สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1055 สาวใช้ตัวแสบ 959

ตอนที่ 1055 สาวใช้ตัวแสบ 959
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาจูงมือเด็กน้อยพลางพูดขึ้นว่า:“เนี่ยนโม่ไปกันเถอะ”
ไม่นานทั้งสองก็หายไปจากสายตาของเหล่าอู่ เรื่องๆนี้นั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมาย สายตาของเด็กคนนั้นทำให้เขาจดจำได้อย่างชัดเจน แม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นเหล่าอู่ก็จดจำได้อย่างชัดเจน
“เหล่าอู่ ที่นายพูดจริงเหรอ?”สิบสามถามขึ้นอย่างระมัดระวัง เขานั้นไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงของตนเองนั้นสั่น
“ผมจะโกหกได้อย่างไรกันผมได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกเด็กคนนั้นว่าเนี่ยนโม่”เหล่าอู่ยิ้มแล้วพูดขึ้น หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เบิกตากว้างมองไปที่สิบสาม
เขานั้นรู้ดีว่านายท่านกำลังตามหาคนอยู่ งานที่อยู่ในมือก็มาก เหล่าอู่นั้นไม่มีเวลาที่จะถามว่าคนที่เย่เชินหลินนั้นตามหาคือใคร
เขานั้นคิดว่าเย่เชินหลินนั้นตามหาเย่จื่อห้านมาโดยตลอด
“เนี่ยนโม่ งั้นเหรอ จะต้องเป็นเซี่ยชีหรั่นไม่ผิดแน่ คุณบอกผมมาสิว่าพวกเขานั้นอยู่ที่ไหน?” แต่ไหนแต่ไรมาสิบสามนั้นไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่เขานั้นได้รางวัลจากเย่เชินหลินครั้งแรกก็ยังไม่ตื่นเต้นขนาดนี้เลย
“สิบสาม เด็กคนนั้น?”เหล่าอู่ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“น่าจะเป็นลูกของนายท่าน เพราะหากว่าเป็นเช่นนั้นคุณเซี่ยก็คงจะไม่เรียก เนี่ยนโม่” สิบสามทอดถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง เมื่อคิดถึงปีนั้นที่เซี่ยชีหรั่นใช้ชีวิตของตนเองเป็นเดิมพันเพื่อที่จะได้พบเจอกับ เย่เชินหลิน
ผู้หญิงคนนั้นรักนายท่านเป็นอย่างมาก
“เหล่าอู่ นายต้องรีบไปหานายท่านเดี๋ยวนี้ เพราะขอแค่มีข่าวคราวของคุณเซี่ย นายท่านก็ควรที่จะรู้” สิบสามนั้นก็คิดถึงตอนนั้นที่เย่เชินหลินกำชับในเวลานั้นหลายปีที่ผ่านมาเธอนั้นไม่เคยปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของเย่เชินหลิน เธอนั้นไม่อยากที่จะทำให้เขานั้นผิดหวัง
เหล่าอู่พยักหน้าอย่างจริงจัง
“ใช่แล้ว ผมควรที่จะติดต่อคนแถวนั้นให้ช่วยจับตาดูผู้หญิงคนนั้นไหม?”เหล่าอู่หันหลังให้กับสิบสามพลางพูดขึ้น เขานั้นไม่คุ้นชินกับการเรียกว่าคุณเซี่ย
“ไม่ต้องแล้ว แค่รู้ว่าคุณเซี่ยอยู่ที่นั่นก็ดีแล้ว เรื่องของเธอนั้นพวกเราอย่าเข้าไปก้าวก่ายเลย” เมื่อ สิบสามพูดจบ ก็หายตัวไปในห้องทันที
เธอนั้นรีบมาหาเย่เชินหลินอย่างรวดเร็ว เป็นอย่างที่เธอนั้นคิดไว้ เมื่อเย่เชินหลินได้ยินเสียงของเธอก็รู้ดีใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเย่เชินหลินได้ยินข่าวว่ายังไม่มีข่าวคราวของเซี่ยชีหรั่น ความรู้สึกดีใจทั้งหมดของเขาที่มีอยู่ก็จางหายไป เขานั้นมองสิบสามด้วยสายตาที่เย็นชา
“กลับไป หาตัวหล่อนให้เจอแล้วค่อยมาบอกผม”
เมื่อเย่เชินหลินพูดจบ ก็มองเอกสารที่อยู่ด้านหน้าของตน สมควรตาย เซี่ยชีหรั่น นะเซี่ยชีหรั่น ถือว่าคุณนั้นใจร้ายมาก?สามปีที่ผ่านนี้เย่เชินหลินก็พยายามที่จะออกจากความทุกข์นี้ เมื่อเห็นใบหน้าที่คล้ายกับเซี่ยชีหรั่น ก็ยังพอปลอบใจเขาได้บ้าง ว่าเขาจะสามารถหาเธอจนเจอ
“นายท่าน วันนี้เหล่าอู่กลับมาแล้ว”
“หากพวกเขายังจัดการกับเรื่องที่ได้รับมอบหมายไม่ได้ก็ต้องถูกลงโทษ” เย่เชินหลินพยักหน้าอย่างไม่เหนือความคาดหมาย
“เหล่าอู่บอกว่าเขาเคยเจอเซี่ยชีหรั่น”นี่ต่างหากที่เป็นใจความสำคัญ
หลังจากที่สิบสามพูดจบเธอก็มองไปที่เย่เชินหลินว่านายท่านของเธอนั้นจะตื่นเต้นแค่ไหน?
“หล่อนนั้นอยู่ที่ไหน?”เย่เชินหลินลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเหลือบมองสิบสามครู่หนึ่งแล้วเขาก็นั่งลงอีกครั้ง
หล่อนนั้นเป็นศัตรูของเขา แม้ว่าจงหวีฉวนจะได้รับผลกรรมไปแล้ว แต่เย่เชินหลินนั้นก็ยังเกลียด เซี่ยชีหรั่นอยู่ หรืออาจจะเรียกว่าเกลียดตัวเองก็ได้
“ครั้งนี้เหล่าอู่นั้นเพิ่งจะกลับมาจากเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส”
เซี่ยชีหรั่น คุณมันจริงๆเลย ที่แท้ก็หนีไปอยู่ต่างประเทศเสียไกลเลย ถึงว่าผมตามหาคุณไม่เจอ สามปีมาแล้วนะ เซี่ยชีหรั่น คุณมันใจร้ายจริงๆ
สายตาของเย่เชินหลินนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทำให้ตัวเขานั้นดูโดดเดี่ยว
“สิบสามหลังจากที่ผมไปแล้ว ฝากคุณกับหลินต้าฮุยดูแลบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปให้ดีด้วยนะ”เย่เชินหลินพูดขึ้น ในเมื่อหล่อนยังหนีไปฝรั่งเศสได้เลย แล้วทำไมเขาจะไปฝรั่งเศสไม่ได้
“นายท่าน คุณ?”สิบสามถามขึ้นด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นเย่เชินหลินนั้นไม่ได้อธิบายอะไร เธอก็หุบปากลง
“ใช่แล้ว ข้างตัวของคุณเซี่ยนั้นยังมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าเหมือนนายท่านมากเลย”สิบสามครุ่นคิดจากนั้นก็พูดเสริมขึ้นประโยคหนึ่ง เวลานั้นนายท่านนั้นรักลูกของส้งหลิงหลิงมากขนาดไหน เขานั้นจะต้องชอบเด็กคนนั้นที่หน้าตาเหมือนเขามากแน่ๆ
ภายในสมองของเย่เชินหลินนั้นมีเพียงคำสองคำเท่านั้น เขานั้นมีลูกเป็นของตนเองแล้ว สิ่งนี้ทำให้เขานั้นมีความสุขมากกว่าสิ่งใดเพราะถึงยังไงเด็กคนนั้นก็เป็นลูกของเขากับเซี่ยชีหรั่น เมื่อคิดถึงเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“จองตั๋ววันที่สิบห้าให้ผมด้วย ผมจะเดินทางไปเมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส” เย่เชินหลินนั้นอยากที่จะรีบไปปารีสจนแทบจะอดใจไว้ไม่ไหวแล้ว สามปีมานี้นั้นเขาทรมานใจเป็นอย่างมาก
สามปีก็รอมาแล้ว เย่เชินหลินนั้นไม่ได้สนใจอีกต่อไปว่าจะรอสักกี่วัน
“ค่ะ”สิบสามรับคำสั่งแล้วก็จากไป
เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่รู้เลยว่าเย่เชินหลินนั้นรู้แล้วว่าเธอนั้นอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะหากเธอนั้นรู้ เธอจะต้องหนีไปเป็นแน่
“เนี่ยนโม่นั้นหล่อจริงๆ”เซี่ยชีหรั่นลูบหัวของเนี่ยนโม่ แล้วชี้ไปที่ช่องว่างของรูปพลางพูดขึ้น
“แม่สวยที่สุด”เนี่ยนโม่นั้นนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเซี่ยชีหรั่น อบอวลไปด้วยเสียงออดอ้อนของลูกชาย
สวีเห้าเซิงนั้นนั่งอยู่ไม่ไกลนัก มองดูแม่ลูกคู่นั้นพลางยิ้ม
เนี่ยนโม่นั้นเล่นจนนอนหลับไป เซี่ยชีหรั่นก็หยิบมือถือออกมาเล่น
มีพาดหัวข่าวหนึ่งที่กำลังเป็นที่โด่งดัง หญิงวัยชราที่ป่วยหนักอยากจะพบกับลูกสาว โดยที่ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตนนั้นยังชีวิตอยู่หรือไม่
เซี่ยชีหรั่นนั้นคิดถึงจ้าวเหวินอิง เธอนั้นก็กดเข้าไปดูอย่างง่ายดาย
เมื่อมองดูรูปนั้น นี่ไม่ใช่รูปแม่ของเธอเหรอ? คุณแม่ป่วย?เซี่ยชีหรั่นไม่เชื่อ เขานั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคิดที่จะกดโทรออก แต่เมื่อกดโทรออกแล้วกลับโทรไม่ติด
สวีเห้าเซิงนั้นจ้องมองเซี่ยชีหรั่นมาโดยตลอด แน่นอนว่าเขานั้นเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นมีบางผิดปกติ
“เสี่ยวอ้าย คุณเป็นอะไรเหรอ?” สวีเห้าเซิงเดินเข้ามา
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดไม่จา จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับสวีเห้าเซิง
สวีเห้าเซิงมองดูอย่างไม่เข้าใจ เขานั้นรู้ดีว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นลูกของจงหวีฉวน แต่บนหน้าจอนี้เขียนไว้ว่าบ้านตระกูลหลี่ สวีเห้าเซิงนั้นไม่เคยถามเรื่องที่บ้านกับเซี่ยชีหรั่น เขานั้นหวังว่าเซี่ยชีหรั่นจะบอกเขาด้วยตนเอง
“พี่สวี ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เขาพูดถึงในข่าวนี้ คุณจะรีบไปหาแม่ของคุณไหม?” เซี่ยชีหรั่นนั้นถามขึ้นเบาๆ ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกถึงความแตกต่าง
“ก็คงจะกลับไป”สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่เข้าใจ เขานั้นมองไปที่พาดหัวข่าวอีกครั้ง เรื่องมันไม่น่าจะบังเอิญแบบนี้นะ?
“พี่สวี นั้นเป็นแม่ของฉัน สามปีมาแล้วที่ฉันนั้นไม่ได้ติดต่อกับพวกเขา ฉันกลัวว่าจะได้ยินเสียงเป็นห่วงจากแม่ ก็เลยไม่ได้ติดต่อท่าน ฉันนั้นเฝ้าติดตามข่าวคราวของท่านมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าที่นี่นั้นไม่ใช่ประเทศจีนก็เลยมีหลายเรื่องที่ฉันนั้นไม่ทราบ”ความกลัวที่เซี่ยชีหรั่นมีและความรู้สึกตำหนิตนเองนั้นค่อยๆพรั่งพรูออกมาจากใจของเธอ
เธอนั้นไม่ใช่คนที่กตัญญู
“เสี่ยวอ้าย ถ้าอย่างนั้นคุณจะไปเยี่ยมท่านไหม?” ถามขึ้นอย่างลำบากใจ เสี่ยวอ้ายนั้นเพิ่งจะตกลงแต่งงานกับเขา หากครั้งนี้เสี่ยวอ้ายกลับไปที่ตงเจียง สวีเห้าเซิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขานั้นเข้าใจเหตุผลความเป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่เขานั้นไม่เข้าใจจิตใจของเซี่ยชีหรั่น
“พี่สวี ฉันขอคิดก่อนนะคะ” เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น เพราะเธอนั้นเพิ่งรับปากว่าจะแต่งงานกับเขาในเดือนสองเดือนนี้ หากกลับไปก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะได้แต่งงานกับเขา
เมื่อคิดถึงความรักและการดูแลที่สวีเห้าเซิงนั้นมีให้กับเธอ ทำให้เซี่ยชีหรั่นนั้นจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนี้:“ฉันไม่กลับไปดีกว่า”
ฟ้านั้นรู้ดีว่า กว่าที่เธอนั้นจะสามารถพูดประโยคนี้ออกมาได้ เธอนั้นจะต้องใช้ความกล้าหาญมาขนาดไหน เธอนั้นอยากที่จะไปเยี่ยมจ้าวเหวินอิงสักครู่ แม้แต่พริบตาเดียวก็ยังดี
มันก็เป็นเพียงความปรารถนาง่ายๆที่ฝากไว้ในมือถือ มองไปที่รูปเก่ารูปนั้นพลางคิดถึงหญิงตะวันออกคนนั้น
“พี่สวี ฉันขอพักผ่อนก่อนนะคะ”เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบยังไม่ทันรอให้สวีเห้าเซิงแสดงความคิดเห็นอื่นก็รีบเดินกลับเข้าไปในห้อง เพราะหากเธอยังอยู่ที่นั่น เซี่ยชีหรั่นก็เกรงว่าตนเองนั้นจะอ่อนแอ ก่อนหน้านี้สองปีเธอนั้นไม่เคยร้องไห้ แต่ตอนนี้เธอนั้นสามารถร้องไห้ ได้แล้ว นั้นเป็นเพราะสวีเห้าเซิงนั้นทำให้เธอนั้นกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ ดังนั้นเพื่อที่จะขอบคุณสวีเห้าเซิงเธอจึงตัดสินใจไม่กลับไป
แม่ค่ะ แม่ต้องยืนหยัดไว้นะคะ อีกสองเดือนลูกจะกลับไปเยี่ยมนะคะ
สวีเห้าเซิงมองเงาหลังของเซี่ยชีหรั่นที่กำลังเดินจากไป เขานั้นก็ได้เห็นเงาหลังที่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดเข้ากระดูกอีกครั้งสวีเห้าเซิงขมวดคิ้วแน่นจนกลายเป็นรอยย่นระหว่างคิ้ว เขานั้นรักเธอ แต่สวีเห้าเซิงนั้นไม่สามารถปล่อยให้ความรักของเขานั้นไปผูกมัดเซี่ยชีหรั่นได้
เขาหยิบโทรศัพท์ของเซี่ยชีหรั่นขึ้น จากนั้นก็เปิดดูอัลบั้มรูปในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปิดอัลบั้มรูปดู ก็พบว่ามีรูปภาพของผู้หญิงที่อยู่ในข่าวนั้นหลายภาพ
ใช่ สามปีมาแล้วเสี่ยวอ้ายจะไม่คิดถึงบ้านได้ยังไง?
สวีเห้าเซิงขมวดคิ้ว เรื่องของเขาในที่นี่นั้นต้องรออีกสองเดือนเขาถึงจะสามารถปลีกตัวได้ ถ้างั้นจะให้ เสี่ยวอ้ายกลับไปไหม?สวีเห้าเซิงนั้นอาลัยอาวรณ์ ทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกลัว
ว่าแต่จ้าวเหวินอิงนั้นป่วยจริงหรือเปล่านะ?
จ้าวเหวินอิงนั้นป่วยก็จริง แต่ว่าก็ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไร เธอนั้นคิดถึงเซี่ยชีหรั่นมากเกินไป หลี่เหอไท้มักจะเห็นเธอหยิบรูปเซี่ยชีหรั่นออกมาดู ใบหน้าสีขาวนั้นมักเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นั้นเป็นรอยยิ้มของแม่ที่คิดถึงลูกสาว
เขานั้นก็คิดถึงเซี่ยชีหรั่น หลังจากเกิดเรื่องของจงหวีฉวนขึ้น จงหยุนซางก็รับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ไหว สติแตก อาการป่วยของหลี่หมิงจุ้นนั้นหายดีแล้ว หลังจากที่เขาทั้งสามคนกลับประเทศมาแล้ว ถึงได้ทราบเรื่องนี้ เมื่อคิดถึงเรื่องที่จงหยุนซางนั้นดูแลเซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างดี หลี่เหอไท้ก็ตัดสินใจที่จะดูแลจงหยุนซางด้วยตนเอง ส่วนหลี่หมิงจุ้นนั้นก็ปลงในหลายๆเรื่อง เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขานั้นเหมือนตายมาแล้วครั้งหนึ่ง หลี่หมิงจุ้นจะไม่เปิดรับได้อย่างไร?
จงหยุนซางได้รับการดูแลเป็นอย่างดีที่บ้านตระกูลหลี่ ไม่นานเธอก็หายเป็นปกติ หลี่เหอไท้นั้นตามหาเซี่ยชีหรั่นมาโดยตลอด ระหว่างนี้ก็ยังหาเรื่องทะเลาะกับเย่เชินหลิน ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผู้ชายบุคลิกอย่างเขาจะกล้าทะเลาะกับเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินก็ไม่โต้ตอบ ยอมให้หลี่เหอไท้นั้นตี
“เลิกตีได้แล้ว เลิกตีได้แล้ว” ผู้หญิงที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเซี่ยชีหรั่นเข้ามากอดเย่เชินหลินเพื่อปกป้องเขาจากการตีจาก หลี่เหอไท้
“ออกไป”มันเป็นการยากมากเลยที่เย่เชินหลินกับหลี่เหอไท้จะพูดขึ้นพร้อมกันเช่นนี้ การที่หลี่เหอไท้พูดขึ้นว่าออกไปนั้น ก็เพราะว่าเขานั้นไม่อยากที่จะทำร้ายผู้หญิง อีกทั้งหล่อนนั้นก็หน้าตาคล้ายกับเซี่ยชีหรั่นด้วย ส่วนการที่เย่เชินหลินนั้นพูดว่าออกไปก็เพราะว่าเขานั้นเต็มใจที่จะยอมถูกตี ก่อนที่หลี่เหอไท้นั้นจะเดินทางไปต่างประเทศ เย่เชินหลินนั้นเคยสัญญาไว้ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เซี่ยชีหรั่นนั้นมีความสุข แต่เย่เชินหลินนั้นก็ไม่สามารถทำตามที่พูดได้
“ผมไม่เสียใจเลย”ประโยคประโยคนี้ทำให้มือของหลี่เหอไท้นั้นหยุดชะงักลง เขานั้นเหลือบมองร่างที่ถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว เลือดที่ไหลออกจากปากของเย่เชินหลินทำให้มือของหลี่เหอไท้นั้นอ่อนลง เขานั้นยอมปล่อยเย่เชินหลินลง จากนั้นก็ออกจากคฤหาสน์ไป ดื่มเหล้าจนเมามายเพียงลำพัง
เย่เชินหลิน ในเมื่อคุณได้หัวใจของเซี่ยชีหรั่นไป แล้วทำไมคุณถึงไม่ดูแลเธอให้ดีๆ?ตอนนี้กลับยอมให้เซี่ยชีหรั่นนั้นเดินจากไป ตอนที่คุณนั้นหลอกใช้จงหยุนซาง คุณนั้นไม่คิดถึงจิตใจของเซี่ยชีหรั่นเลย
มุมปากของเย่เชินหลินนั้นยังมีคราบเลือดอยู่ เขานั้นเหลือบมองจางชิงครู่หนึ่งโดยที่ไม่พูดไม่จา
หลี่เหอไท้นั้นไม่คิดมาก่อนเลยว่า เย่เชินหลินนั้นจะเกลียดเซี่ยชีหรั่น
ครั้งนั้น ไม่รู้ว่าหลี่เหอไท้นั้นดื่มเหล้าไปตั้งเท่าไหร่ เขานั้นจำไม่ได้แล้ว เขานั้นจำได้แค่เพียงวันรุ่งขึ้นจงหยุนซางนั้นนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
หลี่เหอไท้มองภายในห้องที่เต็มไปด้วยความรกรุงรัง เขานั้นรีบใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆแล้ววิ่งออกไป ยังไม่ทันวิ่งได้ไกลเท่าไหร่ หลี่เหอไท้ก็วิ่งกลับมา ในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขากลับวิ่งหนีปัญหา หลี่เหอไท้นั้นดูถูกตัวเอง เขาจึงพยายามบังคับให้ตัวเอง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset