่กล้าพูดต่อไป เธอกลัว กลัวว่าถ้าพูดต่อไปแล้วเธอจะอดทนไม่ไหว แล้วกลับไปตงเจียง ตงเจียงเป็นเหมือนฝันร้ายของเธอ เธอไม่อยากกลับไปที่นั่น ในท้องเธอยังมีลูก เย่เชินหลินไม่อยากให้ลูกคนนี้คลอดออกมา เธอจะต้องปกป้องลูกของเธอให้ดี
จงหวีฉวนมองดูมือถือที่ถูกตัดสายทิ้ง หรี่ตาลง แบบนี้แล้วก็ยังไม่สามารถทำให้เซี่ยชีหรั่นกลับมาหรือ? ไม่ได้ หากเธอไม่กลับมา เขาจะล้มเย่เชินหลินได้อย่างไร?
จงหวีฉวนนอนอยู่บนเตียง เริ่มครุ่นคิดว่าจะหลอกเซี่ยชีหรั่นกลับมายังไง
จงหยุนซางหิ้วข้าวกล่องเดินเข้ามา
“พ่อคะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” จงหยุนซางเห็นจงหวีฉวนไม่ตอบ ก็นึกว่าเขาเสียใจกับอาการป่วยของตัวเอง
จงหวีฉวนมองดูจงหยุนซาง แล้วในใจก็คิดแผนขึ้นมาได้ทันที เห็นทีฟ้าสวรรค์ก็เข้าข้างเขา
“หยุนซาง ตอนนี้ลูกได้ข่าวของชีหรั่นบ้างไหม?” จงหวีฉวนถามอย่างเรียบเฉย ถามอย่างเรื่อยเปื่อย ทำให้ดูไม่ออกว่ามีปัญหาตรงไหน
“ไม่รู้ค่ะ” จงหยุนซางส่ายหัว หลี่เหอไท้ให้เธอช่วยดูแลชีหรั่น ชีหรั่นยังเป็นน้องสาวของเธอ ช่วงนี้จงหยุนซางไม่รู้ข่าวของเซี่ยชีหรั่นเลย เธอรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดี เห็นทีต้องไปดูที่ตระกูลเย่ว่าชีหรั่นเป็นอย่างไรบ้าง
“ชีหรั่น อยู่ที่หลินเจียงคนเดียว นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของเธอ” จงหวีฉวนถอนหายใจแล้วก็พูดขึ้นว่า “พ่อได้ยินคนอื่นเขาพูดว่า เธออยู่ที่นั่นคนเดียวมีชีวิตที่ไม่ค่อยดี ก็ถูก คนท้องคนหนึ่งจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร ญาติพี่น้องก็ไม่มี”
จงหวีฉวนพูดเสร็จแล้วก็มองดูท่าทีของจงหยุนซาง ต่อให้ไม่ดูเขาก็รู้ว่าจงหยุนซางจะต้องเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่น หากจงหยุนซางไม่เป็นห่วงเซี่ยชีหรั่น จงหวีฉวนก็ไม่รู้แล้วว่าจะไปพาตัวเซี่ยชีหรั่นกลับมาตงเจียงยังไง มันปรากฏตัวของจงหยุนซางทำให้เขายังมีความหวัง
“พ่อ ชีหรั่นอยู่ที่บ้านพักตระกูลเย่ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ไปอยู่หลินเจียง? อีกอย่างตัวคนเดียวด้วย นี่เกิดอะไรขึ้น?” จงหยุนซางไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง เธอถามอีกครั้งยังไม่แน่ใจ
“หากลูกไม่เชื่อ ก็ลองโทรไปหาเย่เชินหลินดู ลูกก็พูดว่าลูกจะไปหาชีหรั่น ดูสิว่าเขาจะยอมให้ลูกไปไหม” จงหวีฉวนก็ไม่บอกว่าจริงหรือเท็จ เขาให้จงหวีฉวนไปดูเอง แบบนี้ดูน่าเชื่อถือกว่าที่เขาพูดออกมาเอง
จงหยุนซางมองดูท่าทีจงหวีฉวนไม่เหมือนกำลังโกหก เธอเดินออกห่างจงหวีฉวนแล้วก็โทรหาเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินคิดไม่ถึงว่าจงหยุนซางจะโทรหาเขา เขาเกลียดจงหวีฉวน จงหยุนซางเป็นลูกสาวของจงหวีฉวน เขาก็เกลียดจงหยุนซาง คิดถึงสิ่งที่จงหยุนซางทำเพื่อเขา เย่เชินหลินจึงกดรับสาย
“หยุนซาง หาผมหรือ?” เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยเสียงเข้ม น้ำเสียงของเขาต่ำมาก ทำให้ฟังไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
จงหยุนซางไม่ได้ยินเสียงของเย่เชินหลินมานานมากแล้ว เขาพูดจาเสียงต่ำกว่าเมื่อก่อนมาก ยังคงเป็นเสียงที่น่าฟังของผู้ชาย ได้ยินเสียงนี้แล้วชาติก็นับว่าพอใจแล้ว
จงหยุนซางส่ายหัวแล้วถามว่า “เชินหลิน ไม่ได้เจอชีหรั่นตั้งนานแล้ว ฉันเพิ่งไปต่างจังหวัดกลับมา เอาของฝากมาฝากเธอ ฉันไปหาเธอได้ไหม?”
จงหยุนซางลองถามดู เธอไม่เชื่อคำพูดของจงหวีฉวน จงหยุนซางคิดมาตลอดว่าเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นจะต้องสามารถได้อยู่ด้วยกัน พวกเขารักกันขนาดนั้น ที่จริงก็โทษพวกเขาไม่ได้ พูดได้เพียงว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset